มกราคม 2552

 
 
 
 
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
10 Fantastic days in Japan ⊰⊹ Bandaiatami - Goshikinuma - Kitakata


วันนี้เราจะไปเที่ยวทะเลสาบ Goshikinuma หรือ บึง 5 สี กับ Kitakata เมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่อง Ramen (ทริปนี้จริงๆแล้วคือทริปชูชก)

หลังจากเช็คเอ้าท์และส่งกระเป๋าเดินทาง (Baggage Forwarding) ไปเรียวกังใน Kyoto ที่จองไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินไปยังสถานีรถไฟ Sendai เพื่อขึ้น Shinkansen ไปลงที่ Koriyama Station

แล้วต่อรถไฟ JR Banetsu-sai Line ไปแวะ Bandai-Atami เพื่อเอากระเป๋าและเป้หนักๆ ไปฝากไว้ที่เรียวกังกันก่อน ระหว่างทางเหลือบไปเห็นป้ายรูปลิง คนญี่ปุ่นเขาช่างใส่ใจกับทุกสิ่งเข้าใจออกแบบให้ดูน่ารักไปหมดทุกอย่าง



อาหารมื้อเช้าของเราเป็นข้าวกล่องที่ซื้อในสถานีรถไฟ ข้าวหน้าเนื้อ(กล่องบน)...อร่อย แต่ข้าวหน้าหมูย่าง(กล่องล่าง)...ไม่ไหวค่ะ





ถึง Bandai-Atami แล้วจ้า เจ้าของโรงแรม KIRAKUYA ใจดีมากๆ ช่วยแนะนำการเดินทางท่องเที่ยวตามแผนของเราด้วยค่ะ ส่วนเรียวกังก็คลาสสิค ห้องกว้าง มี Onsen ส่วนตัวให้แช่ด้วยนะคะ...ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งที่นี่อยู่ใกล้สถานี โดยใช้เวลาเดินเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น



คืนนี้เราจะกลับมาพักที่โรงแรมเหมียวแมว KIRAKUYA Inn : //www.kirakuya-inn.co.jp/ewelcome.stm

ขอบอกว่าโรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่ชอบมากที่สุดในทริปเลยค่ะ เพราะห้องกว้าง เครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม มี Onsen ส่วนตัว บรรยากาศญี่ปุ่นสุดๆ แถมเมืองก็สวยน่ารัก



ตอนที่มาถึงเราเห็นศาลาที่มีบ่อน้ำร้อนสาธารณะให้แช่เท้า...เลยต้องลองสักหน่อย เพราะเมื่อยกันมาตั้งแต่เมื่อวานที่ไปเดินวัดบันไดพันขั้น เราแช่กันอยู่นานทีเดียว



ที่นี่มีคุณตาคุณยายนั่งแช่เท้าอยู่หลายท่าน ส่วนบ่อน้ำร้อนนั้นก็แบ่งความร้อนเป็นหลายระดับ ตามแต่เราจะเลื่อนก้อนกรวดไปกั้นความร้อนของน้ำ ถ้ากรวดไปปิดทางไหลของน้ำร้อนทางใดบ่อที่รับน้ำจากทางนั้นก็จะร้อนน้อยลง



ภาพศาลาภาพแรก เป็นภาพหลังจากที่เราแช่เท้าเรียบร้อยแล้วก็เลยไม่มีคนแต่แท้จริงแล้วตอนที่เรามาถึง มีคุณตาคุณยายนั่งแช่เท้ากันหลายท่าน ทุกท่านใจดีสอนวิธีแช่เท้าแล้วก็ชวนคุยด้วยค่ะ

แอบดีใจที่คุณลุงท่านนึงถามเราว่าเป็นนักเรียนใช่มั้ย? มาเที่ยวกันเหรอ? (กรี๊ดๆๆๆๆ แปลได้หน้าเด็ก...)



หลังจากนั่งแช่เท้ากันจนหายเมื่อยและผิวเป็นสีแดงแปร๊ดแล้วก็เตรียมเดินทางไป Goshikinuma บึง 5 สีกัน

เรานั่งรถไฟจาก Bandai-atami Station ไปลง Inawashiro Station ใช้เวลาประมาณ 25 นาที แล้วนั่งรถบัสไปลงที่ Goshikinuma-Iriguchi พอไปถึง Goshikinuma ก็พบกับทิวทัศน์สวยงามจากใบไม้ที่เปลี่ยนสีเป็นสีส้มสีเหลืองทั้งหุบเขา

แต่ก่อนที่เราจะไปเดินชมใบไม้เปลี่ยนกัน เราก็ต้องแวะชิมอาหารกันก่อน ... เนื้อย่างที่นี่อร่อยมากๆ (ไม่ได้ชิมเองหรอกนะคะเพราะไม่ทานเนื้อ แต่คนที่ชิมคอนเฟิร์มความอร่อยกันทุกคน)



