สัตหีบ 2 วัน 1 คืน สัตหีบผมเคยไปเที่ยวแค่หาดเตยงาม สองครั้งเองครับ นอกนั้นไม่เคยไป ครั้งนี้ตั้งใจไปสำรวจที่เที่ยวกับแฟนสองคน กะไว้พาแม่และครอบครัวผมไปเที่ยวทะเลแถวสัตหีบบ้าง ตามมาดูแล้วกันครับ ว่าผมไปสำรวจที่ไหนบ้าง..  ประวัติ อำเภอสัตหีบ คลิ๊กเลย วันเสาร์ที่ 24 พ.ย.55 น้ำมันเต็มถัง ตั้งไมล์ไว้ที่ 0 เหมือนเดิม เส้นทางจากบ้าน(ศาลากลางนนท์) ขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน-พระรามเก้า-มอเตอร์เวย์-สัตหีบ (ไม่เข้าพัทยา) เอาแผนที่สัตหีบไปดูกันก่อนครับ แผนที่เที่ยว คลิ๊กเลย ผมออกจากบ้านเวลา 08.09 น.(ฤกษ์ดีเชียว อิอิ)วิ่งไปเรื่อยๆความเร็วประมาณ 100 ก.ม./ชม. ไปถึงวงเวียนสัตหีบ 10.26 น.ระยะทาง 187 ก.ม. มาถึงวงเวียนก็มึนตามธรรมเนียม ไม่รู้จะเลี้ยวทางไหนขับตรงไปฐานทัพสัตหีบก่อนแล้วกัน วนไปสองรอบ ดูแล้วน่าจะหลง 555  จอดรถถามแม่ค้าแถวนั้นว่าไปดูเต่าทางไหนครับ เกือบโดนแม่ค้าตบเอาแล้ว อยู่ๆจะไปขอดูเต่า ต้องมาอธิบายกันใหม่ว่า เอ่อ..ผมจะไปดูศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเลนะครับ หลังจากปรับความเข้าใจกับแม่ค้าเสร็จ ก็ขับออกจากวงเวียนสัตหีบเลี้ยวขวา ผ่านวัดหลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ตรงไปสุดถนนถึงสามแยก เลี้ยวซ้าย ไปเจอร้านอาหาร ขอเติมเสบียงก่อนนะครับ (เลี้ยวขวาจะไปหาดดงตาล) สังเกตุวัวจะเดินไปทางหาดดงตาล มื้อเช้า จัดหนักจัดเต็ม มีข้าวหมูแดง-ข้าวหน้าเป็ด-เกาเหลาเป็ด-เส้นเล็กต้มยำ ร้านตรงตึกสีเหลืองนั้นแหละครับ มีแม่ช้อยการันตีให้ด้วย สีสันไม่น่ากินเท่าไหร่แต่อร่อยทุกอย่างเลย อร่อยจริงๆนะ ส่วนหมูสเต๊ะป้าแตนอยู่ห่างจากร้านข้าวหมูแดงประมาณ 20 เมตร ลองซื้อมาชิมอร่อยกว่าแถวบ้านผมอีก  ส่วนขมมไข่เต่ากับกล้วยทอดแฟนผมชอบกิน ขากลับต้องแวะมาซื้ออีกรอบ อยู่ข้างๆตึกเหลือง อิ่มเสร็จผมขับไปทางหาดดงตาล ลองเข้าไปถามที่พักกิจการอาคารรับรองไว้คืนนี้ไม่มีที่พักค่อยมานอนแล้วกัน (ที่พักอยู่ติดกับสโมสรเรือใบหน้าหาดดงตาลแถมมีห้องว่างด้วย) ถามที่พักเสร็จก็วิ่งตรงไปเลาะชายหาดจะเจอด่านทหารเรือ ตรวจบัตรเสร็จก็ขับตรงไปเรื่อยๆเจอตรงนี้ชอบอ่ะ หนึ่งรูปจัดไป แล้วก็มาถึงวงเวียนสี่แยก(เรียกอะไรก็ไม่รู้..ช่างเถอะ) เลี้ยวขวาโลดขับตรงไปเรื่อยๆ จะเจออีกสามแยกเลี้ยวขวาเลาะชายหาดทะเล ขับตรงไปนิดเดียวก็จะถึงศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเล ใครอยากรู้ข้อมูลรายละเอียดก็คลิ๊กดูเอาเองครับ คลิ๊กเลย เย้... ผมมาถึงศูนย์อนุรักษ์เต่าเวลา 11.34 น.ระยะทาง 200 ก.ม.พอดีเลยครับ  ดูแผนที่กันก่อนว่าตรงไหนมีอะไรบ้าง หลังจากจอดรถได้ ก็เดินเข้าไปชมจุดแรกอาคารแสดงเต่าทะเล จะมีพวกปลา เต่าไว้ให้ชมน่าสนใจดี ออกจากอาคารแสดงเต่าก็มาศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเล  เข้ามาดูข้างในกันครับ จะแสดงเต่าพันธุ์ต่างๆ วัฏจักรชีวิตของเต่า ยังไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร ตรงนี้ใช้เวลาไม่นาน ออกจากศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเล เดินไปหน่อยถึงบ้านเต่า ผมชอบตรงนี้มากครับ มีเต่าตัวใหญ่มาก อายุเพิ่งจะ 6 ปี เจ้าหน้าที่บอกว่ายังเด็กอยู่ แต่ตัวอย่างบักเอ่บเลย ออกจากบ้านเต่า