จงยิ้มเถิดน้องสาวเจ้าผมนิ่ม เพราะรอยยิ้มเจ้าเติมแต้มโลกแจ่มใส
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
26 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
ฉันซื้อกุหลาบให้ตัวเอง....แต่....

โหย กลับมาอัพบล็อกแบบเอาเป็นเอาตายค่ะ ทุกท่าน เพิ่งจะรู้ ว่าความเครียดสะสมเนี่ยอาจจะเกิดจากการไม่ได้อัพบล็อกเป็น ประจำก็ได้นิ....


บล็อกก่อนสาธยายเรื่องเครียดจนเสียสวย...ก็รู้ตัวนะคะ..ว่าอาการไม่ค่อยจะดี...คือถ้าเครียดจนมาออกอาการด้านร่างกายนี่บ่งบอกแล้วว่า...เราต้องพัก... ขืนทำไปก็อาจจะเละเทะ เสียเวลา เสียของ จนเสียประสาทได้


ตัวอย่างเห็นกันจะๆ คือ วันศุกร์ที่ผ่านมา ทำงานในห้องปฏิบัติการสารกัมมันตรังสี.. ที่ปกติจะใช้ในงานที่เกี่ยวกับ เอนไซม์ หรือ DNA ....พวกที่ได้สารผลิตภัณฑ์ปริมาณต่ำๆ ก็ใช้สารกัมมันตรังสี เพราะมันไวต่อการตรวจสอบกว่า..แต่เวลาทำงานในห้องนี้ ยุ่งยากหน่อย ต้องระวังไม่ให้มีการปนเปื้อน แล้วต้องลงบัญชี ว่าสารอะไร ใช้ไปเท่าไหร่...(เพราะต้องให้ข้อมูลตอนส่งไปกำจัด)...เข้าเวลาไหน ออกเวลาไหน ใช้อุปกรณ์อะไร...ใช้เสร็จต้องตรวจปริมาณสารตกค้าง ทำความสะอาด เยอะ แยะ...

วันศุกร์เหนื่อยมาก เพราะวิ่งรอก สองห้อง...แลปธรรมดา กับกัมมันตรังสี (ไอ้วิ่งรอกเนี่ย ใส่เกียร์หมาวิ่งต่อกันมาหลายวันแล้ว) ทำๆ ไปก็เริ่มรู้ว่าตัวเอง ทำผิด ผิดปุ๊บแก้ปั๊บ แต่ตอนนั้นเริ่มประสาทรับประทานไปแล้ว ว่า

" ตกลงตูจะทำอะไรผิดอีกหรือเปล่าวะเนี่ย "

พอเสร็จปุ๊บ จะเอาไปวิเคราะห์ เครื่องวิเคราะห์ดันไม่เรียบร้อย มีฟองอากาศ ไล่ฟองอากาศ เสร็จ โปรแกรมดันติด log in คนอื่น พอl og in ของตัวเองเข้าไป ก็ดันไม่มี dectector ตอนนั้น เวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง วันศุกร์ ไม่มีไผอยู่ให้ถามแล้ว....desperate มาก เลิก.ๆๆๆๆๆๆ

เอาตัวอย่างไปใส่ตู้เย็น...คิดว่า เด๋ววันเสาร์-อาทิตย์ มาลองใหม่...แล้วก็ลากสังขารโทรมๆ กลับบ้าน.... ก่อนกลับ ทิ้งจดหมายอีเล็กทรอนิคส์ ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ดูแล เครื่องมือ. หนึ่งฉบับ....อีกฉบับ..ไปรำพัน ชีวิตรันทดให้ คุณไมค์ฟัง เขียนไปสอง สามประโยค ไม่อยากบ่นมาก เพราะเหนื่อยจนด้านชา และด้วยความสงสารเธอ เพราะเธอก็ทำงาน เหนื้อย เหนื่อย หนั้ก หนัก บ่นแต่ว่า เหนื่อย เหนื่อย ตลอด (พอกัน) เราก็ไม่อยากจะโทรไป... ง้องแง้ง... ก็ปัญหาตัวเอง จะไปหวังพึ่งคนอื่นเขาได้ไง.... แม้แต่คำปลอบใจก็ไม่ควรจะหวัง... ใช่มะ


วันเสาร์ พักหนึ่งวัน เดินไปเรื่อยๆ ในเมือง ก็ไปเจอน้องๆ สาวๆ โดยบังเอิญ เลยไปเดิน เล่น ช้อปปิ้งกัน...ฉันก็จ่ายไปบานเหมือนกัน...นิสัย ช้อปกระจุยนี่แก้ไม่หาย เพื่อนๆ ผู้ชายเคยด่า เคยประณามบ่อยๆ ...กุสุ เลยบอกไปว่า

