| All Blog
|
Germany & France "Cute Little Towns" June 2016 : Chapter 2 Linderhof & Oberammergau ไกลแต่ก็ไปเถอะ.. ต่อกันเลยนะ.... อย่างที่ทราบกัน หลายรูปส่งขายไปแล้ว ใครใคร่อยากซื้อ กรุณาซื้อได้ที่เว็บเอเจนซี่ทั้งหลายเล่านี้นะคะ ส่วนรูปอื่นๆ นั้น กรุณามาขออนุญาตกับเราก่อนค่อยนำไปใช้ (ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์) นะจ๊ะ ================================================= Day 3 : June 11, 2016 เดินทางไกล... วันนี้เราจะไปสองที่ค่ะ คือ Linderhof และ Oberammergau เมืองเล็กไกลปืนเที่ยงแต่คุ้มค่าน่าไป ตื่นเช้าที่สุด ไปซื้อมื้อเช้ากินที่สถานีรถไฟแล้วขึ้นไปกินบนรถไฟเลยจ้ะ แผนการวันนี้ เราต้องนั่งรถไฟไปเมือง Oberammergau แล้วต่อรถบัสไปที่ Linderhof อีกที  เช้านี้ซื้อของกินไปกินบนรถนะจ๊ะ เราเลยซื้อสลัดกล่องนึงกับขนมปริศนาที่เราอยากลอง  ทั้งหมดซื้อจากร้าน dean & david นะคะ อยู่ในสถานี Munich hbf ร้านนี้ของกินราคาใช้ได้ ความอิ่มต่อหนึ่งหน่วยบริโภค : สลัดอิ่มกำลังดีจนเกือบๆ อ้วก (เพราะเยอะมาก) ไม่ได้ถ่ายสลัดมาเพราะถ่ายแล้วเบลอ อดจ้ะ อันนี้เป็นเหมือนโยเกิร์ตข้าวกับมะม่วงสุกผสมใบมิ้นต์ หน้าตาน่าลองเลยหิ้วมาด้วย   มะม่วงค่อนข้างเปรี้ยวนะฮะ ผสมมิ้นต์ให้ความรู้สึกสดชื่น บวกกับโยเกิร์ตข้าวรสชาติหวานอ่อนๆ ทั้งหมดกินด้วยกันมันคือข้าวเหนียวมะม่วงแบบมิวนิคเลยค่ะ 5555 ไม่มีกะทิแต่ก็อร่อยแบบ vegan ได้เก๋ๆ และ healthy ด้วย ฮา เผื่อใครไปเที่ยวจะได้ลองซื้อกินดูนะคะ หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย เข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จ รถไฟมาถึงสถานี Murnau แล้วหยุดเอาดื้อๆ คนในรถไฟมาบอกว่าเราต้องลงที่สถานีนี้นะ เพราะสถานีถัดไปรางเสีย (หรืออะไรสักอย่าง) เราต้องลงรถแล้วไปขึ้นรถบัสไปเมือง Omerammergau แทนซึ่งสถานีรถไฟกับท่ารถบัสที่เหมือนนี้ก็เป็นที่เดียวกันนั่นเอง รถบัสเป็นบริการของรถไฟนะคะ ทดแทนกันได้ แต่ก็แวะรับคนตลอดทางเหมือนรถบัสทั่วไป พอถึง Oberammergau ก็ต้องมารอบัสเพื่อไปต่อ Linderhof อีกที รถบัสมาเลทแถมฝนตก ลมพัดตลอดเวลา หนาวก็หนาว - -" ดีที่เสื้อผ้าร่มที่ติดมาใช้กันฝนได้อย่างดี แถมพกร่มมาอีกคัน เรียกว่าเอาอยู่ค่ะ รถบัสไป Linderhof ก็รถประจำทางนี่แหล่ะค่ะ แวะรับตลอดทาง ระหว่างนี้ก็รับนักท่องเที่ยวชาวไทยสองคนขึ้นรถมาด้วย ไป Linderhof ด้วยกัน  แวะซื้อตั๋วเข้าชมปราสาทได้ที่นี่นะคะ   ทางเดินขึ้นปราสาทค่ะ คือปราสาทอยู่บนเขา ต้องเดินขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ระหว่างทางก็มีธรรมชาติสวยๆ แบบนี้ให้ชมตลอดทางค่ะ  ตั๋วจะระบุกรุ๊ปเข้าชม (A B C D) พร้อมรอบเวลาของเรา ตั๋วกรุ๊ปต้องเข้าพร้อมกันหมด ที่กั้นเปิดได้ครั้งเดียวแล้วรอเวลาเข้าชมในคอกค่ะ Linderhof Palace หรือ Schoss Linderhof