เกือบหกเดือนแล้ว นับจากวันที่หมอตัดปอดของเราออกไป หมอว่า ปอดส่วนที่เหลือจะช่วยกันทำงานทดแทนเองแหละ แต่ส่วนที่แหว่งหายไป มันเศษหนึ่งส่วนสี่เชียวนา
ตอนนี้ ...เข้าสู่ mode ปกติของการดำรงชีวิตแบบเดิมๆ กล่าวคือ ไม่ยอมออกกำลังกายใดๆ ตามที่ได้แพลนไว้ เริ่มจิ้มหมูจิ้มไก่เข้าปากแบบไม่รู้ไม่ชี้ เริ่มหม่ำกะทิโดย อ้างผลจากห้องวิจัยว่าเป็นกรดไขมันตัวดีต้องกินบ้าง เมื่อขึ้นบันไดจากชั้นล่างไปชั้นบนก็ยังหยุดหอบอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อไหร่ที่จาม...เช้ยยย....โห..เจ็บข้างในมากๆ กลับจากที่ทำงาน ก็พุ่งหลาวขึ้นเตียง มือคว้ารีโมททันที เมื่อสองเดือนที่แล้ว ก็อ้างว่า ฝนชอบตกตอนเย็นๆ ตอนนี้ก็อ้าง...อากาศทึบๆ ไม่มีแดด ทำไมมันมืดเร็วจัง..55555
รอยแผลผ่าตัดเริ่มนูนๆไม่เป็นเส้นเล็กเรียบเหมือนเมื่อแรก ยังคงเจ็บแปลบๆแถวปลายประสาทที่โดนตัดขาด น้ำหนักที่ลดลงไปช่วงหลังผ่าตัดใหม่ๆ กลับมาครบถ้วนดังเดิม เพราะสวาปามทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ก้มหน้ากินแต่ผักเหมือน ที่เคยตั้งปณิธานไว้ โดยมีมารดำคอยให้ท้ายว่า ตูไม่ใช่วัวนะเฟ้ยยย
ชีวิตก็รื่นรมย์หรรษาไปตามครรลอง ยังมองใบไม้พลิกใบตามแรงไหวของลมแล้วยังคงยิ้มได้
ถ้าจะถามถึง EQ ตอนนี้ ขอบอกว่า...เยี่ยมมาก เหมือนคนที่ถูกพิพากษาประหารชีวิต แต่ได้ลดโทษเหลือกึ่งหนึ่ง ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้คือรางวัล จากที่ได้เคยทำดี ทำบุญสุญทาน เกิดรู้สึกได้คิดขึ้นมาอย่างหนึ่งว่า ในโชคร้ายมักมีโชคดี ในข่าวร้ายมักมีข่าวดีเสมอ
ยังจำได้ถึงวันที่ขับรถกลับจากโรงพยาบาลหลังหมอบอกว่าต้องตัดปอด คิดในใจแล้วยิ้มคนเดียวกับมุกแป็กๆ .." เฮ้...เราจะได้หยุดพักงานตั้ง 3 เดือนแน่ะ " ..เหรอ..ดีจัง..ทำไมได้หยุดยาวนักล่ะ ? ..เราต้องผ่าตัดปอดอ่ะ... .....แป่ววว....
...หมอบอกว่าเราหายขาดแล้ว... ..เหรอ ดีใจด้วยนะ ...แต่มันอาจกลับมาในปีที่3 หรือ 5 .....แป่ววว....
อารมณ์วันนี้มีเรื่องหนึ่งที่อยากพูดถึง... คือเพื่อนที่คอยให้กำลังใจหลังผ่าตัดมานี้ เป็นเพื่อนที่รู้จักกันในอินเตอร์เน็ตแทบทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะเราไม่ได้บอกเพื่อนที่อื่น เขียนบันทึกลงบล็อกอย่างเดียว คนเหล่านี้ หลายคนไม่เคยรู้จักหน้าค่าตากัน บางคน ทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรแทนเสร็จสรรพ บางคน คอยถามเกือบทุกวันว่าวันนี้เป็นยังไง เจ็บแผลน้อยลงรึยัง บางคน สอนการทำสมาธิ ให้ใจสบาย อย่าคิดมาก บางคน ทำขนมอร่อยมาให้ถึงบ้าน และถึงกับมีบางคน คอยเตือนให้หายใจ.....เรื่องจริง!
มันยากที่คนอื่นจะเชื่อว่า สายสัมพันธ์ของโลกไซเบอร์จะเอื้ออาทรกันได้เช่นนี้
อยากจะบอกอีกสักครั้งว่า...ขอบคุณ
ปล.พินัยกรรมของท่านพุทธทาสบทนี้...จ๊าบดีนะ
|