Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

Cool & Clean @ Baanlaksasubha Hua Hin

29-30 / 03 / 2010

ออกจาก X2 แวะปากน้ำปราณซื้อของฝากของแห้งก่อน แล้วเข้าสู่บ้านลัก
ษสุภาเลย อากาศร้อนแบบนี้อยู่ในที่พักดีที่สุด

เช็คอินเลยค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจากงานท่องเที่ยวไทย ไปถึงก็ยื่น Voucher เซ็นชื่อแกร็กเดียว welcome drink กับผ้าเย็นหอมก็ถึงมือทันที

Lobby เล็กๆ น่ารัก สไตล์มารีน น้ำเงินขาวแบบนี้ ดูอบอุ่นแบบสบายๆ





จองบ้านแบบ Garden Villa ( 2 bedrooms ) ไว้ เพราะบางคนต้องกลับก่อน เนื่องจากลางานได้แค่วันเดียว เช่น 2 คนนี้รีบถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึก อิอิ



และคนนี้ก็ต้องกลับไปด้วยเพราะไม่เช่นนั้นรถจะไม่พอนั่งกลับ ทั้งๆที่ยังไม่อยากกลับสักนิด




รถกอล์ฟพร้อมแล้วครับ จะพาไปส่งที่บ้านนะฮับ



หลังนี้ค่ะ





ห้อง 218 และ 219 ชั้นบนและชั้นล่าง รวมกันเป็น 1 หลัง



ข้างล่างจะมี 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องน้ำ ส่วนข้างบนจะมีห้องนอนห้องเดียวและห้องน้ำ 1 ห้องแต่ยังดีที่มีระเบียง แต่ตอนกลางวันร้อนซะ

ซาหรุปก็คือ ห้องด้านล่างดีกว่าด้วยประการทั้งปวง กว้างกว่า ใหญ่กว่าและไม่ต้องเดินขึ้นบันไดให้เมื่อยตุ้ม



พาชมห้องข้างล่างก่อนนะคะ เปิดประตูเข้ามาก็จะพบกับห้องนั่งเล่นค่ะ มีโซฟาสีน้ำเงินสลับขาว ในห้องสีขาวคลีนๆ ดูสะอาดตายิ่งนัก







ในห้องโถงนั่งเล่นก็จะมีตู้เก็บมินิบาร์ ตู้เย็น



ตู้เก็บของ มีหมอนสำรองแต่ไม่น่าใช้เล้ย สีสันแปลกๆ



ในห้องโถงติดแอร์เย็นเฉียบ และข้างๆ ก็มีห้องน้ำเล็กอีก 1 ห้อง





เดินเข้าไปด้านในจะพบกับห้องนอน ซึ่งเจ้าของบ้าน หม่อม...นั่งรออยู่แล้วเพคะ



หลายๆ ท่านคงจะพอทราบประวัติของบ้านลักษสุภามาบ้าง เราเองก็รู้พอสังเขป รู้แค่ว่าเป็นบ้านสำหรับข้าราชบริภารสมัยเก่าแล้วตกทอดมาเป็นของหม่อมหลวงลักษสุภา กฤษดากร ซึ่งตอนเด็กๆท่านมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับหัวหิน จึงได้ได้นำมาสร้างเป็นทีพัก มีจำนวน 16 หลังในที่ดินทำเลทองติดกับโซฟิเทลหัวหิน และสร้างได้น่าพักมาก ร่มรื่นร่มเย็น ทำให้พวกเราหลายๆคนที่มีโอกาสมาพักที่นี่ ชื่นชอบเป็นพิเศษ ขอบคุณนะคะ หม่อมหลวงที่แบ่งปันที่พักสวยๆแบบนี้ให้พวกเราได้มีโอกาสมาพัก

ขอยืมคำกล่าวของ ม.ล. ลักษสุภา กฤษดากร จากเวบโยโซทราเวลมาแปะนะคะ

" When I was young, hua hin had a special place in my heart so many fond memories with my family occurred there. I was captivated by the sound of the ocean waves and amazed at the unique historic surroundings. I wanted to re-create that atmosphere and share it with you, hoping that you will experience what I have and more..."

