•*.:。-•(¯`°.•°•.★* Always And Forever My Love *★ .•°•.°´¯)•-。:.*•

Always
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ยินดีต้อนรับค่ะ
ดีใจนะคะที่แวะเวียนเข้ามา
เยี่ยมเยียนเรา ก่อนจากกัน
อย่าลืมฝากข้อความ
ว่ารักและคิดถึงครอบครัวเราด้วยน๊า


"ฤดูที่แตกต่าง"
ความหมายมันใช่เลยนะ
หลังจากแต่งงาน และ ตั้งแต่มีหนุ่มน้อยเข้ามาอ่ะ
เหนื่อยแต่ก้อมีความสุขเน๊าะ
คุณแม่มือใหม่ ที่ชักจะเริ่มเก่าแล้ว :)

รักนะ จุ๊บๆ ค่ะ
New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
8 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Always's blog to your web]
Links
 

 
>>> อาหารหลัก 5 หมู่สำหรับลูกวัยหัดเดิน

>>> หวัดดีจ้าเรโน่ลูกรัก

ช่วงนี้คุณแม่ ไม่ค่อยมีงานเท่าไหร่ ก้อเลยมีเวลาเรื่อยเปื่อย หาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกให้ดีไปเรื่อย ช่วงนี้คุณแม่มีปัญหาว่าหนูกินข้าวได้น้อย หรือถึงขั้นไม่กินเลย ยื่นช้อนไปที หนูก้อปัดช้อนทิ้ง เหอะๆ คุฯแม่ไหวจะเคลียร์แล้วนะลูก
มาถึงข้อมูลที่คุณแม่หาดีกว่า ข้อมูลจากเว็บ //www.dumex.co.th ค่ะ เว็บเค้าน่ารักนะ ให้ข้อมูลดีทั้งนั้นเลย
อ่านข้อมูลที่ได้แล้ว ก้อถึงขั้นกังวลเล็กน้อย เรื่องการเติมเกลือหรือเติมรสชาติในอาหารที่คุณแม่ทำให้หนูทานอ่ะ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยความอยากให้หนูทานอาหารได้มากขึ้น ทำให้เติมรสลงไปในอาหารที่ทำให้หนูอ่ะ บางครั้งก้อเติมรสดี สูตรไม่ใส่ผงชูรส
เอาเป็นว่า ต่อไปนี้คุณแม่จะระวังในเรื่องการเตรียมอาหารให้หนูให้มากขึ้นนะลูก

ขอให้หนูทานอาหารได้มากขึ้นนะครับ คนเก่ง คนดีของคุณแม่
มาเข้าเรื่องของเรานะครับ

ส่วนคุณแม่ ฮ่าๆ แอบให้หนูกินสารพัดเล้ยยยยยยย

****************************************


พัฒนาการของเด็กวัยหัดเดิน


เมื่อลูกเปลี่ยนจากวัยคลานมาเป็นวัยหัดเดิน ถือเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังมีพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจอย่างเต็มเปี่ยม เนื่องจากสมองของลูกพร้อมรับความท้าทายในการเดินและพูดที่พัฒนาเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าลูกเติบโตอย่างมีสุขภาพดีเยี่ยมและมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ที่สุด อาหารหลัก 5 หมู่จึงเป็นสิ่งจำเป็น
เพราะอะไรอาหารของลูกวัยหัดเดินจึงต่างจากของผู้ใหญ่


อาหารครบทั้ง 5 หมู่สำหรับเด็กจะต่างจากของผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก ความต้องการสารอาหารของเขาก็ต่างจากของผู้ใหญ่เช่นกัน คุณแม่จึงควรใส่ใจกับความแตกต่างเหล่านี้เมื่อวางแผนมื้ออาหารให้ลูกน้อย

>>> น้ำตาลและเกลือ

-ที่จริงแล้วในแต่ละวันลูกวัยหัดเดินควรได้รับเกลือไม่เกิน 1/6 ของปริมาณสูงสุดที่ผู้ใหญ่ได้รับหรือน้อยกว่า 1 กรัมต่อวัน ดังนั้น คุณแม่ไม่ควรใส่เกลือลงในอาหารที่ทำกินเองที่บ้าน และอาหารผู้ใหญ่บางชนิดก็ไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยหัดเดิน เนื่องจากมีน้ำตาลหรือเกลือมากเกินไป หรือมีสารปรุงแต่งสีและรสสังเคราะห์



>>> ปริมาณที่เหมาะสม

- กระเพาะอาหารของเด็กวัยนี้จะมีขนาดเล็กกว่าของผู้ใหญ่ประมาณ 5 เท่า ลูกน้อยจึงต้องการอาหารปริมาณน้อยๆ ในแต่ละมื้อ แต่บ่อยครั้งตลอดวัน ซึ่งอาหารของลูกต้องมีพลังงานและสารอาหารที่ครบถ้วน ดังนั้น เพื่อให้ได้สัดส่วนของพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสม ลูกวัยหัดเดินจึงต้องกินอาหารมื้อเล็กๆ 3 มื้อต่อวัน พร้อมอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการระหว่างมื้ออย่างสม่ำเสมอ