ก็เป็นบ่อเพาะพันธุ์เต่า เป็นเต่าตนุกับเต่ากระ มีหลายบ่อ ตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย แอร๊ยยยย พอโตก็จับไปปล่อยทะเล ชมเต่าเสร็จทางศูนย์ก็มีร้านกาแฟ ขนมขบเคี้ยวบริการ บรรยากาศน่านั่งติดชายทะเลเลยครับ แฟนขอจิบน้ำเขียวนั่งชมบรรยากาศนิดนึง ใครสนใจหรืออยากพาลูกพาหลานก็ลองติดต่อได้ครับ ศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเล เปิดให้นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. โดยท่านสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทร 038_245736-65 ต่อ 066-1035, 1036 ประมาณเที่ยงครึ่งผมก็ออกจากศูนย์เต่า ไปชมเรือร.ล.จักรีนฤเบศร ที่ท่าเรือจุกเสม็ด ออกศูนย์ทางเดิมไปเจอสี่แยกให้เลี้ยวขวาขับไปตามทางจะเจอด่านทหารเรือข้ามทางรถไฟแล้วเลี้ยวขวา ขับตรงไปเรื่อยๆก็จะถึงท่าเรือจุกเสม็ด ศูนย์อนุรักษ์เต่าห่างจากฐานทัพเรือประมาณ 10 ก.ม. ลำนี้ไม่ใช่ ร.ล.จักรีนฤเบศรนะครับ วันที่ผมไปแดดแรงมาก ใครไปเอาร่มติดไปด้วยก็ดีนะครับ สำหรับคนสูงอายุ ให้ระวังทางขึ้นไปชมบนเรือ เพราะบันไดทางขึ้นค่อนข้างแคบและชัน ระมัดระวังด้วย ลำนี้ครับ ร.ล.จักรีนฤเบศร เข้าไปในเรือ จะมีร้านค้าสวัสดิการขายของที่ระลึกจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวด้วย แฟนผมไม่ขึ้นไปดูแล้วครับ บอกเคยขึ้นไปแล้วแถมแดดแรงอีกต่างหากขอรออยู่ข้างล่าง งั้นตามใจ ผมก็เลยขึ้นไปยืนกางแขนเป็นแจ๊คในชู้รักเรือล่มคนเดียว  วันนี้เมฆได้ใจจริงๆ  ค่าเข้าชมฟรีครับ ข้อปฏิบัติในการเยี่ยมชมเรือ คลิ๊กเลย แถมอีกซักรูปเดี๋ยวพาไปเที่ยวต่อครับ  เยี่ยมชมเรือเสร็จก็ออกจากท่าเรือผ่านด่านไปหน่อยก็มีป้ายทางขวามือบอกไปหาดนางรอง ขอเลี้ยวเข้าไปสำรวจหน่อยนะครับ ยังไม่เคยไปเลย ขับไปตามทางเรื่อยๆ อ่ะ..เจอเก็บค่าเข้าด้วย รถเก๋ง,ปิคอัพคันละยี่สิบ รถตู้คันละ 30 รถบัสคันละ 50 ไม่ใช่ปัญหา ไปถึงหาดนางรำ นักท่องเที่ยวเยอะมากเลยครับ ตื่นตาตื่นใจผมมาก  ที่สำคัญน้ำทะเลใสกิ๊งเลย น้ำเป็นสีฟ้าใสไม่อยากเชื่อเลย ผมไปอยู่ไหนมาเนี้ย มัวแต่หลงไปชะอำ-หัวหินมาเป็นสิบๆปี 555 ชาวบ้านเค้าเที่ยวแถวนี้กันจนเบื่อแล้ว อีตานี้เพิ่งจะมารู้จัก เห็นป้ายไปนางรอง ขอขับไปหาดนางรองก่อนนะครับ หาดนางรำผมไม่ได้แวะหาที่จอดรถไม่ได้ เต็มหมด นักท่องเที่ยวเยอะมากครับ หาดนางรำกับหาดนางรองไม่ไกลกันครับ ไม่น่าจะถึงห้ากิโล จากทางเข้าจะถึงหาดนางรำก่อน แล้วก็มาถึงหาดนางรอง งามแท้เหลา ชายหาดไม่มีโต๊ะผ้าใบ ร้านค้าให้วุ่นวายเหมือนแถวชะอำ รู้สึกถึงชายหาดเป็นของประชาชนโดยตรง ใครมาเอาเสื่อ ผ้าใบมาปูบนทรายนั่งกินอาหารกับครอบครัว แต่ถ้าใครไม่ได้เตรียมมาทางหาดนางรอง-นางรำก็มีบริการผ้าใบให้ ส่วนที่ก็เลือกเอาเองไม่มีจองไว้ ใครมาก่อนก็เลือกทำเลก่อนำ ดูแล้วอยากให้ชายหาดทุกที่ในเมืองไทยเป็นอย่างนี้จัง ตรงนี้ทางด้านขวาหาดนางรำครับ ผมถ่ายตรงจุดระหว่างหาดนางรำกับหาดนางรอง หันมาด้านซ้ายเป็นหาดนางรอง ชายหาดนางรอง ที่จอดรถแถวหาดนางรอง ระหว่างหาดนางรำกับหาดนางรอง จะมีรูปปั้นตัวเต่นๆเรื่องพระอภัยมณีด้วยครับ ผมเรียกแฟนมาถ่ายเป็นนางแบบรูปคู่ ไม่ยอมมาถ่ายด้วย แถมมีงอน พระอภัยมณี ไม่เป็นไรแอบส่องนางแบบคนอื่นก็ได้ หุหุ น้ำตรงนี้ใสมาก เดินไปหน่อยจะมีที่พักเป็นบ้านพักรับรอง หาดนางรอง คลิ๊กเลย แอบสนใจลองไปถาม บอกว่าวันหยุดเต็มยาวไปถึงกลางเดือนมกราปีหน้าแล้ว ไว้มีโอกาสจะพาครอบครัวไปพักผ่อนครับ แถมข้อมูลบ้านพักหาดต่างๆในความดูแลของทหารเรือ คลิ๊กเลย มีร้านกาแฟเป็นของบ้านพักนางรอง สอบถามเสร็จผมเดินกลับขึ้นรถแฟนผมถาม อ้าว...