***นำบทความที่น่าสนใจมาแบ่งปันกันอ่าน***

<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 ธันวาคม 2558
 

แมลงวัน อี๋ ... ?

แมลงวัน ตก แก้วน้า อี๋ ... ?

คำถาม: จริงหรือ ที่ว่า อิสลามสอนว่า หากแมลงวันตกใส่ภาชนะอาหาร เช่น แก้วน้า หรือถ้วยน้ำแกง ให้กดจมทั้งตัว ตักทิ้ง แล้วกินต่อ?

คำตอบ: เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่มุสลิมเรา หลายท่านคุ้นหูเป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน เป็นอีกเรื่องที่ทำให้พี่น้องต่างศาสนิก หรือ แม้แต่มุสลิมเองบางท่าน ร้อง
“อี๋...จะบ้าเหรอ...สกปรกจะตาย...”

------------------------------------------------------

มุสลิมเราศรัทธาในสิ่งเร้นลับ สิ่งที่เกินสติปัญญาของมนุษย์
ไม่ใช่เพราะเรางมงาย แต่เพราะเราได้ใช้สติปัญญาจนเรายอมรับ และเชื่อมั่นในพระเจ้า ในคัมภีร์ของพระองค์ ในศาสนทูตของพระองค์
หลายเรื่องที่เราอาจยังไม่เข้าใจ แต่เราเชื่อมั่นว่า มันมีเหตุมีผล และเพียงรอเวลาที่เราจะเข้าถึงเช่นเดียวกับหลายๆ เรื่องที่เราเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว

การกดแมลงวันที่ตกใส่อาหารเหลวให้จมทั้งตัว ก็เช่นเดียวกันครับ

ในเรื่องนี้ท่านนบี (ขออัลลอฮฺให้พร และความสันติ แก่ท่าน) กล่าวว่า

إِذَا وَقَعََّ الذُّباب فِي شَرَابَِّ أَحَدِكُ مَّ فَ ليَ غمِ سهَُّ ثُ مَّ لِيَ نزِ عهَُّ فَإِ نَّ فِي إَِّ حدَى جَنَاحَ يهَِّ دَاءًَّ وَالأ خرَى شِفَاءًَّ
“หากแมลงวันตกลงไปในเครื่องดื่มคนหนึ่งคนใดของพวกท่าน ก็ให้เขากดให้มันจมไปทั้งตัว หลังจากนั้นจึงตักมันออกทิ้งไป เพราะแท้จริงที่ปีกข้างหนึ่งของมันมีเชื้อโรค และ อีกข้างมีตัวรักษา”

ฮะดิษนี้มีความน่าเชื่อถือระดับสูง เพราะนอกจากจะบันทึกโดย ท่านอิมาม “อัล บุคอรี” แล้ว ยังมีอีกหลายท่านที่บันทึก เช่น ท่าน “อัน นะซาอี” “อบูดาวูด” เป็นต้น ในขณะที่สายรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังมีมากกว่า 50 สายรายงาน เรื่องความน่าเชื่อถือของฮะดิษจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึง

ก่อนที่จะลงรายละเอียด ขอผมได้อธิบายต่อยอดจากฮะดิษก่อนนะครับ
ฮะดิษบทนี้ ไม่ได้สั่งให้มุสลิมล่าแมลงวันมาจับกดลงไปในอาหาร หรือ เครื่องดื่ม
ฮะดิษนี้ไม่ได้บังคับว่า “ต้อง” กินอาหารที่แมลงวันตกใส่ (อัลลอฮไม่บังคับผู้ใด เกินขีดจำกัดของเขา)
ฮะดิษนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้ปล่อยภาชนะที่บรรจุอาหารทิ้งไว้โดยไม่ปิดฝา
ไม่ได้บอกให้ปล่อยปะละเลยความสะอาดในอาคารบ้านช่อง ท้องถนน
ไม่ได้ปฏิเสธการเป็นพาหะ และอันตรายที่มาจากการแพร่กระจายของแมลงวัน
ไม่ได้ห้ามการทำลายแมลงวัน และไม่ได้ส่งเสริมให้สร้างฟาร์มแมลงวัน