เป็นปราสาทหรือวังที่เล็กที่สุดในบรรดาปราสาท 3 หลังของ King Ludwig II และเป็นแห่งเดียวที่เสร็จสมบูรณ์ในขณะที่ King ยังมีชีวิตอยู่ พื้นที่รอบๆ ปราสาทเป็นที่ที่ King Maximilian II และ Ludwig วัยเด็กเคยมาทริปล่าสัตว์กัน พอ Ludwig สืบบัลลังก์ต่อจากพระบิดา พี่แกก็ได้ Konigshauschen มาด้วย ตอนแรกแค่ขยายวัง ต่อมาก็ทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ตรงส่วนของสวนในปัจจุบัน สร้างห้องใหม่สามห้อง แล้วก็เพิ่มบันไดรูปตัว U ขึ้นมาแล้วก็หุ้มด้วยส่วนตกแต่งภายนอกที่ทำจากหิน ทั้งหมดสไตล์ Rococo ค่ะ  ด้วยความที่ King Ludwig II มีไอดอลเป็น King Louis XIV แห่งฝรั่งเศส ปราสาทแห่งเลยเลยมีกลิ่นอายของ Vasailles อยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ยอมรับเลยว่าปราสาทหลังนี้คลาสสิคดีจริงๆ ค่ะ เล็กแต่ครบเครื่อง (เพราะสร้างเสร็จนี่นะ) ส่วนที่เป็นห้องบรรทมนั้น สวยอลังการงานสร้างมาก หันไปทิศเหนือ ตื่นมาเห็นน้ำตกในสวนส่วนพระองค์ซึ่งสวยมากกกกกกกก เหมือนตื่นมาในรีสอร์ทสวยๆ สักที่เลยค่ะ  ตรงนี้เป็นสวนที่มองเห็นจากห้องบรรทมค่ะ สวยมาก    อีกสิ่งนึงที่มีชื่อเสียงในปราสาทหลังนี้คือแชนเดอเลียที่ทำจากงาช้างอินเดียค่ะ อยู่ในห้องที่เรียกว่า Hall of Mirrors เป็นห้องนั่งเล่นสำหรับทรงพระอักษรค่ะ King Ludwig II ชอบที่จะนอนกลางวันและตื่นมาทำกิจกรรมตอนกลางคืน ห้องนี้ออกแบบมาพิเศษด้วยกระจกเงาบานใหญ่รอบห้องและการออกแบบแบบสมมาตรตามสมัยนิยม ทำให้เวลาจุดเทียนนับร้อยในห้องนี้ เงาจะสะท้อนไปมาเป็น infinity ทำให้ทั้งห้องสว่างไสวนั่นเองค่ะ (ไกด์แอบบอกว่ามันเป็นเพราะพระองค์หลงตัวเองด้วยเหมือนกันนะถึงออกแบบห้องมาแบบนี้) จบทัวร์ชมภายในปราสาท เราก็มาเดินชมสวนกันต่อค่ะ     ตลอดทางเป็นส่วนของ park ค่ะ มีซุ้มทางเดินเขียวชะอุ่มตลอดทาง สามารถเดินชมได้รอบๆ ปราสาทเลยก็ว่าได้ เห็นว่ามี chapel เล็กๆ ด้วยค่ะแต่เราเดินไปไม่ถึง  ส่วนนี้เป็นถ้ำที่ King Ludwig II สร้างขึ้นมาสำหรับชมการแสดงละครจากบทประพันธ์ของ Wagner โดยเฉพาะค่ะ เป็นถ้ำปลอมนะ ชื่อว่า Venus Grotto   Venus Grotto เป็นจินตนาการจากละครองก์แรกเรื่อง Tannhauser พี่แกจะชมละครจากบนเรือสีทองลำนั้นแหล่ะค่ะ ในถ้ำแห่งนี้มีการติดตั้งไดนาโม 24 เครื่องเพื่อใช้เปลี่ยนแสงสีภายในถ้ำ แถมมีน้ำตก(ปลอม)ด้วยนะคะ อารมณ์สุนทรีย์ของ Ludwig ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะแกชื่นชอบ Wagner มากจนสร้างทุกอย่างจากจินตนาการหรือได้แรงบันดาลใจมาจากบทประพันธ์ (Opera) ของ Wagner แม้แต่ห้องหับภายในปราสาทต่างๆ ก็เช่นกัน เช่นห้องโถงห้องหนึ่งใน Neuschwanstein หรือ Hunding's Hut ก็สร้างจากองก์แรกของ Valkyrie เป็นต้น บางที่ถึงกับทำห้องพักส่วนตัวของศิลปินคนโปรดเลยทีเดียว (เวลาเชิญมาเปิดการแสดงในปราสาท)     