♪♪Sunshine Bikini&Beach
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
19 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
เมื่อดาต้องมาเป็นล่ามจำเป็น

ดาทำงานอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่ 3 แล้ว สนุกดีค่ะได้เรียนรู้ได้ทำอะไรเยอะแยะ ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมดาถึงต้องมาเป็นล่ามจำเป็นน่ะเหรอ ต้องเล่ากันหน่อยค่ะว่าบริษัทที่ดาทำอยู่นี่มีคนอยู่ 2 กลุ่มค่ะ กลุ่มแรกก็คือคนจีนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของบริษัท กลุ่มที่ 2 ก็คือ คนยุโรป บริษัทเป็นบริษัทสวิสค่ะซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นระดับบิ๊กๆแล้วน่ะ ต่ะล่ะคนหน้าตายังกะลุงซานต้าเลยค่ะ
ตอนดาเข้ามาก็ได้ลงทะเบียนเป็นคนกลุ่มที่ 3 เรียบร้อย คือ สำหรับคนจีนแล้วดาเป็นต่างชาติคนเดียวที่ไม่ใช่ฝรั่ง ทั้งๆ ที่ดาก็หน้าจีนๆ เนี่ยแหละ และก็เป็นเอชียคนเดียวคนแรกในบริษัทที่ไม่ใช่คนจีน ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นดีไม๊คะ

ดาทำตำแหน่งวิศวกรและก็ยังอยู่ในช่วงทดลองงาน ไดเรคเตอร์ที่รับดาเข้ามาเป็นคนออสเตรีย ดามาเริ่มงานที่แผนกของเค้าซึ่งซูเปอร์ไวเซอร์ของดาเป็นคนสวิส ชื่อ เอเดรียน ดาเรียกว่า “เฮียเอ” ตอนทำงานดาก็เครียดค่ะ มีความรู้สึกเหมือนเป็นตัวแทนประเทศไทยยังไงไม่รู้ ดาอยากทำงานให้ดีเพื่อไม่ให้ทั้งฝรั่งและจีนมาดูถูกคนไทยได้ อย่างน้อยจะได้รู้กันว่าประเทศเล็กๆ อย่างนี้ก็สามารถมีประชากรที่มีคุณภาพได้ โดยเฉพาะคนจีน ดาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนจีนถึงได้รู้จักเมืองไทยแค่ “กระเทย” ทั้งๆที่เมืองไทยมีที่เที่ยวสวยงามตั้งมากมาย เรื่องเกี่ยวกับคนจีนและมุมมองของคนจีนที่มีต่อคนไทย ประเทศไทย ดาขอเก็บไว้เขียนทีหลังแล้วกันค่ะ เดี๋ยวจะยาวเกิน