ฮะดิษนี้เพียงบอกแนวทางแก้ไข เวลาเกิดปัญหา “ต่างหาก“
แนวทางแก้ไข ที่อาจต่อยอดไปสู่การค้นพบทางวิชาการด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะ วิชาการทางด้านการแพทย์ เภสัช จุลินทรีย์วิทยา แมลงวิทยา เป็นต้น
ซึ่งคงมีเพียงอัลลอฮฺเท่านั้นที่รู้ว่ามันครอบคลุมศาสตร์ใดบ้าง
ถึงตรงนี้เข้าใจตรงกันนะครับ?

-----------------------------------------------------

ประเด็นการกดแมลงวันให้จมไปทั้งตัว ในอาหาร เครื่องดื่ม เป็นหนึ่งในประเด็นที่มีการถกเถียงกัน “เยอะมาก” ระหว่างผู้ที่เห็นด้วย (มุสลิม) กับผู้ที่ไม่เห็นด้วย
ส่วนมากของการทุ่มเถียง เป็นเพียงการนำเอาทฤษฎีมาหักล้างกัน บางทีก็ถกกันไม่ตรงจุด บางทีถึงขั้นหยิบยก “ข้อมูลลวง” หรือ “ข่าวลือ” เพื่อมาหักล้าง หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง แน่นอนครับผมพูดถึงทั้งสองฝ่าย

หากจะมีการอ้างจากผลการวิจัย ก็มักจะเป็นการอ้างที่ไม่ตรงประเด็น หรืออ้างจากผลการวิจัยที่ไม่มีความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์เพียงพอ ไม่รัดกุมพอ (เราอาจคุยกันทีหลังเรืองนี้)
ที่ผมต้องการจะสื่อ คือ มุสลิมเราเชื่อมั่นว่า อิสลามคือความถูกต้อง
เราไม่จำเป็นต้องใช้ “ข่าวลือ” หรือ “ข้อมูลลวง” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ “อิสลาม”
เราใช้ “ความจริง” ในการพิสูจน์ “ความจริง” เท่านั้น

-----------------------------------------------------------------

กลับมาประเด็นของเรา เรื่องอันตรายของแมลงวัน
ผมว่าเราคงไม่ต้องมาถกกันว่า “แมลงวัน” เป็นหนึ่งในพาหะสำคัญของโรคระบาดหลายประเภทที่เกิดกับสังคมมนุษย์ รวมไปถึงการเน่าเสียก่อนเวลาของอาหาร อย่างไร

สาเหตุหนึ่งด้วยกับสิ่งที่มักติดกับแมลงวันอยู่ตลอดเวลา
“แบคทีเรีย”
ครับ หากโลกเราไม่มี “แบคทีเรีย” สิ่งมีชีวิตคงสูญพันธ์ไปแล้ว
แบคทีเรียมีมากมาย ทั้งที่มีคุณ และ โทษ กับมนุษย์ อีกทั้งในระหว่าง แบคทีเรียเองยังมีที่เป็นปฏิปักษ์กันด้วย (กูเกิลหาข้อมูลเพิ่มกันได้นะครับ)

-----------------------------------------------------------------

งานวิจัยที่ชัดเจน และเป็นเหตุเป็นผลที่สุดที่ผมพบ ที่สามารถให้คำตอบ “เหตุที่ต้องกดแมลงวันทั้งตัวเมื่อตกใส่อาหารของเหลว” คืองานวิจัยของ ศาสตราจารย์ ดร. มุศฏอฟา อิบรอฮีม ฮะซัน ผอ. ศูนย์วิจัย และศึกษาแมลงพาหะนำโรค วิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ไคโร อียิปต์
ซึ่งได้รวบรวม แมลงวัน 3 ชนิด คือ แมลงวันบ้าน แมลงวันคอกม้า ริ้นฝอยทราย (sandfly) รวมทั้ง “ยุง” มาอย่างละ 20 ตัว โดยสุ่มเก็บมาจาก ไคโร จีซะ และทางใต้ของซีนะ เพื่อมาสกัดเอาจุลินทรีย์ประเภทต่างๆ ที่อยู่กับปีกของแมลงทดลอง มาตรวจสอบดูประเภท และคุณสมบัติของมัน

