ทริป เกาะกันไป เกาะกันมา ถึง "เกาะกูด" กันจนได้ (วันที่ 1 นนทบุรี-เกาะกูด)
วันพุธที่ 16 มี.ค.65
Trip นี้เดินทาง วันพุธที่ 16 – วันเสาร์ที่ 19 มี.ค.65 ทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ขับรถไปกัน 2 คนตา-ยาย จองที่พักเกาะกูดไว้ 2 คืน เหลืออีกคืนจะไปไหนยังไม่ได้คิด ได้เวลาพร้อมเดินทางไปด้วยกันครับ เวลา 03.22 น. ได้เวลาเดินทาง น้ำมันเต็มถัง เซทไมล์ไว้ที่ 0 กม.เหมือนเดิมใช้เส้นทาง แคราย-ทางด่วนงามวงศ์วาน-ทางด่วนพระราม 9-มอเตอร์เวย์ ออกบ้านบึง-แกลง-จันทบุรี-ตราด-ท่าเรือแหลมศอก เส้นทางวิ่งตามกูเกิ้ล คลิกเลย
ออกตอนเช้ามืด รถโล่งมาก ใช้ความเร็วประมาณ 100-110 กม./ชม.ขับได้เรื่อยๆไม่รีบ ตั้งแต่บ้านบึงถนนทำเสร็จหมดแล้วทางแยกจุดตัดต่างๆเป็นทางยกระดับ วิ่งฉลุยมาถึงแยกแกลงเวลา 05.30 น.ระยะทาง 194 กม. เลี้ยวซ้ายไปจันทบุรี วิ่งเฉิ่มๆมาถึงนายายอาม จันทบุรี น้องฝนตกต้อนรับแบบตกจริงตกจังมาก ตกจนเลยแยกแหลมสิงห์ถึงค่อยซา
อยู่นนทบุรี แดดร้อนเปรี้ยง มาทะเลหน้าร้อนฝนตกซะงั้น มาถึงตรงนี้ฝนหยุดตก แดดเริ่มมาแล้ว ใจค่อยชื้นขึ้นมาหน่อย เวลา 07.35 น.ระยะทาง 323 กม. มาถึงตลาดสด เทศบาลเมืองตราด จอดรถแถวนี้ (แถวข้างร้านแว่นท็อปเจริญ) เพื่อเดินไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิทเดินข้ามถนนตรงทางเข้าตราดสรรพสินค้า เข้าซอยเดินไปไม่ถึง 50 ม.ก็ถึงร้าน ก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิทแล้วหน้าร้านจะเป็นแบบนี้ ร้านจะติดกับบ้านหลังนี้
ตอนดูในกูเกิ้ล แมพ ไม่เห็นหน้าร้าน เห็นแต่หน้าบ้านนี้ครับ ประตูรั้วสแตนเลส ร้านจะอยู่ติดบ้านหลังนี้เลยครับ
เมนูพร้อมราคา ตัวใหญ่ๆแปะไว้ข้างผนัง เมนูข้าวกับก๋วยเตี๋ยวให้เขียนแยกคนละใบ
ร้านเปิด 08.00 น.- 14.30 น. ผมไปถึงก่อน 08.00 น.ร้านก็เปิดแล้ว ใครไม่แน่ใจลองโทรไปถามกันก่อนได้ เบอร์โทรตามรูปเลยครับที่ร้านมีขายทั้งข้าวและก๋วยเตี๋ยว จัดของในตู้น่ากินมาก ดูสะอาดดีด้วย สั่งอาหารไป 3 อย่างเมนูแรก ข้าวผัดพริกเกลือทะเลรวม เป็นเหมือนข้าวผัดกับน้ำจิ้มซีฟูดแล้วใส่กุ้ง กั้ง ปู สดทุกตัว รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด กลมกล่อมมาก อร่อยจริงครับต่อไปก๋วยเตี๋ยวผัดปู คล้ายๆผัดไทยแต่รสชาติไม่คล้าย เส้นจันท์เหนียวหนุบ ไม่หวานมาก บีบมะนาวนิดเติมพริกหน่อย อร่อยมากๆเมนูสุดท้ายก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เห็นน้ำใสๆนึกว่าไม่อร่อย ที่ไหนได้ รสกลมกล่อมมาก เปรี้ยว หวานกำลังดี ไม่ต้องปรุงอะไรทั้งนั้น เมนูนี้ก็ห้ามพลาด ทั้ง 3 เมนู ราคา 50 บาทเท่ากันหมดเพิ่งมากินร้านนี้เป็นครั้งแรก อาหารรอไม่นาน รสชาติบอกเลยไม่ผิดหวังซักเมนู แฟนผมติดใจมาก ชมไม่หยุดปาก ไม่เสียแรงที่ตั้งใจมากินร้านนี้โดยตรง เอาไปเลย 5 กะโหลก