Goshikinuma Lake (ทะเลสาบ 5 สี) สถานที่ซึ่งติดอันดับสถานที่ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเกิดจากประทุของภูเขาไฟในปี 1888 ส่งผลทำให้เกิดแร่ธาตุหลากสีสันสะท้อนออกมาเป็นสีของน้ำในบึงที่สวยงามแปลกตา เช่น สีน้ำเงินโคบอลต์ สีเขียวมรกต ฯลฯ





นักท่องเที่ยวนิยมมาพายเรือเล่นกับคู่รัก ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่นี่วิวสวย อากาศดี และโรแมนติกมากค่ะ (อยากได้หนุ่มหล่อแถววัด Chusonji มาพายเรือให้นั่งจัง )





แถมยังมีปลาคาร์ฟตัวโตว่ายน้ำเล่นหยอกล้อกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร..



เราเดินตามเส้นทางเดินธรรมชาติ ชมความงามของบึงต่างๆ ระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินและถ่ายรูปกันอยู่นาน ราว 3-4 ชั่วโมง





ในที่สุดเราก็ได้พบกับ "ใบไม้เปลี่ยนสี" สมใจที่ Goshikinuma Lake นี่เอง ได้ข่าวว่าปีนี้ที่นี่มีหิมะตกรอบๆบึงในช่วงต้นธันวาเป็นแห่งแรกของญี่ปุ่นเชียวค่ะ



บึงสีเขียวมรกต.... (น่าจะใช่ ><)



ทางเดินในป่าอันสวยงาม อากาศเย็นสบาย และบรรยากาศโรแมนติก





หากมากับทัวร์เหมือนคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่น คงไม่ได้เดินชมความงามของธรรมชาติที่นี่กันอย่างเต็มอิ่ม ถ้าใครมีแผนไปเที่ยวแถบโทโฮคุ อย่าลืมแวะ Ura-Bandai นะคะ ถ้ามีโอกาสได้ไปอีกก็อยากไปพักที่เมืองนี้เพราะโรแมนติกมาก



ใกล้ถึงปลายทางแล้วค่ะ ได้แต่ร้อง "ว้าวววว" สวยงามสุดๆ ใบไม้สีแดงได้บรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี



เรายืนรอรถบัสเพื่อไปเมือง Kitakata เมืองแห่งราเมนอยู่ราว 30 นาที ทว่าไม่น่าเบื่อสักนิดเพราะมีบรรยากาศสวยๆ แบบนี้เป็นเพื่อน



ทิวทัศน์ของเมือง Ura-Bandai ระหว่างเส้นทางไปเมือง Kitakata มีโรงแรมสวยกลางหุบเขาอยู่ 2-3 แห่ง ทำให้อยากมาอยู่ที่นี่สักเดือนนึง (รอให้รวยก่อน )



นั่งรถราว 30-40 นาที เราก็มาถึง Kitakata เมืองแห่งราเมน ซึ่งเมืองเล็กๆแห่งนี้มีร้านราเมนที่มีชื่อเสียงมากกว่า 40 ร้านเชียวนะคะ



เราแวะขอข้อมูลที่สถานีรถไฟ แล้วมาเลือกร้านจาก Ramen Guide Map กัน

ปล. ถ้าใครมีความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่น ลองเลือกร้านที่น่าสนใจก่อนไปก็ได้นะคะ ที่ //www.ramenkai.com/map/




ด้านในของแผ่นพับ มีหมายเลขของร้านตามแผนที่และเวลาเปิดปิดร้านค่ะ (รายละเอียดอื่น อ่านไม่ออก - -)

เราไปถึงประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง จึงมีข้อจำกัดในการเลือกร้านอยู่ไม่น้อยทีเดียว เพราะเป็นเวลาคาบเกี่ยวระหว่างกลางวันกับเย็น





ร้านแรกที่เราจะตามไปชิม คือ หมายเลข 25 เนื่องจากภาพราเมนน่าสนใจและเดินไม่ไกลจนเกินไป ซึ่งตอนที่เราเดินเข้าร้าน เจอคุณป้าสาวสาวสาวที่นั่งรถมาด้วยกันจาก Goshikinuma ด้วยค่ะ แต่คุณป้าลงก่อน (คงลงหน้าร้าน) ไม่เหมือนพวกเราที่ไปลงรถที่ Kitakata Station ทำให้ต้องเดินไกล





ลูกค้าในร้านเยอะมากค่ะ มีทยอยเดินเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่เป็นเวลาบ่ายแล้วไม่ใช่ตอนกลางวัน ตอนที่เดินในเมืองนี้ รู้สึกเหมือนเป็นเมืองร้างแทบไม่เจอผู้คน ที่แท้...หลบกันอยู่ในร้านราเมนนั่นเอง