ผลที่ได้ พบว่ามีแบคทีเรียเป็นจำนวนมากอยู่ในปีกของแมลงวัน และมีอย่างน้อย 5 ชนิด ที่มีฤทธิ์กำจัดแบคทีเรียตัวอื่นในระดับสูง นั่นคือ
1. B. circulans 2. L. animalis 3. B. subtilis 4. P. aeruginosa 5. S. aureus (ตัวที่ 3. B. subtilis กับ 5. S. aureus เป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคระบาดจำนวนมาก เช่น การติดเชื้อภายในลูกตา หนอง ฝี การติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น)

และตัวที่มีฤทธิ์มากที่สุด คือ B.circulans ซึ่งละลายได้ในของเหลวหลายประเภท ในหลายอุณหภูมิ เช่น น้ำแอลกอฮอล์ เป็นต้น พบได้มากในปีกข้างขวาของแมลงวัน ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีฤทธ์ต่อต้าน แบคทีเรียแกรมลบหลายประเภท รวมถึงเชื้อราที่มีลักษณะของเซลล์แบบเส้นสาย (filamentous fungi) และ เชื้อราเซลเดี่ยว (ซึ่งรวมถึงแบคทีเรีย B. subtilis กับ S. aureus ที่กล่าวมาข้างต้น)
และปริมาณที่เพียงพอต่อการทำลายเชื้อส่วนใหญ่คือ 5 ug/ml (5 มิลลิกรัมต่อลิตร) หรือก็คือ แบคทีเรียดังกล่าวเพียง 5 กรัม สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียให้โทษต่อมนุษย์ตัวอื่น ที่ผสมอยู่ในนม อาหาร หรือของเหลวอื่นได้ ไม่ว่าร้อน หรือเย็น ที่มีปริมาณถึง 1000 ลิตร

(ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ //www.eajaz.org/pdf/12.pdf)

-----------------------------------------------------------

สิ่งที่น่าทึ่งคือ เมื่อเรามาพิจารณาดูสำนวนในฮะดิษ เราจะพบว่า ท่านนบีบอกให้เรารีบกดแมลงวันที่ตกลงไปในน้ำ (ใช้คำว่า ฟะ) แต่ไม่ได้บอกให้เรารีบตัดออก (ใช้คำว่า ษุมมะ)

คำตอบที่ได้จากงานวิจัย
ที่ต้อง “รีบกด” เพื่อที่จะได้ให้แบคทีเรียตัวทำลายล้างได้ทำงานไวๆ
ส่วนที่ไม่ให้รีบตักออกเพื่อที่จะได้ให้เวลาในการทำลายล้าง

ซุบฮานั้ลลอฮฺ จริงอยู่ที่ยังมีเรื่องอีกมากให้เราได้ต่อยอด แต่มันก็ตอบเราได้อีกหลายเรื่อง

-----------------------------------------------------------

وَمَا يَنطِقَُّ عَنَِّ ا لهَوَى إِ نَّ هُوََّ إِ لاَّ وَ ح يَّ يُوحَى
“และเขา (มุฮัมมัด) ไม่ได้พูดอะไรออกมาตามอำเภอใจ ทว่า ล้วนเป็นการดลใจที่ได้รับการส่งมา” (อันนัจมฺ)

ขณะที่ผมกำลังศึกษา และเขียนบทความนี้อยู่
ผมเกิดความรู้สึกโหวงๆ ขึ้นมาเงียบๆ ในใจ
“ต่อให้พิสูจน์เรื่องนี้ได้หมด รวมถึงเรื่องทุกเรื่องที่ยังมีข้อกังขากันอยู่ ผู้ที่ปฏิเสธอิสลามอย่างหน้ามืดตามัวก็คงจะรังเกียจอิสลามต่อไปอยู่ดี...”

