พฤษภาคม 2560

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
20 พฤษภาคม 2560
All Blog
Introduction to Switzerland!!!


นั่นแหล่ะค่ะ จู่ๆ ก็ตัดสินใจไป Switzerland เมืองแห่งทุ่งหญ้า ป่าเขา ธรรมชาติที่สวยงาม

พอดีพี่แป๋วจัดทริปไปสวิส ตามรอยในหลวง ร.9 ที่หลายๆ คนคงอยากไปตามรอยเสด็จ

ได้ความมาว่า พี่คนนึงในทริปเป็นคนจัดทริปนี้ขึ้นมาซึ่งแกเปลี่ยนใจไปมาหลายครั้ง

สุดท้ายก็ขอแบบสวิสประเทศเดียวไปเลย ม้วนเดียวจบ จะได้ไม่เสียดาย ไม่ต้องวกกลับมาอีก แฮ่!!

เดี๋ยวเรามาดูกันว่าเราไปเมืองไหนกันบ้าง เพราะเมืองเล็กเมืองน้อยนับสิบ เปลี่ยนที่นอนกันเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว

1. Zurich : เมืองที่เราเลือกไป-กลับด้วยความที่เจอตั๋วถูกและแพลนสถานที่เที่ยวง่าย อยู่ตอนกลางของประเทศสวิส (เรียกสั้นๆ ละกัน พิมพ์ชื่อเต็มมันยาว) จะขึ้นเหนือ ลงใต้ ตะวันออก ตะวันตก ไปง่ายหมด Zurich เหมือนเป็นศูนย์กลางการเดินทางโดยรถไฟ สถานีรถไฟใหญ่มาก โปรดระวังหลงทาง! สถานที่เที่ยวน่าสนใจ เดินได้หมดใน 1 วัน แต่มีถนน Bahnhofstrasse ที่เป็นถนนช้อปปิ้งสุดพีคที่ไม่ควรพลาด ทุกอย่างอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Zurich หมด (หรือเรียกว่า Hofbahnnof) 

 2. Luzern : เมืองริมทะเลสาบที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สถานที่เที่ยวสำคัญเช่น สิงโตหินสิ้นใจ โบสถ์เก่า Swiss Museum of Transport (อันนี้ดีมาก แนะนำเลย) สวนสาธารณะรอบทะเลสาบวิวดีมาก นั่งเรือข้ามฟากก็ดีนะ อย่าลืมสะพานไม้ Kapellbrucke วันเดียวจบเช่นกัน



3. St. Gallen : มหาวิหาร St. Gallen ใหญ่โตสวยงาม และหอสมุดที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ไปวันเสาร์เช้า มีตลาดนัดของมือสองด้วยนะ เราไปถึง 7 โมงเช้าก็มาตั้งแผงกันแล้ว เมืองเล็กๆ เดินครึ่งวันจบ พี่ๆ ที่ไปด้วยกันช้อปปิ้งได้ของดีราคาถูกมาเยอะเลย



4. Vaduz, Liechtenstein : เมืองหลวงประเทศลิกเทนสไตน์ เมืองเล็กมาก ต้อนรับเราด้วยกลิ่นขี้วัวทั่วทั้งเมือง (เน็ตใช้ไม่ค่อยได้โปรดทำการบ้านมาดีๆ) มีปราสาท Vaduz ที่ในหลวง ร.9 เคยเสด็จมาประทับด้วยนะ (แต่รอบนี้หาทางขึ้นไม่เจอ) โบสถ์กลางเมือง ทำเนียบรัฐบาลที่ไม่เปิดให้ใครเข้า แถมมาเจอ City sport หรือกีฬาประจำเมืองด้วย ปิดการจราจรวุ่นวายไปหมด กว่าจะกลับได้แทบแย่



5. Appenzell : เมืองเล็กที่มีเบียร์เป็นของขึ้นชื่อ (Appenzeller) เป็นคืนแรกที่รู้สึกว่า "มาถึงสวิส" เพราะอาหารเช้าอร่อยมาก ชีส แฮม ขนมปัง โยเกิร์ต น้ำส้มก็อร่อย ส่วนในเมืองมีโบสถ์ประจำเมือง วิวสวยมาก ศาลาว่าการประจำเมือง พิพิธภัณฑ์ โรงเบียร์ Appenzeller ประเด็นคือเรารีบไปต่อรถ กว่าร้านรวงจะเปิดก็ 10 โมงเช้า เราเลยได้แต่มองบ้านเมืองด้านนอกสีสวยๆ ตกแต่งน่ารักแค่นั้นแล้วก็จากไป