ตบท้ายด้วยขนมหวาน ลองชิมขนมข้าวตูกับขนมข้าวตอก ไม่ได้ชิมข้าวตูมานานแล้ว ข้าวตูรสชาติหวานมันกำลังดี ไม่หวานเกินเหมือนที่เคยชิมมา ส่วนข้าวตอกไม่ได้ชิม แฟนกินหมด ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวปู มีน้ำปลาช้าง 3 เศียร ของดี จ.ตราด จำหน่ายด้วย ไม่พลาดครับ ซื้อทั้งขวดเล็ก ขวดใหญ่ กลับบ้าน หลังจากอิ่มแล้ว เดินย่อยในตลาดสดได้ไม่นาน ฝนเริ่มตกปรอยๆ เลยขับรถไปที่ท่าเรือบุญศิริ แหลมศอก
เวลา 08.45 น. ออกเดินทางจากตลาดสด ตรงไปตามทางสุขุมวิท ขับตรงไปเรื่อยๆผ่านกี่แยกอย่าไปสนใจ ตรงไปจนถึงสามแยกจะมีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปเกาะกูด (ไปแหลมศอกนะครับไม่ใช่แหลมงอบ) เลี้ยวตามป้ายไปเลยครับ ไปไม่ยาก ขับตามกูเกิ้ลได้ คลิกเลย
ก่อนถึงแยกไปเกาะกูดจะมีปั๊ม ปตท.ปั๊มใหญ่เป็นปั๊มสุดท้าย ใครจะเติมน้ำมันแวะทำธุระได้เลย
เวลา 09.17 น.ระยะทาง 351 กม. มาถึงท่าเรือบุญศิริ (จากตลาดสดมาท่าเรือระยะทาง 28 กม.) ขับเรื่อยๆใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็มาถึงท่าเรือแล้วครับ
จากป้ายเลี้ยวซ้าย 50 ม.ถึงสำนักงานท่าเรือบุญศิริแล้วครับ จะอยู่ทางซ้ายมือเอารถเข้าไปจอดได้เลย ที่จอดรถรองรับรถนักท่องเที่ยวได้หลายร้อยคัน มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง จอดรถเสร็จมาลงทะเบียนโดยขอดูประวัติการฉีดวัคซีนพร้อมบัตรประชาชนทุกคน ใครไม่ได้ฉีดห้ามเข้าเกาะ เสร็จแล้วจ่ายค่าจอดรถตรงนี้ คิดค่าจอดวันละ 50 บาทผมไป 3 วัน 2 คืน ค่าจอดรถ 150 บาท จะให้บัตรจอดรถมา 1 ใบ เก็บไว้ให้ดี เพราะตอนกลับเค้าจะขอดูบัตรจอดรถ ถ้าหายต้องแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของรถวุ่นวายแน่ แต่ไม่รู้เสียค่าปรับเปล่าครับไม่ได้ถาม เสร็จขั้นตอนลงทะเบียนกับฝากรถ ขั้นตอนต่อไปซื้อตั๋วเรือข้ามฝากด้านบน ใช้บัตรประชาชนคนเดียวซื้อตั๋ว บอกรีสอร์ทที่เราไปพัก เวลา วันไป-กลับค่าเรือไป-กลับคนละ 1,000 บาท สามารถสแกนจ่ายแทนเงินสดได้
หน้าตาตั๋วเรือจะเป็นแบบนี้ เก็บตั๋วเรือขากลับให้ดี ต้องใช้เวลาลงเรือขากลับ ถ้าหายต้องซื้อใหม่ขาไปผมจองเวลา 10.45 น. ส่วนขากลับจองเวลา 09.00 น. ระหว่างนั่งรอมีนักท่องเที่ยวมากันเรื่อย ตอนแรกคิดว่ามาช่วงกลางเดือน วันธรรมดาคนจะน้อยที่ไหนได้ นักท่องเที่ยวเยอะมาก ใครมาก่อนเวลา ที่ท่าเรือมีอาหาร เครื่องดื่มจำหน่ายไว้บริการด้วยครับ ใครไม่อยากขับรถมาเอง บุญศิริ มีรถ บริการจาก กทม.(ถนนตานีใกล้ถนนข้าวสาร บางลำพู) มาถึงท่าเรือพร้อมค่าเรือข้ามไปเกาะกูด ไป-กลับพร้อมอาหารเช้าที่ท่าเรือ 1 กล่อง คนละ 2,000 บาท สะดวกไม่ต้องขับรถมาเอง ใครสนใจดูข้อมูลในเวป บุญศิริ คลิกเลยได้เวลาขึ้นรถลากเพื่อไปท่าเรือแหลมศอก ประมาณ 1 กม.