กลับมาต่อนะคะ ตอนรับดามาทำงานเนี่ยทางบริษัทรู้ว่าดาพูดจีนได้นิดหน่อยซึ่งเค้าก็ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษไปเพราะใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน ไดเรคเตอร์ก็มีคุณเจสสิกา (คนจีนส่วนใหญ่จะมีชื่ออังกฤษเกือบทุกคน) เป็นเลขาซึ่งก็เป็นล่ามให้กับฝรั่งในแผนกและก็แปลเอกสาร พอดีเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไดเรคเตอร์ไปต่างเมืองก็หนีบคุณเจสสิกาไปด้วย ทีนี้บังเอิญว่าเฮียเอต้องไปรับงานออกแบบให้กับหน่วยงานหนึ่ง ดาก็ตามๆไปในฐานะวิศวกรฝึกหัด เค้าก็เข้าไปประชุมกันเรื่องแบบแปลนและก็อะไรต่างๆ ซึ่งดาก็ยืนอยู่ห่างๆ ซักพักเฮียเอก็หันมา “นาริซ้า มาแปลหน่อยซิ ฟังไม่รู้เรื่องเลย” ท่าทางชักไม่ดีซะแล้วล่ะสิ ดาก็เลยคุยภาษาจีนกับวิศวกรของฝ่ายนั้นซึ่งมีกันอยู่ตั้งหลายคนว่ามีใครพอจะพูดอังกฤษได้บ้าง ก็เฮียเอแกรู้ภาษาจีนซะที่ไหนล่ะ นึกไม่ถึงว่าวิศวกรจีนที่มีอยู่ตั้งหลายคนไม่มีใครสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลย ดามารู้ทีหลังค่ะว่าตอนเรียนเนี่ยเค้าใช้ตำหรับตำราเป็นภาษาจีนหมดเลย แล้วในระบบของภาษาจีนนี่จะไม่มีการทับศัพท์เหมือนอย่างกับภาษาไทยค่ะ ตัวอย่างง่ายๆ เลยนะคะ อย่างสไปรท์ ภาษาจีนเรียก “สเวี่ยปี้” ไม่ต้องพูดถึงศัพท์เทคนิคทางวิศวะเลยค่ะ ดาอ่านหนังสือพวกนี้ไม่รู้เรื่องเลยทั้งๆ ที่ดารู้ความหมายของศัพท์แต่ละตัว แต่พอจับมาแปลรวมกันไม่รู้แปลว่าอะไร ก็มารู้ทีหลังอีกแหละว่าหนึ่งในนั้นที่ดาแปลไม่ออกน่ะ คือ ชื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเวอร์ชันภาษาจีน นี่ก็เลยเป็นปัญหาสำหรับต่างชาติในการจะสื่อสารกับคนจีน ดายังนึกขอบคุณที่ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย อาจารย์เลคเชอร์ ใช้ชีทและหนังสือเป็นภาษาอังกฤษหมด ข้อสอบยังเป็นภาษาอังกฤษเลยค่ะ (ตอนนั้นที่หนูนึกเกลียดอาจารย์นักหนาที่เอาภาษาอังกฤษมายัดเยียด ตอนนี้หนูสำนึกแล้วค่ะ ) ทีนี้พอไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้ก็มีอยู่ทางเดียวคือต้องแปลใช่มั้ยคะ ก็ดานี่ล่ะค่ะ โอโห...ดาว่าภาษาอังกฤษของดาเนี่ยไม่ค่อยแข็งแรง แค่พอจะงูๆ ปลาๆ แต่ภาษาจีนนี่เรียกได้ว่าเข้าขั้นโคม่าเลย ตอนแปลจากจีนเป็นอังกฤษน่ะไม่ยากเท่าไหร่เพราะฟังจีนให้พอเข้าใจก็แปลได้ ตรงไหนฟังไม่เข้าใจก็ให้เค้าอธิบายแบบใช้ศัพท์เด็กๆ กัน แต่พอแปลจากอังกฤษเป็นจีนนี่ปวดหัวเลยค่ะ เพราะศัพท์ภาษาจีนที่โรงเรียนสอนให้เด็กต่างชาติน่ะ ไม่มีหรอกพวกศัพท์ประเภทวาล์ว เฟรม ข้องอ90, 45 องศา ก็เลยใช้วาดรูปเอาซะเลย ทุลักทุเลน่าดูแต่ก็จบลงด้วยความโล่งใจอย่างมากของดา เพราะวันนั้นเป็นวันที่ทำเอาดามึนตึ้บไปเลยค่ะ แบบว่าเค้นความรู้กันทั้งสายวิทย์ สายศิลป์

ดาพักอยู่ในตัวเมืองแต่บริษัทที่ดาทำงานอยู่ในเขตอุตสาหกรรมนอกตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ค่ะ ดาต้องนั่งรถบริษัทประมาณชั่วโมงกว่าๆ ระหว่างทางก็เลยถ่ายรูปมาฝากให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ

ตอนเช้าเด็กๆที่นี่ก็ปั่นจักรยานไปโรงเรียน หนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายก็ปั่นจักรยานไปทำงาน ตอนนี้เซี่ยงไฮ้เริ่มหนาวแล้วค่ะ รูปนี้ถ่ายตอน 7 โมงกว่าๆ แต่ท้องฟ้ายังดูมืดๆอยู่เลยค่ะ






