อาการหนักกว่าเมืองไทยอีกนะคะ
ที่ว่าเจริญนี่คงเป็นพวกเทคโนโลยี บลาๆ
อ่านไปก้อเครียดแทนอ่ะค่ะ

ใช่ค่ะ เค้าเน้นสร้างนู่นสร้างนี่เพื่อดึงให้ต่างชาติมาลงทุน

แต่คน(ส่วนใหญ่) ยังไม่มีมารยาทสากล

มันเป็นผลต่อเนื่องของ วัฒนธรรม ของแต่ละประเทศฯครับ สิ่งเหล่านี้ บางทีมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องทำใจให้ยอมรับมัน ไม่อย่างนั้นความเครียดจากสิ่งที่เรารับไม่ได้นั้น จะส่งผลเสียต่อตัวคุณเองครับ... รักษาสุขภาพ และ ทำใจ และ ปลงให้มากๆครับอาจจะช่วยได้

ผมอยู่เมืองจีนมารวมๆ กันได้ 4 เดือนแล้ว

คนจีนที่นี่เคยพาไปทะเลที่มันว่าสวย แถวๆ เสินเจิ้น

โธ่เอ้ย ก็แค่บางแสนบ้านเรานั่นแหล่ะ

อย่าไปหวังเชียวว่ามันจะฟ้าครามทะเลเขียวอย่างกระบี่บ้านเรา

...คุณwbj ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ พยาย๊าม พยายามทุกๆ วันที่จะมองข้ามมันไปบ้าง

...คุณmichael ทะเลไทยนี่ที่สุดแล้วเนอะ

เคยอยู่ซัก10วัน ที่เล่ามาใช่เลย..แล้วส้วมก็ตุ๊เรด แล้วเวลาเข้าสาวๆก็ไม่ชอบปิดประตูด้วย กาแฟเย็นmister donut แถวๆโรงแรมก็ จืดสนิท ไม่เหมือนบ้านเราเลย...

#6 ช่ายแร้วค่า สาวๆที่นี่เค้าไม่นิยมปิดประตูค่ะ แบบว่ามีดีขอโชว์

เพื่อนไปห้างกลับมาเล่าให้ฟังว่าไปเข้าห้องน้ำในห้าง คนนึงทำธุระอยู่ในห้องน้ำ (ไม่รู้ว่าหนักหรือเบาเพื่อนไม่ได้บอก) ไม่ปิดประตู ทำธุระไปคุยไปกับเพื่อนเค้าที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ แบบหันหน้าคุยกันเป็นที่หนุกหนาน ครื้นเครง พอเสร็จก็ออกมา (ไม่ได้กดน้ำนะค้า) ให้อีกคนเข้าไปใช้ต่อ แล้วก็ยังจ้องหน้าคุยกันต่อจนเสร็จธุระอ่ะ

เพื่อนเรามันยืนเหวอเลย

#7 สุขสันต์วันสงกรานต์เช่นกันค่ะ

ตามมาอ่านค่ะ
ตอนนี้อยู่ปักกิ่งค่ะ
เรียนอยู่ เลยไม่ค่อยได้อะไรกะคนจีนแบบตรงๆมาก

แต่อยู่นี่คงต้องทำใจอย่างเดียวค่ะ
ที่น่ากลัวคือกลัวติดนิสัยคนจีนมา แบบว่าซึมซับๆ อย่างพูดเสียงดัง กระชากเสียงอะไรอย่างนี้

เรื่องชาร์จพลังขากเสลด คงต้องทำใจอีกเหมือนกันค่ะ เป็นวัฒนธรรมแห่งชาติไปละมั้ง

คุณPADAPA--DOO ตอนเรียนจะไม่ค่อยได้เจอคนจีนซักเท่าไหร่นะ เจอในมหาลัยบ้างซึ่งเค้าก็ไม่มายุ่งกะเด็กต่างชาติอยู่แล้ว เว้นแต่เพื่อประโยชน์บางอย่าง เช่น สอนจีนแลกกับภาษาญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ ตอนที่ดาเรียนนี่เรียนกันคนละตึกกับเด็กจีนเลยด้วยซ้ำ

ที่บ้านก็คอยเตือนค่ะว่ากลับมา อย่า เอานิสัยคนจีนมานะรับไม่ได้
แล้วก็ห้ามมีแฟนเป็นคนจีนเด็ดขาด ไม่งั้นตัดพ่อตัดลูก (ไม่ห้ามก็ไม่คิดจะเอาอยู่แล้วค่า)

เราเคยไปเรียนภาษาอยู่ที่ปักกิ่ง 1 ปี เราเจอเหมือนที่คุณเจอเปี๊ยบเลย ไม่ว่าจะเรื่องขากถุย ตามท้องถนน หรือ หนุ่มสาวจีน แสดงความรักกันแบบดูดดื่ม แบบไม่อายสายตาใคร บอกได้เลยว่า พวกฝรั่งชิดซ้ายไปเลยล่ะ ยิ่งตามสวนสาธารณะนะ อย่าให้พูดเลย ฝรั่งอายอ่ะ แล้วก็เรื่องอื่นๆ ที่คุณเล่ามาอีก สงสัยว่าจะเป็นกันทั้งประเทศ

เราเคยขี่จักรยานตามหลังคนจีน แล้วเค้าก็ถุยน้ำลาย แล้วคุณคิดดูดิ ขี่จักรยานอยู่ แล้วลมมันก็พัดไปข้างหลัง เราอยู่ข้างหลัง จ๊ากกกกกกก เรารู้สึกว่าเหมือนมีน้ำอะไรสักอย่างมาโดนหน้าเรา เรารีบจอดจักรยาน แล้วก็รีบควักน้ำที่เราพกติดตัว ล้างอย่างรวดเร็ว สยองมาก ๆ ขอบอก....
บางทีเดินๆ อยู่ก็ได้ยินเสียงขากอยู่ใกล้ๆ เราหันขวับเลย พร้อมกับพูดกับเพื่อนคนไทยที่เดินอยู่ด้วยกันว่า "อย่านะว๊อยยย อย่าถุยมาโดนฉันนะยะ" โอ้วววว สยองสุด ๆ อยู่ไปนานก็เริ่มชินค่ะ 55555

คุณmoonlit_memory หัวอกเดียวกันเลยค่า อยู่ยังไงได้ตั้งปีไม่เครียดแย่เหรอเนี่ย

คิดถึงค่ะ เลยแวะเข้ามาหา
ว่าจะเข้ามาหลายวันแล้ว
ประจวบเหมาะกับเข้าไปเห็นในเวบพันทิบ
นึกในใจว่าต้องใช่น้องดาแน่เลย