หน้าตารถที่เรานั่งจะเป็นแบบนี้ เวลา 10.45 น. เรือออกตรงเวลามาก ส่วนเรือเป็นเรือสปีดโบต ลำใหญ่เหมือนกัน
เรือไปเกาะกูดมีทั้งหมด 4 เจ้า สปีดโบต ราคา 600 บาท/คน/เที่ยว เวลาขาไป 10.00 น. เวลาขากลับ 13.00 น. บุญศิริ ราคา 500 บาท/คน/เที่ยว เวลาขาไป 10.45 น.กับ 14.20 น. เวลาขากลับ 09.00 น.กับ 12.00 น. เอ๊กซ์เพลส 400 บาท/คน/เที่ยว เวลาขาไป 13.00 น. เวลาขากลับ 10.00 น. ปริ๊นเซส 300 บาท/คน/เที่ยว เวลาขาไป 12.30 น. เวลาขากลับ 10.00 น.
ใครสะดวกเจ้าไหน ชอบเวลาอะไร เข้าไปดูรายละเอียดในเวปนี้ได้ครับ https://bit.ly/32qokkH หรือใครจะจองมาก่อนก็ได้ ส่วนผมไม่ได้จอง กลัวมาไม่ทันต้องซื้อตั๋วใหม่อย่างเดียว อีกอย่างถ้าพลาดเจ้านี้ก็ไปนั่งเจ้าอื่นแทน
ส่วนเรือบุญศิริ ใช้เรือ Catamaran ลำใหญ่อยู่เหมือนกันเรือบุญศิริ มีที่นั่ง 2 ชั้น มีทั้งแบบห้องแอร์กับนั่งรับลมด้านท้ายเรือชั้นบน เรือลำใหญ่ไม่ค่อยกระแทกเท่าไหร่ นั่งสบายเย็นฉ่ำ ขึ้นไปได้ซักพักหลับเอาแรงก่อน ใต้ที่นั่งมีเสื้อชูชีพไว้ให้ทุกที่นั่งใหม่สะอาดดี ส่วนท้ายเรือมีห้องน้ำพร้อมสายชำระไว้บริการ ประมาณ 1 ชม.ก็มาถึงท่าเรืออ่าวสลัด ตื่นมาเจอน้องฝนมาต้อนรับอีกแล้ว
แล้วน้ำจะใส ฟ้าจะสวยไหมเนี้ย นักท่องเที่ยวขากลับมารอขึ้นเรือ ฝนตกชุ่มฉ่ำกันไป เดินขึ้นไปข้างบน จะมีรถสองแถวไปส่งยังที่พัก แค่บอกพนักงานว่าเราพักที่รีสอร์ทไหนเค้าก็จะให้เราขึ้นรถคันนั้น
ราคาค่าเรือรวมค่ารถไปส่งที่เราพักทั้งไปและกลับแล้ว ทางเกาะไม่ได้ห้ามน้องหมาขึ้นเกาะนะครับ พามาได้แต่ต้องดูว่ารีสอร์ทไหนต้อนรับน้องหมาบ้าง ใครจะพาน้องหมามาเที่ยวสอบถามทางที่พักกันก่อนแล้วกันว่าต้อนรับน้องหมาหรือเปล่า นั่งสองแถวประมาณ 20 นาทีก็มาถึงที่เราพักแล้วครับ
ผมพักบ้านบัว คอทเทจ จากป้ายเดินลงไปทางขวามือ ติดต่อเรื่องห้องพัก ผมจองโดยตรงกับทางรีสอร์ทเลยครับ
ที่ตรงนี้แหละครับ เป็นทั้งห้องอาหาร แผนกต้อนรับ (Reception) Lobby และบาร์เล็กๆ เข้ามาต้อนรับด้วยน้ำใบเตย หอม หวาน ชื่นใจ ผมมาถึงรีสอร์ทประมาณ 13.00 น. พนักงานทำความสะอาดห้องเสร็จเรียบร้อย เข้าห้องพักได้เลย
ได้บ้านหลังที่ 4รีสอร์ททำเป็นบ้านหลังเดี่ยว เว้นระยะห่าง มีทั้งหมด 7 หลัง เป็นส่วนตัวมาก ก่อนเข้าห้องพัก จะมีสายชำระไว้ล้างเท้า ใส่ใจตั้งแต่เข้าห้องเลย ชอบครับ หน้าห้องเป็นระเบียงไม้ มีชานเรือนทำเป็นเตียงปูด้วยเบาะไว้ให้นั่งเล่น ที่สำคัญมีปลั๊กไฟไว้ให้ชาร์ทมือถือหรือคอมพิวเตอร์เวลานั่งเล่นหรือทำงาน (ชอบปลั๊กไฟให้มาหลายจุดมาก ที่สำคัญให้ตรงจุดที่จะใช้งานจริง ถือว่าใส่ใจมาก)
จุดนี้แฟนผมชอบมากนั่งเล่นเพลินเลย เสียอย่างเดียวตอนเย็น ยุงที่นี่ดุมาก ประตูห้องเป็นกระจกใสแบบบ้านเลื่อน 2 บาน กุญแจห้องเป็นแบบไขล็อก ไม่มีคีย์การ์ดตัดไฟ ชาร์ทไฟได้ตลอด 24 ชม. ใครซื้อขนม ขบเคี้ยว เครื่องดื่มสามารถแช่ของในตู้เย็นได้ไม่ต้องกลัวตัดไฟแม้เราจะไปเที่ยวข้างนอกห้อง ชอบอีกแล้ว เข้าห้องมาเจอเก้าอี้โซฟา ปรับไม่ได้นะครับ เป็นโซฟาพอดีกับห้อง นั่งเล่น นอนเล่นได้จริง