โรงแรมแนะนำ : Restaurant Hotel Stossplatz ใกล้สถานีรถไฟมาก อาหารอร่อยด้วย



6. Stein am Rhein : เมืองเก่าน่ารัก มีร้านเครปชื่อดังเยื้องๆ กับร้านขายของที่ระลึก คนขายเป็นคนเวียดนามที่มาเรียนที่สวิสแล้วไม่ยอมกลับบ้านเลยเปิดร้านกับเพื่อน ตั้งรกรากที่นี่เลยแถมชอบไปเที่ยวเมืองไทยมากด้วย ขอบอกว่าร้านนี้ขาย Victorynox ถูกกว่าในเมืองใหญ่แถมแม็กเน็ตก็ดีด้วย ใครอยากส่งโปสการ์ดก็ซื้อได้เลย และเมืองนี้มีท่าเรือชมวิวกลับไปเมือง Schaffhausen โดยใช้ swiss pass ได้ด้วยนะ และมีน้ำตก Rheinfall ด้วย สวยมาก ห้ามพลาดเด็ดขาด





7. Schaffhausen : ย่านเมืองเก่าสุดสวย เดินเอาเพลินๆ มีป้อมปราการ(หรือกำแพงเมือง?) ที่อยู่บนเนินเขากลางเมืองด้วย ชมวิวจากมุมสูงของเมืองได้รอบ



8. Bern : เมืองใหญ่ ของแพง ไม่ควรซื้อของฝาก แต่โบสถ์ Munster เป็นโบสถ์โปเตนแตนท์ที่ใหญ่มากแต่ดันไม่ให้ถ่ายรูปข้างในแถมปิดซ่อมอีกต่างหาก ชมนาฬิกา Zytglogge ที่จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นแป๊บนึง (แบบไม่ต้องยืนดูก็ได้ ไม่สำคัญ)



9. Adelboden : เมืองที่อยู่บนเชิงเขา และที่สำคัญ เป็นเมืองที่สมเด็จย่า พระพี่นาง ในหลวงร.8 และ ในหลวง ร.9 เคยเสด็จมาเข้าค่ายช่วงฤดูร้อน และยังเป็นเมืองที่เอาไว้สำหรับทำกิจกรรมช่วงฤดูหนาวด้วย มีกระเช้าขึ้นเขาหลายจุด รถบัสมีชม.ละ 1 คัน และถ้ายังไม่ถึงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว รถบัสจะไม่เปิดให้บริการในบางเส้นทางเหล่านั้น ยิ่งน้ำตกที่สวยๆ ดังๆ นั่น ยิ่งไม่รอดค่ะ ต้องปีนขึ้นไปเอง จบข่าว



10. Lausanne : เรารู้สึกว่าเมืองนี้เป็นเมืองสำหรับคนที่มีบุญญาธิการนะ คนดังมีชื่อเสียงมากมายต้องเคยมาที่เมืองนี้ และพักที่โรงแรม Beau-Rivage Palace ที่ราคาแพงระยับ แน่นอนว่า สมเด็จย่า พระชนกของร.8-9 เคยมาฮันนีมูนที่นี่ รวมไปถึงในหลวง ร.9และพระราชินีก็เคยเสด็จมาพำนักที่นี่เช่นกัน Geneva lake นั้นสวยมาก อากาศดี รอบๆ ทะเลสาบจะมีป้ายบอกเกี่ยวกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเมือง Lausanne ไปตลอดทาง โรงเรียนสมัยประถมของในหลวงร.8-9 แฟลตเลขที่ 19 แฟลตเลขที่ 16 และอื่นๆ Lausanne ถือเป็นเมืองที่เป็นดวงใจของทริปนี้เลยก็ว่าได้



11. Geneva : เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่ตั้งของ UN สำนักงานใหญ่ UNHCR ก็เช่นกัน น้ำพุที่พุ่งสูงที่สุดในโลก Jet d'Eau (ที่ไม่สวยเลย ห่าน!!) โบสถ์ Basilique Notre-dame de Geneve มีจุดชมวิวเมืองที่สวยมาก แต่อย่าแวะช้อปปิ้งที่นี่นะ ของแพงมาก แบรนด์เนมก็แพง tax refund 5-6% เท่านั้น

12. Fribourg : เมืองเล็ก ไปวันเสาร์อาทิตย์จะเจอตลาดนัดกลางเมือง มีพี่คนไทยขายอาหารไทยอยู่กลางตลาดด้วย โบสถ์สวย วิวสวย มีสะพานไม้ Pont de Berne ที่เมืองฝั่งนึงคนพูดภาษาฝรั่งเศส อีกฝั่งพูดเยอรมัน 

13. Interlaken : เราเลือกที่จะพักที่ Interlaken west แล้วนั่งรถไฟไปเที่ยวที่ Interlaken ost ขอแบ่งเป็นย่อยๆ แบบนี้ละกัน

13.1) Interlaken west : ของช้อปปิ้งถูกมาก มีเสื้อผ้าลดราคาตลอด ของฝากซื้อได้ มีร้านอาหารไทยพอสมควร แต่ขอแนะนำร้าน Hooters เดินเลยโรงแรม Victory ไปนิดนึงจะมีร่มแดงๆ อยู่ มีพี่สองคนเป็นแม่ครัวคนไทย ทำอาหารไทยขายตรงส่วนของ noodle bar คนจีนไปกินเยอะมาก คนไทยก็พอรู้จักอยู่บ้าง ร้านเปิด 10 โมงเช้าถึงสองทุ่ม (มีรายละเอียดอีกหน่อยขอไปเล่าไปรีวิวเต็มละกัน) ร้านรวงที่นี่ปิดดึกหน่อย คนไทยอยู่เยอะ ราวๆ 2-3 ทุ่มทยอยปิด

13.2) Interlaken Ost : เป็นสถานีชุมทางหลักที่สามารถใช้เดินทางไปได้หลายที่ รวมไปถึง จุงเฟรา และมีเรือนำเที่ยวไปหมู่บ้านอื่นๆ ได้ด้วย วิวจากเรือสวยมากกกกกก มีจุดขึ้นกระเช้าชมวิวเยอะมาก รวมถึง Harderkulm (หากขี้เกียจขึ้นเขาลูกอื่นและจุงเฟรา มาดูวิวที่นี่ได้ ที่นี่ใกล้สุดละ) 

14. Brienz : เมืองที่มีรถไฟนำเที่ยว Rothonbahn แต่เปิดเฉพาะช่วงฤดูร้อน ตัวเมืองไม่มีอะไรมาก พอไม่มีรถไฟ เมืองก็เงียบเป็นเมืองร้างทีเดียว นั่งรถไฟกลับ Interlaken Ost ได้ 

15. Wengen : ขึ้นรถไฟจาก Interlaken Ost ไป เป็นเมืองที่มีกระเช้าขึ้นยอดเขา มีร้านเช่าอุปกรณ์สกี แต่วิวสวยระดับสิบล้าน ล้อมรอบไปด้วยภูเขาหิมะ วันที่ไปอากาศดีมากเวอร์

16. Lauterbrunnen : เมืองที่มีน้ำตก 72 แห่ง แต่ที่ดังที่สุดคือ Staubbach และวิวสวยเวอร์วังสุดๆ

17. Zermatt : เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับนักสกี ร้านรวงปิดไวมาก ทุ่มนึงปิดหมดเมืองแล้ว (รีบไปไหนวะ มึงเป็นเมืองท่องเที่ยวนะเฟ้ยยยยย) สามารถนั่งรถไฟนำเที่ยวขึ้นเขา Gornergrat ชมวิว Matterhorn และเขาลูกอื่นๆ ได้ ลง Rotenboden เพื่อไปดูทะเลสาบ rifflesee ได้อีก (แต่หน้าหนาวต้องสกีไปนะ)

แล้วเราก็กลับ Zurich เพื่อเก็บรายละเอียดและช้อปปิ้งเก็บตกที่เหลือค่ะ

โน้ตย่อๆ จะพูดถึงเรื่องทั่วไปนะคะ

ซุปเปอร์ที่แนะนำคือ Coop ค่ะ เป็นซุปเปอร์ที่ดีงามมากๆ ราคาอาหารถูกและมีอาหารอุ่นร้อนพร้อมกินอยู่เยอะ ทั้งเบเกอรี่ พาสต้า ลาซานญ่า ไก่ย่าง มีข้าวกับแกงไทยด้วย อร่อยมากๆ สลัดหลากหลาย เครื่องดื่มเพียบ ขนมนมเนยอุดมสมบูรณ์ มีเค้าเตอร์ self-check out คือสแกนและจ่ายเงินด้วยตัวเอง สำหรับ Coop นั้น ถุงพลาสติกราคาใบละ 5 cent ค่ะ และมีช้อนส้อมมีดทิชชู่ให้หยิบไปใช้ฟรีเลย (ที่เจอเยอะมากๆ คือที่สถานีรถไฟ St.Gallen อาหารอุ่นร้อนเยอะสุด) บางสาขาไม่มีอาหารอุ่นร้อนก็ต้องทำใจนะคะ