"อย่าประณามไอเลย เด๋ว พอไอมีลูก ไอก็เลิกช้อปเองแหละ เพราะต้องเก็บตังค์ไว้ให้ลูก"

เพื่อนๆ ทำหน้าแบบ ว่า.......ข้าไม่เชื่อน้ำลายเอ็งหรอก....แต่ข้าน้อยคิดว่า มันคงไม่เชื่อว่า...จะมีวันที่ข้าน้อยจะมีลูกเป็นของตัวเองมากกว่า.. บางคนถึงขนาดว่า

"ถ้าไอมีเมีย ไอจะไม่แนะนำให้รู้จักกะยูเด็ดขาด เด๋วพาเมียไอช้อปกระจุย.... อันตรายต่อกระเป๋าสตางค์ของไอมากๆ "

แต่ไม่รู้เกิดบ้าอาไร แทนที่ได้พักวันเสาร์ แล้วจะมีความสุข ตกดึกข้าน้อยก็เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียนกลางดึก...(ไม่ได้มีลูกนะ) เหมือนอาหารเป็นพิษเลย วิ่งรอกอยู่ สี่ห้ารอบ จนหมดพลังงาน และหมดไส้หมดพุง ไข้ขึ้น วันต่อมานอนซมเลยค่ะ (ไม่รู้ว่ากรรมชั่วประการใดมาสนองเอา)


นู่น โทรมเป็นศพ... วันอาทิตย์มิได้ทำงาน พอวันจันทร์มี สัมนา อุตส่าห์หนีกลับมาก่อนจะแวบมาดูสมบัติพระศุลี ที่ทำไว้ ปรากฎว่า คุณพี่ผู้คุมห้องปฏิบัติการ สารกัมมันตรังสี...แกเกิดอยากจะทำ cleaning up เหอ เหอ สารตัวอย่างของกุสุ..... ตกเป็นเหยื่อ เพราะมันไม่ได้เขียนชื่อไว้....ลงถังขยะไปแล้ววววว มาช้าไป 40 นาที เอง จริงๆ นะ... ตายด้านไปเลย ความรู้สึกของเดี๊ยน....สรุป ต้องทำใหม่วันพุธ

มีจดหมายตอบจากคุณไมค์ มาเรียกกุสุว่า "poor little thing, ยูคงทำงานหนักมากสินะ" ตบท้ายด้วยการสั่งเสีย แกมไหว้วาน ให้กุสุ เอาไปกุญแจแฟลตไว้ให้ ตอนที่ตะแกจะ มาที่นี่ หนอย......ไม่ต้องมาตอเหลถามเลยอีตาแก่นี่....ก็เล่นไปบอกเจ้าหน้าที่เบ็ดเสร็จแล้ว ว่าให้เอากุญแจแฟลตของแก มาทิ้งไว้ที่ฉัน แล้วจะมาถามทำไม หมั่นไส้นัก ......อีตอนเราถามว่า จะให้ไปรับมะ ก็ทำเป็นบอกเราว่า ไม่เป็นไร ไอรู้ทาง...ชิ คราวนี้ มาสั่งให้เราเอากุญแจไปส่งหน้าบ้าน..... พร้อมบอกว่า เก็บของแล้วจะได้ไป dinner กัน.... วันจริงไม่รู้จะ อารมณ์ไหน ถ้าฮีเกิดบอกว่า ไอเหนื่อย ไม่ไปละ ไอจะนอน จะไม่แปลกใจเล้ยยยยย

ที่ไม่แปลกใจยิ่งกว่า คือ กุสุ ก็จะทำหน้ายิ้มๆ แล้วก็บอกว่า งั้นตามใจยูแล้วกัน ....กรูไม่เคยวีนมันได้เล้ยยยยย ชีวิตนี้.......... เฮ้อ....ตาคนนี้....บทฮีจะ sweet ฮีก็จะ sweet เหลือเชื่อ บทจะเอาแต่ใจก็น่าตื้บ.. เฮ้อ....เมื่อไหร่จะหมดเวร หมดกรรมกันก็ไม่รู้....

ปกติฉันจะไม่ชอบเท่าไหร่ เวลามีคนมาพูดจา แบบว่า poor you หรือ pity on you, du arme อะไรที่มันแปลว่า น่าสงสารเธอจังเลย อะไรทำนองเนี้ย...ไม่ชอบเลย ไม่ชอบให้คนมาสงสาร เพราะฉันทำตัวฉันเองไง..ต้องยอมรับ..... ยิ่งมาลูบหลัง ลูบไหล่ โอ๋ๆ โถๆๆๆๆ จะไม่ชอบเลย.... เพราะมันทำให้รู้สึกว่า.... เราอ่อนแอ..ง่อยๆ พลอยจะสงสารตัวเอง ร้องห่มร้องไห้....โอดกาเหว่า ....