เห็นบ่นเป็นหมีกินผึ้งเลย ฮิฮิ

หวังว่างานคงราบรื่นนะคะ

ส่วนเรื่องที่ระบายก็ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน
แค่นึกถึงตอนที่พวกคนจีน(ตะโกน)คุยกัน
ก็เครียดสุดๆแล้วอ่ะ

ถ้าผู้ชายเป็นแบบคนจีนทั้งโลก
ชาตินี้ยอมขึ้นคานดีกว่าเนอะ :)

พี่น้ำผึ้งอ่ะป่าวค้า หวัดดีค่า ไม่ได้เจอซะนาน งานของดาราบรื่นดีค่ะ แต่สภาพจิตใจกำลังตกต่ำ ขอคนรักษาด่วนๆ ค่า (น่าน...)
ขอชายไทยเท่านั้นนะค้า ไม่หล่อ ไม่รวย ไม่เป็นไรค่า

ยังไงก็ดีกว่าที่เห็นแถวๆ นี้

เพิ่งกลับมาจากเซี่ยงไฮ้เมื่อวานนี้เหมือนกัน ผมไปอยู่ครั้งละไม่นาน ประมาณวันสองวันก็กลับ แต่ก็พอได้เห็นลักษณะพิเศษของคนจีนอย่างที่บอกมาทั้งหมดได้เลยครับ ว่าเป็นจริงตามนั้น

แต่ถ้าให้ดี ถ้าอยากอยู่ที่นั่นอย่างมีความสุข ต้องทำใจล่ะครับ

หูย...ท่าทางคุณดาจะเครียดจริง ๆ
ระบายมาซะยาวเลย...
มันก็น่าเครียดจริง ๆ นะคะ
เป็นปุ้ย ร้องให้กลับบ้านแน่เลย
ที่คุณดาเล่ามา เห็นภาพหมดทุกอย่าง
ขนาดปุ้ยเคยไปแค่เซินเจิ้น
ไปเที่ยวแค่ 2 วัน ขนลุกเป็นพักๆ
กับเรื่อง ขาก ๆ ถุย ๆ
ห้องน้ำก็น่าขนลุก
ในร้านอาหาร ก็อย่างที่คุณดาว่ามาเปี๊ยบ
กินแล้วคายของวางบนโต๊ะซะงั้น

อีกอย่างสาวจีน หน้าสวย ๆ หุ่นงาม ๆ
นางไม่ถอนขนจั๊กกะแร้..
โอ้ว...มายกอด เพื่อนเราผู้ชายที่ไปด้วยกัน
มันบอก ตูไม่จีบสาวจีนเด็ดขาดเลยชาตินี้...

กลับบ้านเรา..รักรออยู่
เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ

เอางี้ดิคะ
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
เขาขากมา เราขากกลับ
เขาถุยมา เราถุยกลับ
เขาชนมา เราชนกลับ
เขาเหม็นมา เราเหม็นกลับ
กล้าทำรึเปล่าจ๊ะ ฮิฮิ


ปัญหามันอยู่ตรงที่เขาไม่รู้สึกรังเกียจเหมือนที่เรารู้สึกน่ะสิเนอะ

ปล.ถ้าหาคนรักษาได้หลายคนก็แบ่งมาให้พี่มั่งแล้วกันนะค๊า (เอาเฉพาะหล่อรวยนะจ๊ะ)

I went to china last year. It was so beaytiful country,but people are so nasty. I really agree with your artical.The only things that I like are food and shopping.

สวัสดีคะ
เราอยู่ฮ่องกงมา 2 ปี เราก็รับไม่ได้กับมารยาทของคนที่นี่แล้วอะคะ ไม่ว่าจะทานข้าวเสียงดัง พูดจาโฉงฉาง..สูบบุหรี่จัดมาก...สามีเราเคยบอกที่เมืองจีนยิ่งกว่าฮ่องกงอีกเราไม่เคยเชื่อเค้า เพราะเราไม่เคยไปจีน แต่วันนี้เข้ามมาอ่านบลองของคุณดา..ฮ่องกงที่ว่าแย่แล้วยังไม่เท่าครึ่งของจีนเลย..แต่เราก็ทนอยู่ที่ฮ่องกงไม่ได้อยู่ดี
นี่ก็เตรียมแพคของกลับไปอยู่ไทยเดือนหน้าเหมือนกัน
มาอยู่ที่นี่ 2 ปี ทำให้รักเมืองไทยขึ้นเยอะเลยคะ...

หวัดดีค่า เห็นกระทู้ในพันทิปเลยแวะมาอ่าน เคยแต่ไปเที่ยวปักกิ่งไม่กี่วันค่ะ แต่ก็เจอปัญหา้ห้องน้ำแล้วรับไม่ค่อยได้อ้ะค่ะ แต่ไม่เคยทราบว่าเขาจะเป็นกันซะขนาดนี้

แต่ถ้าคุณจขบ. ชอบงานที่ทำอยู่จริงๆคงต้องทำใจหน่อยนะคะ เอาใจช่วยนะคะ

จะบอกว่าไม่ใช่แค่เมืองจีนเองหรอกครับ
เพื่อนผมไปเรีนที่ญี่ปุ่น เจอคนจีนที่เรียนอยู่ที่นู่น ก็ซกมก+ทุเรสแบบที่คุณเล่ามาเลยแหล่ะครับ
มันเล่าแถมด้วยว่า คนจีน(จีนแท้ ๆ จากแผ่นดินใหญ่เลยนะ) งก เห็นแก่ตัว และ ตอแหล ที่ 1

แวะมาฟังคนบ่นด้วยคนค่า

เราไปเที่ยวจีนมา 10 วัน เห็นเหมือนที่คุณเล่าทุกประการ
แต่เราไม่นึกว่าในเมืองใหญ่จะเป็นแฮะ

เราโชคดี็เจอคนจีนที่ manner ดีๆบ้างเหมือนกัน
หนึ่งในนั้นก็ทำงานอยู่ที่เซี่ยงไฮ้

เอาใจช่วยให้คุณเจอคนดีๆบ้างละกันนะคะ
จะได้ไม่เครียดค่าาา

เป็นตึงหนั่งเกี้ยคนนึงค่ะ อากงอาม่ามาจากแผ่นดินใหญ่
ปาป๊ามาม้าไปเมืองจีนกลับมาทีไรก็บ่นให้ฟังทุกที ยิ่งดิสนีย์แลนด์ที่ฮ่องกงใครไปกลับมานี่บ่นทุกราย คนจีนยังงั้นคนจีนยังงี้ ทั้งขากถุย ทั้งบุหรี่
ฟังแล้วก็ขำๆว่าไอ้คนบ่นมันก็อาตี๋อาหมวยเหมือนกันนะนั่น
แต่เราก็รับไม่ได้เหมือนกัน เคยมีเพื่อนเป็นไต้หวันแต่เค้าโตเมืองนอกอะนะ เค้าก็บอกว่ารับไม่ค่อยได้เหมือนกัน วัยรุ่นบางคนเคี้ยวหมากด้วยนะ บ้วนกันปรี้ดๆตามถนนนี่แหละ น่าสยองมากๆ