Migros ต่อให้คล้ายกันแต่ของกินน้อยกว่าและไม่อร่อยค่ะ (แม้แต่สลัดก็ยังห่วยอ่ะ) ของบางอย่างก็แพงกว่า coop ด้วยนะ ต้องดูดีๆ

คำแนะนำ : ส่วนตัวชอบกินลาซานญ่าแล้วก็พาสต้าของ coop มาก ไก่ย่าง(หรือไก่อบ) คือรสชาติดี อยากได้ข้าวเหนียวกับจิ้มแจ่วเลยทีเดียว สลัดแบบถ้วยเชคก็สะดวกเอาขึ้นไปกินบนรถไฟด้วยนะ

เครื่องดื่ม แนะนำให้ซื้อใน coop ค่ะ โค้กอยู่ราวๆ 1.30-1.35 ฟรัง น้ำดื่มจะซื้อกินหรือเอาน้ำก๊อกไปกินก็ได้ค่ะ บางคนบอกมีกลิ่นคลอรีนแต่สำหรับเราคือโอเคนะ บางประเทศดื่มน้ำก๊อกไม่ได้จะเครียดมากเพราะน้ำแพง ที่นี่แนะนำให้ซื้อ Aviant ไปเลย ราคาไม่แพงแถมเป็น still water 100% ด้วย ไปเสี่ยงยี่ห้ออื่นจะเจอโซดาซะส่วนใหญ่ ส่วนที่เป็นตู้ขายน้ำอัตโนมัติอย่าง selecta ตามสถานีทั่วไป ราคาจะแพงกว่า coop ราวๆ 2.50 ฟรัง และจะแพงยิ่งขึ้นถ้าไปซื้อบนตู้เสบียงของรถไฟค่ะ 5555

หากพักที่โรงแรม กาแฟ ชา โกโก้ร้อน จะมีพนักงานมาเสิร์ฟให้ กาแฟจะเสิร์ฟเป็นกาพร้อมนมร้อน โกโก้ จะให้นมร้อนพร้อมซองโกโก้ ส่วนชา จะให้น้ำร้อน 1 กาและเลือกถุงชารสที่ชอบได้ ซึ่งแนะนำเลยว่าอร่อยมากกกกก ทั้งกาแฟและโกโก้ (ปกติไม่กินกาแฟค่ะ ไปสวิสละกินทุกวันเลย)

คำแนะนำ : ให้เอากระบอกน้ำติดตัวไปคนละ 1 อัน จะสะดวกดื่มน้ำเอามากๆ และรองจากก๊อกน้ำเย็นเท่านั้นนะคะ ห้ามดื่มน้ำร้อนจากก๊อกเด็ดขาด หรือจะควักจากน้ำพุในอ่างตามที่สาธารณะก็ไม่ได้เพราะเค้าใส่คลอรีนไว้จริงจังค่ะ (สร้างภาพว่าน้ำสะอาดไรงี้)

การคมนาคม หากคุณมี swiss pass ทุกอย่างจะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะเค้าคิดมาหมดแล้ว ขึ้นรถไฟ รถบัส ลงเรือเฟอร์รี่(ส่วนมาก) รวมไปถึงค่าเข้าชมสถานที่บางจุดก็ใช้เป็นส่วนลดได้มากถึง 50% เช่น Swiss Museum of Transport ที่ Luzern ไม่ว่าจะใช้ตั๋ว swiss pass แล้วหรือไม่(ในช่วงที่อยู่ในสวิส) สามารถนำไปยื่นเพื่อขอส่วนลดได้ทันทีค่ะ ตอนซื้ออาจจะคิดว่ามันช่างแพงแต่พอได้ใช้งานแล้วถึงบอกได้แค่ว่า "โคตรคุ้ม" กระเช้าขึ้นเขาก็ใช้เป็นส่วนลดได้เหมือนกัน ดังนั้น ห้ามทำ swiss pass หายเด็ดขาดนะคะ

คำแนะนำ : โหลดแอปของ SBB เอาไว้ดูตารางเวลารถไฟแต่ละสายได้ สะดวกมาก แถมรถไฟที่นี่ตรงเวลาเป๊ะ ไม่เลทสักนาที เอ้อ...ขึ้นรถไฟแล้วถือ swiss pass ติดมือไว้นะคะ เจ้าหน้าที่จะมาตรวจตลอดนะ