ตรงนี้เล่นระดับกับพื้นห้อง ช่วงแรกๆเดินสะดุด 2 ครั้งก็จำได้แล้ว ภายในห้องไม่กว้างมาก ใช้โทนสีเขียวอ่อนทั้งห้อง ต่อจากเก้าอี้โซฟาเป็นเตียงนอนขนาด 4 ฟุตแอบเล็กไปหน่อย ส่วนฟูกแข็งไปนิดแต่ไม่ถึงกับแข็งมาก ตื่นมาไม่ปวดหลัง หลับสบายทั้งคืนเหมือนกัน หมอนให้มา 4 ใบ เป็นแบบเมมโมรี่กับแบบนุ่นอย่างละ 2 ใบ หมอนนอนสบายมาก ส่วนหมอนสีน้ำเงินเป็นหมอนอิงของโซฟาให้มา 3 ใบ ให้หมอนมาเยอะดี ชอบครับ ด้านหัวเตียงติดกับผนังเป็นเหมือนบ้านไทยสมัยก่อน ไม่มีหัวเตียงด้านข้างมีโคมไฟให้ทั้งซ้ายและขวา ด้านซ้ายมีชั้นวางของพร้อมปลั๊กไฟด้านละ 2 เต้า ด้านซ้ายมือมีราวไม้แขวนเสื้อพร้อมชุดใส่เล่นให้คนละชุดและกระจกเต็มตัว 1 บานตามภาพนั้นแหละครับ มาดูปลายเตียงกันบ้าง ข้างบนเป็นชั้นวางของ ข้างล่างเป็นตู้เย็น สามารถแช่ของได้ตลอดวันไม่มีตัดไฟชั้นบนมีรีโมทแอร์ รีโมททีวี กาน้ำร้อน แก้วน้ำร้อน 2 ใบ กาแฟซองพร้อมน้ำตาล ครีม น้ำเปล่า 2 ขวด กล่องกระดาษทิชชูและขวดน้ำเปล่า 1 ขวดสำหรับขวดน้ำอยู่ในห้อง เราเดินมาเติมน้ำที่ห้องอาหารได้ตลอดครับ ถัดไปมีเครื่องเป่าผม เสื่อ กระเป๋าใส่ของต่างๆไว้เอาไปเที่ยวตามหาดบนเกาะกูดพร้อมผ้าเช็ดผม 2 ผืนถัดไปเป็นทีวี แอร์ติดผนัง ทีวีดูได้แค่ช่อง เวิร์คพอยต์ ติดๆดับๆอีกต่างหาก เข้าใจอยู่ไกลจากฝั่ง สัญญาณเลยไม่ค่อยดี แต่ไวไฟของรีสอร์ทแรงมาก ถ้าไปข้างนอก สัญญาณอินเตอร์เนทของทรูกับเอไอเอส แรงทั้ง 2 เจ้า ไม่มีกระตุกหรือสะดุด นั่งเล่นบนเรือข้ามเกาะสัญญาณก็เล่นได้อยู่นะ (ส่วนดีแทคไม่ทราบนะครับ ไม่ได้ใช้ของเจ้านี้)
แอร์เย็นฉ่ำทั้ง 3 วัน ขนาดเปิด 25 องศายังหนาวเลย เข้าไปดูในห้องน้ำกันบ้าง เป็นไฮไลน์ของห้องนี้เลยครับ
ประตูห้องน้ำไม่ใหญ่มากเป็นบานผับ 2 บาน ไม่มีลูกบิดแต่ใช้สลักไม้ปิดด้านในแทนเปิดประตูเข้าไปจะเป็นห้องน้ำแบบนี้
ห้องน้ำกว้างพอๆกับห้องนอน ชักโครกพร้อมสายชำระ พื้นปูด้วยกระเบื้องหยาบสีเทาลายทรงเลขาคณิต ส่วนผนังปูด้วยกระเบื้องลายหิน ดำ น้ำตาลตรงข้ามมีอ่างล้างหน้าด้านบนเป็นกระจกเงากรอบไม้แขวน 1 บาน ผนังก่ออิฐบล็อกมีช่องลม ติดมุ้งลวดกันแมลงทั้ง 2 ด้าน ช่วยระบายอากาศได้ดี ทำให้ห้องไม่อับ ส่วนด้านข้างมีชั้นวางของให้ 1 ชั้น พร้อมผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดผมอย่างละ 2 ผืน
ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม ผ้าห่ม ปลอกหมอนต่างๆ สะอาดมาก ตรงนี้ขอชมเลยครับ ถัดไปเป็นที่อาบน้ำเล่นระดับ 2 ขั้น เดินลงไปมุมห้องจัดสวนด้วยต้นไม้เลื้อยและไม้ใบ พื้นโรยด้วยหินกรวด ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติมาก ส่วนหลังคาใช้แบบโปร่งแสง ทำให้ต้นไม้ได้รับแสงแดดแบบรำไร ห้องน้ำกันแมลง ยุง สัตว์ต่างๆ ไม่มีเข้ามาภายในห้องได้ ชอบมากๆ ถ้ามองจากสวนขึ้นไป จะเป็นแบบนี้ส่วนของที่อาบน้ำ มีเครื่องทำน้ำอุ่น ฝักบัวขนาดใหญ่แบบ RAIN SHOWER ถ้าไม่ถนัดจับสายมาราดตัวแบบฝักบัวบ้านเราได้เลย ส่วนน้ำอยู่บนเกาะคิดว่าจะเป็นน้ำกร่อยอีก น้ำจืดสนิทไม่มีกลิ่นอะไรเลย แถมน้ำแรงมากไม่มีหยุด ไม่มีหยดแหมะให้เห็น ชอบๆ ถ้าเปิดประตูห้องน้ำ เปิดม่านประตูห้องนอน มองออกไปจะเห็นห้องอาหารของรีสอร์ทอย่างในรูปเลยครับชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมีสบู่เหลวกับน้ำยาสระผมให้อย่างละขวด ส่วนระเบียบการเข้าพักในห้อง ตามรูปเลยครับ มีบอกให้เสร็จ มาดูตัวรีสอร์ทกันบ้าง จากทางเข้าเดินตรงไปจะเป็นส่วนของที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ของพนักงานและให้ลูกค้าเช่า เดินเข้าไปอีกเป็นส่วนของบ้านพักแต่ละหลัง ภายในร่มรื่นด้วยต้นไม้ใบและไม้ดอก เดินไปทางขวาก่อน เป็นส่วนกลางที่เป็นห้องอาหาร แผนกต้อนรับ จะเห็นสระบัวอยู่ตรงกลางหน้าห้องอาหาร ดูแล้วสดชื่นมาก ด่านแรกเจอมินิ บาร์ ก่อน เดินขึ้นไปเป็นแผนกต้อนรับ มีตู้น้ำดื่มให้กดฟรีและเครื่องดื่มไว้บริการ ต่อไปเป็นห้องอาหารเล็กๆแต่จัดโต๊ะได้น่ารักมาก มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆอยู่หลายมุมเหมือนกัน ตอนแรกหลังจากจัดของเก็บกระเป๋าเสร็จว่าจะเช่ารถมอเตอร์ไซค์หาของกินและขับเที่ยวภายในเกาะ เจอฝนตก เปลี่ยนแผนเดินมากินอาหารของรีสอร์ทแทน
จากบ้านพักไปห้องอาหารเดินไปไม่ไกลครับ ถ่ายจากหน้าบ้านพักเลือกที่นั่ง เอาเมนูมาดูกันก่อน เมนูมีให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่พร้อมบอกราคา ช่วงฝนปรอยๆล้อมรอบด้วยธรรมชาติ บรรยากาศมันให้ ขอสักหน่อย
น้ำแตงโมปั่นหวานเย็นชื่นใจ ส่วนอาหารสั่งไป 3 อย่างเมนูแรก หมึกชุบแป้งทอด มาก่อนเพื่อน แป้งทอดได้กรอบกำลังดี รสชาติแป้งเค็มๆมันๆลงตัว ปลาหมึกสดมากไม่มีกลิ่นคาว ให้มาชิ้นใหญ่กับหอมหัวใหญ่ชุบแป้ง ไม่มีอมน้ำมัน ปลาหมึกไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยแล้ว เสียดายจานไม่ใหญ่ เมนูนี้อร่อยครับ ตามด้วย ข้าวผัดสับปะรด ใส่แฮม เม็ดมะม่วง จานนี้เหยาะน้ำปลาพริกเข้าไปหน่อยไม่บรรยายรสชาตินะครับ อร่อยไม่อร่อยไม่รู้ รู้แต่ว่าเมนูนี้ต้องมาซ้ำอีก 1 วัน เมนูสุดท้าย สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า-เบคอน ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ กลิ่นเนยหอมมาเชียว น้ำก็โชกไปหน่อยแต่เส้นกับเบค่อนอร่อยดีครับ รสชาติอาจไม่ถูกปากเท่าไหร่ ถ้าเป็นสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมากุ้งคงจะเด็ดมากกว่านี้มื้อนี้กิน Clean ของจริงแต่ว่าจะไป สปาเก็ตตี้ที่ไม่ค่อยถูกปากก็เกลี้ยงเหมือนกัน ค่าเสียหาย ตามใบเสร็จ อิ่มแล้ว ฝนยังตกปรอยๆ เข้าห้องนอนพักผ่อนก่อนตื่นมาค่อยว่ากันอีกที
