Group Blog All Blog
|
10 Fantastic days in Japan ⊰⊹ Tokyo Eat Eat ระหว่างนั้นเราก็เดินหาข้าวกล่องหรือร้านราเมนที่น่าสนใจในสถานี ผลที่ได้คือ... เดินเล่น แล้วก็แวะซื้อขนมเพิ่มอีกสักหน่อย... เมื่อเราไปถึงโตเกียวแล้ว เราก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมกันก่อน โดยคืนนี้เราพักกันที่โรงแรม Yaesu Pearl ใกล้กับ Tokyo Station จากนั้นเราก็เดินทางไปเที่ยววัดอาซากุสะกัน โดยไม่ลืมแวะชิมซาลาเปาทอดของดังในย่านนั้นด้วย ตอนมาถึงที่นี่นึกว่าอยู่เมืองไทย คนไทยเยอะมาก ทัวร์ไทยก็เยอะ พูดคุยกันเสียงดังโหวกเหวกจนทำให้รู้สึกไม่คุ้นเคย - -" เพราะเมืองที่ผ่านมาไม่เจอนักท่องเที่ยวชาวไทยเลย แวะไหว้พระกันก่อนนะคะ แล้วขากลับค่อยไปช็อปปิ้งของฝาก ที่วัดอาซากุสะคนเยอะมากๆค่ะ แต่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย แวะดูของฝากหน้าวัด ที่นี่ของฝากมีหลากหลายทุกประเภท แล้วราคาก็ไม่แพง ได้กระเป๋าใส่สตางค์สวยๆมาฝากเพื่อนเยอะเชียวค่ะ หลังจากนั้น เราก็มุ่งหน้าไปย่าน Akihabara เพื่อไปหาร้านอาหารที่มีเด็กสาวในชุดคอสเพลย์แต่งตัวน่ารักคอยเสิร์ฟอาหาร Akihabara คล้ายห้างพันทิพย์ของไทยเสียแต่อยู่ตามตรอกซอกซอยไม่ได้อยู่บนห้าง แวะร้าน Curry Kitchen ชิมข้าวหน้าแกงกะหรี่ ราคาประหยัดเพียง 590 เยน คนละครึ่งจาน อร่อยจนบางคนต้องสั่งเพิ่ม สำหรับเด็กหัดกินข้าวหน้าแกงกะหรี่แบบเรา ดีใจมากมายที่แกงกะหรี่ไม่ราดลงบนทงคัตซึ เพราะถ้าทานแล้วไม่ชอบก็กินแต่หมูได้ ความเห็นจากนักชิมแกงกะหรี่... แกงกะหรี่หมูทอด แกงกะหรี่สเต็กเนื้อ ร้าน franchise ธรรมดาของที่นั่น แต่อร่อยกว่าทุกร้านในเมืองไทยครับ T_T... ร้านในเมืองไทยที่พอจะสู้ได้เห็นจะมีแต่ ร้าน Aoringo อาคารธนิยะเท่านั้น หลังจากเดินเล่นตามหาร้านเด็กแต่งคอสเพลย์ที่ลงในหนังสือ Tokyo eat eat ไม่เจอ เราก็เลยไปหาซูชิทานกันเพราะมีคนอยากทานโทโร่ เดินไปเรื่อยๆก็เจอห้าง Yodobashi Akiba Building มีพี่ในทริปอยากดูกล้องวีดีโอ เราก็เลยมุ่งหน้าไปที่นั่น โดยมีพี่อีกคนในทริปตามหาโทโร่ ลายแทงขุมทรัพย์ เอ้ย...