Group Blog All Blog
|
แบ่งปันบรรยากาศ 'เว้-ดานัง-ฮอยอัน' ปี 2008 ✿ ตอนที่ 1 มีโอกาสไปเที่ยวทริปเวียดนามกลางกับเพื่อนๆ ในช่วงวันที่ 8-13 ส.ค. 2551 ที่ผ่านมา ท่ามกลางรายงานข่าว..พายุเข้าให้ระวังฝนตกหนัก แต่อาจเป็นเพราะเพื่อนรักพกของดีไปด้วย เราจึงไม่มีฝนเป็นอุปสรรคเลยค่ะ คณะเราออกเดินทางโดยรถตู้จากกรุงเทพฯ เกือบ 2 ทุ่ม ไปถึงมุกดาหารประมาณตี 5 แวะพักรถที่ปั๊มน้ำมันให้เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รอเวลาให้ด่านชายแดนไทย-ลาว เปิดตอน 8 โมงเช้า เพื่อที่จะได้ขึ้นรถข้ามแดนไทย-ลาวคันแรก ประมาณ 6 โมงเช้ากว่าๆ เราก็มุ่งหน้าไปร้าน 'จินางข้าวเปียก' หน้าสถานีขนส่ง ข้าวเปียก ... อาหารชื่อแปลกแต่อร่อยสุดๆ เป็นอาหารเช้ามื้อแรกของเราและเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดของทริปนี้ (คิดถึงจัง...อยากหม่ำอีก ) ประมาณ 8 โมงเช้าเราก็ไปรอรถทัวร์ มุกดาหาร-สะหวันนะเขต ที่สถานีขนส่ง เพื่อข้ามแดนไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงด้วยสะพานมิตรภาพ ไทย - ลาว จากนั้นเราก็ผ่าน ตม.ลาว มาด้วยดี รถตู้คันเล็ก..พาหนะที่จะพาเราเที่ยวตั้งแต่วันแรก จนถึงวันสุดท้ายของทริป โดยมีสารถีผู้ที่เป็นล่ามไปด้วยในตัว ชื่อ คุณเพียร แต่เราเรียก อ้ายเพียร (เรียกตามเพื่อนค่ะ...อิอิ) เมื่อผ่าน ตม.ลาว มาแล้ว สองข้างทางก็มีแต่ป้ายโฆษณาผลิตภัณฑ์จากค่ายแม่เลี้ยงดาวเรืองแห่งประเทศลาวเต็มไปหมดเลยค่ะ เรานั่งรถผ่านเส้นทางจากสะหวันนะเขตไปด่านลาวบาวระยะทางประมาณ 287 กม. เพลงเพราะๆ จากอ้ายเพียรก็ทำให้เรารู้สึกแฮปปี้เกินคาด สัญลักษณ์ของเมืองสะหวันนะเขต ฝั่งลาวขับเร็วได้ แต่พอถึงเวียดนามต้องระวังเพราะมีการตรวจจับความเร็วด้วยเรด้าร์ ขับนอกเมืองห้ามเกิน 80 และในเมืองห้ามเกิน 45 มิเช่นนั้นจะถูกปรับหนักมาก เมื่อผ่านเมืองพิณก่อนถึงด่านลาวบาว เราแวะรับประทานอาหารที่ร้านวิภาดา รสชาติใช้ได้แต่ลักษณะของอาหารที่ทำทิ้งไว้นานแล้วก็แค่พอกินกันตายค่ะ บริเวณด่านแดนสะหวันนะเขต (ชายแดนลาว) ซึ่งสามารถแลกเงินไทยเป็นดองได้ที่นี่ แล้วเดินทางผ่านด่านลาวบาว (ชายแดนเวียดนาม) มุ่งหน้าสู่เมืองดองฮา วันที่ไปถึง (9 ส.ค.) อัตราแลกเปลี่ยนเงินอยู่ที่ 480,000 ดอง = 1,000 บาท เวลาแลกเงินแถวด่าน จับเงินเราให้แน่นอย่าให้แม่ค้าดึงไปก่อนนะคะ รับเงินจากแม่ค้าครบแล้วค่อยให้เงินเราไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาและทำให้อารมณ์เสียกันตั้งแต่ต้นทริปเชียวค่ะ จากด่านลาวบาว สองข้างทางของเส้นทางคดเคี้ยวจะมีภูมิประเทศที่สวยงาม ให้เห็นตลอดเส้นทาง...