มาเชียร์ที่พักกันดีกว่า สำหรับที่พักไม่ติดทะเล แต่เดินไม่ถึง 5 นาทีถึงทะเลอ่าวคลองมาด ตรงชุมชนคลองมาด ที่พักมีแค่ 7 ห้อง เป็นที่พักขนาดเล็ก ตกแต่งห้องได้น่ารักมาก บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ ใครอยากมาพักผ่อน มานั่งๆนอนๆปล่อยใจหรืออยากมีสมาธิหาไอเดีย การทำงาน บรรยากาศที่นี่ได้เลยครับ ไว้ครั้งหน้ามีโอกาสผมมาซ้ำแน่ ชอบห้องพักเป็นการส่วนตัว ที่สำคัญราคาไม่แรงน่าคบหา สำหรับใครที่ชอบแนวเดินสวยๆหน้าหาดที่รีสอร์ท ชอบความอลังการห้องพัก เปิดม่านเห็นพระอาทิตย์ตกทะเล สระว่ายน้ำสวยๆติดชายหาด อาหารตระการตา มีกิจกรรมต่างๆไว้ถ่ายรูปลง Social ตรงนี้ไม่ตอบโจทย์ แต่สำหรับผมรีสอร์ทนี้มันใช่เลย
ที่ไม่ค่อยโดนสำหรับรีสอร์ทมีแค่เตียงที่เล็กไปหน่อยกับตอนเย็นยุงดุแค่นั้นเอง นอกนั้นชอบทุกอย่างของห้อง ดูเจ้าของใส่ใจรายละเอียดทุกจุด ส่วนไม่ติดชายหาดผมเฉยๆ ไม่ถือว่าเป็นจุดอ่อน เพราะยังไงเดี๋ยวค่อยเช่ารถไปเที่ยวตามชายหาดได้ รีสอร์ทนี้ชอบจริงๆ แนะนำเลยครับ เป็นทางเลือกอีกที่ ชอบต้องอวยให้ไส้แตกกันไปข้าง ใครสนใจที่พักเข้าไปดูในเพจได้เลย คลิกเลย
อวยเสร็จแล้ว เอ้ย... พักผ่อนเสร็จแล้ว ตื่นมาฝนเริ่มหยุดตกเดินไปสำรวจที่ชุมชนคลองมาดกันครับ เดินไม่ถึง 5 นาที
ถ่ายจากหน้ารีสอร์ท เดินไปทางซ้ายมือ ตรงไปเรื่อยๆเจอแยกขวาไปน้ำตกคลองกี๋ไม่ต้องเลี้ยว ให้เดินตรงต่อไประหว่างทางมีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ไว้บริการเดินตรงไปสุดถนนถึงทางโค้งบังคับจะผ่านรีสอร์ทบ้านสวนย่า จากบ้านสวนย่าตรงไปนิดเดียวก็ถึงชุมชนบ้านคลองมาดแล้วครับ ชุมชนบ้านคลองมาดเป็นหมู่บ้านเล็กๆติดคลองออกทะเล มีสะพานไม้ที่ทอดยาวออกไปชายหาดคลองมาด จึงมีเรือสปีดโบตขนาดต่างๆพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ ตกหมึก ตกปลาแบบเหมาลำหลายราคาแล้วแต่ขนาดเรือและมีโฮมสเตย์อยู่หลายเจ้าไว้บริการเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยว ก่อนถึงคลองมีร้านอาหารตามสั่งและมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่าด้วยอยู่ทางซ้ายมือตรงข้ามกับป้ายชุมชน (ส่วนมากราคา 250 บาท/คัน/24 ชม.)มีโฮมสเตย์อยู่ชุมชนบ้านคลองมาดอยู่ 2-3 เจ้า สนใจเจ้าไหนลองโทรติดต่อหรือค้นดูในเนทได้ครับ
คลองมาด โฮสเทล อยู่ข้างหน้าติดคลอง นี่ก็คลองมาด โฮสเทล เจ้านี้อยู่กลางคลองโดดเด่นกว่าเพื่อน แต่ไม่รู้เจ้าเดียวกับข้างบนเปล่า ถ้าสนใจลองโทรไปคุยกันเองครับ 063-3569855, 087-7410861คลองมาด กูดวิว ติดคลอง ตรงข้ามกับกับคลองมาด โฮสเทลเจ้าแรก โทร 084-6559933, 081-8635865เจ้าเดียวกันแต่อยู่ด้านในอีก 1 ที่อีกเจ้าอยู่ติดคลอง ระเบียงทะเล โทร 093 761 3634อยู่ติดกับร้านซีฟูด คลองมาดออกไปสู่ทะเลสะพานไม้เป็นทางโค้งทอดยาว ตอนดูในคลิป น้ำใสมาก ทะเลเป็นสีฟ้า แต่ช่วงที่ผมไปฝนตก ฟ้าเลยเน่าอย่างที่เห็น มาเดือน มี.ค.หน้าร้อน ยังเจอพายุฤดูร้อน ยอมรับสภาพกันไป ถึงฝนจะตก น้ำทะเลไม่สวยแต่ความใสยังเหมือนเดิม ด้านขวามือสะพานเป็นชายหาดหน้าสวนย่า รีสอร์ทชอบมุมนี้ ถ่ายจากสะพานไม้เข้าไปหมู่บ้าน ได้เวลาเดินกลับที่พัก แวะเข้าไปชมสวนย่า รีสอร์ทนิดนึงห้องมีหลายแบบ หลายราคา ไม่ได้เข้าไปด้านในได้แต่เดินเข้าไปด้านชายหาด ใครสนใจโทร 081 000 4141 หลังนี้อยู่ด้านหน้าชายหาด มีสระน้ำอยู่หน้าชายหาด ใหญ่อยู่เหมือนกันชายหาด ไม่กว้างแต่น้ำใส ทรายหาดเรียบ น่าเล่นน้ำ ร่มรื่นดีเดินกลับเข้ารีสอร์ท จองมอเตอร์ไซค์ของรีสอร์ทไว้ 1 คัน ราคา 200 บาท ราคาจะถูกกว่าข้างนอก ถามพนักงานบอกว่าไม่ใช่ลูกค้ารีสอร์ทก็มาเช่าได้ ถ้ามีรถเหลือ