มาเสริมนิดนึงเรื่องฮ่องกง
ที่ฮ่องกงเรียกว่าดีกว่าแผ่นดินใหญ่เยอะมากจริงๆค่ะ อย่างน้อยความเคยชินจากกฎระเบียบจากที่เคยเป็นเมืองขึ้นก็ยังช่วยไว้เยอะอะค่ะ แต่เรื่องมารยาทต้องทำใจอะค่ะ คนรุ่นใหม่ๆของเค้าที่ไปสัมผัสเมืองนอกเมืองนามานานๆก็ไม่ค่อยเป็นแล้วมั้งคะ แต่เรื่องซกมกนี่ไม่แน่ใจนะ เพราะรูมเมทเราเป็นสาวสวยชาวฮ่องกง แต่ซกมกมากๆๆๆๆๆค่ะ ถึงนิสัยเธอจะดีจริงใจก็เหอะ แต่ซกมกมากๆแล้วเราต้องคอยตามเก็บให้ก็ทะเลาะกันแทบทุกวันเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ต่างคนต่างกลับบ้าน แยกกันอยู่แล้วก็กลับมารักกันเหมือนเดิมค่ะ แฮ่ๆ ถ้ายังอยู่ด้วยกันนี่ไม่รู้จะฆ่ากันตายไปยัง

ผมรู้ว่าคุณคงรันทดมาก อย่า
ว่าผมนะครับ ช่วยเล่าให้ฟังอีก
นะ สนุกดี ได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้
ในต่างแดน ( คนอะไรไม่ช่วย
แล้วยังมาบอกว่าสนุก ) นั่ง
อ่านไปขำไป ขอโทษจริงๆนะ
ครับ

โอ้โห อ่านแล้วเห็นใจจังเลยค่ะ แต่เด๋วก้อได้กลับไทยแล้วนะคะ สู้ๆนะ

สงสารคุณดาจัง ไม่รู้จะปลอบยังไง
ตักตวงความรู้เข้าไว้ เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้วค่ะ โ่อ่โอ๊..

โหยย ทนได้ไง เก่งแล้วนะคับนั่น
แค่ผมเจอนักเรียนจีนที่ ออสเตรเลียนี่ ก็ว่าไม่ไหวแล้ว คุณต้องเจอเป็นพันๆ คน ทุกวัน ฮึ่ย นึกแล้วสยองอ่ะ
ถ้ายังรักจะทำงานและเรียนภาษาอยู่ก็คงต้องทำใจหละคับ

จะไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้เดือนหน้าด้วย

อ่านแล้วไม่อยากไปเลยยยย

เป็นอาตี๋เหมือนกัน แต่ว่า ไปจีนแล้วเกิดอาการไม่รักชาติ(จีน)ขึ้นมาอย่างรุนแรง...


เซี่ยงไฮ้ที่เจริญมีแต่ตึกหรือเปล่า คนกับของที่ขายก็ธรรมดานี่นา? หรือผมไปไม่ถูกแหล่งเองก็ไม่รู้

โหย.. ไม่อยากเชื่อเลยว่าขนาดที่เซี่ยงไฮ้ก็ยังเป็นอย่างนี้..

เราอยู่ที่ไต้หวันอ้ะ.. ก็รู้สึกว่าโอเค.. ไม่มีขาก ไม่ซกมกเท่าไหร่.. ห้องน้ำก็สะอาดดี

แล้วเราต้องบินไปฮ่องกงบ่อยๆ เพราะแฟนเป็นคนฮ่องกง.. เราว่าฮ่องกงก็โอเคนะ.. บ้านเมืองสะอาดเรียบร้อยดี.. แต่เรื่องบุหรี่นี่.. ต้องทำใจจริงๆ.. ไม่เข้าใจว่าจะสูบอะไรกันขนาดนั้น

เราว่า.. เพื่อสุขภาพจิต.. กลับมาทำงานเมืองไทยเหอะ.. ลองได้ภาษาจีนกลับมาด้วย น่าจะหางานดีๆ ทำได้ง่าย..

ช่ายๆๆๆเมืองไทยดีก่าเยอะ...โอ้แม่เจ้า ครายเน้อะช่างกล้าพูดว่าหรูพอๆกะนิวยอร์ค ลอนดอน...ช่างกล้าเน้อะ...ช้านว่านะสีลมเรายังเจริญก่าเซี้ยงไฮ้อีกนี่แค่เขตๆเดียวของเรานะ...ม้ะน่าเอาเมืองของเค้ามาประจานเลยอ่านะ...ถามเค้าหน่อยละกันว่าเคยปายทะเลบ้านเค้ามั้ยอ่านะ...ว่าสวยอย่างที่พูดมั้ยอ่า...ฟังแล้วเซ็งเลย...สิ้นเดือนกะจาปายจีนนะ...ยกเลิกห้ายหมดม้ะปายแย้ว...เซ็งๆๆเจองี้อ่า

ตอนนี้พักอยู่เซี่ยงไฮ้ มาเยี่ยมหลาน

อ่านเรื่องคุณแล้ว ไม่เห็นเหมือนกับที่เจอตอนนี้ คุณอยู่ย่านไหนค่ะ

ขอให้โชคดีและสนุกกับชีวิตต่างแดนนะ

เมืองจีน มีดีแค่หมวยๆอ่ะครับ

ปากเหม็นๆก็ไม่เอานะ

....คุณlovesick ก็คงต้องทำใจอย่างเดียวล่ะค่ะ เพราะว่าเราคงไปเปลี่ยนแปลงเค้าไม่ได้อยู่แล้ว

....คุณปุ้ย ผู้หญิงที่นี่ไม่ค่อยถอนขนจั๊กกะแร้จริงค่ะ หน้าหนาวยังพอเข้าใจว่ามันใส่เสื้อผ้าปิดหมด แต่ช่วงหน้าร้อนสาวๆ ที่นี่นิยมใส่สายเดี่ยวมั่ง ไร้สายมั่งแต่ก็ยังเก็บขนจั๊กกะแร้ไว้อ่ะ

....พี่น้ำผึ้ง ระบบตาต่อตาของพี่น่ะ คงเป็นดาอ่ะค่ะที่จะทนตัวเองไม่ได้

....คุณJany อาหารที่นี่อร่อยค่ะ แต่กินบ่อยๆ ระวังไขมันจุกอก


.....คุณI hate HK เห็นด้วยมากๆ ว่าออกมาแล้วรู้สึกรักประเทศไทยมากมายเลยค่ะ


.....คุณconvallaria majalis ขอบคุณค่ะ


....คุณenishi ใช่ค่ะ เพื่อนดาที่เรียนอยู่ไม่ว่าจะอเมริกา อังกฤษ เล่าว่าคนจีนที่เจอที่นู่น ขนาดว่าเป็นจีนระดับไฮโซนะ ยังซกมก งก เห็นแก่ตัวเลย

.....คุณซัดดัม คนจีนที่กริยาดี (หน่อย) ก็มีค่ะ แต่น้อย


.....คุณAlly เหอๆๆๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่มาเที่ยวจีนบ่อยไม๊อ่ะคะ คือ ถ้าเจอแป๊บๆ มันก็หนุกดีนะ แบบว่าเอาไว้เมาท์มันๆ ของดานี่ไม่รู้จะไปเมาท์กะใคร เลยมาเมาท์ให้คนในนี้ฟังดีก่า ร่วมด้วยช่วยกันเมาท์


....คุณสนประดับไฟ ดีจังมีคนชอบฟังคนบ่นแฮะ ขอเวลาไปเขียนตอนหน้าก่อนนะคะ โพสต์เมื่อไหร่อย่าลืมแวะมาอ่านนะคร้า...


....คุณ"ฉัน" ขอบคุณมากๆ ค่า


....คุณลูกแม่ดอกบัว ขอบคุณอีกเช่นกันค่ะ ดานั่งนับทุกวันเลยว่าเหลืออีกกี่วันๆ


....คุณเต้ ไม่ได้เก่งหรอกค่ะ แต่.....มานม่ายมีทางเลือกง่า ทำไงได้ล่ะ อดทนไว้ๆๆ ให้มันรู้กันไปว่าเจ๊กจะสู้จีนไม่ได้ ว่ะฮ่ะฮ่ะ.....บ้าไปแล้วครับท่าน


.....คุณเด็กปี2 มันไม่น่ากลัวมากหรอกค่ะ เจอเองได้ฟีลลิ่งกว่ากันเยอะค่ะ


.....คุณ dont wanna no ประมาณเดียวกันเลยค่ะ เซ็งจิต


.....คุณสะใภ้ฮ่องกง ก็คิดอยู่ค่ะว่าอาจกลับไปทำที่ไทย ตอนนี้กำลังรอดูโอกาสอยู่อ่ะค่ะ


.....คุณAmi จะมาเรียนที่จีนหรือจะมาเที่ยวอ่ะคะ



.....คุณป้าเจนนี่ นั่นจิค่ะ ดาอยากรู้ว่าคุณป้าเจนนี่พักที่ไหนน่ะ ในย่านไฮโซของเซี่ยงไฮ้ป่าวค่ะ เพราะที่ดาเล่ามานี่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปเลยค่ะ หรือถ้าแถวที่บ้านหาดูไม่ได้นะดาแนะนำค่ะ นั่งsubway สาย1 ก็ได้ค่ะ หรือไปเดินตลาดเซียงหยางก็ได้เจอแล้วค่ะ

อ้อ....ดาพักอยู่ทางด้านใต้ของเซี่ยงไฮ้ค่ะ ต้องนั่งไอ้เจ้าสาย1 เนี่ยแหละไปทำงาน



....คุณศาสตร์ แหม...เน้นแต่สาวๆ อย่างเดียวเลยนะคะ

เห็นใจจริงๆ เพราะเคยไปทำงานอยู่ 2 รอบ แทบทนไม่ได้ เป็นเมืองที่เที่ยวได้ แต่อยู่ไม่ไหวสำหรับคนไทยพื้นๆอย่างเรา แต่ที่นั่นช่องว่างสำหรับคนไทยไปกอบโกยผมว่ายังมีอีกเยอะ เรื่องจาก
1. ภาษา ทั่วไปที่นั่นไม่ยอมรับภาษาอื่น
2. รอบรู้ ที่นั่นคนเก่งมี แต่น้อยมากๆเมื่อเที่ยบกับจำนวนคน

ลป.1 ลป.2 มันคืออะไร
สับสนกับ ปล. (ปัจฉิมลิขิต)ละมัง
อ่านเรื่องคุณแล้วสนุกดีครับ ผมก็เคยไปทำงานอยู่ในประเทศอยู่ในระบอบสังคมนิยมมาก่อนเช่นคุณ ก็เหมือนกันคือคนที่นั้นเหม็นปาก กลิ่นตัว ทิ้งขยะไม่เลือกที่ เคยเจอบ้วนน้ำลายใส่หน้า 2ครั้ง (กำลังขี่มอเตอร์ไซด์ คนขับคันที่อยู่ข้างหน้ามันถุยออกมา เราขับตามเลยโดน )
แต่ที่ฮานอย โดยรวมคนที่นี้สะอาดและมีระเบียบ
โชคดีนะครับ

อยู่มาสองปีไม่เคยๆๆๆเลยที่จะชื่นชม
เมืองจีนค่ะ เห็นด้วยกะคุณเจ้าของกระทู้
หลังไมค์ได้ไหมคะ
login : BFR
หลังไมค์มาแล้วเดี๋ยวคุยกันค่ะ
เราอยู่ฝั่งผู่ตง ตอนนี้เพิ่งไปเรียนภาษาจีนที่่เจียวทง

ลืมบอกไปค่ะว่าให้หลังไมค์ที่พันทิืพ
ไม่งั้นคุณเจ้าของบลอกเช็คที่กล่องหลังไมค์
เดี๋ยวส่งเมลไปให้ค่ะ

.....คุณครูแสง ขอโต๊ดค่า ตกภาษาไทย ขอบคุณที่เตือนค่ะ พิมพ์สลับกัน แหะๆ


....คุณเบญ วันนี้ได้เมาท์ซะน้ำลาย (ดา) แตกฟอง เดือนหน้าเจอกันค่ะ

อิจฉาคนมีแฟนจังวุ้ย...แง่มๆๆ ล้อเล่นค่า

คุณป.กองปราบ เห็นด้วยค่ะว่ามาเที่ยวดี แต่ไม่เหมาะจะอยู่นานๆ

ดาเอ๊ย...อ่านแล้วไม่รุ้จะสงสารรึจะขำก่อนดีอ่ะ...