ฉันจะรู้สึกดีกว่า ถ้าจะแค่ตบไหล่กันหนึ่งครั้ง แล้วบอกว่า เฮ้ย สู้ๆ หรือ พยามต่อไป หรือ relax .... dont lose hope แบบนี้ ค่อยช่วยให้รู้สึกอยากเงยหน้า ท้าสู้หน่อย....ดังนั้น

please my friends, treat me like a man !!!!!

แต่ก็แปลกดี เวลาตาแก่มาพูดจา แบบ โอ๋ๆ ทำนอง poor little thing หรือ my little buttercup silly girl อะไรทำนองนี้ จะไม่ค่อยรู้สึกหัวเสียเท่าไหร่...ถึงจะมีทะแม่งๆ นิดๆ แต่พอฟังๆ ไปก็ วิ้ง วิ้ง หน่อยๆ (ตายคำหวานล่ะค่ะ สารภาพ) หรือเวลาแกมาลูบหลัง ลูบไหล่ ปลอบใจ ก็จะไม่สะบัดออก ร้องไห้กันตรงนั้นเลยยอมอ่อนแอค่ะ...(ส่วนมากเป็นเพราะพี่ท่านปากชั่ว หรือทำตัวไม่ดีกับข้าน้อยก่อน)...มันต้องเป็นมารยาหญิง แน่ๆ เลยอ่ะ กรี้ด นี่เราก็มีกะเขาหรือนี่...... รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย...ตัวจริง ต้อง จิก วีน กรี๊ด ปากร้ายและใจดำ......

วุ้ย...บ่น บ่น บ่น บ่นเยอะ....ห่อเหี่ยวกลับบ้าน วันอันแสนสะดุดเช่นนี้นะ กุสุเลยตัดสินใจ ปลอบใจตัวเอง โดยการเดินดุ่มๆ ไปซื้อดอกไม้ เลือกได้กุหลาบสีเหลืองหนึ่งช่อ และ ทิวลิปสีชมพูอีกหนึ่งช่อ....อายๆ อยู่เหมือนกัน ที่ต้อง "ซื้อกุหลาบให้ตัวเอง" ทำไงได้ ไม่มีใครซื้อให้เรานี่หว่า ซื้อให้ตัวเองก็ได้วะ.. เดินหมกมุ่นอยู่กับปัญหาของตัวเอง ทั้งชะตาชีวิตแลป และชีวิตรัก ยุ่งเหยิง (อันนี้จะชอบเอามาคิดทับถมเวลา อะไรไม่ได้ดังใจ) แล้วฉันก็ได้ยินเสียงคนตะโกนถามว่า

"คุณ คุณ บอกหน่อยได้ไหมคะ วันนี้วันอะไร"

ฉันหันไปตามเสียงเจอ คุณยายแก่ๆ คนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงหน้าต่างบ้าน ฉันจำได้ว่า ยายแกจะเกาะหน้าต่างถามชาวบ้าน เรื่องวันนี้วันอะไรบ่อยๆ ดูท่าทางแกจะอยู่คนเดียว...แล้วก็คงจะเลือนๆ หน่อยละ เพราะแกชอบถามคำถามเดิมซ้ำๆ (ฉันเหมือนยายแกเข้าไปทุกที) ฉันก็บอกไปว่า วันจันทร์ค่ะ แกยังถามซ้ำอีกสอง สามครั้ง...แล้วบอกขอบใจฉัน พร้อมอวยพรให้มียามเย็นที่สวยงาม...

ฉันเดินเลยบ้านยานมาสองก้าว แล้วหมุนตัวกลับ....เดินเลียบสนามหญ้าอย่างระมัด ระวัง ไปตรงหน้าต่างที่คุณยายยืนอยู่ แล้วยืนช่อดอกทิวลิปสีชมพูให้ยาย...แล้วบอกว่า

"ฉันให้คุณค่ะ ขอให้คุณยายมียามเย็นที่สวยงามเหมือนกันนะคะ"

คุณยายแก ตกอก ตกใจ แกมดีใจถามฉันว่า เอามาให้แกเหรอ ให้ทำไม ฉันเลยบอกว่า ฉันให้ยาย เพราะฉันมีกุหลาบเหลืองอยู่นี่อีกช่อ... แกทำท่าดีใจ แล้วก็ขอบอกขอบใจฉันใหญ่....

