ธงรบบนชุดงิ้วนี้ เดิมคือ "ธงคำสั่ง" 令旗 lìng qí ลิ่งฉี ที่บรรดาแม่ทัพนายกองจะมีเก็บไว้กับตัวเพื่อใช้ในการออกคำสั่ง โดยผู้ที่รับคำสั่งจะต้องนำธงคำสั่งที่ว่านี้ไปเป็นหลักฐานเพื่อแสดงต่อหน่วยงานหรือบุคคลที่ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจ โดยปกตินายทหารระดับหัวหน้าจะมีธงคำสั่งที่มีขนาดเล็กเสียบติดตัวไว้คนละสองสามอัน เพื่อสะดวกต่อการบัญชาการ พอนำมาใช้ในการแสดงงิ้วก็ถูกนำมาขยายให้ใหญ่ขึ้นและเพิ่มเป็นสี่่อันเพื่อให้สมดุลและสวยงาม ในสมัยโบราณฉากบัญชาการทหาร นักแสดงยังมีการดึงธงรบจากด้านหลังมาใช้เป็นธงคำสั่ง แต่เมื่อดึงแล้วทำให้ชุดดูไม่สวยงาม จึงเลิกวิธีการแสดงแบบนี้ไป
ภาพ:ธงรบแบบสี่สี่เหลี่ยมที่สุดท้ายไม่ได้รับความนิยม
ธงรบในการแสดงงิ้วจะใช้ธงสามเหลี่ยมเท่านั้น ในอดีตเคยมีนักแสดงท่านหนึ่งคิดธงแบบสี่เหลี่ยมมาใช้ ปรากฎว่าเป็นอุปสรรคต่อการแสดง เพราะธงสี่เหลี่ยมกินพื้นที่มากกว่า นักแสดงที่ต้องแสดงบทต่อสู้ด้วยก็ไม่กล้าเข้าใกล้มากเพราะกลัวจะไปตีถูกเข้า ส่วนตัวผู้ใส่เองก็ไม่สามารถเคลื่อนไหว้ได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะธงที่เป็นสี่เหลี่ยมจะต้านลมมากกว่าธงแบบสามเหลี่ยม สุดท้ายจึงต้องหันมาใช้แบบเดิม
ภาพ:ธงคำสั่งในการแสดงงิ้ว
ในส่วนของ "ธงคำสั่ง" ในการแสดงงิ้ว จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าธงสี่เหลี่ยมจะต้านลมได้มากกว่า ยามถือขึ้นโบกสะบัดเพื่อออกคำสั่งก็จะดูสวยงามและได้ความรู้สึกพริ้วไหวอย่างช้าๆ (ซึ่งต่างกับธงรบสามเหลี่ยมที่เสียบหลังชุดเกราะที่ต้องเน้นความคล่องตัว) ตัวธงคำสั่งจะเป็นสีขาว ขอบสี่ด้านเป็นสีแดง มีตัวอักษรคำว่า 令 lìng ลิ่ง ที่แปลว่า "คำสั่ง" อยู่กลางผืนธง
ภาพ:กวนอูที่มักปรากฎกายภายใต้ผ้าคลุม
ในการแสดงงิ้ว มีอยู่ตัวละครหนึ่งที่ไม่สวมธงรบ นั่นคือ"กวนอู" จากการสอบถามที่มาจากอาจารย์ซ่งเป่าหลัว(นักแสดงงิ้วปักกิ่งอายุ97ปี/2013) ท่านเมตตาให้คำอธิบายว่า "เพราะบทกวนอูมักจะปรากฎในภาพลักษณ์ที่สวมเสื้อคลุม ทำให้ไม่สะดวกต่อการเปลี่ยนชุดไปมา ก็เลยเป็นธรรมเนียมต่อมาว่าบทนี้ไม่ต้องมีธงรบ แม้จะอยู่ในฉากรบก็ตาม"
ภาพ:ยามรบกวนอูสวมเกราะแต่ไม่ใส่ธงรบ
หากเรามาดูที่บทรบของกวนอู จะเห็นได้ว่าบทนี้เน้นที่ความสง่า ไม่เน้นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แต่ต้องดูคล่องแคล่วและหนักแน่น การไม่สวมธงรบจึงถือว่าเหมาะกับบทนี้ ในอดีตเคยมีนักแสดงสวมธงรบ"8 อัน"สั้นสี่อันกับยาวสี่อันเสียบสลับกันอยู่ด้านหลังชุดเกราะ มีนัยว่าชื่อเสียงและเกียรติคุณแผ่ไปในแปดทิศ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับความนิยม จึงไม่มีคนสืบทอดการแต่งชุดในลักษณะนี้ และยังคงยึดถือธรรมเนียมกวนอูไม่สวมธงรบมาจนถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ในอดีตทำให้เรารู้ได้ว่า งิ้วมีการพัฒนาตลอดเวลา แต่การพัฒนาในรูปแบบใดที่ประสบความสำเร็จ เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์เอง