ตลกตอนที่ดาบอกเรื่องกินอ้อยอ่ะ งั้นขี่จักรยานที่โน่นก็ต้องระวังอ้อนสินะ..

เห็นใจมั่กๆ เราก็ว่าเมืองไทยเนี่ยดีที่สุด ต่อให้ไปบ้านเมืองไหนที่เจริญกว่าเรา...เราก็คิดถึงบ้านอยู่ดีนะ...

ว่าแต่ปีนี้ยังไม่มีโครงการกลับไทยที่แน่นอนเหรอ อยากนัดเจอจัง...

แวะมาเยี่ยม
เคยไปเมืองจีนเหมือนกัน

คนจีนปากเหม็นมากๆ เวลาคุยกันขอ ยืนห่าง อย่างน้อย สักเมตรหนึ่ง

ไม่ชอบอีกเรื่องก็เรื่องการทิ้งขยะ นั่งในรถแท๊กซี่ เปิดหน้าต่างทิ้งกระดาษทิชชู ก้นบุหรี่กันง่ายๆเลย แถมบางคนบ้วนน้ำลายออกนอกรถแบบไม่เกรงใจเลยว่าจะกระเด็นไปโดนใครมัง

อ่านแล้วก็อึ้งครับ เหมือนที่เพื่อนผมเองก็บอกตอนไปเซี่ยงไฮ้ครับว่าคนที่นี่ไม่มีมารยาทเลย ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ


ผมเองตอนไปอเมริกาก็เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่มีมารยาทมากๆครับ ขนาดผมด่าเนี่ยยังนั่งเฉย สงสัยฟังไม่ออกมั้ง


กลุ้มแทนคุณดาเลย ผมไม่ชอบมากๆเลยคนที่มักง่ายและเห็นแก่ตัวแบบนี้ครับ เพราะมันจะนำไปสู่นิสัยแย่ๆอีกหลายๆอย่างเลย


เมืองเค้าอาจจะดูเจริญแต่เป็นแค่เปลือกครับ จิตใจคนไม่ได้เจริญไปด้วยหรอก สะใจที่คุณดาตอบกลับเรื่องกระเทยจริงๆ เหอๆๆ


สวัสดีปีใหม่ไทยย้อนหลังนะครับคุณดา


ไม่รุจะเเนะนำยังไงเรื่องเครียดครับ เพราะตอนนี้ผมเองก็สุดๆเหมือนกัน เครียดมาก ตอนนี้ยายยังมาเข้าโรงพยบาลไปอีกคน เพิ่งผ่าตัดเมื่อคืนนี่เองครับ ช่วงนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ ไม่หยุดหย่อนเลย

เข้าใจดาเลยค่ะ คนจีนเนี่ยเป็นที่เลื่องลือค่ะ ดา

คิดถึงดานะคะ

ดาสบายใจหรือยังจ๊ะ

ระบายรุ้สึกดีขึ้นมั๊ยคะ คุณดา
ขี่จักรยานระวังๆ หน่อยนะคะ

Khun Da ka,
i am one who dont have any idea to go China, but my Mama often go there and she said China is very Big country only 1 2 or 3 trips couldnt discover China land, i suggested Mama you better try Western Contries and she agreed and been to many Contries already but still came back to visit China as been to Temples there on Songkran Holiday in Thailand, i dont know what other people idea but for me Chinese guys look not handsome.....and smell as Khun said so naka..
I fancy Thaichinese like myself and Western guys as now i am living in Switzerland but can say Thailand is the best in the world for me.. Take care na ka..Sherry

มาให้กำลังใจค่ะ

ไม่ได้แวะมา blog น้องดานานแล้ว วันนี้เข้ามา่อ่าน นั่งขำแทบตาย เล่าซะเห็นภาพชัดเจนเลยนะ

แวะมาเยี่ยมคุณดาครับ เป็นยังไงมั่งเนี่ย เรื่องคลี่คลายบ้างรึยังครับ พวกคนที่น่ารำคาญๆยังมาป่วนให้ไม่สบายใจอีกมั้ยครับ

สวัสดีทุกคนค่า ดากลับมาจากไทยแล้วค่ะ กลับมาปุ๊ปก็รีบปั่นงานเหยงๆ เลยไม่มีเวลามาอัพบล็อก แต่จะพยายาม (หนีนาย) ไปเยี่ยมบล็อกเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นะคะ

จูบกันอย่างกะฮ่องกงแน่ะ...

รถเมล์คนแน่นจริงๆครับ.. เฟิร์ม...

ได้ข่าวว่าตลาดเซี่ยงหยางจะปิดแล้วเหรอครับ... น่าเสียดายจังเรย...

คุณดามีความสุขมากๆนะครับ... สู้ๆ

ทำไมคนจีนที่เรารู้จักในไทยไม่ค่อยเป็นแบบนั้นหว่า หรือเพราะเราดูแต่บ้านตัวเองเลยแยกไม่ค่อยออก งงๆ

เราเป็นคนจีนอะ แต่ไม่เคยทำอย่างนั้นเลยนะจ๊ะ แถมคนที่บ้านก็ไม่ทำ

เกี่ยวปะหว่า?แล้วแต่ระดับสังคมด้วย
(ไม่ได้ดุถูกเรื่องชนชั้นคนที่นู่นนะ)

[b]แต่การวางตัวของคนจีนที่นู่นกับบ้านเราคงไม่เหมือนๆกันแหงๆเลย[/b]

ตอนไปฮ่องกงกับเมืองจีน เราก็เจอแนวๆนี้เหมือนกัน ละยังเจอคนคุ้ยขยะกินกลางเมืองที่จีนเลยอะ ตอนเห็นก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีแบบนั้นด้วย

In Shenzhen same atmosphere krub lucky!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!hahahahahaha. Shenzhen beach & sea like TALAY Bangkhuntian krub (ohhh no may b Bangkhuntian better na) I miss u,THAILAND

จิงหรอ..ผ่านมาก้เลยเข้ามาอ่าน..
คนจีนเป็นไงก็ชั่งเห่อ..แต่เธอเป็นเธอ
ก็พอและ..รักน่ะ..อิอิ