สวยงามมากค่ะ รถขับผ่านแม่น้ำเบนไห่ ซึ่งเป็นแนวเส้นขนานที่ 17 ที่เคยแบ่งดินแดนเวียดนามให้เป็นสองประเทศคือ เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ระหว่างทางเราจะพบอนุสาวรีย์วีรชนและฮวงซุ้ยของชาวบ้านอยู่มากมาย ทั้งนี้เพราะมีประชาชนเสียชีวิตในช่วงสงครามเวียดนามมากถึง 4 ล้านคน ในที่สุด ช่วงเย็นเราก็เดินทางถึงโรงแรม Duy Tan Hotel ในเมืองเว้ (Hue) แล้วค่อยออกไปทานอาหารเย็นกันที่ร้าน Lac Thien ชื่อดังที่ได้รับการกล่าวถึงในหนังสือไกด์บุ๊ค Lonely Planet, Le Guide de Routard เป็นต้น เจ้าของร้านเป็นคนหูหนวกและเป็นใบ้แต่มีอัธยาศัยดี ส่วนอาหารก็อร่อยจนเป็นที่เลื่องลือโด่งดัง โดยเจ้าของร้านจะโชว์วิธีการเปิดขวดด้วยไม้เปิดขวดที่คิดค้นขึ้นมาเอง พร้อมทั้งเซ็นต์ชื่อและแจกให้ลูกค้าติดไม้ติดมือกลับบ้านคนละอันเป็นที่ระลึก หลังจากทานอาหารกันจนอิ่ม เราก็เดินกลับโรงแรมโดยเดินเลียบริมแม่น้ำหอมและชมสะพานเปลี่ยนสีที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเว้ เดินเล่นท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์สดชื่นอย่าบอกใครเชียวค่ะ แวะมาเที่ยวเวียดนามด้วยคนค่ะ
โดย: คีตาญชลี วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:1:11:22 น.
เคยไปแต่ฮาลองเบย์ค่ะ เค้าว่ากันว่าฮอยอันสวย จริงอะป่าวคะ
โดย: Summer Flower วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:17:07:03 น.
สวยกว่าฮาลองเบย์แน่นอนค่ะ คุณ Summer Flower คนที่ไปฮาลองเบย์ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีอะไร
ส่วนตัวแล้ว ตามประสาคนรักโบราณสถาน และสิ่งสวยๆงามๆ เส้นทาง เว้-ฮอยอัน น่าสนใจกว่ามากค่ะ โดย: ภาษาดาว วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:23:09:02 น.
ตามไปเที่ยวกับดาว ชอบๆๆ อยากไปอีก โดยเฉพาะร้านจินางเห็นรูปแล้ว อยากกิน
โดย: คนชื่นชอบนิยาย IP: 125.25.37.125 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:18:20:00 น.
|
ภาษาดาว
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] "ภาษาดาว" ... เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนึง ที่ อ่าน-ถาม-ตอบกระทู้ อยู่ใน Pantip มาสิบกว่าปี ถ้าถามว่าอนาคตอยากเป็นอะไร? เมื่อก่อนคงอยากเป็นนักเขียน อยากทำงานอิสระและได้ท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ แต่ด้วยเวลาและอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ค่อยๆ ห่างวงการนี้ไป แต่ทุกวันนี้ก็ยังขยันอ่าน ขยันหาความรู้รอบตัวต่างๆ ใส่สมองอันน้อยนิดอยู่เสมอ หวังว่าสักวันหนึ่ง...ไม่ว่าตอนนั้น เราจะอยู่ตรงจุดไหนหรือทำอะไรก็ตาม...เราก็ยังคงมีความสุขในแบบของเราเอง ในแบบ...ภาษาดาว ★ Friends Blog
|