Bloggang.com : P2wichai : เมื่อเราแก่

เมื่อเราแก่

ได้ตอบกระทู้
ส่วนใหญ่ถ้าเป็น โสด อยู่คนเดียว เขาเตรียมชีวิตโสด ตอนวัยแก่กันอย่งไรบ้างครับ โดยเฉพาะเรื่องคนมาดูแลยามป่วยไข้
//www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y9929642/Y9929642.html

เห็นว่าน่าเก็บไว้ดูต่อไปภายหลัง เลยเอาบางส่วนมาไว้ที่นี่

ถึงเราจะไม่โสด ก็ไม่ได้หวังว่าลูกหลานจะมาดูแลตอนแก่

อีกไม่นานก็จะ หกสิบแล้ว
เตรียมตัวที่ จะมีสุขภาพดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
เตรียมใจให้ วางอะไรๆให้ได้มากที่สุด จะได้ไม่เป็นภาระ
เตรียมอัชฌาสัย เติมคุณค่าใส่ตนไว้เป็นเสบียง ในชาตินี้
เว้นบาป เพิ่มบุญ ทำใจให้สงบผ่องใส ไว้เป็นเสบียงในชาติหน้า

จากคุณ : P2wichai
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 10:33:48

ความคิดเห็นที่ 11
ผมปล่อยวางไปบ้างแล้วครับ
แต่ก็เตรียมตัวอย่างที่ทุกคนว่า
มันไม่มีประโยชน์ที่จะกังวลเรื่องอนาคตมากจนเกินไป
อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ถ้ามันจะอัมพาต นอนติดที่ก็ค่อยว่ากันไป
ทุกข์อยู่ที่ใจไม่ใช่รึ
แล้วถ้ามันหลงลืมเลอะเลือนล่ะ ก็ช่างมันซี่

จากคุณ : mwmvdoc
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 09:16:54

ความคิดเห็นที่ 12
ขอร่วมแชร์ความคิด

โสดหรือไม่ ผมว่าไม่ต่างกันเลย
ทุกคนต้องป่วยต้องตาย
ถึงเวลา ต้องเอาตัวให้รอด...ด้วยตนเองทั้งนั้น

ไม่ว่าจะมีคนปรนนิบัติหรือไม่

ได้แต่ทำชีวิตที่ยังเหลืออยู่อีกไม่กี่สิบปี ให้ดีที่สุด
ทรัพย์สินเงินทองสะสมไว้ให้พอประมาณ ขยันทำมาหากิน
แต่ไม่ลืมฝึกกายกับฝึกใจ

ฝึกกายด้วยการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพราะทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดคือ สุขภาพ
ฝึกกายด้วยโยคะ เพื่อให้ร่างกายเคยชินต่อความเจ็บปวด

ฝึกใจด้วยการภาวนา จะได้ยอมรับได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง

จากคุณ : norapob
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 09:43:54

ความคิดเห็นที่ 13
ตัวอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิต

มีคนเคยถามว่า ทำไมปู่ไม่ไปขอความเมตตาจากใครๆ เขา
คนแก่ๆ ยังไงๆ ใครๆ ก็สงสาร ปู่บอกว่า ไม่เอา ไม่ชอบที่สุด
ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือมีตีน มันยังหากินได้เอง (รู้จักมั้ยหอยน่ะ…ปู่ย้ำ)
ประสาอะไร กับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย

จากคุณ : bx008
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 10:03:42

ความคิดเห็นที่ 14
... พึ่งตนเองให้มากที่สุด เก็บเงินสะสมไว้ให้เหลือกินเหลือใช้ในยามเกษียณ
ไม่ละเลยการทำบุญทำทาน ถือศีล ปฎิบัติภาวนา บำเพ็ญความเพียรเพื่อฆ่ากิเลส
ไม่มีความจำเป็นที่จะไปปบวชอยู่ในวัดไหนๆ อยู่บ้านตนเอง ทำบ้านให้น่าอยู่ ทำใจให้น่าอยู่
มีความร่มเย็นในหัวใจก็สบายแล้ว ธรรมมันมีอยู่ในปัจจุบัน แต่เรามองไม่เห็นกันเองนั่นแหละ
เข้าวัดก็เพื่อไปหาครูอาจารย์ ซึ่งท่านก็เป็นเพียงผู้ชี้แนะแนวทาง เราไปเรียนแล้วก็ต้องเอามาค้นคว้าเอง

... หากเป็นหญิงไปบวชอยู่ในวัดมันเกินวิสัยที่เราจะไปควบคุมอะไรได้ เราแค่เปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนสังคมเท่านั้นเอง
ซึ่งไม่แตกต่างกับที่เราอยู่บ้านของเราเองในทางโลก กิเลสเขากิเลสเราก็ยังมีอยู่เหมือนกัน

ถึงเวลาเราก็ไปถือศีลปฎิบัติธรรมที่วัด เมื่อต้องการไปชาร์ตพลังงาน อิ่มแล้วก็ออกมา
ให้โอกาสคนที่เขาต้องการสละเวลางานโลกมาทำความพากเพียรได้มีสถานที่สงบๆ ปราศจากความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
สถานที่และครูอาจารย์ น่าจะยังประโยชน์เขาประโยชน์เราได้ดีกว่า

จากคุณ : monamy
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 10:07:52

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2553

Last Update : 29 พฤศจิกายน 2553 23:28:25 น.

2 comments

Counter : 612 Pageviews.

ใกล้ 60 ปีเต็มทีแล้ว
รู้ตัวว่าแก่
พยายามถือศีล 5 แบบจริงจังมาพักใหญ่ๆ
ปล่อยวางไปหลายเรื่อง

โดย: hayashimali

วันที่: 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:34:45 น.

กำลังคิดจะมีธรรมสถานเป็นของตัวเองค่ะ ต้องดีแน่ๆเลย
ละกิเลสเราลดกิเลสเขา เหมือนปฎิบัติธรรมอยู่ในบ้าน ให้โอกาสคนอื่นได้ใช้สถานที่สงบสวยงาม ได้ยังประโยชน์เขาประโยชน์เราอย่างความคิดเห็นที่ 14 มีคนเห็นด้วยไหมคะนี่ ตอนนี้กำลังหาวิธีดับจิตแบบปิดสวิทช์อยู่ค่ะ ยินดีที่ไปแวะซอยเล็กซอยน้อยในบล็อกนะคะ

โดย: Peakroong

วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:8:09:45 น.