น้องพนักงาน ให้แผนที่พร้อมแนะนำสถานที่ต่างๆให้ด้วย ผมเช่าเวลา 17.00 น.คืนรถพรุ่งนี้ 17.00 น.ครบ 24 ชม. น้ำมันเต็มถังตอนคืนรถน้ำมันต้องเต็มถังเหมือนเดิม แฟร์ดี รถคันนี้ครับ ยามาฮ่า คลิก เกียร์ออโต้ สีแดง เดี๋ยวแว๊นซ์ไปรอบเกาะกัน ออกจากที่พักเลี้ยวขวาไปทางคลองเจ้า มีป้ายบอกตลอดทางแยก
ตรงไปแยกที่ 2 เลี้ยวซ้ายจะไปคลองเจ้า ทางตรงไปท่าเทียบเรือสะพานน้ำลึก ขอไปสำรวจท่าเรือก่อนครับขับมาไม่ไกล มาถึงท่าเทียบเรือสะพานน้ำลึก ฝนตกปรอยๆ เผ่นสิครับ ฝืนขับมาได้หน่อย ตกหนักมาก โชคดีเจอร้านค้าตรงทางแยกแวะจอดพัก เจ้าของร้านใจดีมาก ให้เข้ามาหลบฝน รอซักพักฝนเริ่มซา ว่าจะไปต่อ หมดอารมณ์กลับเข้าที่พักดีกว่า
หลบร้านค้าตรงแยกนี้ ขอบคุณเจ้าของร้านค้าด้วยครับ เข้ามาได้ ฝนตกอีกรอบ อยู่นนท์ร้อนเข้าไปถึงลำไส้ใหญ่ มาทะเลฝนตกซะงั้น หนีร้อนมาพึ่งเย็นจริงๆ มันใช่ไหม..ตอบ
ประมาณ 19.30 น. เดินมากินข้าวที่พักเราดีกว่าสั่งกระเพระหมูสับ-ไข่ดาว ไม่ใส่ผักอะไร ใส่แต่ใบกระเพรา รสชาติแอบเค็มไปหน่อยแต่ก็ไม่เลวร้าย พอได้ๆ ผัดซีอิ๋ว ใส่ผักมาเยอะเลย ทั้งแครอท ข้าวโผดอ่อน บล็อกเคอรี่ คงผัดสไตล์แถวทะเลให้คนต่างชาติเนอะ ไม่ใช่แนวอ่ะ สำหรับผมแค่คะน้าก็พอแล้ว ส่วนรสชาติกลางๆไม่ถึงกับอร่อย พอกินได้มื้อนี้รอดตายไปได้ 1 มื้อ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
ค่าเสียหายคืนนี้ลาด้วยบรรยากาศฝนปรอยๆหน้าห้องอาหาร บ้านบัว คอทเทจ คืนนี้ฝันดี พรุ่งนี้ไปแว๊นซ์รอบเกาะกูดกันครับ คลิกเลย
ค่าใช้จ่ายวันพุธที่ 16 มี.ค.65 ค่าทางด่วนงามวงศ์วาน 60 บาท ค่าทางด่วนพระรามเก้า 25 บาท ค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์ 55 บาท (ด่านลาดกระบัง-ด่านบ้านบึง) ร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท 210 บาท (ข้าวผัดพริกเกลือทะเลรวม 50 บาท,ก๋วยเตี๋ยวผัดปู 50 บาท,ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ 50 บาท,ขนมข้าวตู 30 บาท,ขนมข้าวตอก 30 บาท) น้ำปลาช้าง 3 เศียร 370 บาท (ขวดใหญ่ 2 ลัง 8 ขวดขวดละ 40 บาท,ขวดเล็ก 1 แพค 3 ขวด 50 บาท) น้ำดื่ม 7/11 ทั้งหมด 40 บาท (ขวดใหญ่ 2 ขวด 29 บาท, ขวดเล็ก 2 ขวด 10 บาท,ถุงพลาสติก 1 บาท) ค่าจอดรถท่าเรือบุญศิริ 150 บาท (วันละ 50 บาท 3 วัน) ค่าเรือข้ามไปเกาะกูด 2,000 บาท (ไป-กลับคนละ 1,000 บาท/2 คน) ค่าที่พัก 3,000 บาท (2 คืน คืนละ 1,500 บาท) ค่าอาหารมื้อกลางวันที่รีสอร์ท 560 บาท (สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า-เบคอน 150 บาท,ข้าวผัดสับปะรด 120 บาท,หมึกชุบแป้งทอด 120 บาท,เบียร์สิงห์ 1 ขวด 90 บาท,น้ำแตงโมปั่น 80 บาท) ค่าอาหารมื้อเย็นที่รีสอร์ท 240 บาท (กระเพราหมูสับ-ไข่ดาว 120 บาท,ผัดซีอิ้วหมู 120 บาท)