มีเพื่อนเป็นคนจีนนะ แต่ดูเค้าสุภาพมากเลย เหมือนเค้ากำลังจะจีบเรานะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเค้าคิดยังงัยกับผู้หญิงไทย เค้าจะชอบผู้หญิงไทยรึเปล่าเราจะงเกตได้ยังงัย ชวยบอกหน่อยได้ไหม คือเรารู้สึกว่าเราชอบเค้ามากนะ อยากให้เค้ามาเป็นแฟนจิงๆ แต่ไม่รู้จะเร่มต้นยังงัย เค้าก็บอกว่าชอบเรานะแต่เค้าไม่ค่อยมีเวลาให้เราเลยนะ ก็เลยเดาใจไม่ถูกว่าจีบเล่นหรือจิงจังนำ

เพิ่งไปเซี่ยงไฮ้มาค่ะ...ไม่ค่อยชอบ..เพราะเรื่อง..อะไรถุยๆนี่แหละ(ไม่อยากเล่า อิอิ...เดี๋ยวกินข้าวไม่ได้)

แต่ชอบที่เซี๊ยะเหมินมากกว่า...ผู้คนน่ารักดีค่ะ....ไม่วุ่นวายด้วย...ธรรมชาติและอากาศก้อดีด้วยค่ะ

ขอเมลพี่ดาได้มั๊ยคะ

อยากคุยด้วยค่ะ

ตอนนี้เรียนอยุ่ที่จีนค่า

อัดอั้นเหมือนกันค่า

ถ้าไม่อยากอยู่เมืองจีนก็ไปใต้หวันสิครับ อาจจะเชื้อสายเดียวกันแต่มารยาทคนละแบบเลย พูดกันเบาๆ ไม่ค่อยสูบบุหรี่ สะอาดด้วย คนก้ไม่ค่อยหนาแน่น การจราจรดี แล้วก้ช้ภาษาจีนกลางเหมือนกันด้วย แนะนให้ไปอยู่เลยครับ

อยู่เซี่ยงไฮ้มาก็หลายเดือนแล้ว ค่ะก็เจอบ่อยพวกถุยน้ำลาย รถติดอะไรหลายๆอย่างแต่เท่าที่เจอก็ไม่ขนาดที่เล่ามานะค่ะ แต่ฉากเลิฟซีน เจอบ่อยจัดค่ะ หึๆ

ตอนนี้อยู่เซี่ยงไฮ้ อยากได้งานทำอ่ะค่ะ


แต่ไม่รู้จะไปหาที่ไหน พอดีตอนนี้ปิดเทอม พอจะแนะนำให้ได้ไหมคะ

สวัสดีค่ะ ได้เข้ามาิ่านบล็อกแล้วเกิดความรู้สึกอยากจะระบายเหมือนกันค่ะ หนูมาเป็นนศ.ต่างชาติที่ญี่ปุ่นค่ะ แล้วมาอยู่หอพักเดียวกะคนจีนคนนึง แต่คนละห้องนะคะ ถ้าห้องเดียวกัน ป่านนี้หนูขอบายกลับไทยแล้วค่ะ จากที่อ่านมา ส่วนใหญ่ตรงมากๆเลยค่ะ ที่เห็นเด่นชัดคือ สกปรก ไม่ชอบอาบน้ำ เ คยแห้อบสังกตด้วยว่าอาทิตย์นึงจะอาบน้ำกี่หน สรุปคือประมาณหนึ่งถึงสองครั้ง แล้วเวลาเจ๊เข้าห้องน้ำ พอกดชักโครกแล้วเจ๊แกก็จะช่วยกรุณาเช็คให้แน่ใจก่อนก็ไม่ได้ว่าสิ่งที่เจ๊แกระบายออกมาน่ะ มันหมดจดหมดคราบจากชักโครกรึยัง พอหนูไปเข้าต่อก็นั่งไม่ลงเลยค่ะ แต่ที่สำคัญคือ ถ้าเวลาเจ๊ทิ้งคราบสกปรกไว้ หนูต้องคอยทำความสะอาดคอยเช็ดให้เจ๊แกบ่อยๆ เพราะว่าเจ้าของหอเป็นคนญี่ปุ่น แล้วทั้งหอมีหนูที่เป็นคนไทย กะเจ๊แกที่เป็นคนจีนแค่สองคน ถ้าคนดูแลหอมาเห็นความสกปรก เค้าก็ต้องว่าแล้วว่า ไม่เด็กจีนก็ไทยเนี่ยแหละที่มันทำสกปรกอย่างนี้ เลยเกิดความรู้สึกไม่อยากให้ต่างชาติมาว่าเราอ่ะค่ะว่าคนไทย ทำไมมันซกมกอย่างนี้นะ ถ้าจะโดนว่าว่าซกมกขอเป็นคนชาติเดียวกันว่าดีกว่าค่ะ อย่าให้ต่างชาติมาว่าเลย ด้วยเหตุนี้ หนูจึงกลายเป็นพนักงานล้างห้องน้ำไปด้วยเพื่อเจ๊แก และ ตัวหนูเอง ....อันที่จริงยังมีอีกเยอะเหมือนกันนะคะ แต่เอาที่เด่นๆมาระบายละกันค่ะ

กำลังจะจีบผู้หญิงจีน สงสัยต้องถอยก่อนดีกว่า
แต่เธอสวย น่ารัก ผิวขาวยังกะปูนพลาสเตอร์ ดูดีกว่าสาวไทยเยอะเลย

ดีมากคับกำลังจะไปทำงานที่โน่น 6 เดือนครับ ค่าvisa ตั๋วเครืองบิน เราออกเอง แล้วต้องทำ work permit ด้วยหรือเปล่า ไปในนามนักท่องเที่ยวไมได้หรือ ช่วยบอกด้วยคับ

เห็นด้วยทุกอย่างที่กล่าวมาเลยอ่ะ เพราะทำทัวร์จีน ตอนแรกไม่ทำเลยขอบาย แต่หลังๆต้องยอมจำทน เพราะเศรษฐกิจไต้หวันตกต่ำลงมาก ตรงข้ามกับจีนที่ดีขึ้น ไม่ชอบก็ต้องทำ แต่ยังโชคดีที่เราพูดดักไว้ก่อนหมดแล้ว เค้าเลยไม่ค่อยกล้า แต่ถ้าให้ไปอยู่เมืองจีนคงไม่มีทางเหมือนกัน

อีกอย่างที่ไม่สามารถรับไว้คือคุณผู้หญิงเวลายกแขน ขนจั๊กแร้ปลิวไสวมากอ่ะ

อยากไปทำงาพาสทามที่จีน ไม่รู้ว่าจะมีงานอารัยที่เขารับน้อ

พอดีอยากไปเรียนต่อที่เซี่ยงไฮ้เหมือนกันค่า ไม่ทราบพอมีงานพาร์ทไทม์บ้างไหมคะ รบกวนฃอข้อมูลหน่อยนะคะ ขอบคุณค่า