ชามนี้...ถ้าจำไม่ผิด ค่าเสียหาย 1,200 เยน เราแบ่งกันคนละครึ่งชามเพราะตั้งใจแวะชิมอย่างน้อย 2 ร้าน ปกติเวลาทานราเมนจะต้องใส่พริกไม่งั้นทานไม่ลง แต่ราเมนร้านนี้ .... สุดยอดดดดด!!! อร่อยได้โดยไม่ต้องเติมเครื่องปรุงใดๆ

ราเมนชามใหญ่มาก เส้นเหนียวนุ่ม ที่สำคัญน้ำซุปหวานน้ำต้มกระดูกหมูที่ได้รับการเคี่ยวมาอย่างดี ทานแล้วคล่องคอ ซดกันจนเกลี้ยง .... อร่อยจนแทบจะกินชามตามเลยทีเดียวค่ะ ถือว่า..ประสบความสำเร็จไปแล้วหนึ่งร้าน



หลังจากอิ่มเอมใจกับราเม็งร้านแรกไปแล้ว เราก็ช่วยกันเลือกร้านที่อยากไปชิมกันต่อ สรุปกันที่ร้านหมายเลข 34 เพราะเดินไม่ไกลมากนัก ทำให้คนที่อยากไปร้านหมายเลข 4 เสียดายเล็กน้อย (ร้านหมายเลข 4 เดินไกลมากค่ะ อยู่ปลายแผนที่...ไกลไป ไม่ไหวๆ)



ทิวทัศน์อันสวยงามของเมือง Kitakata ระหว่างเส้นทางเดินไปตามหาร้านราเมน อ้อ..ที่นี่มีคุมองท์เหมือนที่ไทยด้วยนะคะ



ถึงแล้วค่ะ ... ร้านหมายเลข 34 คนที่ช่วยกันเลือก เซ็งเล็กน้อย ที่ลืมดูภาพหมูที่ถูกย่างไฟว่าไม่ใช่เตาถ่าน แต่เลือกไปแล้วเดินจะถึงแล้ว...ก็เลยตามเลย

ซึ่งบรรยากาศภายในร้าน มีลูกค้าอยู่เพียง 1-2 โต๊ะ ไม่ครึกครื้นเหมือนร้านแรก ความหวาดระแวงเริ่มครอบงำ แต่ก็ตัดสินใจสั่งราเมนตามรูปภาพและเกี๊ยวซ่า 1 จาน ครั้งนี้แบ่งราเมนกันคนละครึ่งชามเหมือนเดิม





ผลการชิม ... มีบางคนชอบร้านนี้มากกว่าร้านแรก แต่เสียงส่วนใหญ่โดยเฉพาะสาวๆ สรุปว่า ร้านแรกอร่อยกว่ามากๆ

สำหรับความเห็นส่วนตัว...ไม่ค่อยประทับใจร้านนี้ค่ะ รสชาติของน้ำซุปกับหมูเค็มเกินไป...ไม่ผ่าน !!



เราจบการชิมราเมนกันที่ร้านที่ 2 เพราะทานกันต่อไม่ไหวแล้ว จึงชวนกันกลับไปแช่ onsen ที่เรียวกังแมวเหมียวในเมือง Bandai-Atami

ปิดท้ายทริปชูชกวันนี้ด้วยภาพขนมที่ขายในเรียวกัง มีรูป mascot สัญลักษณ์ของเมือง Aizu น่ารักมากจนอดใจไว้ไม่อยู่ต้องซื้อกลับมาฝากเพื่อนๆ

อร่อยหรือไม่อร่อย...ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าน่าร๊ากกกกกกกก...












Create Date : 01 มกราคม 2552
Last Update : 2 มกราคม 2552 0:54:27 น.
Counter : 1701 Pageviews.

1 comments
  
อยากไปๆๆๆค๊า
โดย: myvip_diary วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:22:56:36 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภาษาดาว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"ภาษาดาว" ... เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนึง ที่ อ่าน-ถาม-ตอบกระทู้ อยู่ใน Pantip มาสิบกว่าปี

ถ้าถามว่าอนาคตอยากเป็นอะไร? เมื่อก่อนคงอยากเป็นนักเขียน อยากทำงานอิสระและได้ท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ แต่ด้วยเวลาและอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ค่อยๆ ห่างวงการนี้ไป แต่ทุกวันนี้ก็ยังขยันอ่าน ขยันหาความรู้รอบตัวต่างๆ ใส่สมองอันน้อยนิดอยู่เสมอ

หวังว่าสักวันหนึ่ง...ไม่ว่าตอนนั้น เราจะอยู่ตรงจุดไหนหรือทำอะไรก็ตาม...เราก็ยังคงมีความสุขในแบบของเราเอง ในแบบ...ภาษาดาว