ไม่นั่งเล่นที่นี้เหรอ ทะเลก็สวย นั่งใต้ต้นไม้ร่มรื่นสบายเลย 555 ทริปนี้จัดหนัก พามาสำรวจสถานที่เที่ยวก่อน ไว้ค่อยมาพักผ่อนอีกที ผมออกจากหาดนางรอง 13.45 น.ออกจากปากทางเลี้ยวขวายิงยาวไปถึงหมู่บ้านแสมสาร ก่อนถึงหมู่บ้านแสมสารจะเจอ ตลาดของสดและของที่ระลึกแสมสาร เข้ามาได้หน่อยก็จะเห็นตลาดอยู่ 2 ข้างของถนน มีร้านค้ามากมายหลายร้านมีสินค้าหลายประเภท ฝั่งซ้ายมือส่วนมากเป็นของทะเลสดๆ ปูเป็นๆ หมึกสดๆ อยู่ในกาละมังส่วนฝั่งตรงข้ามส่วนมากเป็นของที่ละรึกอย่างของตกแต่งบ้านที่ทำด้วยเปลือกหอย และอื่นๆ สำหรับติดไม้ติดมือตอนขากลับ ผมลงไปสำรวจตลาดก่อน ราคาโอเคเลยครับ เดี๋ยวขากลับค่อยแวะมาซื้อไปกิน ข้อมูลแสมสาร คลิ๊กเลย ฝั่งตรงกันข้ามจะมีพวกกล่องโฟมและของที่ระลึกไว้จำหน่ายให้นักท่องเที่ยวด้วยครับ สะดวกดี ผมสำรวจตลาดเสร็จ ก็ขับรถไปเที่ยวฟาร์มปลาการ์ตูนต่อครับ ระหว่างทางจะมีรีสอร์ทที่พักน่ารักๆหลายเจ้าอยู่เหมือนกัน ผมก็ลองแวะถามไปเรื่อย ราคาจะอยู่ที่ 600-2,500 แต่วันที่ผมไปเต็มหมดทุกเจ้า  ขับไปเรื่อยๆจะมีป้ายให้เลี้ยวขวาไปฟาร์มปลาการ์ตูนเลี้ยวตามป้ายไป ขับผ่านหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ไปสุดถนนแล้วเลี้ยวขวาก็มาถึงแล้วครับ ฟาร์มปลาการ์ตูน Percula Farm ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท เข้าไปก็จะมีการจัดแสดงปลาการ์ตูนแต่ละชนิดและให้ความรู้เกี่ยวกับปลาทะเล สนใจข้อมูลปลาการ์ตูน ดูที่บล็อกผมได้ครับ ข้อมูลแสมสาร คลิ๊กเลย ภายในอาหารมีปลาต่างๆดองไว้ในโหลให้ดูด้วยครับ ออกนอกตัวอาคารจะเป็นบ่อโรติเฟอร์ (อาหารปลาการ์ตูน)และบ่อปลาทะเลอยู่กลางแจ้ง ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าอยากไปเลี้ยงปลาในกระชัง ต้องนั่งเรือไปใช่เปล่าครับ เจ้าหน้าบอกว่าเดี๋ยวนี้โปรแกรมให้อาหารปลาในกระชังยกเลิกแล้ว เลยอดไปเลย  เดินชมกลางแจ้งเสร็จก็จะเข้ามาในฟาร์มแล้วออกด้านหน้าเหมือนเดิม จะเดินเป็นรอบวงกลม จุดสุดท้ายจะมีปลาการ์ตูนหลายพันธุ์จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวด้วย หลังจากนั้นผมก็ขับรถตรงไปเขาหมาจอ จะไปหาข้อมูล ไว้พรุ่งนี้จะไปดำน้ำที่เกาะขาม ได้เจอเจ้าหน้าที่ บอกให้มาประมาณ 8.30 น.ถ้าลูกค้าเต็มก็ออกเลย เที่ยวสุดท้ายไม่เกินเที่ยง ได้ข้อมูลเสร็จก็เลี้ยวเข้าไปดูข้อมูลที่เกาะแสมสารเข้าไปทางเดียวกับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาะและทะเลไทย ขึ้นทางเขาหมาจอ อาคารสำนักงานติดต่อไปดำน้ำที่เกาะแสมสารและขึ้นไปชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาะและทะเลไทยครับ ข้อมูลพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาะและทะเลไทย คลิ๊กเลย ผมไม่ได้ขึ้นไปชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาะและทะเลไทยครับ ได้แค่ขึ้นไปไหว้ “พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” (เสด็จเตี่ย) บรรยากาศโดยรอบจากกรมหลวงชุมพรครับ บ่ายสามโมงครึ่ง ได้เวลาออกจากเขาหมาจอแล้วครับ ระยะทางทั้งหมด 238 ก.