โบรกแนะเก็งกำไร 9 หุ้นร้อน ดัชนีผันผวน ลุ้นตัวเลขจ้างงานสหรัฐชี้ชะตา QE3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทเช้านี้ ณ เวลา 9.49 น. แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 30.59 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวก นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยผันผวนมากขึ้นจากปัจจัยต่างประเทศ ขณะที่นักลงทุนยังควรจับตาแรงซื้อสุทธิของต่างชาติอย่างใกล้ชิดภายหลังการเริ่มสะสมหุ้นที่น้อยลง และถือสถานะ Short ในตลาดอนุพันธ์ เก็งกำไร 9 หุ้นเด่น ได้แก่ IVL, CWT, SAT, BGH, TK, TUF, INTUCH, EASTW, TASCO
บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งในกรอบ 1149-1160 แนวโน้มตลาดวันนี้ : ผันผวนในกรอบอิงทางอ่อนตัวลง
คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้จะมีความผันผวนในกรอบ 1149-1160 อิงทางอ่อนตัวลงก่อน หลังจากในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับลงเป็นส่วนใหญ่ นำโดยดัชนีดาวโจนส์ที่ดิ่งหนักกว่า 203 จุด ก่อนฟื้นตัว 78 จุด คืนวานนี้ ส่วนตลาดภูมิภาคปรับลงโดยเฉลี่ยประมาณ 0.6% แม้ในวันนี้ตลาดต่างๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐดีกว่าคาด และมีความหวังเรื่องการหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ แต่ยังไม่มาก จึงคาดไม่มีกำลังพอผลักดันการฟื้นตัวของ SETI ได้อย่างจริงจัง ขณะที่นักลงทุนยังควรจับตาแรงซื้อสุทธิของต่างชาติอย่างใกล้ชิดภายหลังการเริ่มสะสมหุ้นที่น้อยลง และถือสถานะ Short ในตลาดอนุพันธ์
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นเทรดดิ้งต่อในกรอบระหว่าง 1149-1160 จุด
แนวต้าน : 1160-1166 แนวรับ : 1149-1133
การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50-75% : เงินสด 50-25%
ถือต่อในพอร์ต : SAT, BGH, TK, IVL
หุ้นที่ปรับออก : AP, CFRESH
หุ้นที่ปรับเข้า : TUF ข่าวเพิ่มทุนกดดันราคาไปมากแล้ว ยังคง FV ที่ 80 บาทกรอบเทรดระยะ
บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดยังอยู่ในจังหวะแกว่งผันผวน..การเข้ารับเพื่อเทรดดิ้งยังเน้นเลือกหุ้น!! กลยุทธ์: ถ้าจะเข้าเทรดดิ้งใหม่ เราจึงยังแนะนำให้รอซื้อช่วงตลาดอ่อนตัว และต้องเลือกหุ้นในการเข้าเทรดดิ้งด้วย โดยหุ้นที่น่าสนใจยังอยู่ในกลุ่ม Domestics เป็นหลัก เช่น กลุ่มอาหารและเกษตร (เราแนะนำ CPF, TUF, TVO, MINT) ; กลุ่มค้าปลีก (BIGC, CPALL, BJC, MAKRO, HMPRO) และกลุ่มสื่อสาร (INTUCH, ADVANC, DTAC, THCOM) รวมทั้งกลุ่ม Defensive ซึ่งได้แก่กลุ่มโรงพยาบาล (BH) เป็นต้น
หุ้นเด่นทางเทคนิค IVL, CWT, BEC(SBL)
แนวโน้ม เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศถูกแรงขายกดดันให้ปรับตัวลดลงกันเฉลี่ยเกือบ 1% จากความวิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจีนปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลง และความกังวลต่อความชัดเจนในการ swap หนี้ของกรีซ อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปพลิกกลับฟื้นตัวได้บ้าง เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานของ ADP ออกมาเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนยังคาดหวังเชิงบวกกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนวันพรุ่งนี้ (9 มี.ค.) ขณะที่เริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้นในการแลกเปลี่ยนพันธบัตรชุดใหม่ของกรีซกับเจ้าหนี้เอกชน โดยมีข่าวแจ้งว่าเจ้าหนี้เอกชนของกรีซเข้าร่วมการ swap หนี้แล้วถึง 58% อย่างไรก็ตามการดีดตัวขึ้นของแต่ละประเทศยังมีจำกัด เพื่อรอดูความชัดเจนจากกรีซอีกครั้งในวันนี้ (8 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นกำหนดเส้นตายในการทำ swap ให้แล้วเสร็จ FSS จึงคาดว่า SET จะยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนให้เห็นอยู่
แนวรับ 1152-1148 , 1145-1140 จุด แนวต้าน 1157-1162 , 1164-1167 จุด
KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสฯ แกว่งตัวลง แต่จะลงไม่แรง โดย SET จะรับรู้ปัจจัยลบที่ค้างมาจากเมื่อวาน (ไทยปิดทำการ) ที่ตลาดหุ้นโลกร่วงหนักจากความกังวลว่ากรีซจะไม่สามารถแลกเปลี่ยนพันธบัตรกับเจ้าหนี้เอกชน (แผน PSI) ได้ถึงเกณฑ์ 75% ซึ่งอาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดีประเด็นเรื่องกรีซนั้นดีขึ้นบ้างในเช้าวันนี้ หลังจากล่าสุดมีผู้ขอเข้าร่วมแผน PSI แล้ว 1.20 แสนล้านยูโรจากทั้งหมด 2.06 แสนล้านยูโร (58%) และกรีซมีเวลาถึงตี 3 คืนนี้ตามเวลาไทยในการดึงให้เกณฑ์การเข้าร่วมเพิ่มขึ้นอีก ส่วนฝั่งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นรีบาวด์กลับในระดับหนึ่งหลังร่วงแรงเมื่อคืนวันอังคาร หลังจากตัวเลขการจ้างงานของเอกชนสูงกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย และมีข่าวสารจาก นสพ.ไฟแนนเชียล ไทมส์ ว่าเฟดอาจทำการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมในโครงการกระตุ้นทางการเงิน แต่อาจตามมาด้วยการดึงเงินกลับจากระบบเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ (Sterilized QE) ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนและ KGI มองว่าให้ติดตามข้อมูลสหรัฐฯ เป็นตัวบอกจะดีกว่า โดยในคืนวันศุกร์นี้ ตัวเลขจ้างงานรวมและอัตราว่างงานเดือน ก.พ. จะเป็นเครื่องชึ้อย่างหนึ่งว่าสหรัฐฯ จะมี QE อีกหรือไม่ สำหรับปัจจัยในประเทศยังไม่มีประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย
กลยุทธ์: เรายังคงคำแนะนำให้เลี่ยงหุ้นกลุ่มหลัก เนื่องจากปัจจัยเรื่องกรีซ ตัวเลขสหรัฐฯ และมุมมองตลาดต่อ QE จะทำให้หุ้นผันผวนหนักไปถึงต้นสัปดาห์หน้าและเราแทงข้างที่ว่าหุ้นจะปรับฐานลงไปได้อีกแนะซื้อหุ้นปันผลดีที่ความเสี่ยงธุรกิจต่ำและไม่ผันผวนตาม SET เช่น INTUCH* และ EASTW ส่วนหุ้นซื้อเก็งกำไรเร็วแนะ TASCO ซึ่งน่าจะมีจิตวิทยาที่ดีตามแนวนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาระบบบริหารน้ำและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
Create Date : 08 มีนาคม 2555 |
Last Update : 8 มีนาคม 2555 12:05:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 549 Pageviews. |
|
|
|
| |