รวมค่าใช้จ่ายวันนี้ 6,710 บาท
ระยะทางวันนี้ นนทบุรี-ท่าเรือแหลมศอก ทั้งหมด 351 กม.
Create Date : 25 มีนาคม 2565 |
Last Update : 8 สิงหาคม 2565 15:14:43 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1861 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 25 มีนาคม 2565 เวลา:17:43:23 น. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 25 มีนาคม 2565 เวลา:17:51:16 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 26 มีนาคม 2565 เวลา:8:11:57 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 26 มีนาคม 2565 เวลา:19:52:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
♣ อัตราค่าผ่านทางทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร
รถยนต์ 4 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 150 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 10 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 1.5 บาทต่อกิโลเมตร
รถยนต์ 6 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 240 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 16 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 2.4 บาทต่อกิโลเมตร
รถยนต์มากกว่า 6 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 350 บาทประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 23 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 3.45 บาทต่อกิโลเมตร
https://www.motorway.go.th/wp-content/uploads/2020/02/S__4562983-840x560.jpg
♣ อัตราค่าผ่านทางทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร
รถยนต์ 4 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 240 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 10 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 1.25 บาทต่อกิโลเมตร
รถยนต์ 6 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 380 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 16 บาท และเพิ่มขึ้น ตามระยะทาง 2 บาทต่อกิโลเมตร
รถยนต์มากกว่า 6 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 550 บาทประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 23 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 2.88 บาทต่อกิโลเมตร
♣ ค่าผ่านทางทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา คิดตามระยะทางจริง ไม่มีค่าแรกเข้า
รถยนต์ 4 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 105 บาท โดยคิดในอัตรา 1 บาทต่อกิโลเมตร
รถยนต์ 6 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 170 บาท โดยคิดในอัตรา 1.6 บาทต่อกิโลเมตร
รถยนต์มากกว่า 6 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 245 บาท โดยคิดในอัตรา 2.3 บาทต่อกิโลเมตร