บุหรี่ที่นี่ขายกันเป็นล่ำเป็นสันมาก มีร้านสำหรับสิงห์อมควันโดยเฉพาะ เท่าที่ดาเห็นผู้ชายจีนสูบบุหรี่กันเกือบทุกคนก็ว่าได้ บางทีตอนเช้าๆ มารอรถเมลล์ก็สูบกันแล้ว ดาว่าเค้าสามารถกินควันแทนข้าวกันได้แล้วค่ะ






นี่ก็บริษัทที่ดาทำงานอยู่ค่ะ มีธงจีนคู่กะธงสวิสเด่นหราอยู่ข้างหน้า







โต๊ะทำงานของดาค่ะ หัวทองๆ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เฮียเอนั่นเองค่ะ แบบว่าเอาเฮียแกมานั่งประจันหน้ากับดา สงสัยว่าจะกลัวดาแอบอู้







นี่ก็อาหารที่โรงอาหารของบริษัท แถวนั้นน่ะไม่มีพวก 7-11 หรือส้มตำ ไก่ย่างรถเข็นมาให้ซื้อค่ะ (ว่าแล้วก็อยากกินจัง ) ดาน่ะยังกล้ำกลืนได้มั่งกับอาหารรสจีนๆ มันๆ ที่ต้องกินทุกวันๆ แต่เฮียเอแกกินแบบพอประทังชีวิตมากเลยค่ะ บางทีก็กินแต่ข้าวสวยเพราะกับข้าวรสนี้เค้ากินไม่ได้ ดาว่าซักวันแกคงเป็นโรคขาดสารอาหาร







ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจดาในการทำงานมากๆ เลยค่ะ คิดถึงทุกคนค่ะ ขอให้มีความสุขกับวันหยุดนะคะ






Create Date : 19 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2548 6:17:19 น. 10 comments
Counter : 970 Pageviews.

 
แวะมาทักทายค่ะ


อาหารดูน่าทานจังเลยค่ะ
แต่ขึ้นชื่อว่าอาหารจีนแท้ๆแล้ว .....หุหุ ต้องมันจนเลี่ยนแน่เลยค่ะ
แต่คุณดาเก่งจังเลยนะคะสามารถสื่อสารภาษาจีนด้วย


โดย: bamboolerther วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:15:46 น.  

 
กับข้าวหน้าตา แปลกๆ นะค่ะ

คุณดา เก่งจัง ชื่นชม ๆ ค๊า

ฝันดีนะค่ะ สำหรับวันหยุดมีความสุขมากๆ ค่ะ


โดย: loveme_loveu วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:24:49 น.  

 
สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะคุณดา

คุณดาชอบทานอะไรอะคะ
แต่ถ้าเจออาหารจืดๆแบนี้แบมบูว่า ถ้าไม่ต้องการยุ่งยาก ก็ทำพริกน้ำปลา กินกะข้าวสวยร้อนๆถึงกับข้าวจะจืดแต่เจอพริกน้ำปลาบ้านเราก็ อร่อย


โดย: bamboolerther วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:26:04 น.  

 
สู้ๆครับ วิศวกรหญิง

แล้วคุณดามีชื่อแบบฝรั่งด้วยมั้ยครับ

อ่อ ที่ถามไปที่บล็อกพอดีผมเป็นสถาปนิกน่ะครับ


โดย: พ่อน้องโจ IP: 203.156.72.65 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:12:22 น.  

 
วันหยุดนี้ แม่โสม ตั้งใจ เอารูปจาก ชม. ที่เพิ่งไปธุระมา มาโชว์ และเผย ที่เที่ยวเพิ่มจ้า

และอยากลองกล้องใหม่ด้วย

เพราะแค้นกล้องเก่า มันกระด้าง กระเดื่อง

เมื่อวานพอลงเครื่อง ดิ่วไปห้าง ซื้อกล้องใหม่โลดดดดดดดดดดดดดดดด

แต่ยังไม่รู้จะถ่ายไรเลยอ่ะ

ดุรูปที่ถ่ายจาก ชม. ก่อนแล้วกัน

แต่นู่นแหละ เย็นๆๆๆ นะ เพราะตอนนี้ เพลียๆๆๆ


โดย: โสมรัศมี วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:19:03 น.  