วินาทีนั้น ฉันรู้สึกสบายใจมาก ไม่ใช่เพราะยายแกขอบใจฉันนะคะ แต่ฉันว่า ฉันเดินเครียดเพราะหมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเอง อยากได้นั่น นี่ อยากให้มันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ คิดถึงแต่ตัวเอง...แต่ตอนที่ให้ดอกไม้ยาย คิดแค่ว่า อยากให้แก เพราะ คนสูงอายุ ได้ดูดอกไม้สวยๆ ก็น่าจะสดชื่น

พอไม่คิดถึงเรื่อง ตัวเอง คิดเผื่อคนอื่นนิดเดียว ก็สบายใจขึ้นนะคะ ถึงจะเป็นสาวโสด ที่ต้องสู้ชีวิต ทำแลปหัวปั่น ปั่นหัวตัวเองเพราะใครบางคน และยังต้องซื้อกุหลาบให้ตัวเองก็ไม่เป็นไร (วะ)

อย่างน้อยวันนี้ก็ได้แบ่ง ดอกทิวลิปให้คุณยาย.....


Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 3:11:06 น. 6 comments
Counter : 1051 Pageviews.

 
อ่านแล้วรู้สึกว่าคุณเป็นคนน่ารักดีค่ะ
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ขอให้มีความสุขทั้งวันเลยนะคะ


โดย: D*U*A*N (thisisduan ) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:17:20 น.  

 
รู้สึกว่ามี อะไรมันส์ๆ ในชีวิต ให้ทำตลอดเลยนะ ขอให้มีความสุขกับการใช้ชีวิต ก็ แล้วกัน


โดย: wildbirds วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:02:35 น.  

 
สวัสดีครับคุณปอ


ชอบเรื่องที่คุณปอเอาดอกไม้ให้คุณยายจังเลยครับ
ความรัก...ไม่ว่าแบบไหน กับใคร
มันก็งดงามทั้งนั้น


เพลงก๋าน้อยมีแล้วครับ
ผมแต่งไว้หนึ่งเพลง
แต่ยังไม่ได้เอาไปอัดเสียงครับ
ไว้เสร็จเมื่อไหร่จะเอามาอวดอีกทีครับ 555

ตอนนี้มีแต่เพลงของแม่ของลูกครับ 5555


ขอให้คุณปอมีความสุขมากๆเช่นกันนะครับ







โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:37:31 น.  

 

รู้สึกดีใจแทนคุณปอที่มีประสบการณ์เรื่อง ความรักคือการให้ ความสุขคือการให้

ให้สิ่งของ ให้ความช่วยเหลือ ให้ข้อมูลคำแนะนำ และให้อภัย

แต่ต้องให้ เมื่อตัวเองมีทรัพยากรพอที่จะให้นะครับ

วันนี้ กรุงเทพฝนตกท่ามกลางอากาศที่ยังต้องเปิดแอร์



โดย: yyswim วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:48:22 น.  

 
มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นบ้าง (อย่างคุณยาย) จะได้สบายใจขึ้นครับ

ผมนี่ เขียนรายงาน มองแต่จอคอมพิวเตอร์ วันๆ ไม่ได้พูดกับใคร ในห้องทำงานมีโต๊ะอยู่สิบตัวสำหรับนักเรียน ป.เอก 7-8 คน แต่มีผมมาทำงานอยู่คนเดียว วังเวงพิกล

แค่ได้ไปแซวแม่ค้าขายข้าวแกงในโรงอาหารตอนเย็นก็สดชื่นขึ้นมาได้บ้างแล้วครับ ไม่งั้นคงเฉาตาย

จะคุยกับอาจารย์ พระคุณท่านก็มีแต่เรื่องติ เรื่องสั่งสอน เรื่องจะให้กำลังใจนักเรียนไม่เคยมี แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าแกเป็นคนที่พยายามดันนักเรียนให้จบ ไม่ใช่ดึงไว้ทำงานเป็นทาสรับใช้เหมือนคนอื่นๆ ก็เอาแล้วครับ อดทนพระเดชพระคุณท่านไป จบแล้วผมก็คงไปตามทางของผม ไม่ต้องมาเจอสภาพที่ทำให้กำลังใจหดหู่แบบนี้อีกแล้ว

ช่วงนี้ "เดินแทงๆ" อย่างเดียวครับ (อันนี้เป็นเชิงเปรียบเทียบด้วยภาษามวยไทยครับ หมายถึง ผมจะเดินหน้าสู้แหลก ไม่กลัวอาวุธฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้รุนแรง ไม่ได้สองแง่สองง่ามแต่ประการใด )


เออ... ว่าแต่กุหลาบเหลืองนี่มัน... ไม่ใช่สำหรับเป็นกำลังใจให้คนติดเชื้อ HIV เหรอครับ


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:31:00 น.  

 
พี่ปอขา งานยุ่งยังอัพบลอคซะยาวได้นะคะนี่
ท่าทางจะเครียดมาก
พี่ปอของหนูน่ารักอยู่แล้ว อ่านแล้วอมยิ้มตามเลยค่ะ
ทำไม๊ ทำไม ยังเป็นโสดอยู่ หนุไม่เข้าใจเลย


โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:1:04:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

O_Sole_mio
Location :
TH Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add O_Sole_mio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.