ไม่ใช่ ลายแทงร้านอาหารที่อยู่บริเวณชั้น 8 ของห้าง มีคนงอแงกระทืบเท้าร้อง "จากินโทโร่ๆ" คนในทริปก็เลยต้องตามใจก่อน กล้องวีดีโอเอาไว้ทีหลัง โดยมีร้านหมายเลข 5 เป็นเป้าหมายของเรา เริ่มด้วย Collar toro ; ปกติโทโร่จะเป็นส่วนท้องปลาทูน่า แต่ Collar toro นั้นต่างออกไป โดยจะเป็นส่วนเนื้อตรงกระดูก Collar bone (ประมาณไหปลาร้า) ของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (blue fin tuna). ปริมาณนั้นมีน้อยกว่าน้อย เหมือนกับ otoro แต่อร่อยระดับลืมสิ้นทุกข์โศกเลยทีเดียว ราคาชิ้นละ 400 yen ถูกจริงๆถ้าเทียบกับไทย อร่อยจนต้องสั่งเพิ่มอีก 6 ชิ้น แต่ทางร้านเพิ่มได้แค่ 4 ชิ้นก็หมดร้านแล้ว พ่อครัวคงได้แต่คิดว่าคนไทยนี่มันรวยจริงๆ กินซูชิคำละ 400 yen ไม่สะทกสะท้าน Otoro fatty tuna ; เนื้อโทโร่ชั้นเยี่ยมส่วนท้องทูน่า ถูกมาก สองคำ 500 yen (ในไทย มีตั้งแต่ 320 - 500 บาท สองคำนะ) Sushi เป๋าฮื้อ ; ง่า..ใช้ได้ แต่คนไทยกินเป๋าฮื้อตุ๋นนุ่มๆ อันนี้เนื้อดิบ เลยแข็งผิดคาด แต่ก็กรอบดี Sushi หน่อต้นหอม ใช้ต้นหอมแรกเกิดมาทำ รสชาตินั้นหมดจดมาก หมดจดเป็นยังไง ต้องไปลองเอง ประทับใจมากเพราะเคยเห็นแต่ในการ์ตูนเจ้าหนูซูชิ เหอะๆ Sushi หน้าปลาไหล อร่อยดีๆ เมื่อทานซูชิกันจนจานกองเต็มโต๊ะ (อายจัง - -) หลังจากนั้นเราก็ลงไปเดินเล่นดูซีดีเพลงและของไฮเทคกัน เดินวนดูซีดีจนได้ซีดีดงบังชินกิมาฝากเด็กที่ไทยแล้วก็เดินขึ้นไปนั่งรอเพื่อนที่ไปเลือกกล้องวีดีโอ แต่ชูชกในทริปดันตาดีไปเห็นเห็นภาพในลายแทงที่จะพาไปสู่ร้านหมายเลข 7 ชื่อ ร้าน Xi'an โดยมีแรงบันดาลใจจากหนังสือการ์ตูนเช่นกัน อาหารในตำนาน คือ "ตอเซี๊ยะหมี่" พ่อครัวกำลังทำตอเซี๊ยะหมี่ (มีดฟันหมี่) ; ตามรูป ปั้นแป้งเป็นก้อนขนาดยักษ์ อุ้มแล้วฝานด้วยความชำนิชำนาญความเร็วสูงลอยบนอากาศไปตกในหม้อ หลังจากนั้นจะได้เส้นที่หนาเท่ากันตลอดเส้น แต่ถ้าตัดตามขวางจะหนาด้านบางด้าน ด้านหนาให้ความอร่อยของเนื้อหมี่ ด้านบางจะละลายไปในซุปให้ความนิ่มนวล และช่วยทำให้ผักและเครื่องปรุงติดขึ้นมากับหมี่ได้ง่ายขึ้น อันนี้คือสุดยอดอาหารหมี่อย่างแท้จริง ซุปมีหลายแบบ เลือกเผ็ดได้หลายระดับ แต่เราลองเลือกแบบเผ็ดสุด เชื่อว่าคนไทยรับได้สบาย ชัดๆกับตอเซี๊ยะหมี่ของจริง สุดยอดอาหารหมี่ จากการ์ตูนดัง...