ม. ขับออกมาจากเขาหมาจอผมก็มาแวะที่ตลาดอาหารทะเลช่องแสมสาร ซื้อปู ปลา ปลาหมึกให้เค้าปิ้งไปกินกันครับ ขามาได้ล็อกเป้าหมายไว้สองสามร้าน มาถึงก็ยิงตรงเลย ระหว่างทางก็แวะเข้าไปถามที่พักไปด้วย เพราะพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องรีบตื่นไปเกาะขามแต่เช้า ผมเข้าไปดูสามเจ้าเต็มหมด ก็เลยขับไปอ่าวดงตาลที่เมื่อเช้าแวะเข้าถาม ยังมีห้องว่าง 600 ขำๆ ที่พักไม่ต้องคิดมาก  บรรยากาศภายในห้องพัก เรียบแต่ไม่หรู ดูเหมาะสมกับราคา 600 น้ำ-ไฟ ใช้ได้ดี แอร์เย็น ผ้าปูสะอาดแต่พื้นเก่าไปหน่อย บรรยากาศแอบหลอนนิดๆ แต่ไม่คิดมากราคานี้โอเคแล้ว เดี๋ยวก็เช้าแล้วเนอะ หลังจากได้ห้องพักเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกไปหาของกินแถวตลาด ผมขับวนที่ตลาดสัตหีบหนึ่งรอบพอเป็นพิธี หาที่จอดรถก็ไปนั่งร้านอาหารตามสั่งตรงถนนเทศบาล 1 ซอยนี้จะเป็นร้านอาหารทั้งซอยเลยครับ เป็นรถเข็นมาขายอาหารมีเยอะมากลองเดินชมกันก่อนก็ได้จ้า อิ่มเสร็จได้เวลาเข้านอนแล้วครับ วันนี้ขับรถทั้งวันเพลียอ่ะ แถมแดดแรงมากด้วย ลาด้วยภาพที่หาดดงตาลตอนเย็นก่อนแวะไปกินอาหารที่ถนนเทศบาล 1 ครับ แถมอีกรูปก่อนนอน ต้นตาลที่ปลูกเป็นแถวตามชายหาดตรงหน้าที่พักครับ ตัดมาตอนเช้า เมื่อคืนหลับสนิท มาตื่นประมาณตีสาม ฝนตกหนักมาก แถมแอร์เย็นอีกต่างหาก ต้องลงไปเบาแอร์หน่อย แล้วก็งัวเงียมานอนต่อ ตื่นมาอีกทีเจ็ดโมงเช้า แฟนปลุกอีกต่างหาก บอกอยากไปเดินที่ตลาดสดสัตหีบ จัดไป ตอนแรกวนหาที่จอดรถ ขับผ่านวัดหลวงพ่ออี๋เลยแวะเข้าไปทำบุญก่อนครับ ประวัติหลวงพ่ออี๋ คลิ๊กเลย ไหว้หลวงพ่อเสร็จก็ขับวนมาจอดรถแถวนี้ หลังจากจอดรถได้ก็สำรวจตลาดสดตอนเช้ากันครับ ที่เห็นไม่ใช่หมอกหรือไฟไหม้ แต่เป็นควันไก่ย่า่ง น่าเร้าใจมาก ของทะเลแถวนี้ทั้งถูกและสดกว่าบ้านผมอีก (ก็แน่ละซิ) เดินสำรวจกับแฟนไปเรื่อยเปื่อย เจออะไรแปลกๆก็ลองชิมไป เดินได้ซักพักก็ได้เวลาเตรียมตัวไปเที่ยวเกาะขามต่อ ก่อนเข้าที่พักแฟนขอถ่ายรูปดงตาลตอนเช้าซักแชะ กว่าจะเข้าห้องพักก็เกือบเก้าโมงเช้า แฟนผมเลยบอกว่าไม่อยากไปเกาะขามแล้ว เมื่อคืนฝนตกน้ำไม่ใสแน่แถมกว่าจะไปถึงเขาหมาจอก็สาย แถมต้องขับย้อนไปอีก ขอนอนพักที่ห้องก่อนดีกว่า ขากลับค่อยแวะเที่ยวรายทางดีกว่าไม่ต้องย้อน เอาไงเอากัน ว่าแล้วก็นอนต่อ 555 โชคดีแล้วครับที่ตัดสินใจไม่ไปเกาะขามเพราะตั้งแต่สี่โมงเช้าฝนตกตลอด 11.30 น.ก็ได้เวลาออกจากที่พัก คืนกุญแจเสร็จก็ขับออกจากหาดดงตาลระยะทางตั้งแต่บ้านจนถึงเช้านี้ 270 ก.ม. ขากกลับก็ขับกลับเส้นทางเดิม ผ่านหาดทรายแก้วแวะเข้าไปชมหน่อย ฝนยังไม่หยุดตกเลยครับ ทางเข้าจะเป็นร.ร.ชุมพลทหารเรือ ตรงสัญญาณจราจรให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับยามรักษาการณ์ จะต้องแลกบัตรที่ป้อม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แลกบัตรเสร็จให้ขับตรงไปตามเส้นทาง ถนนจะปลูกต้นไม้สองข้างทางดูร่มรื่นดีครับ แล้วก็มาถึงหาดทรายแก้ว ฝนตกเปาะแปะๆ เลยตัดสินใจไม่แวะครับ นั่งถ่ายรูปในรถแล้วก็วนออก ขับออกมาผ่านสวนนงนุช (อยู่ทางขวามือ) ไม่ได้แวะครับคิดว่าฝนตกเข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้เลยขับผ่าน