อยู่7 ปี เซี่ยงไฮ้
เจอมาทุกอย่างเหมือนกัน ทำใจ ไม่คบเลยจร้าคนจีน เพื่อนมีแต่ต่างชาติล้วนๆ
ไห่หนานหรอ ไม่สวยหรอก ของก็แพง

อ่านแล้วรู้สึกสนุกดี คนเขามองเราเป็นอย่างนี้

พึ่งกลับมาจากเชี่ยงไฮ้ขนาดอยู่ไม่กี่วันอาการไม่ต่างจากคุณดาเลยจ๊ะ..เงิบบบบเลยเรา

ใครเคยไป หาวโจว บ้างเป็นยังไง ใครเคยไปทำงานร้านอาหารไทย ที่จีนบ้าง เป็นยังไง กำลังจะไปที่โน่น

เราทำงานที่ไห่หนานค่ะ เราเกลียดการดูดบุหรี่ของคนจีนมากเช่นเดียวกัน และเคยนั่งรถไปทำงานแต่เหมือนกันค่ะคนจีนไม่อาบน้ำตอนเช้า เสื้อผ้าก้อไม่ซัก ขึ้นบนรถกลิ่นเหมือนไปเดินร้านขายเสื้อผ้ามือสองกลิ่นเหม็นๆตุๆ ขนาดหน้าร้อนก้อยังทำตัวเหมือนหน้าหนาวความเหม็นก้อทวีคูณ ตามแต่จะจินตนาการ คนไห่หนานกินหมากปากแดงพร้อมขากถุยน้ำหมากตลอดเวลา พูดถึงทะเลบ้านเราสวยกว่าเยอะ ทะเลไห่หนานเป็นทรายหยาบๆ ทะเลไม่สวย ยิ่งมาเจอแต่คนจีนสกปรกๆ อีกไม่ต้องคิดเลยค่ะ อาหารการกิน ของแพง คนจีนโกงกันเอง ตั๋วเครื่องบินจะมาสักก้อแสนแพง

จริง เฉิงตูก็เป็นนะ

จริงๆแล้วคนจีนมีอยู่ทั่วโลกครับ อาฟริกา ก็มี พวกมาดากัสก้า ไนจีเรีย นีจีนไปเจาะเรื่องทรัพยากรและการค้ามาก่อนเราระดับรัฐต่อรัฐเพื่อส่งเสริมนักธุรกิจเขา คนจีนนั้นที่เขาเป็นอย่างนี้และเห็นได้ชัด คือในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งต่างจากไต้หวันซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน...ไต้หวันใช้ภาษากลางและฮกเกี้ยน..ดูง่ายๆหนังจีนในจีนบางครั้งต้องมีซับภาษาจีนอยู่ข้างล่าง...บางคนพูดได้แต่ภาษาถิ่นพูดภาษากลางไม่ได้เลย เช่นคนแก่คนเฒ่าแถวกวางตุ้ง และ กวางสี ที่คนจีนเป็นอย่างนั้นเนื่องจากสมัยปลายราชวงศ์ชิงยังเป็นระบบขุนศึกศักดินาอยู่และผู้คนก็ลำบากบางคนมาเมืองไทยเป็นโสเภณีสมัยที่มีการให้จดทะเบียนสำนักนางโลมถูกกฏหมายของจีนน่าจะมีร้อยห้าสิบสองแห่งของญวณมีห้าแห่งของไทยมีสามแห่งบริการส่วนมากจะเป็นกรรมกรขนข้าวจากท่าเรือ ถ้าจำไม่ผิด เมื่อผู้หญิงที่กำแพงดิน เชียงใหม่ขาดแคลนก็ส่งคนจากกรุงเทพฯไปจนมีคำคนสมัยก่อนว่า ผู้หญิงสำเพ็ง จนมาถึงยุคปกครองระบบคอมมิวนิสต์ วัฒนธรรมถูกทำลาย วัดซึ่งเคยเป็นที่ขัดเกลาจิตใจผู้คนถูกเผา นักปราชญ์นักหนังสือพิมพ์ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลถูกกำจัด แก็งส์ออฟโฟหรือที่คนจีนเรียกว่า ไซเรนปังซึ่งเหมาเจ๋อตง ตั้งขึ้นมาให้เป็นผู้นำในการปฏิบัติการ เยาวชนบางคนที่ถูกล้างสมองฆ่ากระทั่งพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ที่ต่อต้านอุดมการณ์พรรค...ต่อมาในยุคเติ้ง เสี่ยวผิง ได้มีการซ่อมแซมบูรณะ วัดวาอารามขึ้นมาใหม่ เปิดประเทศระรับการลงทุนเป็นหนึ่งประเทศสองระบบ นิสัยเอาเปรียบเห็นแก่ตัวเนื่องจากต้องแข่งขันและเอาตัวรอดในประเทศที่มีพลเมืองมากและคนจีนสมัยโบราณเคยเชื่อตนเองเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม จึงไม่ค่อยยอมเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นสากล ดังนั้นสมัยอังกฤษปกครองฮ่องกง บางร้านอาหารของชาวอังกฤษ จึงเขียนว่าห้ามคนจีนและหมาเข้า...คนจีนที่ย้ายมาอยู่ที่ไทยสมัยก่อนนั้นประมาณวันละสองร้อยคนหนี้ร้อยจากภัยสงครามจากราชสำนักที่เก็บภาษีและจากการรังแกของชาวอังกฤษและญี่ปุ่นชัดๆก็หลังจากที่จีนแพ้สงครามเรือแอร์โรว์และสงครามฝิ่นพ่อของตาผมเป็นชาวบ้านตอนมาอยู่เมืองไทยยังโกนผมครึ่งหัวและถักเปียแบบหนังเรื่องหวงเฟยหงนั่นละครับ..ส่วนปู่ผมนั้นแกเป็นคนมีการศึกษาเมื่อเมืองไทยจึงไม่ใช้วิธีเป็นกรรมกรแบกหามแต่อาศัยทางลัดแต่งงานกับลูกคหบดีชาวไทยเชื่อสายจีน..สมัยก่อนคนจีนที่ทำความชอบจะได้เป็นพวกพวกขุน,หลวง,คุณพระ อะไรทำนองนี้..ส่วนที่เมืองจีนนั้นหลังจากเติ้ง ครองอำนาจและโจว เอินไหล ตอนนั้นน่าจะเป็นนายก ได้พยายามปฏิรูปเมืองจีนเริ่มจากเศรษฐกิจก่อน แล้วตามด้วยวัฒนธรรม จากภายหลังเริ่มมีการตั้งสถาบันขงจื้อและเด็กจีนรุ่นใหม่ก็เริ่มเป็นสากลแต่นโยบายลูกคนเดียวยังเป็นปัญหาที่คนจีนทำอะไรไม่สนใจใครโดยเฉพาะลูกข้าราชการและคนรวย...ลืมบอกไปในระบบสังคมนิยมข้าราชการค่อนข้างมีอำนาจมาก มีในยุคสี จิ้นผิงที่ข้าราชการปราบปรามและปรับตัวเรื่องการรับสินบน..การติดสินบนนั้นในไทยก็มีคำว่าเรียบร้อยโรงเรียนจีนอยู่ครับ ผมเองนั้นก็รู้จักคนจีนพอสมควร...แต่ผู้ชายไม่ค่อยรู้นิสัยเท่าไรแม่เหล็กขั้วเดียวกัน มันผลักกันเท่าที่เห็นก็ธรรมดาครับ ลองไปแถวชนบทในเมืองท่องเที่ยวก็จะเจอคนจีนนิสัยดีแบบชาวบ้านครับ...ส่วนผู้หญิงก็เป็นแบบที่ทุกคนว่าแต่ต้องดูอาชีพ พื้นฐานครอบครัวและการศึกษาครับ..แต่ก็มีบางคนว่าผมเป็นคนเลว เกลียดผม ผมก็ยอมรับว่าเป็นคนเลว แต่เป็นคนเลวที่รักเธอและอธิบายเหตุผลที่ผิดเวลาและอื่นๆบนพื้นฐานความเป็นจริงก็ไม่มีปัญหาครับ...เรื่องความสะอาดนี่เรื่องการซักผ้าการอาบน้ำเสร็จแล้วดึงมานั่งบนตักแล้วหวีผมให้แล้วต้องค่อยๆสอนอย่างอ่อนโยนก็ไม่มีปัญหาครับ

