|
|
หอการค้าฯลงสัตยาบันไม่จ่ายใต้โต๊ะ
หอการค้าไทย ผนึกรัฐ-เอกชน แก้ปัญหาคอรัปชั่น ลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ แก้วิกฤติน้ำท่วม ประกาศสัตยาบันไม่จ่ายเงินใต้โต๊ะ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างทั่วประเทศ หากพบทุจริตส่ง ปปช.ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 ที่ จ.ระยอง หอการค้าไทย ได้จัดการสัมมนา 3 หัวข้อ เพื่อระดมความคิดจากภาครัฐและภาคเอกชนในการแก้ปัญหาชาติ ได้แก่ ประเด็นต่อต้านคอรัปชั่นสร้างสรรค์ประเทศไทย การลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน และยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหลังวิกฤติน้ำท่วม
ทั้งนี้ กลุ่ม ต่อต้านคอรัปชั่น สร้างสรรค์ประเทศไทย นั้น นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่น กล่าวว่า หอการค้าไทยจะเป็นแกนหลักในการดำเนินงานของภาคีฯ โดยจะจัดโครงการรับสมัครอาสาสมัครมาช่วยในการตรวจสอบคอรัปชั่น ซึ่งจะมีการอบรมเป็นพิเศษในเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ และจะเฝ้าระวังการคอรัปชั่นอย่างไร
นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาการคอรัปชั่นนั้น ต้องเข้าใจบทบาทของภาคี มี 3 ป ได้แก่ ปราบปราม ปลูกฝัง และป้องกัน โดยหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ จะแสดงเจตจำนงต่อต้านคอรัปชั่น โดยจะไม่จ่ายเงินพิเศษให้แก่ภาครัฐ และจะมีการลงนามสัตยาบันในเรื่องนี้
นอกจากนี้ จากการหารือกับคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยังจะออกกฎหมายบังคับให้การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ จะต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
ส่วนกลุ่มที่ 2 ลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า โครงการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่หอการค้าไทยจัดทำขึ้น ได้แก่ โครงการ 1 ไร่ 1 แสน และโครงการ 1 บริษัท 1 ชุมชน
โดยในปีที่ผ่านมา หอการค้าไทยได้จัดโครงการ ทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน ที่ จ.ขอนแก่น มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 2 หมื่นไร่ ส่วนในปีนี้ ได้จัดโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ที่ จ.ระยอง ในโครงการปลูกมัน 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี
ในด้านโครงการ 1 บริษัท 1 ชุมชน ในปี 2554 หอการค้าไทย ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2553 รวมทั้งสิ้น 39 โครงการ แบ่งเป็นโครงการด้านเกษตรกรรม 19 โครงการ ด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 7 โครงการ ด้านอัญมณีและเครื่องประดับ 7 โครงการ ด้านการแปรรูปอาหาร 4 โครงการ ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ 1 โครงการ และด้านพลังงาน 1 โครงการ
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีนายนที ขลิบทอง ผู้อำนายการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) เข้าร่วมด้วย โดยได้เสนอแนะว่า ขณะนี้กองทุนหมู่บ้านมีเงินทุนอยู่ 1 แสนล้านบาท แต่ที่ผ่านมายังติดปัญหาไม่สามารถเชื่อมโยงไปสู่ชุมชนได้ โดยมีแผนที่จะร่วมงานกับหอการค้าไทย เพื่อใช้งบในส่วนนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับกลุ่มยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ หลังวิกฤติน้ำท่วม นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ในการระดมความคิดเห็นมีการเสนอการสร้างระบบการบริหารจัดการเมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ รวมถึงการจัดทำกฎหมายและพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อการเตือนภัย
นอกจากนี้ ยังเสนอให้มีการสร้างเส้นทางน้ำสายใหม่ เพื่อผันน้ำออกสู่ทะเล การขุดลอกคูคลองและแก้ปัญหาบุกรุกลำน้ำ การวางระบบผังเมืองไม่ให้ขวางทางน้ำ การติดตามและประเมินผลการทำงานของรัฐในการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว เป็นต้น
ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้นำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย 6 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ด้านการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ ยุทธศาสตร์ด้านการส่งเสริมจริยธรรมและธรรมาภิบาล ยุทธศาสตร์ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต และยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหา
| Create Date : 10 ธันวาคม 2554 |
| Last Update : 10 ธันวาคม 2554 22:11:52 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 704 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [