ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทเช้านี้ ล่าสุด ณ เวลา 9.56 น. อยู่ที่ 31.02 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่แดนลบตามตลาดต่างประเทศ หลังกลับมากังวลบปัญหากรีซอีกรอบ นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง เก็งกำไร 16 หุ้นแกร่ง ได้แก่ SAT, CPF, BGH, ADVANC, INTUCH, ROBINS, CPALL, SIRI, HEMRAJ, VIH, BLA, TICON ,KK, RATCH,MCOTและPTTGC

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : อยู่ในกรอบ 1220-1240 กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรต่อ

คาดจะเห็นตลาดหุ้นไทยเทรดบนความผันผวนมากขึ้น แต่น่าจะยังอยู่ในกรอบ 1220-1240 ทั้งนี้ เนื่องจากผลกระทบในระยะสั้นต่อเรื่องการแก้หนี้ยุโรปหลังความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองยังคงมีอยู่ ขณะที่นายอเล็กซิส ซิปราส ผู้นำฝ่ายซ้ายของกรีซเริ่มความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาล โดยปฏิเสธเงื่อนไขในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ และขู่ที่จะโอนกิจการธนาคารพาณิชย์เข้ามาเป็นของรัฐบาล รวมถึงความกังวลที่ว่าฝรั่งเศสและเยอรมนีอาจขัดแย้งกันเรื่องนโยบายแก้ไขวิกฤติหนี้ยูโรโซน หลังจากนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยมได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศส อย่างไรก็ดี อีซีบียืนยันจะไม่มีการเจรจารอบใหม่เรื่องมาตรการช่วยเหลือทางการเงินกับกรีซ และกรีซจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ต่อไปหากต้องการจะอยู่ในยูโรโซนต่อไป จึงต้องรอดูกันต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน : ยังเก็งกำไรต่อได้ โดยมีจุด Cut loss เมื่อลงต่ำกว่า 1214 จุด แนวต้าน : 1240-1247 แนวรับ : 1226-1219

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50-75% : เงินสด 50-25%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CPF, BGH, ADVANC

หุ้นที่ปรับออก : TTW

หุ้นที่แนะนำ :1. VIH เก็งกำไรหุ้นเข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.25 บาท มองราคาพื้นฐาน 1.80 บาท

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันพุธแกว่งตัวลงแต่จะแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน แรงกดดันจากยุโรปเพิ่มขึ้นอีกตามประเด็นทางการเมืองในกรีซ โดยผู้นำพรรคการเมืองซ้ายจัดอย่างนาย Alexis Tsipras ซึ่งได้เสียงเลือกตั้งเป็นอันดับ 2 ได้โอกาสจัดตั้งรัฐบาลหลังจากพรรคอันดับ 1 (พรรครัฐบาลเดิม) ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ โดยนาย Tsipras มีเวลา 3 วันในการฟอร์มรัฐบาล แต่ปัญหาที่กดตลาดคือ นโยบายของเขาต่อต้านการรัดเข็มขัดและการขอรับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่านาย Tsipras อาจต้องการให้กรีซออกจากยูโรโซนมากกว่าซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นลบอย่างมากดังนั้นความไม่แน่นอนในกรีซจะดำรงอยู่อย่างน้อยอีก 2-3 วัน จนกว่าจะทราบว่านาย Tsipras ตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้อีกสิทธิก็จะตกไปอยู่ที่พรรคอันดับ 3 ได้แก่ PASOK ซึ่งเคยร่วมรัฐบาลเดิมปัญหาข้างต้นได้กดเงินยูโร/ดอลลาร์ฯ ลงต่ำกว่า 1.30 และน่าจะทำให้ภาพของสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมไม่ดี ซึ่งจะส่งผ่านมากยังหุ้นกลุ่มหลักเช่นเดิม อย่างไรก็ดีด้วยกำไรไตรมาส 1 ที่ส่วนใหญ่สูงกว่าที่คาดการณ์ ตลาดหุ้นจะมีแรงรับผ่านการซื้อหุ้นรายตัวใน 3 กลุ่มคือสื่อสาร ค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็น 3 กลุ่มที่ไม่ได้รับผลจากปัจจัยภายนอกนัก และมีแนวโน้มถูกปรับประมาณการเพิ่มหลังจากกำไรสูงกว่าคาดและเศรษฐกิจในประเทศฟื้นเร็วกว่าคาด ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน มูลค่าตลาดของหุ้นกลุ่มสื่อสารและค้าปลีกคิดเป็น 11% และ 8.5% ของ SET ตามลำดับ (รวมกัน 2 กลุ่มที่ 19.5% นั้นพอๆ กับมูลค่าตลาดกลุ่มธนาคาร) จึงสามารถยัน SET ให้เด่นกว่าตลาดเพื่อนบ้านได้

