เมื่อป้าวีศึกษาถึงวิธีธรรมชาติบำบัด ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ของค่ายบัลวี ป้าวีพบว่ามีอาหารต้องห้าม ไม่ควรรับประทานคือ
ชา กาแฟ บุหรี่ โกโก้ ช็อคโกแลต แอลกอฮอล์ ครีม น้ำตาลทราย แป้งขัดขาว ไอศครีม เค้ก ผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เมล็ดถั่วทุกชนิด( ควรงดในระยะ 6 เดือนแรก ) อาหารสำเร็จรูปอาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง ของหมักดอง ผงชูรส ผงฟู อโวคาโด สตอเบอร์รี่ สับปะรด แตงกวา ยาสีฟันที่มีเกลือผสม (เฮ้ออออ....กรรม!!!)
ปัญหาสำคัญก็คือ กาแฟ กาแฟนั้น เป็นเหมือนเครื่องดื่มเปี่ยมเสน่ห์ ทั้งกลิ่นและรสชาติ โอ...กาแฟยามบ่ายแก่ๆ บนโต๊ะทำงาน เหมือนน้ำทิพย์ที่มากวักมือเรียกวิญญาณให้เข้าร่าง จะให้เลิกดื่มจริงๆหรือ !
นอกจากให้เลิกดื่มแล้ว ศูนย์บัลวียังแนะนำให้ผู้ป่วย สวนน้ำกาแฟเข้าก้น....อุ๊บบบบ!! ข้อมูลที่อธิบายไว้คือ
การสวนล้างลำไส้ด้วยกาแฟ
เป็นวิธีกระตุ้นตับให้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายให้ได้มากที่สุด เมื่อเราใส่กาแฟเข้าทางทวารหนักการดูดซึมของกาแฟจะเข้าทาง เส้นเลือดดำของลำไส้ใหญ่ที่เรียกว่า เส้นเลือดดำของทวารหนัก (Hemorrhoidal vein)และ Colonic rein เข้าสู่ตับทาง Porfal nepa ซึ่งจะเข้าสู่ตับอ่อนก่อนที่จะทันกระจายไปยังอวัยวะอื่น โดยเส้นเลือดดำตับ (Hepatic portal vein) เมื่อคาเฟอีนเข้าสู่ตับ เชลล์ตับจะจับมันเอาไว้ แล้วคาเฟอีนก็จะทำให้ตับ ทำงานขยันขึ้น จากประสบการณ์ของศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี ในการสวนด้วยกาแฟ ถ้าใช้ในปริมาณที่พอดีและกินสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ขมิ้นและโสมก่อนการสวน จะไม่พบว่าผู้ป่วยมีอาการใจสั่น นอนไม่หลับเหมือนกับการดื่มกาแฟทั่ว ๆ ไป
ซึ่งแสดงว่าเชลล์ตับสามารถกักเอากาแฟปริมาณที่ใส่เข้าไปไว้ได้หมด และจากประสบการณ์อีกเช่นกันที่พบว่า อาการต่าง ๆ ที่เป็นอาการของ โรคมะเร็งเช่น อาการไข้จะลดลงภายหลังการสวนโดยไม่ต้องใช้ยาลดไข้ อาการปวดเมื่อยตามตัวจะทุเลาลง อาการปวดท้อง อาการคลื่นไส้ อาเจียน จะดีขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้สวน และผู้ป่วยส่วนมากจะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้น ภายหลังจะการสวนด้วยกาแฟ
เห็นเขาว่า คนปกติที่ไม่ได้ป่วยก็ควรทำเพราะเป็นการล้างพิษที่สะสมอยู่ ป้าวีว่า...ถ้าใครลองได้ไปทำ detox โดยให้เขาสวนน้ำกาแฟอุ่นๆลิตรครึ่งเข้าก้นนะ หลังจากนั้น พอจิบกาแฟครั้งใดคงหลอน กินกาแฟไม่ลงอ่ะ.... คงเลิกได้โดยปริยาย............หมดกัน ความสุนทรีย์ยามบ่าย!!!
|