ช่างน่าเศร้า
วัลลอฮุอะอฺลัม
มุสลิมด้วยความเข้าใจ

---------------------------------

ประเด็นเสริม
"ปีกแมลงวันสเปน" หรือ "Spanish Fly" ซึ่งว่าตามตรงแล้ว ไม่ใช่แมลงวัน แต่เป็นแมลงพวกด้วงน้ำมัน blister beetles แมลงปีกแข็ง หัวกว้างงุ้ม มีอยู่ในแถบยุโรปตอนใต้ ตัวมีสารแคนทาริดิน(Cantharidin) ซึ่งแพทย์นำมาใช้ประโยชน์ในการเป็นสารกระตุ้นประสาท มากกว่า สองพันปี ในปัจจุบันนำมาใช้เป็นสารต้านมะเร็งด้วย สารแคนทาริดินนี้เตรียมจากแมลงแห้ง โดยเฉพาะส่วนปีกมีเนื้อสารมากกว่าส่วนอื่น แต่ปัจจุบันพบว่าเป็นสารอันตราย อาจทำให้มีการติดเชื้อในระบบปัสสาวะได้
และส่วนมากถูกนำมาใช้กับสัตว์ เช่นใช้ในการให้ม้าผสมพันธุ์กัน แต่ถูกนำมาใช้กับคน ซึ่งยาจะออกฤทธิ์อย่างรุนแรง ภายใน15-30นาที แล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ทำให้มึนงงและมีความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง

ปีกแมลงวันสเปนที่สกัดแล้วจะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่จะมีรสชาติเล็กน้อย ออกเฝื่อนๆ บรรจุมาในรูปแบบขวดใส วิธีใช้จะใช้หยดลงในเครื่องดื่มให้ผู้หญิงดื่ม แค่เพียง 5-6 หยดก็เพียงพอที่จะกระตุ้นอารมณ์ทางเพศจนเสียผู้เสียคนได้ และอาจอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าได้รับในปริมาณมากๆ
สารออกฤทธิ์เหล่านี้จะไม่สามารถออกฤทธิ์ได้เต็มที่ในเครื่องดื่มที่มี วิตามินC เช่นน้ำผลไม้ แต่ในทางกลับกันมันกลับให้ความรุนแรงมากขึ้นไปอีกถ้าเราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปีกแมลงวันสเปนผสมอยู่ วิธีป้องกันเบื้องต้นถ้าเราต้องออกไปเที่ยวกับคนไม่คุ้นหน้า และจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่ม ให้เลือกน้ำผลไม้เข้มข้นเลยครับ รับรองได้ว่าเราปลอดภัยไป 60% แล้ว หรือไม่ก็เลือกดื่มเฉพาะน้ำเปล่าเพราะน้ำเปล่าเราจะสามารถรับรู้สึกรสชาติที่เปลี่ยนแปลงไป ได้ง่ายที่สุด และหมั่นเปลี่ยนแก้วบ่อยๆครับ แบบว่า ถ้าเราลุกไปเข้าห้องน้ำ กลับมาถึงโต๊ะ ก็ควรจะขอเปลี่ยนแก้วทันที และดูสีหน้าคนที่ไปกับเราเลยครับ ถ้าหน้ามันถอดสีหรือแสดงอาการผิดปกติเวลาที่เราขอเปลี่ยนแก้วจากบริกร ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า มันไม่ชอบมาพากลซะแล้ว
เปเปอร์น่าสนใจเรื่องพิษนี้ ดูได้จาก

https://cdn.fbsbx.com/hphotos-xpa1/v/t59.2708-21/10657678_860908960599312_299401393_n.pdf/Poisoning-from-Spanish-fly.pdf?oh=1d30955c1d5ef460bfa210e9713fa207&oe=54B5D573&dl=1