สินค้าแบรนด์เนม แพงค่ะ tax refund ก็น้อย ไปช้อปประเทศอื่นดีกว่า แต่สำหรับสินค้าชื่อดังอย่าง victorynox ต้องเลือกเป็นที่ๆ ไป ถ้าอยู่ที่สถานีรถไฟ Zurich HB ให้ลงไปที่ร้านช้อปปิ้งสีแดงๆ ตรงหน้าน้ำพุสี่เหลี่ยม เป็นร้านขายของฝากสวิสล้วนๆ แถมเป็น tax free shop ด้วย ดีงามมากๆ ราคาถูก ชอบลดราคาของเยอะๆ เรียกว่ามาซื้อก่อนกลับนี่คุ้มมากทีเดียว

ส่วนเสื้อผ้าอย่าง H&M ถ้ามาช่วงเซลจะดีงามมาก เพราะช้อปเยอะมากกกกกกก Zara ก็ดีค่ะ ถ้าเจอชิ้นไหนถูกใจแนะนำให้ซื้อไปเลย อย่ารอไปดูร้านอื่นเพราะสินค้าบางที่ก็ไม่มี ราคาพอได้ (แต่อย่าไปเทียบกับสวีเดนนะ อันนั้นบ้านเกิด zara)

สัตว์เลี้ยง อันนี้ขอพูดถึงสัตว์เลี้ยงตามทุ่งหญ้าธรรมชาติแล้วกัน อย่าง "แพะ" ที่ Rheinfall จะมีป้ายชัดเจนว่าเป็นแพะเลี้ยงแบบปล่อยในรั้ว ห้ามนำอาหารมาเลี้ยงเด็ดขาด ส่วน "วัว" ที่ Staubbach หรือ Wengen เป็นวัวของชาวบ้านที่เลี้ยงจริงจัง ห้ามให้อาหารนะคะ เจ้าวัวที่น้ำตก Staubbach มันนิสัยเสียไปเรียบร้อยแล้วเพราะนักท่องเที่ยวชอบโยนของกินไปให้มันนี่แหล่ะ เวลาใครนั่งกินอะไรมันก็จะชอบเอาหน้ามุดรั้วมาขอของกินตลอด เพราะงั้นต้องใจแข็งๆ ห้ามเอาของกินให้มันเด็ดขาดค่ะ (เราจะไม่พูดเรื่องเจ็บป่วยนะ แต่มันผิดธรรมชาติของสัตว์ค่ะ)

สถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะสถานที่ที่เป็นที่พักในอดีตของราชสกุลมหิดลที่เมือง Lausanne อยากให้รักษาความสงบเพราะยังเป็นที่พักของคนจริงๆ อยู่ค่ะ ถ่ายรูปแล้วให้รีบจากมาโดยไวและไม่ทิ้งขยะหรืออะไรให้เค้ามองว่าเราไม่ดีนะคะ เก็บไว้ในความทรงจำก็พอแล้วค่ะ 

ส่วนที่เที่ยวอื่นๆ เวลาถ่ายรูป อย่ายืนแช่นาน เกรงใจคนอื่นที่กำลังรอถ่ายรูปบ้างก็จะดีมากค่ะ

อื่นๆ ถ้านึกขึ้นได้ จะเติมไว้ในบล็อกของแต่ละตอนนะคะ 


ปล. รูปในบล็อกโดนตัดจาก photobucket หมด โดนบังคับจ่ายเงิน ลิ้งค์มา third party ไม่ได้แล้ว อดเลย ที่ช้าๆ อืดๆ เพราะรอทำรูปค่ะ ปรากฏว่ารูปลิ้งค์มาบล็อกไม่ได้เลย เงิบ...



Create Date : 20 พฤษภาคม 2560
Last Update : 28 กรกฎาคม 2560 23:50:02 น.
Counter : 1261 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัลปาก้าจัง
Location :
ราชบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของ Piyoko-chan !!


เจ้าของบล็อกชื่อ เป้ ค่ะ

แต่งหน้าก็พอไหว แต่งตัวไม่ได้เรื่อง(ในบางที)

ตอนนี้มีหมวดท่องเที่ยวแล้ว ความฝันอีกอย่างคือได้เที่ยวทั่วโลกค่ะ จะพยายามรีวิวให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงทริคและเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ชมกันค่ะ


เอาเป็นว่า นั่งอ่านขำๆ ไปแล้วกันนะคะ ^^

ถูกใจบล็อก donate สมทบทุนค่าเดินทางในทริปต่อๆ ไปได้ที่นี่เลย..
https://www.paypal.me/yanisapae

ขอบคุณล่วงหน้าค่า