เลยบางเสร่ฝนยังไม่ตก เลยแวะเข้าไปที่เขาชีจรรย์ก่อน แต่ดูเค้าแล้วน่าจะตกในอีกไม่กี่ชั่วโมง อยู่ไม่ถึง 10 นาทีก็เผ่นไปเที่ยวไร่องุ่น ซิลเวอร์ เลค กันต่อ อยู่ติดๆกับเขาชีจรรย์นั้นแหละครับ ค่าเข้าฟรี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปถ่ายรูปข้างหน้าในอาคารที่จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ของไร่องุ่นได้ครับ ลงไปใช้บริการนั่งรถท่องเที่ยวของไร่องุ่นต่อครับ เก็บค่าบริการคนละ 70 บาท คนขับรถจะพาวนไปถ่ายรูปแต่ละจุด ระหว่างขับรถก็บรรยายไปด้วย ผมนั่งข้างหน้า ลำโพงไม่ค่อยดี ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ ปรับปรุงอย่างด่วนเลย ได้บัตรมาแล้วก็ลุย รถจะจอดให้ชมวิว 3 จุด จุดประมาณ 15 นาที ถ้าใครอยากอยู่ต่อก็รอขึ้นคันถัดไปได้ครับ หรือจะเดินเองก็ได้  ลาจากไร่องุ่นด้วยภาพนี้แล้วกันครับ ประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง ฝนเริ่มมาผมก็ออกจากไร่องุ่นระยะทาง 313 ก.ม.  ออกจากไร่องุ่นผมเลี้ยวขวาไปสุดถนนเจอสามแยกเลี้ยวซ้ายไปทางเขาไม้แก้วกลับนนท์ ตอนแรกว่าจะแวะกินข้าวแถวศาลากลางชลบุรี เจอสภาพอย่างนี้ครับ ฝนตกหนักมาก ยิ่งยาวขึ้นมอเตอร์เวย์ไปหาอะไรกินแถวบ้านดีกว่า ผมลงทางด่วนงามวงศ์วานแวะกินข้าว ถึงบ้านเวลา 17.47 น.ระยะทางทั้งหมด 490.4 ก.ม.น้ำมันหมดไปเกือบครึ่งถัง ทริปนี้เหนื่อยนิดหน่อย เจอทั้งแตดทั้งฝน แถมไม่ได้ไปเกาะขามอีก ไว้มีโอกาสจะไปเที่ยวแบบพักผ่อน ประทับใจทะเลสัตหีบ แล้วจะกลับไปเยือนอีกครับ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ค่าใช้จ่าย วันแรก - เติมน้ำมันเต็มถัง 1,980 บาท (ทั้งหมด 66.47 ลิตรๆละ 29.79 บาท) - ค่าทางด่วน 140 บาท (งามวงศ์วาน 55 บาท พระรามเก้า 25 บาท มอเตอร์เวย์ลาดกระบัง,พานทองด่านละ 30*2= 60 บาท) - ค่าข้าวเช้า+หมูเตะ+กล้วยทอด 225 บาท - อาหารเต่า+น้ำหวาน 45 บาท - อาหารทะเล ปูนึง 1 โล ปลาหมึก ½ โล ปลากระพง 1 ตัว ปลาหมึกย่าง 1 ไม้ +(น้ำจิ้มซีฟูด-น้ำเปล่า) 570 บาท - ค่าห้อง ที่พักอาคารรับรอง หาดดงตาล 600 บาท - ข้าวมื้อเย็นตลาดเทศบาล 1+ขนมและของเซเวน 173 บาท รวมวันแรก 3,733 บาท วันที่สอง - ข้าวเหนียวหมูปิ้งตอนเช้า 30 บาท - ขนมปัง 20 บาท - ทำบุญที่วัดหลวงพ่ออี๋ 100 บาท - บัตรนั่งรถชมไร่องุ่น 70*2 = 140 บาท - น้ำดื่ม 30 บาท - ค่าทางด่วน(ขึ้นมอเตอร์เวย์) 140 บาท - ค่าสุกี้เอ็มเค 510 บาท รวมวันที่สอง 970 บาท รวมสุทธิ 4,703 บาท   Create Date : 02 ธันวาคม 2555 4 comments Last Update : 6 กันยายน 2560 15:47:47 น. Counter : 84920 Pageviews. Share Tweet

อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม จ .ชลบุรี เกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอสัตหีบห่างออกไปจากฝั่งประมาณ 9 กม. ใช้เวลาเดินทาง ด้วยเรือประมาณ 20 นาที เกาะขามมีรูปร่างคล้ายตัว H มีพื้นที่ประมาณ61 ไร่ อยู่ภายใต้การดูแลของกองเรือป้องกันฝั่งชายหาดของ เกาะขามมีสองหาดใหญ่ ๆ คือหาดด้านทิศเหนือและทิศใต้ ชายหาดด้านทิศเหนือเป็นทรายค่อนข้างละเอียด เหมาะ สำหรับการว่ายน้ำ และสันทนาการทางน้ำ ด้านทิศใต้เป็นหาดทราย หยาบมีหินกรวดและซากปะการังทับถมเต็มชายหาดลึกลงไป ในน้ำของเกาะขามจะพบ แนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์กระจายตัวอยู่รอบๆเกาะเกาะบริเวณที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ของปะการัง อยู่ทางทิศใต้ ซึ่งแนว ปะการังใน บริเวณ นี้จะ เป็น ปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ และปะการังสมอง ในระดับความลึกของน้ำ ประมาณ 3 - 6 เมตร จึงเหมาะสำหรับ การดำน้ำท่องเที่ยวทั้งแบบผิวน้ำและแบบน้ำลึก นอกจากนี้แล้ว ยังพบปลาทะเลที่สวยงาม ได้แก่ ปลาผีเสื้อปลาสลิดหิน ปลาอมไข่ ปลากะรัง และ ปลารวมฝูง เช่น ปลาหางเหลือง นอกจากนี้ยังพบ สัตว์ ทะเลอื่น ๆ ได้แก่ หอยมือเสือ หอยมือแมว ดอกไม้ทะเล กับปลาอินเดียแดง กุ้งและปูชนิดต่าง ๆ ดาวขนนก เม่นทะเล และปลิงทะเลที่มีความสวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดเด่นของ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม นอกจากอุดมไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้นแล้วยังเป็นสถานที่แห่งแรกของประเทศไทยที่ได้มี การเคลื่อนย้ายปะการังที่กำลังจะเสื่อมโทรมจากมลภาวะ บริเวณเกาะเตาหม้อมาลงไว้ที่เกาะขามเพื่อพัฒนาและเสริมสร้าง แนวปะการัง ในบริเวณที่เสื่อมโทรมและตายไปให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการเคลื่อนย้ายปะการังได้ดำเนินการโดยกำลังพลกองทัพเรือและนักดำน้ำอาสาสมัคร ทั้งนี้โดยได้รับความร่วมมือ จากจุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และ มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งได้เริ่มดำเนินการ ตั้งแต่ปี 2518 เป็น ต้นมาปะการังส่วนใหญ่ยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้และเจริญเติบโตเพื่อสร้างแนวปะการังที่เสื่อมโทรมให้ฟื้นคืนสู่สภาพ ที่สมบูรณ์เหมือนเดิม โดยตลอดเวลาที่ผ่านมามีนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไปสนใจขอเข้าเยี่ยมชมอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองเรือป้องกันฝั่งได้จัดวิทยากรบรรยายให้แก่คณะผู้เข้าเยี่ยมชม กิจกรรมที่น่าสนใจบนเกาะขาม - การชมปะการังด้วยการดำน้ำแบบผิวน้ำ - การชมปะการังด้วยเรือท้องกระจก - การเดินชมพืชพรรณไม้ และทัศนียภาพบนเกาะ - การพักผ่อนหรือตกปลาบนเกาะ - ปีนเขาไปชมจุดชมวิว รายละเอียดเพิ่มเติม - เกาะขามไม่มีที่พักเป็นการท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับแบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่อนุญาตพักแรมคืนจะหยุดให้บริการ ในวันอังคารและวันศุกร์ ใช้เวลาเดินทางจากท่านเรือ 20 นาที เที่ยวไปเกาะ เที่ยวกลับฝั่ง เที่ยวที่ 1 09.00 น. เที่ยวที่ 1 13.00 น. เที่ยวที่ 2 10.00 น. เที่ยวที่ 2 14.00 น. เที่ยวที่ 3 11.00 น. เที่ยวที่ 3 15.00 น. - ค่าเรือไปกลับคนละ 200 บาท รวมค่าเรือท้องกระจกมีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ห้องสุขา ห้องอาบน้ำจืด เก้าอี้ผ้าใบ หากต้องการเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ คิดเพิ่ม คนละ 50 บาท บนเกะขาม่มีร้านอาหารขายเล็กๆน่้อยเช่น มาม่า ลูกชิ้น ขนมปัง เบอร์ ติดต่อเจ้าหน้าที่ 0 - 3843 - 7927 โทรภายใน 74460 กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาค 08 - 0061 - 9139 น.ต.