ขออัลลอฮฺตอบแทน คุณ ณัฐภัทร อนุวงศ์เจริญ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน สำหรับการเอื้อเฟื้อข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่นำมาใช้ในบทความนี้

--------------------------------------------------------------------------

เช่นการอ้างภาพจานทดลองสองใบ ใบหนึ่งดูเหมือนมีสิ่งสกปรกเกาะอยู่เต็ม อีกใบดูสกปรกเช่นกันแต่ดูสะอาดกว่ามาก
ผู้ที่นำมาถกยกมาบอกว่า ใบหนึ่งมีแมลงวันตกใส่ อีกใบแช่แมลงวันเองไว้ แล้วไปผ่านกระบวนการเร่งการเจริญเติบโตแบคทีเรีย
เรื่องแปลกคือ ภาพดังกล่าวถูกอ้างจากทั้งสองฝ่ายว่าเป็นภาพยืนยันความเชื่อของตน เพื่อทดลอง โดยจานหนึ่ง ให้แมลงวันตกไปนิดหนึ่ง อีกจานจับกดเลย และเอาจานไปเข้ากระบวนการเร่งการเจริญของแบคทีเรีย

ปัญหาคือ ไม่มีการให้ข้อมูลกระบวนการทดลอง และผลการตรวจสอบ ที่ทีเพียงการสังเกตแบคทีเรียด้วยตาเปล่า ซึ่งปัญหาของการทดลองดังกล่าวมีอย่างน้อย 3 อย่าง
หนึ่ง ไม่รัดกุม ครอบคลุม เพราะหากจะให้รัดกุมจริง ควรมีอย่างน้อยไม่ต่ากว่า ห้า จาน หนึ่ง ถ้วยที่มีแต่แมงวันปีกขวา ปีกซ้าย สองปีก ไม่มีปีก และ ไม่มีแมงวัน
สอง มีเพียงภาพและบอกลอยๆว่าจานใดเป็นจานที่จุ่มจานใดไม่จุ่ม ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาว่า เชื่อได้จริงหรือเปล่า เพราะ เมื่อค้นในเนตอย่างละเอียดพบว่าทั้งสองฝ่ายอ้างว่าภาพจานดังกล่าวเป็นการทดลองที่ได้ผลสนับสนุนแนวคิดของตน
สาม การเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ว่ามีมากมีน้อยไม่สามารถระบุได้ว่าที่มีมากกว่า หรือดูสกปรกมากกว่าเป็นแบคทีเรียที่มีผลเสียต่อคนใช่หรือไม่ เพราะไม่ได้นำมาตรวจสอบต่อ เพราะแบคทีเรียมีทั้งที่ดี ไม่ดี

ในขณะที่การถกเถียง โดยนำเสนอข้อมูลจากการทดลองตามกระบวนการวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ มีข้อมูลทั้งหมดเท่าที่ผมค้นคว้า แทบไม่มีข้อมูลใดที่เป็นการทดลองอย่างจริงจัง ตามกระบวนการทางวิชาการอย่างแท้จริง
หนึ่งในบทความที่ผมพบว่า ผู้ปฏิเสธข้อมูลของฮะดิษนี้ ตอบโต้อย่างเป็นนักวิชาการ ที่มีการให้เหตุผลที่ดี ที่ผมอยากให้มุสลิมบางท่านศึกษาดู คือ ไม่ได้แสดงอารมณ์ที่ไม่บังควร และเอาแต่เหตุและผลมาคุย

//en.allexperts.com/q/Islam- /9/1921/921hadith-healing-wings-flies.htm



Create Date : 23 ธันวาคม 2558
Last Update : 23 ธันวาคม 2558 21:56:30 น. 0 comments
Counter : 433 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

KPNA
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add KPNA's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com