จอมโหดกระทะเหล็ก หลังจากอิ่ม อร่อย จากอาหารดังจากการ์ตูนกันแล้ว แต่นักชิมของเราก็ยังมีโปรแกรมบุฟเฟ่ท์มัสสึซากะในช่วงค่ำอีก คราวนี้มีนัดกับรุ่นน้องของพี่ในทริปที่แต่งงานกับหนุ่มญี่ปุ่นค่ะ เรานัดกันที่หน้า Sunflower Building แถว Shinjuku ซึ่งเราไปแถวนั้นก่อนเวลาสาวๆก็เลยไปช็อปปิ้ง ส่วนหนุ่มๆไปนอนสปาเท้าพักเอาแรงไว้กินต่อ หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้วเดินหาตึกนัดพบจนเจอแล้ว เราก็เดินเล่นตามตรอกซอกซอยดูวิถีชีวิตชาวโตเกียวหลังเลิกงาน ที่นี่เจอทัวร์ไทยเยอะอีกเช่นเคย บุฟเฟ่ท์ร้าน Rokkasen ที่ Sunflower Building ราคาหัวละ 20,000 กว่าเยน คิดดูแล้วไม่ค่อยคุ้มเพราะช่วงบ่ายทานเยอะมากกกกกก แล้วเราก็กลัว...ไม่รู้ว่าเขาเอาเนื้อส่วนไหนมาให้เรา / อร่อยมากจริงมั้ย / มีบางคนไม่ทานเนื้อ / มีบางคนไม่ทานบุฟเฟ่ท์ ... จึงทำให้ทานบุฟเฟ่ท์ไปคุยไปไม่ได้ นักชิมของเราก็เลยตัดสินใจสั่งแบบเซ็ทแทน เนื้อมัสซึซากะ...วัวกินเบียร์แล้วเรากินวัวอีกที มันจะแทรกอยู่ในเนื้อทุกส่วน อร่อยลืมโลก แต่คนในกรุ๊ปบอกว่าเนื้อฮิดะอร่อยกว่านี้ ลิ้นวัว หมักเกลือเล็กน้อย อร่อย... เนื้อปูของเราเพราะเจ้าของบล็อคทานปูจานนี้คนเดียวเลยค่ะ ทุกคนสละให้เนื่องจากเราไม่ทานเนื้อ ย่างๆๆๆๆ ทุกอย่างหมดอย่างรวดเร็ว หนุ่มไทยและหนุ่มญี่ปุ่นคุยเรื่องการเมืองกันอย่างออกรส ของหวานในเซ็ท เป็นไอศรีมรสชอร์เบทอร่อยมากกกกกกกก หลังจากอิ่มกันเจียนตายคาร้าน เราก็ย้ายพุงไปนอนหลับพักผ่อนกันที่ Yaesu Pearl Hotel แต่จริงๆแล้ว เราแอบต่อด้วยไดฟุกุโตเกียวบานาน่าอีกคนละ 1 ก่อนนอนค่ะ ....... เอิ๊กส์ ถ้าใครถามว่า "โตเกียวน่าสนใจมั้ย เป็นยังไงบ้าง" คำตอบ .... "ฮืม...ดี อิ่ม อร่อยยยยยยยยยยยยย" |
ภาษาดาว
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] "ภาษาดาว" ... เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนึง ที่ อ่าน-ถาม-ตอบกระทู้ อยู่ใน Pantip มาสิบกว่าปี ถ้าถามว่าอนาคตอยากเป็นอะไร? เมื่อก่อนคงอยากเป็นนักเขียน อยากทำงานอิสระและได้ท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ แต่ด้วยเวลาและอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ค่อยๆ ห่างวงการนี้ไป แต่ทุกวันนี้ก็ยังขยันอ่าน ขยันหาความรู้รอบตัวต่างๆ ใส่สมองอันน้อยนิดอยู่เสมอ หวังว่าสักวันหนึ่ง...ไม่ว่าตอนนั้น เราจะอยู่ตรงจุดไหนหรือทำอะไรก็ตาม...เราก็ยังคงมีความสุขในแบบของเราเอง ในแบบ...ภาษาดาว ★ Friends Blog
|