ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.45 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.82 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและจีนที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่เริ่มอ่อนแอลง ขณะที่ปัญหาสเปนยังไม่ได้คลี่คลายลง แต่อาจทำให้ความคาดหวังต่อนโยบาย Q3 เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องจับตาในการแถลงโน้มเศรษฐกิจของเฟดวันที่ 7 มิ.ย. นี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบทางลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลงต่ำกว่า 100 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 8 เดือน อาจจะถ่วงราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ฟื้นตัวแรงปลายตลาดเมื่อวานนี้ เน้นเก็งกำไร 15 หุ้นเด่น ได้แก่ AH, RS, TTW, EGCO, MCOT, INTUCH, HEMRAJ, VNT, RML, PF, MINT, CPF, BGH, SF, SINGER

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : ผันผวนในกรอบอิงทางลง กลยุทธ์การลงทุน : รอซื้อแถวแนวรับ และขายออกช่วงดีดตัว

ปัจจัยแวดล้อมตลาดโดยรวมยังอิงทางเชิงลบท่ามกลางความวิตกเรื่องปัญหาของสเปนที่เริ่มมีมากขึ้น ขณะที่ข่าวลือเกี่ยวกับความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่สเปนเข้ามาสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้เป็นช่วงๆ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนในระยะหลังเริ่มดูอ่อนแอลงกว่าคาดทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ส่วนปัจจัยภายในของไทย พบว่าการเมืองเริ่มส่อแววร้อนแรงมากขึ้นเป็นลำดับทั้งการเคลื่อนไหวในและนอกสภา โดยวันนี้ยังจับตากันต่อเนื่องสำหรับการพิจารณาพ.ร.บ.ปรองดอง ด้านตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือน พ.ค. จากโพลล์รอยเตอร์คาดว่ากท.พาณิชย์จะประกาศตัวเลขที่ทรงตัว โดยมองเติบโต 2.5% โดยรวมมอง SETI วันนี้จะมีความผันผวนในกรอบมากขึ้นก่อนวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ภาพรวมยังอิงทางลงไม่เปลี่ยนแปลง

กลยุทธ์การลงทุน : การเก็งกำไรยังให้จำกัดพอร์ตไม่เกิน 25-30% เท่านั้น โดยเน้นการรอซื้อแถวแนวรับ และขายออกในช่วงดีดตัวแถวแนวต้านเป็นหลัก

แนวต้าน : 1148-1155 แนวรับ : 1135-1125

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25-30% : เงินสด 75-70%

ถือต่อในพอร์ต : CPF, BGH, SF, SINGER

หุ้นที่แนะนำ : MINT หนึ่งในหุ้นที่รับป.ย.เข้าสู่ช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร FV 16.10 กรอบระยะสั้น มองต้าน 15 รับ 12.8-12.6 Cut loss 12.3

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาด: ตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มต้นบรรยากาศการซื้อขายในแดนบวกก่อนกลับมาปิดลบ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่แสดงสัญญาณชะลอตัว ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้น รายงานการจ้างงานที่ตำแหน่งงานเพิ่มน้อยกว่าคาด และการที่สหรัฐฯ ทบทวน GDP 1Q55 ที่ประกาศไปแล้วลง ด้านเช้านี้จีนประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI manufacturing Index) พ.ค.ที่ 50.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 53.3 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 52.2 ซึ่งหลากปัจจัยเหล่านี้รวมกันยังมีผลกดดันต่อ SET ซึ่งยังไม่ปิดความเสี่ยงที่ดัชนีอาจถอยลงมาแถว 1100+/- อีกครั้ง ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานได้รับอิทธิพลที่ดีจากการเข้าซื้อขายวันแรกของ AAV และการที่หุ้นหลายตัว (อาทิ หุ้นเข้า SCC BLA EARTH SC SF /หุ้นออก HMPRO SCCC MAKRO TSTH TUF) ถูกปรับเข้าคำนวณใน MSCI ซึ่งอาจตามมาด้วยแรงขายทำกำไรระยะสั้นในวันนี้ และหมุนโฟกัสไปยัง theme การลงทุนใหม่ อาทิ หุ้นที่จะเข้า SET50 (หุ้นเข้า INTUCH HEMRAJ / หุ้นออก TPC STA) และ SET100 (หุ้นเข้า INTUCH VNT RML PF KTC / หุ้นออก TPC MCS PHATRA PSL SMT) แทน

กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ยังไม่ปิดความเสี่ยงที่จะลงมาทดสอบ 1125 หรือกระทั่ง 1100+/- ซึ่งกลยุทธ์หลักยังเป็นการหาจังหวะเข้าซื้อในระดับ 1100+/-สำหรับนักลงทุนกลาง-ยาว สำหรับนักลงทุนระยะสั้นเน้นการเก็งกำไรรายตัวโดยไม่สนใจ SET Index เกินไป หุ้นแนะนำ AH RS และหุ้นแนะนำวันก่อนที่ยังน่าสนใจ ได้แก่ TTW EGCO MCOT

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: ตั้งแต่ 25 พ.ค. เราได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นจาก25% เป็น 40% หลังหุ้นปรับลงมาถึง 1100 จุด และเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นสู่ระดับเต็มที่หาก SET ยังปรับลงถึงระดับที่เราประเมินว่าเป็น downside ของ SETIndex ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK EGCO RATCH PS SIRI PTTGC และธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ KTB

KGI ประเมินหุ้นไทยวันศุกร์ปรับลงปานกลาง หลังรีบาวด์ดีเกินคาดเมื่อวานนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชะลอเล็กน้อยขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนเช้านี้ออกมาไม่ดี ส่งผลให้มีแรงกดดันมากขึ้นต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่สถานการณ์ในยุโรปไม่มีความชัดเจน เมื่อลงไปในรายละเอียด สหรัฐฯ เมื่อคืนแจ้งตัวเลขจ้างงานเอกชนเดือน พ.ค. ต่ำกว่าคาด ขณะที่ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเหนือ 3.8 แสนตำแหน่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ และดัชนี Chicago PMI ออกมาที่ 52.7 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 56.5 และอาจส่งผลลบไปยังดัชนีที่เกี่ยวข้องเช่น ISM ภาคการผลิตในคืนวันนี้ ส่วนเช้าวันนี้จีนรายงานดัชนี PMI เดือน พ.ค. ที่ 50.4 ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 52.2 และลดลงจากเดือน เม.ย.ค่อนข้างมาก ด้านสถานการณ์ในยุโรป ดอกเบี้ยพันธบัตรสเปนลดลงเล็กน้อยแต่ยังทรงตัวสูงเหนือ 6.5% ท่ามกลางการซื้อขายอย่างผันผวนของตลาดหุ้นฝั่งตะวันตก หลังมีข่าวลือว่าสเปนขอรับความช่วยเหลือจาก IMF แต่ในภายหลังสเปนได้ออกมาปฎิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว แรงกดดันต่อเศรษฐกิจประเทศหลักๆ ที่สูงขึ้น ผนวกกับค่าเงินยูโรที่อ่อนต่อ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบลงต่ำกว่า 100 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 8 เดือน และน่าจะถ่วงราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ฟื้นตัวแรงปลายตลาดเมื่อวานนี้

ในสัปดาห์หน้า (วันจันทร์ SET ปิดทำการ) มีปัจจัยภายนอกที่สำคัญคือ วันที่ 5 มิ.ย. สหรัฐฯ รายงานดัชนีภาคบริการ วันที่ 6 มิ.ย. ธ.กลางยุโรปประชุมนโยบายการเงินและอาจส่งสัญญาณผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม ส่วนวันที่ 7 มิ.ย. ประธานเฟด เบน เบอร์นานกี แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน ให้จับตาสัญญาณต่อนโยบาย QE3 ภาพรวมปัจจัยในสัปดาห์มีโอกาสที่จะกระตุ้นการรีบาวด์ของดัชนีฯ ได้

กลยุทธ์: เลี่ยงหุ้นใหญ่และถือเงินสดเป็นหลักเพื่อรอดูสถานการณ์ พอร์ตต้องมีหุ้นเราเลือกหุ้นเด่น 8 ตัวสำหรับเดือน ได้แก่ BAY, SCC*, INTUCH, DTAC, AP, SIRI, HEMRAJ และ AMATA แนะนำทยอยซื้อ

Create Date : 01 มิถุนายน 2555
Last Update : 1 มิถุนายน 2555 10:07:42 น.		0 comments
Counter : 2049 Pageviews.
Share Tweet