แต่ว่าวันนี้พวกเราขอเป็นเจ้าของบ้านค่ะ บ้านนี้มีความรักและความอบอุ่น







หมอนนุ่ม เตียงใหญ่น่านอนกลิ้ง คืนนี้ห้องนี้เรานอนกับแม่ค่ะ



sofa bed ตัวนี้นอนสบายยิ่งนัก ตัวใหญ่และไม่นิ่มจนเกินไปสามารถทำเป็น extra bed ได้เลยนะเนี่ย



มีทีวีในห้องนอนอีก 1 เครื่อง ในห้องโถงก็มี 1 เครื่อง



ไปดูห้องน้ำอีกห้องกันค่ะ ห้องนี้ใหญ่พอๆกับห้องนอนเลย แถมติดแอร์ในห้องน้ำด้วย



แบ่งเป็นโซนๆ ค่ะ โซนนี้เป็นอ่างล้างหน้าแปรงฟัน



Amenities และผ้าเช็ดมือ สะอาดน่าใช้



ครีมล้างมือและโลชั่นหอมๆ แอบเทกลับมาบ้านด้วย แต่ไม่รู้ใครมาแอบทำขวดร้าวเอาไว้ หนูไม่ได้ทำนะฮะ



โซนอาบน้ำ กว้างมาจนวังเวงแถมหนาวด้วยค่ะ เพราะติดแอร์ในห้องน้ำ



เก้บเสื้อผ้าทางนี้ค่ะ มีตู้อยู่ในห้องน้ำเลย พร้อมราวตากผ้าอันใหญ่โตวางหลบมุมไว้ด้วย แต่กว่าจะกางออกมาได้ทำเหงื่อตก



เสื้อคลุมใส่แล้วปวดไหล่เพราะไซส์ฝรั่ง



ข้างล่างพาชมจนทั่วแล้วขึ้นไปดูห้องข้างบนบ้าง ข้อเสียคือไม่สามารถขึ้นไปภายในบ้านได้ ต้องเดินออกไปนอกบ้านตากแดด ตากฝนแล้วขึ้นบันได ไม่สะดวกเลย จริงๆ แล้ว 2 bedrooms แบบนี้ไม่ถูกนะ ยังไงๆ ก็แยกส่วนกันเหมือนคนละห้องมากกว่า ไม่มีส่วนไหนที่ใช้ร่วมกัน



ขึ้นบันไดไปก็จะมีระเบียงมีเก้าอี้ให้นั่งเล่น แต่ร้อนแบบนี้นั่งไม่ไหวค่ะ เข้าไปในห้องกันดีกว่า



เปิดประตูมาก็พบ 2 แม่ลูกเลย



ห้องข้างบนจะแคบกว่าข้างล่าง แต้ใช้โทนสีเดียวกันทั้งหลังคือลายทหารเรือ





อีกมุมนึงของห้อง มีตู้ตกแต่งเล็กๆน้อยๆ น่ารักดีค่ะ



และอีกมุม ซึ่งเหมือนกับห้องข้างล่าง



จากระเบียงมองไปบ้านอื่นๆ เป็นแบบนี้



แต่ส่วนใหญ่ก็จะมานั่งอยู่ห้องโถงข้างล่างร่วมกันมากกว่า



จากห้องพักเดินไปชายหาดก็ไม่ไกลมากนัก ระหว่างทางมีตุ๊กตาดินเผาจัดสวนได้น่ารักดี





ทางเดินร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ 2 ข้างทาง ไม่น่าเชื่อว่าบนที่ดินราคาแพงลิบของหัวหินแบบนี้จะมีรีสอร์ทร่มรื่น เป็นธรรมชาติ อากาศเหมือนอยู่นอกเมืองแบบนี้ซ่อนตัวอยู่บนทำเลทอง อากาศช่วงที่เราไป 40 องศาแต่ต้นไม้ยังเขียวชะอุ่มได้แบบนี้ บ่งบอกถึงความใส่ใจของรีสอร์ทที่ดูแลเป็นอย่างดี



เดินไปอีกนิดเดียวก็เห็นชายหาดเห็นทะเลหัวหิน



อะไรเอ่ยถูกทรายกลบ น่ารักดีไหมคะ ดูสิช่างกล้าทำ



ตอนที่เราเดินกันอยู่ที่ชายหาดนี้ เป็นช่วงเวลา 5 โมงเย็นคนเดินเล่นกันเต็มชายหาด



ลมพัดเย็นสบาย



แม่ทรงตัวไม่ค่อยได้เพราะบนทรายเดินยาก ต้องคอยดูแลกันอย่างใกล้ชิด



เดินผ่านโรงแรมโซฟิเทล แต่ชายหาดที่นี่ไม่ส่วนตัวไม่สงวนไว้เฉพาะแขกของโรงแรม ใครๆ ก็มาเล่นได้ เมื่อครั้งยังเป็นเด็กตอนที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง เคยมาเที่ยวกับครูที่โรงเรียน เคยมองเข้าไปในโซฟิเทลและคิดว่าคนที่มานอนที่นี่ได้คงต้องรวยมากๆ เพราะมันช่างดูหรูหราเสียเหลือเกิน แต่ ณ เวลานี้ เรารู้สึกเฉยๆ กับโซฟิเทลทั้งที่ยังไม่เคยมาพักที่นี่ แต่เราก็เลือกที่จะพักที่อื่นก่อนเพราะว่าเดี๋ยวนี้ โรงแรมแถวหัวหินมีให้เลือกมากมายและสวยๆ ทั้งนั้น



มีม้าให้ขี่ชมชายหาด



เมื่อเดินผ่านหาดทรายมา เท้าเปลื้อนและเหนียวต้องไปเข้าห้องน้ำเสียเงินล้างเท้าอีกคนละ 5 บาท และเดินต่อไปจนถึงโต้รุ่งหัวหิน แม่เหนื่อยเหมือนจะเป็นลมเพราะเดินไกลไป แต่สำหรับเราแล้วมันใกล้นิดเดียว ปีนี้แม่ดูแก่ขึ้นมากๆ ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อยอาจเป็นเพราะไม่ค่อยสบายด้วย และอายุก็มากขึ้นทุกวัน มาได้แบบนี้ก็เก่งมากแล้วค่ะ





เดินซื้อไปกินไป บางคนกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น ลูกชิ้นปิ้ง ไก่ทอด และแวะกินไอศครีมเจ๊นิ



เดินผ่านหลายร้านอาหารทะเลหลายร้านแต่ไม่เลือกสักร้าน





เพราะจุดหมายของเราที่จะไปทานกันในมื้อเย็นนี้คือข้าวต้มร้านเจ๊แมว เจ้าเก่าเจ้าแก่ของหัวหิน ที่มากินตั้งแต่สมัยเด็กๆ หรือร้านที่มากินร่วม 10 ปีแล้ว



เราเป็นอีก 1 คนที่หลงรักหัวหินเหมือนกับที่หลงมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ อยากกลับมาหัวหินอยู่เสมอๆ



ขากลับแม่เดินไม่ไหวแล้วก็ปวดท้องด้วย จึงต้องนั่งรถตุ๊กๆกลับ นั่งมาทีเดียว 8 คนเสียค่ารถ 100 แต่ว่าไม่ไกลเค้าเลยยอม

กลับมาถึงห้อง พักผ่อนสักครู่ พี่แอด พี่จัน อิ๊กและโก๋ ก็เดินทางกลับกรุงเทพเพื่อไปทำงานในวันรุ่งขึ้น เหลือเราไว้ 4 คน

หม่อมแม่อาบน้ำเสร็จก็มานั่งจดรายการใช้จ่าย อยากรู้ว่างานนี้จ่ายกันไปทั้งหมดเท่าไหร่แล้ว



นั่งจดอยู่นานมาก จดเท่าไหร่ก็ไม่เสร็จสักทีจนต้องบอกว่าแม่นอนเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว หมดเท่าไหร่ก็ช่างเถอะค่ะ เพื่อความสุขของแม่และพวกเราทุกคนไม่ต้องเสียดายเลย



เมื่ออาบน้ำเสร็จก็นั่งดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ตไวเลสแรงและเร็วดีมาก อ่านหนังสือ อ่านเมนู อ่านทุกอย่างในห้องที่มีให้อ่านจนจบ ได้ยินแม่กรนเสียงดัง รู้สึกมีความสุขที่แม่หลับสนิท และนอนอย่างมีความสุขแบบนี้



ตื่นค่อนข้างเช้ากว่าทุกทีเพราะว่าแม่หิว จึงรีบไปทานอาหารเช้าที่ Costanera restaurant & Tapas Bar Thai & European food บริเวณชายหาด







อาหารมีเป็น set ให้เลือก แต่มี ผลไม้ สลัด ชา กาแฟ ขนมปังให้เลือกแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารน้อยไปนิด



แต่แม่ทานได้ทุกอย่าง และทานมากด้วยเพราะว่าชอบอาหารฝรั่ง



โดยเฉพาะซีเรียลทานได้ทุกวัน และหลายถ้วยด้วย







และได้คูปองแลกค็อกเทลตั้งแต่เมื่อวาน เพิ่งจะเอามาใช้ตอนนี้



เลือกเป็นพั๊นซ์ผลไม้แบบไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ



จากนั้นเดินเล่นอีกนิดหน่อยย่อยอาหาร



พี่ชายบังคับให้พี่สะใภ้ดู บอกว่าเอาไว้กลับไปพับที่บ้านแบบนี้



แอบเปิดเข้าไปในห้องน้้ำส่วนกลางเพื่อไปล้างมือ หอมดีค่ะ สะอาดใช้ได้เลย



ขากลับเห็นกระรอกด้วยค่ะ เชื่องมากไม่ค่อยกลัวคน



เดินผ่านสปา แต่สปาที่นี่ไม่ค่อยอลังการค่ะ ดูเรียบๆ ธรรมดาไม่ได้หรูหราอะไรนัก แต่โลชั่น ครีมอาบน้ำ แชมพูในห้องน้ำที่มีให้ใช้ก็โอเคนะคะ