ตอนนี้อยู่จีนเหมือนกันค่ะ อยู่เทียนจิน ก่อนนี้ 10 ปีที่แล้วเคยอยู่ทางใต้มาก่อน เจอแบบเดียวกับคุณดาเลยค่ะ แม้กระทั่งปัจจุบันนี้มาอยู่เมืองใหญ่ๆก็ยังเป็นแบบที่คุณดาพูดถึง ทุกอย่างรับไม่ได้เช่นกัน เมืองใหญ่ พัฒนาแล้วคนก็ไม่พัฒนา เรื่องสุขอนามัย เข้าใจว่าเค้าไม่มีวิชาสุขศึกษา และสังคมวัฒนธรรม
คนเลยไม่รู้จักรักษาความสะอาด
ส่วนเรื่องคุยโม้โอ้อวดก็เจอมาหมด อันนี้เข้าใจอีกว่าระบบ Single Gate way โลกมืด โดนปิดความคิด รับรู้แค่นั้น คิดว่าตัวเองแน่สุด
สำผัสกับงานด้านวิชาการที่จีน ไม่เคยมีระบบในสมองทำงานไม่มีการวางแผน รอคำสั่ง เปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ประสานงานนักศึกษาต่างชาติไม่เคยประสานรู้เรื่อง เค้าสั่งแค่นี้ ประสานต่อแค่นี่ ไม่มีการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อจะได้รับข้อมูลที่ดีขึ้นและนำมาประสานต่อ เช่นเรื่องง่าย ประสานให้นศ.ไทยไปดูกิจกรรม กี่โมง ไม่รู้ กิจกรรมอะไรไม่ทราบ แต่ต้องบอกชื่อคนที่จะไปอีกไม่เกิน 2 ชม. แล้วจะประวันเวลา สถานที่ ภายหลัง สรุปแจ้งชื่อไป อีก 2 วันค่อยมาบอกว่า วันไหน เวลายังไม่ทราบ สถานที่แจ้งแล้ว คือ ระบบการจัดการไม่มีในสมอง แย่มาก และอีกหลายเรื่องค่ะ นี่ยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ เรื่องยากๆให้ คูณความมั่วไปอีกล้านเปอร์เซ็น
ส่วนเรื่องนร.จีน เรียนหนักมากเพื่ออะไรไม่ทราบเหมือนกัน ค่าของคนในประเทศจีนคือ คุณต้องเรียนมหาวิทยาลัยดัง และต้องเรียนให้เก่ง จบมาทำงานที่ไหน (ใช้เส้นสายอยู่ดี) ความคิดอยู่แต่กับหนังสือ ไม่มีความรู้ภายนอก
หากคนเหล่านี้เป็นครู ประสบการณ์ชีวิตไม่มีแล้วเด็กที่เค้าสอนก็ไม่มีประสบการณ์เช่นเดียวกัน เป็นมารุ่นต่อรุ่น พ่อแม่ ไม่รู้ ไม่มีสื่อโฆษณาคอยสอน ถึงวัฒธรรมการทำความดีตามที่ชาวโลกเค้าสอนกัน การไม่แซงคิว การไม่ทิ้งขยะ ไม่ถุยน้ำลาย มารยาทสังคมไม่ได้รับทราบเพราะทำกันมานานตั้งแต่โครตเหง้า ไม่มีใครเตือนกันเลยทำให้คนทั่วโลกดูถูกคนจีน (คนจีนไม่เคยรู้ตัวเองว่าเค้าดูถูก คิดแต่ว่าตัวเองเป็นประเทศใหญ่ ดี เก่ง ) กบในกะลาค่ะ
ทุกวันนี้ก็ยังเห็นการกระทำของครูผู้สอนบางคนที่เห็นคนทำไม่ถูกต้องไม่เตือน เรื่องเล็กๆน้อย ๆ แซงคิว แย่งเพื่อนพูด (เพราะตัวเองเรียนเก่ง) ปล่อยผ่านไป เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่นี่คือการสร้างนิสัยเห็นแก่ตัวของเด็ก.... เราเองสะท้อนความคิดไปบางมุมให้คนจีนฟังแต่ไม่รู้เค้าคิดได้หรือเปล่า เพียงแค่อยากบอกให้เค้ารู้เรื่องทุเรศของประเทศเค้าบ้าง ไม่ใช่คอยแต่จะดูถูกประเทศอื่นๆ ไทยเองไม่ค่อยโดนแต่ประเทศหลายประเทศเค้าค่อนขอดเป็นว่าเล่นเลยค่ะ