 
แวะมาตอบครับ

ครับ เหมือนกัน แม่ผมหรือผมมักจะบ่นรำคาญเจ้าหมาบ่อยๆ แต่จริงๆแล้วก็เอ็นดู เพราะสงสารน่ะครับ อ่อ ผมเป็นสถาปนิกครับ

ท่านวิศวกร เริ่มงานก็สู้ๆนะครับ ยังต้องเจอเสือสิงห์กระทิงแรดอีกเยอะ

ที่จริงในสายงานผมไม่ต้องวาดเก่งมากหรอกครับ เพียงสามารถวาดสื่อตามที่เราคิดได้ให้คนดูรู้เรื่องก็พอแล้วครับ เพราะการที่สามารถวาดหรือเสก๊ตช์ให้ลูกค้าดูได้เนี่ย จะทำมห้เกิดความเข้าใจในงานมากขึ้นครับ อย่างของผมเนี่ย ผมชอบวาดมาตั้งแต่เด็กๆครับ และเป็นคนชอบขีดๆเขียนๆมาก เลยไม่ยากครับ
ไว้แวะมาใหม่นะครับ ไปนอนก่อน วันนี้นอนดึกไปหน่อย เดี๋ยวทำงานไม่ไหวครับ

take careนะครับ


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548 เวลา:3:07:09 น.  

 



โห...ฟังที่เล่าแล้วสุดยอดจริงๆเลยค่ะ
ทำงานต่างบ้าน ต่างภาษาย่อมเจออุปสรรคเป็นธรรมดา
แต่คุณดาก็เก่งมากเลยนะคะ
มาริอาเป็นกำลังใจให้คนหนึ่งค่ะ
เรื่องภาษาจีนนี่ ไม่ยักรู้นะคะ
ว่ามีอาการคล้ายภาษาญี่ปุ่นเหมือนกัน
คือภาษาอังกฤษก็ไปบัญญัติคำอ่านของเค้าซะใหม่
แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลย
อย่างว่าอ่ะนะคะ ประเทศเค้าไม่มีไม่มีตัวสะกดพวกนี้
ฟังที ก็เล่นเอาปวดกระบาลดีแท้






โดย: มาริอา วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:48:27 น.  

 


ดาจ๋าแบมกลับมาแล้วค่ะ

เห็นตำแหน่งดาแล้ว เก่งจังเลยค่ะ

สู้ๆๆๆ

ชอบที่ดาเล่า คราวหน้าเล่าอีกนะคะ


โดย: yadegari วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:53:49 น.  

 
เก็บตังส์นะดา แล้วมาเที่ยว ลอนดอนสวยๆค่ะ

คิดถึงๆๆ
ดาก็รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: yadegari วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:3:06:29 น.  

 
อ่านแล้ว อึ้ง+ทึ่ง ถ้าเป็นเราชั่วโมงนั้นคงหัวเบิดไป 3 รอบครึ่ง...555 ยังไงก็สู้ๆ ละกันนะ จะเอาใจช่วย ว่าแต่ช่วงนี้อากาศที่นั่นเป็นไงบ้างเอ่ย

ปล. ปีหน้าได้ข่าวว่าเฮียแกจะไปเปิด concert ที่จีน ไม่รู้ว่าจะไปแถวที่ดาอยู่รึเปล่านะ ถ้ามีจริงก็แวะไปดูเฮียแกหน่อยหล่ะ


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 3 ธันวาคม 2548 เวลา:18:57:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

lisalee
Location :
Shanghai China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




~~Shanghai Time~~

Friends' blogs
[Add lisalee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.