ต่อไปเรื่องจะขึ้นไปจุดที่สูงที่สุดอีกจุดนึงในสวนแห่งนี้ค่ะ Venustempel  แนวจัดสวนยอดนิยมแบบยุโรป Symmetric (แบบสมมาตร)  อีกมุมของน้ำพุ สาวสไตล์อวบชนิดที่มีอันจะกินในสมัยนั้น (แต่คิดว่าสมัยนี้ก็มีเยอะแยะนะ)   จากนั้นเราก็ถึงเวลาลงเขาจ้า จะไปขึ้นรถบัสแล้ว เดี๋ยวตกรถ   ตรงนี้เป็นจุดพักผ่อนจุดนึงที่สวยร่มรื่นดีค่ะ ตรงนี้เราเจอน้องห่านตัวนึงออกมาเดินเล่น เราเลยแวะถ่ายรูปนางสักหน่อย ตอนนั้นเองก็เจอพ่อหนุ่มคนนี้เดินมาถ่ายด้วย ตอนที่ผละมาเลยขอหันไปแชะสักรูปเป็นที่ระลึก รู้สึกว่าบรรยากาศดี พ่อหนุ่มกับน้องห่านประจัญหน้ากัน ฉากก็สวยซะเหลือเกิน  ลงมาก็หลังเที่ยงแล้วเลยขอหาอะไรกินประทังชีวิตไปพลางๆ รอรถบัส  โดนัทกับชาร้อน แก้หนาว แต่ไม่อร่อยเลยทั้งชาทั้งโดนัท ชาไม่อร่อยอย่างแรง รู้งี้สั่งกาแฟซะก็ดี เดินลงมาข้างล่างระหว่างนี้เราก็เจอคนไทยสองคนที่ขึ้นรถบัสคันเดียวกับเราค่ะ คือสองคนจะไปเที่ยวเมืองอื่นต่อ (ซึ่งสวนกับเราพอดี) มาถามทางไปสถานี Murnau ที่ที่เราจะต้องขึ้นรถกลับมิวนิคพอดี พี่แป๋วเลยชวนร่วมทางไปด้วยกัน แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็ขอกลับไปทางเดิมที่มาครั้งแรกค่ะ (ลงป้ายระหว่างทางไป Oberammergau) ร้านขายของที่ระลึกตรงจุดรอรถบัสมีโปสการ์ดและแสตมป์ขายด้วยนะคะ ที่เยอรมันส่งไปต่างประเทศใช้แค่ 90 cents นะ และต้องซื้อโปสการ์ดกับเค้าถึงจะซื้อแสตมป์ได้ค่ะ มี post box สีเหลืองอยู่ข้างๆ ร้านด้วย พี่แป๋วแอบเร่งค่ะ เลยรีบเขียนๆๆๆ แล้วหย่อนลงตู้เลย 55555 วาร์ปมาที่เมือง Oberammergau กันบ้าง...เป็นเมืองเล็กๆ เงียบสงบ อยู่ทางตอนใต้(เกือบสุด) ของเยอรมนี มีชื่อเสียงด้านงานไม้แกะสลักเกี่ยวกับศาสนาคริสต์และศิลปะบนตึกอาคารบ้านเรือน ส่วนมากเกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ทั้งสิ้นค่ะ เดาว่าหน้าหนาวก็น่าจะเป็นเมืองสำหรับเล่นสกีเหมือนกัน แอบเห็นทางลาดจากเขาแล้วก็กระเช้าสกีด้วย        เมืองนี้นอกจากดังเรื่องงานไม้แกะสลักแล้ว ยังมีละครเวที Passion Play (ละครเวทีด้านศาสนาคริสต์) แล้วก็ NATO school ด้วยค่ะ แต่เราไม่ได้สนใจตรงนั้น เราแค่มาเดินดูเมืองน่ารักๆ มากกว่าค่ะ        งานไม้แกะสลัก ของดังประจำเมือง          ตรงนี้เป็นโรงละครชื่อ Pilatushaus ส่วนภาพวาดตกแต่งบนอาคารจะเรียกว่า Luftlmalerei ค่ะ มีประวัติย้อนความไปสมัยศตวรรษที่ 18 ว่ากันว่าภาพวาดเหล่านี้เป็นการบ่งบอกฐานะของเหล่าพ่อค้า ชาวนา และช่างฝีมือว่ามีฐานะร่ำรวยขนาดไหน ภาพที่วาดก็มาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล นิทานพื้นบ้านหรือเทศกาลทั่วไป   สวนด้านหลังของโรงละครค่ะ  ดอกอะไรไม่รู้ใหญ่มากกกกก  วาดเป็น facade ตรงประตูจริงค่ะ ตอนแรกนึกว่าของจริงนะเนี่ย วาดซะเหมือน    หอระฆัง Parish Church  ดูงานที่เค้าขายกันสิคะ สวยดีนะ มาดูโบสถ์ประจำเมืองกันดีกว่า... Parish