สัปดาห์นี้กนง.ลดดอกเบี้ย ซื้อ4หุ้นพื้นฐาน-4เทคนิค
บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดหุ้น 28 พ.ย.-2 ธ.ค. 54: เทรดดิ้งในกรอบรอปัจจัยใหม่
คาดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินจะปรับลดดอกเบี้ยอ้างอิง
ในวันที่ 30 พ.ย. มีกำหนดเป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งที่ 8 ของปีนี้ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา กนง. ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันมาแล้ว 6 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปี จากระดับ 2.00% มาสู่ระดับ 3.50% จนกระทั่งมายุติการปรับขึ้นใน การประชุมครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ ในการประชุมฯ ครั้งที่ 8 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ กลับเป็นที่ คาดการณ์กันอย่างแพร่หลายว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในระดับ 0.25% เป็นอย่างน้อยจากผลกระทบของภาวะน้ำท่วมใหญ่ของไทยในช่วงที่ผ่านมา
แม้ว่าการพุ่งขึ้น ของราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคต่างๆ จากภาวะการกักตุนและขาดแคลนของสินค้าและ ต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นก็ตาม (กระทรวงพาณิชย์มี กำหนดประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งตลาดคาดจะเร่งตัวขึ้นจาก 4.19% ในเดือน ต.ค.) แต่ดูเหมือนผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจะมีมากกว่าที่ธปท. และ หลายสถาบันคาดการณ์กันไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ โดยในระยะหลังๆ การประกาศปรับลดคาดการณ์จีดีพีในปีนี้ลงสู่เหลือ 1-2% กว่าๆ เท่านั้น จากเดิมเคยคาดกันในระดับ 3-4% เป็นการยืนยันความจำเป็นต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป อีกทั้งจะเป็นการแบ่งเบาภาระของประชาชนและภาคอุตสาหกรรมที่ประสบภัยดังกล่าว
ติดตามความคืบหน้าปัจจัยต่างประเทศต่อไป
ปัจจัยจากต่างประเทศทั้งเรื่องวิกฤติหนี้ยุโรป และภาวะเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐ, ยุโรป และ จีน ล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ดังนั้น จึงต้องติดตามความคืบหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด
แนวโน้มตลาดหุ้นและกลยุทธ์การลงทุน
ปัจจัยเชิงลบยังมาจากด้านนอกเป็นหลักทั้งในส่วนของวิกฤติหนี้ยุโรป และภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งยังคงต้องติดตามความคืบหน้าของแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด และแม้ตลาดจะรับข่าวร้ายไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากยังเป็นที่หวาดหวั่นต่อการลุกลามของปัญหา จึงยังไม่เห็นก้นเหวที่ชัดเจน ท่ามกลางความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนั้น คาด SETI จะเทรดในกรอบ Sideways ต่อไป ในสัปดาห์อาจมีปัจจัยบวกเล็กๆ จากภายในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของกนง. แต่เชื่อว่าน้ำหนักของปัจจัยภายนอกจะมีมากกว่าหากมีความคืบหน้าไปในทางใดทางหนึ่งที่ชัดเจน จึงมองกรอบ Upside ยังจำกัด เพียง 990-1000 จุด ส่วน Downside น่าจะอยู่ที่ 950 จุด
กลยุทธ์การลงทุนยังเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นแบบเลือกหุ้นรายตัวเป็นหลัก แต่ให้จำกัดความเสี่ยงโดยกำหนดการลงทุนในพอร์ตไว้ไม่เกิน 25% จนกว่าจะมีความชัดเจนของ ปัจจัยมากขึ้น หรือมีปัจจัยใหม่เข้ามา หุ้นแนะนำ ได้แก่ BTS, SIRI, SNC และ TISCO
กลยุทธ์อนุพันธ์: ตลาด Sideways…เก็งกำไรขึ้นขายลงซื้อ
ท่ามกลางแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีออกมาต่อเนื่อง แม้ภายในสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง และมีคาดการณ์ว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25-0.50% สำหรับการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 30 ธ.ค.แต่ปัจจัยภายนอกบนความวิตกต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จีน รวมถึงปัญหาเดิมๆ เรื่องหนี้สินในเขตยูโรโซน S50Z11 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนเช่นเดียวกับ SET50 ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคยังสะท้อนภาพแนวโน้ม sideways โดยมีแนวรับที่ 655-650 แนวต้านที่ 695-700 แนะนำเก็งกำไรขึ้นขายลงซื้อ S50Z11ในกรอบ 650-700 จุด
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์ในช่วง 28 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 54:
เชิงพื้นฐาน: Selective
BTS: ซื้อ
SIRI: ซื้อ
SNC: ซื้อ
TISCO: ซื้อ
เชิงเทคนิค: Selective
CPF: ซื้อเก็งกำไร
SCB: ซื้อ
TGCI: ซื้อ
THCOM: ซื้อ
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2554 16:10:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 587 Pageviews. |
|
|
|
| |