แม่ใจร้อนอยากกลับบ้านแล้ว รีบเดินกลับห้องเพื่อไปเก็บของ สงสัยจะคิดถึงอั่งเปาหลานรัก เพราะว่าเราไปฝากผู้ปกครองและนักเรียนให้เลี้ยงให้



แต่เราขอเดินไปดูสระว่ายน้ำสักหน่อย





สระว่ายน้ำตอนที่เราเดินไปไม่มีใครมาว่ายแม้แต่คนเดียว พนักงานก็ยังไม่มีเลยค่ะ สงสัยจะยังเช้าอยู่



นั่งพักตรงนี้สักครู่ไหมคะ เก้าอี้ตัวนี้สีสวย ที่บ้านลักษสุภาคุมโทนสีได้ดี ออกแนวสะอาดตา มองแล้วผ่อนคลาย cool & Clean เหมือนกับชื่อที่เราตั้ง โดยรวมแล้วเราก็ชอบที่นี่นะคะ รู้สึกลงตัวกับการออกแบบและสบายใจกับธรรมชาติ สีขาวสะอาดตาของบ้าน และบริการก็จัดว่าใช้ได้



แต่ขอตำหนิสักหน่อยก่อนมา เราโทรมาถามว่ามีห้องว่างไหมและจะขอซื้อในราคางานท่องเที่ยวไทยเนื่องจากไม่สะดวกไปซื้อเพราะมีม็อบเสื้อแดง จึงจะขอซื้อโดยตรงผ่านที่พักเลยได้ไหม กับได้รับคำตอบมาว่า ไม่ได้ค่ะแล้วห้องก็ไม่ว่างด้วย ทำให้เราต้องให้เพื่อนไปซื้อให้ที่งานท่องเที่ยวไทย และไปถามที่งานว่าวันที่เราต้องการมีห้องว่างหรือป่าว เค้าก็ตอบมาว่าว่างค่ะ เหลืออีกหลายห้องเลยเพราะไม่ใช่ weekend

เออ..แปลกดีนะที่ไม่อยากจะขาย แต่เราก็ยังหน้าด้านอยากไปนอนอีก แต่พอไปแล้วก็พอใจในระดับหนึ่ง ถ้าตอนแรกพูดดีกว่านี้และให้ข้อมูลที่ตรงกว่านี้ก็จะให้คะแนนเต็มเลยค่ะบ้านลักษสุภา

ขากลับไม่เข้ากรุงเทพออกมาทางนครปฐม เข้าสุพรรณ พี่ชายพี่สะใภ้อยากแวะวัดทับกระดาน เพราะยังไม่เคยมาจึงแวะเข้าไปดู แอบขอหวยคุณพุ่มพวงเผื่อจะมีโชค เพราะคุณพุ่มพวงเป็นคนกตัญญูรักครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง เหมือนกับพวกเรา เผื่อจะคอเดียวกันจะมีโชคกับเค้าบ้าง



แวะตลาดสามชุก



พาแม่แวะคลีนิคหมอราเมศร์เพื่อตรวจและซื้อยาหยอดตาต้อกระจกที่นครสวรรค์ กว่าจะถึงบ้านก็ประมาณ 5 ทุ่ม ทั้งเมื่อยทั้งเหนื่อย แต่ก็มีความสุขกันทุกคน เป็นอีกทริปที่ได้ไปเที่ยวกันครบ 4 คนพี่น้อง หลายปีแล้วที่เราไม่ได้ไปกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ มีความสุขมากค่ะ ขอเก็บไว้ในความทรงจำที่สวยงามตลอดไป




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2553
2 comments
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 1:11:21 น.
Counter : 1881 Pageviews.

 

แวะมาชมค่ะ

 

โดย: นู๋ที 9 พฤษภาคม 2553 6:47:54 น.  

 

ทำบล๊อกแบบนี้ดูชวนฝันมากค่ะ อิอิ ห้องพักสีขาวดูสะอาดตาดีค่ะ

 

โดย: ying&yammy 10 พฤษภาคม 2553 13:01:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.