Church ข้างในสวยมาก          จากนี้ก็เดินกลับแล้วค่ะ หาร้านอาหารทานกันเพราะเรายังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงกันเลย     แวะกินมื้อกลางวันตอนบ่ายสามได้ ขอ still water นะ ได้ขวดนี้มาค่ะ ราวๆ 3 ยูโรได้ - -"  คาโบนาร่ารสชาติกลางๆ แต่ราคาเอาเรื่อง... แล้วเราก็เดินกลับป้ายรถบัสที่เดิมค่ะ  ตรงนั้นต้องเป็นเนินเล่นสกีแน่ๆ... รถบัสมาจอดที่สถานีรถไฟ Murnau แล้วค่ะ เราก็รอรถไฟกลับมิวนิคไป ว่างก็ถ่ายรูปสถานีโล่งๆ ไปสวยดี...    จากนี้ก็นั่งรถกลับมิวนิคค่ะ... เห็นแบบนี้เหมือนจะกลับไปถึงเร็วนะ เราก็เลยตัดสินใจไปเดินช้อปปิ้งกันต่อจ้า...พอดีมีลิสต์ฝากซื้อกันเข้ามา 5555 แถวโรงแรม เดินไปฝั่งสถานีรถไฟ Munich hbf ด้านหลังมีห้าง dm อยู่ค่ะ อะไรที่อยากได้ก็ช้อปปิ้งกันตรงนั้นเลยนะ dm สาขานี้มีของใช้เยอะดีค่ะ แต่ไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดมีของเล่นเด็กเป็นชั้นเหมือน Muller นะ ไปเยอรมันแนะนำให้ช้อปปิ้งของซุปเปอร์ใน DM, Muller แล้วก็ Aldi (คล้ายๆ Makro บ้านเรา) ค่ะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าจ้าาาาา
บรรยากาศดูเป็นเมืองท่องเที่ยวไปหมดเลย... :D
โดย: SquidMan.ExE IP: 1.10.195.94 วันที่: 1 สิงหาคม 2559 เวลา:0:48:59 น.
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต ข้ามขอบฟ้า Home & Garden Blog ดู Blog อัลปาก้าจัง Travel Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น ................................... ตามมาเที่ยวด้วยคน เห็นแล้วอยากบ้างครับ โดย: #ผมไม่ได้บินคนเดียวฯ (เตยจ๋า
  ) วันที่: 1 สิงหาคม 2559 เวลา:0:53:15 น.สุขสันต์วันเกิดนะคะ..
ขอให้มีความสุขมากๆสุขภาพแข็งแรง และร่ำรวยเงินทองตลอดไปด้วยค่ะ.. บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog อัลปาก้าจัง Travel Blog ดู Blog  โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ
) วันที่: 2 สิงหาคม 2559 เวลา:8:12:09 น.ขอบคุณคุณอ้อมแอ้มแล้วก็คุณเตยจ๋ามากๆ เลยนะคะ
แล้วแวะมาอ่านอีกนะ :D โดย: อัลปาก้าจัง
วันที่: 4 สิงหาคม 2559 เวลา:23:55:56 น. |
อัลปาก้าจัง
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?] สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของ Piyoko-chan !! เจ้าของบล็อกชื่อ เป้ ค่ะ แต่งหน้าก็พอไหว แต่งตัวไม่ได้เรื่อง(ในบางที) ตอนนี้มีหมวดท่องเที่ยวแล้ว ความฝันอีกอย่างคือได้เที่ยวทั่วโลกค่ะ จะพยายามรีวิวให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงทริคและเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ชมกันค่ะ เอาเป็นว่า นั่งอ่านขำๆ ไปแล้วกันนะคะ ^^ ถูกใจบล็อก donate สมทบทุนค่าเดินทางในทริปต่อๆ ไปได้ที่นี่เลย.. https://www.paypal.me/yanisapae ขอบคุณล่วงหน้าค่า |
||||||||||||