ธีระพล พงษ์สระพัง 08 - 7004 - 8512 น.ท.วิโรจน์ อินทร์สุข //www.paiduaykan.com/76_province/east/chonburi/pic2/khokham13.jpg ข้อจำกัดการเยี่ยมชมและข้อแนะนำการเข้าเยี่ยมชม - การเดินทางอาจยกเลิกได้ เพื่อความปลอดภัยเมื่อสภาพอากาศไม่อำนวย - จำกัดจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมวันละไม่เกิน 300 คน - การชมปะการังถูกจำกัดด้วยระดับน้ำ ถ้าน้ำทะเลลดลงมากไม่สามารถชมปะการังได้ - การเข้าเยี่ยมชม เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ความสะดวกสบายจึงมีไม่มากนัก - ผู้เข้าเยี่ยมชมต้องตั้งใจไปชื่นชมธรรมชาติอย่างแท้จริง - การชมปะการังห้ามสัมผัส จับต้อง หรือเหยียบย่ำปะการัง - ห้ามเก็บเปลือกหอย ซากหินปะการังหรือพืชพรรณไม้บนเกาะ - ช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติโดยไม่นำวัสดุที่มีผลต่อสภาพแวดล้อม (เช่นโฟมและ ถุงพลาสติก) ขึ้นไปบนเกาะและเก็บขยะสิ่งของเหลือใช้ที่ท่านนำไปด้วยกลับมาทิ้งบนฝั่ง ข้อแนะนำและสิ่งที่ต้องเตรียม 1.ให้เลือกวันเดินทางที่มีท้องฟ้าแจ่มใส แสงแดดจ้า ไม่มีเมฆฝน จะได้ดำน้ำดูปะการังได้ชัดเจนไม่ควรเดินทางวัน ฟ้าหม่น จะทำให้ไม่สนุกกับการดำน้ำ มองปะการังไม่ชัดเจน 2.การเลือกเวลาลงดำน้ำ ถ้าเป็นช่วงน้ำเริ่มขึ้นหรือน้ำลงทะเลจะใส ส่วนเวลาน้ำขึ้นมาก ๆ น้ำทะเลจะขุ่นกว่าและ กระแส น้ำจะแรงกว่า 3.ควรจองคิวการเดินทางอย่างน้อย 1 สัปดาห์สำหรับวันหยุดปกติ หรือ 1 เดือนสำหรับวันหยุดนักขัตฤกษ์พิเศษ เช่น วันปีใหม่หรือวันสงกรานต์ เพราะทางกองเรือป้องกันฝั่ง จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อการดูแลได้ทั่วถึง 4.ควรสวมรองเท้าฟองน้ำหรือรองเท้ารัดส้นที่เปียกน้ำได้ 5.อย่าลืมเตรียมอาหารว่างและอาหารกลางวันให้ครบจำนวนคน เนื่องจากบนเกาะไม่มีอาหารจำหน่าย 6.เตรียมเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนหลังขึ้นจากน้ำ 1 ชุด หมวกกันแดด - แว่นตากันแดด และครีมกันแดด โปรแกรมท่องเที่ยวแนะนำ One day Tour 06.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ 08.45 น. ถึงท่าเรือแสมสารฟิชชิ่งบริจ 09.05 น. เรือออกจากท่าเรือช่องแสมสาร 09.35 น. เรือเทียบเกาะขาม เดินชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อน 11.00 น. ลงดำน้ำครั้งที่ 1 12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน 13.30 น. ขึ้นเรือท้องกระจกชมปะการังรอบเกาะ 14.00 น. ลงดำน้ำครั้งที่ 2 15.00 น. ขึ้นจากน้ำล้างตัวด้วยน้ำจืด เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเดินทางกลับ 15.30 น. ลงเรือเดินทางกลับช่องแสมสาร 15.40 น. ขึ้นเนินไหว้หลวงพ่อดำ และชมวิวรอบวิหาร 16.30 น. เดินทางไปชมพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ที่มีลายเส้นเหลืองอร่ามด้วยทองคำแท้ 18.00 น. เดินทางกลับใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท แวะรับประทานอาหารทะเลที่บ้านอำเภอ เช่น ร้านศรีนวล ร้านทะเลซีฟู๊ด ร้านปรีชาซีฟู๊ด ซึ่งเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกไฟแดงตลาดบ้านอำเภอ 20.00 น. เดินทางกลับ 22.30 น. ถึงกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ การเดินทางไปเกาะขาม สัตหีบ การเดินทางจากฝั่งไปเกาะขามต้องไปซื้อตัวเรือที่ซุ้มซึ่งทางกองทัพเรือได้จัดไว้ หากไม่ทราบสอบถามป้อมยาม ตรงบริเวณทาง เข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีีบ ซึ่งเป็นทางเข้าไปขึ้นเรือ ที่ท่าเทียบเรือ ข้ามไปยังเกาะขาม 1. รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ ฯ – ระยอง -จากมอเตอร์เวย์กรุงเทพ ฯ สุดทางที่ถนนตัดสายบายพาสอ้อมเมืองชลบุรี ขับรถตรงไปทางระยองผ่าน ทางแยก ต่างระดับ ที่เบี่ยงซ้ายไปแหลมฉบัง อาจจะเปลี่ยนเส้นทางใช้ถนนสายนี้ไปทางถนนสุขุมวิทก็ได้ แต่แนะนำให้ ขับรถตรงไปทางระยอง ถึงทาง แยกต่างระดับให้เลี้ยวซ้ายไประยอง และสังเกตป้ายบอกทางไปสัตหีบ พอถึงสามแยกสัตหีบ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนสาย 331 ผ่านสนามบินอู่ตะเภาถึงสี่แยกไฟแดงบ้านกิโลเมตร 10 ขับรถตรงไปตาม เส้นทางไปท่าเรือสัตหีบ (ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด) ไปนิดนึงให้เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านช่องแสมสาร สังเกตป้ายบอก ทางไปวิหารหลวงพ่อดำและ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ให้ขับไปทางป้ายพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยท่าเืรือไปเกาะขามจะตั้งอยู่ข้างในพิพิธภัณฑ์ จากเส้นถนนสุขุมวิท -จากบางนาขับรถตรงไประยอง ผ่านชลบุรี บางแสน ศรีราชา พัทยา สัตหีบจากสามแยก สัตหีบให้จับเลขไมล์ รถยนต์ไปถึง กิโลเมตร 6 มีสามแยกใหญ่ให้เลี้ยวขวาไปตามทางไปท่าเรือสัตหีบ ถึงสามแยกถนนตัดจากที่ มาจากบ้านกิโลเมตร 10 เลี้ยวขวาและใช้เส้นทางเดียวกับ การเดินทางเส้นทางที่ 1 ใช้ถนนสาย 331 แล้วใช้เส้น ทางเดียวกับเส้นทางแรก 2. รถโดยสารสาธารณะ นั่งรถกรุงเทพ - ระยอง (สายเก่า สายใหม่ไม่ผ่าน) บอกคนรถว่าลงที่ตลาดสัตหีบ เมื่อถึงตลาดสัตหีบแล้ว ให้ต่อรถสองแถว สีน้ำเงิน ที่ด้านหน้ารถมีป้ายเขียนว่า แสมสาร เพื่อความมั่นใจให้ถามคนขับว่าไปท่าเรือเขาหมาจอ หรือ ไปที่ศูนย์อนุรักษ์การดำน้ำ ไหม เพราะรถคันนี้จะไปส่งที่หน้าศูนย์ฯ 3.โดยรถตู้ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้ไปลงที่ ตลาดสัตหีบ แล้วต่อสองแถวแบบเดียวกันกับการเดินทางโดยรถทัวร์ ขอบคุณข้อมูลจากเวป //www.paiduaykan.com คลิ๊กเลย   โดย: nongmalakor 10 กุมภาพันธ์ 2558 14:09:15 น.

อยากไปจังๆ อยากทราบว่าบริเวณใกล้ๆมีที่พักมั้ยค่ะ   โดย: sakuna IP: 133.130.49.172 25 มิถุนายน 2558 19:09:43 น.

คนสัตหีบ ยังไม่เคยไปดูละเอียดเท่าคุณเลย 55 นายแน่มาก ขอบอก เจ๋งอะ - sakuna มีที่พักมากมายครับ / รวมทั้งบ้านผมด้วย กำลังสร้าง อิอิ   โดย: อภิ กม.6 คร๊าบ IP: 184.22.42.226 18 ธันวาคม 2560 23:54:17 น.

คือเราอยากมารีวิวที่พักสัตหีบที่นี่ คือ ที่นี่ วรรณีพาโชค รีสอร์ท เค้ามีครบมาก ทั้งที่พักสะอาด สระว่ายน้ำ ใครไม่มีชุดเค้ามีให้เช่า อาหารทะเลที่มาจากเรือของเค้าเองตอนเช้า เลยได้ทั้งถูกทั้งสด เเล้วยังสามารถปิ้งย่างได้ด้วย หรือถ้าใครไม่อยากปิ้งย่าง อยากให้เค้าทำอาหารให้ ก็สามารถสั่งได้ มีหลายเมนูเลย ราคาที่พักกเริ่มต้นที่ 2 คน 1500 บาท แต่ถ้าไปเยอะยิ่งถูก เราหารกับเพื่อนมาแล้ว วรรณีพาโชค //www.wanneepachok.com   โดย: สมาชิกหมายเลข 4021939 9 กุมภาพันธ์ 2561 17:54:51 น.