>>> ความต้องการพลังงานและสารอาหาร

– ลูกวัยหัดเดินไม่ใช่ผู้ใหญ่ไซส์เล็ก และเด็กต้องการอาหารที่มีไขมันสูงและใยอาหารต่ำแต่ถึงแม้ว่าใยอาหารจะเป็นสิ่งดี แต่ก็ทำให้อิ่มท้อง และการกินมากเกินไปอาจทำให้ลูกไม่ได้รับพลังงานและสารอาหารซึ่งจำเป็นต่อเด็กในวัยนี้ด้วย อาหารหลากชนิดจะมีสารอาหารต่างกัน ดังนั้น การให้ลูกกินอาหารหลากหลายชนิดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ รวมทั้งเพื่อให้เติบโตอย่างมีสุขภาพดีและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง



>>> นม

- นมยังคงเป็นอาหารที่สำคัญสำหรับเด็กวัยหัดเดิน เพราะมีไขมัน พลังงาน โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม และเด็กต้องกินนมประมาณ 20 ออนซ์ต่อวัน

อาหาร หลัก 5 หมู่คืออะไร




อาหารหลัก 5 หมู่ประกอบด้วย:




** คาร์โบไฮเดรต **

อาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าว ขนมปัง ธัญพืช และมันฝรั่ง
คุณสามารถให้ลูกกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตทุกมื้อและกินเป็นอาหารว่างด้วยก็ย่อมได้


** ผักและผลไม้ **

เช่น แครอท กล้วย และมะเขือเทศ
คุณแม่ต้องพยายามให้ลูกกินผักและผลไม้หลากสีเพราะมีสารอาหารต่างชนิด
และควรเน้นให้ลูกกินผักและผลไม้ อย่างน้อย 5 ส่วนต่อวัน
แต่คุณแม่ควรทราบไว้ด้วยว่า “ส่วน” ของเด็กวัยนี้จะน้อยกว่า “ส่วน” ของผู้ใหญ่


** ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม **

นม ชีส และโยเกิร์ต
ควรให้เด็กวัยหัดเดินกินนมทุกวัน แต่คุณแม่ต้องให้ลูกกินอาหารชนิดอื่นที่ทำจากนม ที่อุดมไปด้วยแคลเซียมควบคู่ไปด้วย
ลูกน้อยในวัยนี้ควรกินอาหารที่ทำจากนม 3 ส่วนต่อวัน โดยอาจกินเป็นอาหารว่างด้วยก็ได้



** โปรตีน **

เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ และถั่วชนิดต่างๆ
อาหารในกลุ่มนี้มีธาตุเหล็กและไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย
คุณแม่ควรให้ลูกกินอาหารจำพวกโปรตีน วันละ 2 ครั้ง เด็กที่กินมังสวิรัติ ควรกินอาหารในกลุ่มนี้ 3 ส่วน และรวมกับอาหารชนิดอื่นหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีสูงเพื่อช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก



** ไขมันและน้ำตาล **

เช่น น้ำมัน เนย ขนมเค้ก และบิสกิต
น้ำมันบางชนิดมีไขมันโอเมก้า 3 และ 6
คุณแม่ควรให้ลูกกินอาหารกลุ่มนี้ด้วย แต่ว่าให้กินเป็นอาหารเสริม และไม่ใช่กิน แทนอาหารกลุ่มอื่น


อาหารที่ลูกต้องหลีกเลี่ยง

มีอาหารสำหรับลูกน้อยบางชนิดที่คุณแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และอาหารบางอย่างต้องหลีกเลี่ยงและงดอย่างเด็ดขาดจึงจะดีที่สุด

ควรหลีกเลี่ยงการใส่เกลือหรือใส่ให้น้อยที่สุดถ้าจำเป็น และให้ใส่สมุนไพรและเครื่องเทศแทนหากต้องการปรุงรส คุณแม่อย่าลืมตรวจสอบปริมาณเกลือที่ใช้ในอาหารสำเร็จรูปด้วย

ควรหลีกเลี่ยงสารเติมแต่งและสารให้ความหวาน เช่น ที่พบในเครื่องดื่มและลูกอม

ไข่และอาหารทะเลชนิดมีเปลือกมีผลต่อกระเพาะอันบอบบาง และอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้หากปรุงไม่เหมาะสม ดังนั้น คุณแม่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

แม้ว่าผลไม้เปลือกแข็งและถั่ว จะไม่มีผลเสียต่อร่างกาย แต่เด็กบางคนก็แพ้อาหารชนิดนี้และมีปฏิกิริยารุนแรง สำหรับเด็กที่ไม่มีอาการแพ้ แต่ก็อาจสำลักได้ ทางที่ดีที่สุดจึงควรเก็บให้พ้นมือเด็กดีกว่าค่ะ




Create Date : 08 มิถุนายน 2553
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 14:40:42 น. 2 comments
Counter : 743 Pageviews.

 


โดย: nuyza_za วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:19:06:12 น.  

 
สวัสดีค่ะ วันนี้วันพุธแล้ว อีกสองวันก็จะได้พักเหนื่อยเลี้ยงลูกแล้ว
ปอลิง เลี้ยงลูกเนี่ย เรียกว่าพักได้รึเปล่าน๊า อิอิ


โดย: indexfuture วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:13:43:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.