กลยุทธ์: คงให้เลี่ยงหุ้นใหญ่เช่นเดิม ให้ถือหุ้นที่เราเคยแนะนำมา และหาจังหวะซื้อเพิ่มหากราคาอ่อนตัวในหุ้นต่อไปนี้ กลุ่มสื่อสารเรามอง INTUCH เป็นหุ้นเด่น กลุ่มค้าปลีกมอง ROBINS ตามด้วย CPALL (วันนี้นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มเป้าหมายและเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ) ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์แนะนำ SIRI และ HEMRAJ

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาด: ตลาดยุโรปถดถอยในระดับ 2% จากความกังวลการเปลี่ยนผ่านอำนาจการปกครองในกรีซ ซึ่งเกิดความวุ่นวายทางการเมืองหลังยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลผสมได้จะกระทบต่อวิกฤติหนี้ยูโรโซนและการขอรับเงินกู้งวดใหม่ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เองก็ปรับตัวลงในระดับใกล้เคียงกันก่อนฟื้นตัวขึ้นเหลือลบเล็กน้อย เราคาดว่าจิตวิทยาการการลงทุนที่เป็นลบจากความกลัวการเมืองยุโรปลามไปยังวิกฤติหนี้จะเป็นปัจจัยรบกวนระยะสั้นและน่าจะคลี่คลายได้ในระยะเวลาไม่นานนัก (ราว 1 สัปดาห์) อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาท เราขอให้นักเก็งกำไรพิจารณาการตั้ง stop level ไว้ด้วย และเรายังขอยึดกลยุทธ์เน้นที่การเลือกหุ้น (stock selection) เป็นหลัก

กลยุทธ์การลงทุน: เราเน้นเลือกหุ้นที่ถูกในเชิงมูลค่า (cheap valuation) ซึ่งน่าจะมีผลประกอบการ 1Q55 ออกมาดี หรือกำไรมีทิศทางปรับดีขึ้นใน 2Q55 เพื่อรับมือความผันผวนของตลาด ซึ่งในช่วงสั้นยังไม่ปิดความเสี่ยงลงทดสอบ 1210-1215

หุ้นแนะนำ MCOT TICON

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: กลยุทธ์โดยภาพรวมยังไม่ทำอะไรเพิ่มหลังเราแนะนำการเข้าซื้อ 25% ในระดับ 1150+/- โดยเราจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นสำหรับการปรับตัวลงสู่ 1100 และอาจแนะนำการเข้าซื้อเต็มที่ในระดับที่เราประเมินว่าเป็น downside ของ SET Index ที่ 1050 จุด แต่หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสมได้ในราคาปัจจุบันได้แก่ TICON KK RATCH PS SIRI PTTGC

SET มีจังหวะดีดขึ้นให้เทรดดิ้งไปแล้ว ถ้าจะเข้าใหม่ต้องรอแกว่งพักตัวลง..

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ กลยุทธ์: หลังจากแนะนำให้เลือกหุ้นเทรดดิ้งได้ แต่เน้นขายเมื่อตลาดขยับขึ้นไปแล้วช่วงถัดจากนี้ถ้าจะเข้าเทรดดิ้งรอบใหม่ก็ต้องรอให้ SET ปรับตัวลงก่อน โดยหุ้นที่น่าสนใจ เช่น PS(TP= 19) จากกำไรปกติ 1Q12 ที่ออกมาดีกว่าคาด ; SPALI(TP= 19) แม้ว่ากำไรปกติ 1Q12 ออกมาต่ำกว่าที่เราคาด แต่ก็ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ ; CPALL(TP= 44) หลังกำไร 1Q12 ออกมาน่าประทับใจ โดยดีกว่าที่คาดมาก และคาดว่าจะยังดีต่อเนื่องใน 2Q12

หุ้นเด่นทางเทคนิค BLA, BGH, TVO(SBL)

แนวโน้ม ตลาดหุ้นต่างประเทศยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากความวิตกต่อปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจในยุโรป ซึ่งมีโอกาสกระตุ้นวิกฤติหนี้ยูโรโซนให้ลุกลามขึ้นได้อีก นอกจากนี้นักลงทุนยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในระหว่างสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งจะมีตัวเลขอัตราการเติบโตของยอดนำเข้า ตัวเลขเงินเฟ้อ และปริมาณการปล่อยกู้ของธนาคาร รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งคืนนี้ (9 พ.ค.) จะมีข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือน มี.ค. เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ค่อนข้างที่จะอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เมื่อวานนี้ SET รีบาวด์กลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเป็นบวกได้บ้างแล้วหลังการปรับตัวลงแรงในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน ซึ่ง FSS ยังมองว่าเป็นการดีดกลับขึ้นในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะปรับพักตัวลงต่อเนื่องได้อีกตามที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในหลายวันที่ผ่านมา ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เป็นเพียงการเข้าเทรดดิ้งตามรอบสั้นๆ ในลักษณะขึ้นขาย-ลงซื้ออยู่เช่นเดิม

แนวรับ  1228-1226 , 1222-1217  จุด    แนวต้าน  1233 , 1236-1238  จุด

Create Date : 09 พฤษภาคม 2555
Last Update : 9 พฤษภาคม 2555 12:14:26 น.		0 comments
Counter : 1179 Pageviews.
Share Tweet