ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 
4 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

:::คลัทซ์...ดาบสองคมของนักขับรถ:::




คลัทซ์...ดาบสองคมของนักขับรถ


ปัจจุบันนี้ผู้ขับรถรุ่นใหม่ทั้งหลายนิยมขับรถแบบเกียร์ อัตโนมัติเป็นส่วนใหญ่เนื่องด้วยความสะดวกและง่ายในการควบคุมรถ แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยนิยมขับเกียร์ธรรมดาเพราะขับสนุกกว่าหลายเท่า แต่ทั้งนี้จะต้องเหยียบคลัทซ์ควบคู่ด้วยเสมอไม่ว่าจะเป็นการเบารถ เหยียบเบรก เลี้ยวรถ แถมบางคนยังได้รับการบอกต่อๆกันมาว่าถ้ากลัวเครื่องยนต์ดับก็ให้เยียบคลัท ซ์ไว้


ในการไปสอบใบขับขี่จากทางราชการก็เช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะไม่ดูพฤติกรรมการัขบรถของผู้เข้าทดสอบในเรื่องการใช้คลัทซ์เลย ความจริงแล้ว"คลัทซ์"นั้นคือมหันตภัยที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่หลวงหากผู้ ขับใช้บ่อยอย่างพร่ำเพรื่อเกินไป การเหยียบคลัทซ์แล้วปล่อยให้รถวิ่งไปมีค่าเท่ากับปล่อยเกียร์ว่างเช่นเดียว กับที่เรียกว่า "Coasting"ในการสอบใบขับขี่สำหรับประเทศที่มาตรฐานสูงอย่างประเทศอังกฤษจะ ให้ผู้ที่มีพฤติกรรมแบบนี้สอบตกทันที

เกียร์ไปยังล้อรถยนต์ ขณะที่รถวิ่งและยังอยู่ในเกียร์แรงฉุดจากเครื่องยนต์จะถ่ายทอดกำลังไปกดที่ ล้อรถเพื่อช่วยให้ล้อเกาะติดถกับพื้นถนน ดังนั้นในเมื่อขับรถอยู่หากผู้ขับไปเหยียบคลัทซ์เข้าไม่ว่าจะเป็นจากความเคย ชินหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์จะทำให้แรงกดถนนจากเครื่องยนต์ถูกตัดขาดไป รถจะไม่เกาะถนน หากถนนลื่นหรือมีการหักเลี้ยวรถจะหมุนโดยทันทีโดยเฉพาะกับผู้ที่เคยชินกับ การเบรกพร้อมกับเหยียบคลัทซ์ไปด้วยจะทำให้รถพุ่งไปข้างหน้าเร็วขึ้นเพราะแรง ฉุดจากเครื่องยนต์ได้ถูกตัดขาดไป การเบรกก็จะยากขึ้นอีกเท่าตัว

อุบัติเหตุ ทางรถยนต์ทุกวันนี้สาเหตุหนึ่งก็คือการใช้คลัทซ์เกินความจำเป็นนั่นเอง อาทิ จะเบรกก็เหยียบคลัทซ์ รถขึ้นเขา-เลี้ยงคัลทซ์ สิ่งเหล่านี้เรียกนี้ว่า "Coasting" จึงมีข้อแนะนำให้ผู้ใช้รถลองเปลี่ยนอุปนิสัยการใช้คลัทซ์ใหม่ อย่างเช่นลองเหยียบคลัทซ์ต่อเมื่อเปลี่ยนเกียร์หรือขับช้าเพื่อเข้าที่แคบๆ เท่านั้นเอง หรืออีกแบบขณะที่ขับรถมามีเหตุให้ต้องเบารถก็เพียงแค่ยกคันเร่งรถก็จะเบาลง หากเมื่อยกคันเร่งแล้วความเร็วยังไม่ลดตามที่ต้องการก็ใช้เท้าขวาแตะเบรก เบาๆแต่ห้ามไปเหยียบคลัทซ์เป็นอันขาด

หากจำเป็นจะต้องหยุดรถโดยทันทีให้เหยียบเบรก ลงไปอย่างแรงและไม่ต้องเหยียบคลัทซ์จนรถหยุดเกือบสนิทแล้วจึงเหยียบคลัทซ์ พร้อมกับปลดเกียร์ว่าง ซึ่งการฝึกแบบนี้จะช่วยให้ควบคุมรถง่ายขึ้นไม่ปัดซ้ายขวาถึงแม้ถนนลื่น อย่างไรก็ตามควรระวังเท้าซ้ายเพราะเป็นเท้าที่เหยียบคลัทซ์เมื่อรถออกตัว เต็มที่ให้เอาเท้าซ้ายวางไว้ที่พื้น ไม่ต้องไปเหยียบคลัทซ์

พฤติกรรมแบบนี้ผู้ขับจะต้องฝึกบ่อยๆและสลัดของเก่าๆที่เคยชินออกไป เมื่อนั้นก็จะเป็นนักขับที่ถูกต้องลดอันตรายลงไปมาก เห็นไหมครับว่าคลัทซ์นั้นมีทั้งประโยชน์และโทษเท่าๆกัน เพียงแต่เราต้องใช้ให้ถูกวิธืเท่านั้นเอง.......

ข้อมูลจาก - ยางมิชลิน

ขอบคุณข้อมูลจาก //www.manager.co.th









 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2553
0 comments
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2553 5:47:34 น.
Counter : 1247 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.