>>พาน้องแพทไปพบนักพัฒนาการเด็กมาค่ะ..
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่า นี่เป็นข้อมูลที่ได้จากนักพัฒนาการเด็ก บวกกับวิธีการเลี้ยงลูกของแม่คนหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด..หรือแย่ที่สุด>> แค่อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ >>รายละเอียดเกี่ยวกับลูกสาวนะคะ ลูกสาววัย 8 เดือนครึ่ง เป็นเด็กแข็งแรง ไม่เคยป่วย ร่าเริง(ไม่ค่อยยิ้ม แต่ถ้าถูกใจก็จะยิ้มและหัวเราะดังมาก), ค่อนข้างจ้ำม่ำ(หนัก9.4 kg.) แต่ทานนมปกตินะคะ(20-24 ออนซ์) ทานข้าว2มื้อ (มื้อละ3ช้อนโต๊ะผู้ใหญ่), ทานผลไม้ทุกวัน (ส้ม,มะละกอ,แอ๊ปเปิ้ล สลับกันไป),ขนมไม่เคยแตะเลยค่ะ(มีช่วงหลังให้ลองขนมปังโฮลวีตบ้าง), หลับยาวได้ มาตั้งแต่6เดือน(นอน20.00-05.00), คว่ำได้ตอน5เดือน,กลิ้งไปโดยใช้ศีรษะนำ ต้ังแต่ 6 เดือน, ปัจจุบัน>> กลิ้งเก่ง ไปได้เร็วมากแต่ไม่คลานค่ะ,นั่งแข็ง(ต้องจับให้นั่งเพราะลุกนั่งเองไม่ได้), ยืนเกาะโซฟาได้(ต้องจับให้ยืนค่ะถึงจะเกาะได้ ไม่ยอมลุกเอง) .. ลูกก็ปกติดี ทำไมถึงตัดสินใจพาลูกไปพบนักพัฒนาการเด็ก ?? เหตุผลค่ะ คือแม่สงสัยว่า " ทำไมตอนนี้ลูกยังลุกนั่งเองไม่ได้ ?? แม่ทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า?? ลูกอ้วนไปหรือ?? แต่เด็กก็งี้ล่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกันหรอก..(มั้ง) >> เหล่านี้มันวนเวียนอยู่ในหัวแม่มา2-3เดือนแล้ว ไม่คลานก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมไม่ยอมลูกนั่งเอง?? แม่พลาดตรงไหนรึเปล่า ?? ไม่ได้เครียดนะคะ แต่อยากรู้จริงๆ ค่ะ
>> เมื่อไปถึงรพ. จนท.พาไปห้องกระตุ้นพัฒนาการ ซึ่งมีเบาะรองคลานกับพื้น,โซฟาเล็กๆแบบขั้นบันได, บ่อบอล และ กล่องกิจกรรม5มิติ มีแค่นี้เอง (ที่บ้านเรามีเยอะแยะมากกว่านี้อีก แต่ท่าทางจะไร้สาระค่ะ อิอิ ยอมรับโดยดี) สิ่งแรกที่คุณครู (ขอแทนตัวนักพัฒนาการว่าคุณครูค่ะ)ทำก็คือ.. ให้พาลูกสาวนอนหงายกับพื้น(เจ้าตัวเล็กก็ร่วมมือดี ไม่งอแงค่ะ) แล้วครูก็จับดูกล้ามเนื้อช่วงต้นขาของลูกสาว,ลองจับเค้าลุกนั่ง,ลองงอเข่าเค้าแล้วยืดออก ครูบอกว่า "กล้ามเนื้อก็ปกติดีนี่ค่ะ ตอนแรกคิดว่า กล้ามเนื้อจะอ่อนแรงซะอีก" จากนั้นก็เริ่มซักถามพฤติกรรมคนในครอบครัว,มีกี่คนในบ้าน,พ่อแม่เลี้ยงเองไม๊,มีเพื่อนวัยเดียวกันหรือเปล่า ฯลฯ .. สรุปค่ะ.. มีหลายสาเหตุ ที่ทำให้เด็กที่แข็งแรงขนาดนี้ไม่ยอมลุกนั่ง>> หมายถึง ทำได้ แต่ไม่อยากทำค่ะ แต่ครูว่าไม่ได้เป็นปัญหา อย่ากังวล ฝึกกันได้ค่ะ>>ต้องฝึกบ้าง เพราะจริงๆจะต้องถึงวัยเกาะยืนเองแล้ว ถ้ายังลุกนั่งเองไม่ได้ โอกาสที่จะเกาะยืนด้วยตัวเอง ก็จะช้าออกไปอีก เดี๋ยวคุณแม่ก็จะกังวลอีก(ยอมรับค่ะ) สาเหตุอาจเกิดจาก หลายอย่างประกอบกันอย่างละนิด (อาจจะแตกต่างในเด็กแต่ละคน บางคนก็ไม่ได้เป็นปัญหาค่ะ) - ไม่ค่อยได้นั่งเล่นที่พื่้น.. (แม่ยอมรับว่าพลาด เพราะช่วงนั้นย้ายบ้านพอดี พื้นบ้านมันเลอะตลอด ลูกสาวก็เลยต้องอยู่แต่ในห้อง ถ้าออกมาก็ให้นั่งhigh chair อย่างเดียว ตั้งหลายเดือน) >> ต้องให้พาเล่นกับพื้นให้มาก - ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่เคยเห็นเด็กคนอื่นว่าเค้าคลานกันยังไง (ยอมรับอีกค่ะ ที่บ้านมีแต่พ่อ-แม่-พี่เลี้ยง ไม่ค่อยพาออกไปข้างนอก เพราะเป็นช่วงไข้หวัดระบาดพอดี)>> ให้พาไปเจอเด็กๆคนอื่นบ้าง หรือติดกระจกในส่วนที่เค้ามองเห็นได้ เพื่อจะได้รู้สึกว่า ในห้องนี้ เค้ามีเพื่อน แม้จะเป็นแค่เงาตัวเองในกระจกก็เถอะ..(ระวังเรื่องมุมสะท้อนของกระจกด้วย) - ครูว่า ข้อนี้สำคัญที่สุด ** พ่อกับแม่ ไม่ค่อยเล่นกับลูก เพราะทำแต่ งานๆๆ พี่เลี้ยงแทนที่ไม่ได้นะคะ>> เด็กๆ มักอยากโชว์พัฒนาการใหม่ๆ ต่อหน้าพ่อแม่ค่ะ (โอ๊ย.. อันนี้เจ็บค่ะ แม่ขายของอยู่ตรงข้ามกับบ้านตัวเองแท้ๆเลย เฮ้อ..) ถึงตรงนี้..พอจะเข้าใจจิตใจของลูกแล้วค่ะ ว่าเค้าทำได้อีกหลายอย่าง แต่เค้าไม่ทำ เพราะพ่อแม่ไม่มาเป็นกำลังใจให้เค้านี่เอง .. ครูเค้าก็ให้แม่ทำตามข้อแนะนำข้างบน และ สอนวิธีกระตุ้นพัฒนาการด้วยฝึกให้เค้าคืบ(จับคว่ำแล้วใช้มือแม่ดันขาลูกทีละข้าง ค่อยๆไป เหมือนกบว่ายน้ำน่ะค่ะ) / ฝึกลุกนั่งค่ะ (ให้จับลูกยืนหันหลังให้แม่ ใช้ขาแม่หนีบขาลูกไว้ แล้วจับแขนเค้าลุกขึ้น เหมือนผู้ใหญ่ลูกนั่งนั่นล่ะค่ะ) ทำวันละนิดเพื่อฝึกกล้ามเนื้อ และถ้าทำบ่อยๆ เค้าก็จะเริ่มรู้สึกว่า เค้าทำได้มากกว่าการกลิ้ง แล้วอยากจะทำตามเองค่ะ อ้อ.. ครูบอกว่า การฝึกคืบ เป็นพื้นฐานการลุกนั่งด้วยตัวเองค่ะ (คิดซะว่าเป็นการพาลูกเล่นค่ะ อย่าหักโหม จะได้ไม่เครียดทั้งคู่) **ที่สำคัญ ครูให้พ่อกับแม่ เป็นคนฝึกให้ลูกเอง ได้ใกล้ชิด อบอุ่น ซึ่งจะมีผลต่อจิตใจของลูกด้วย..** >> ตอนนี้มาถึงบางอ้อแล้วค่ะ ว่าแม่พลาดตรงไหน... กลับจากการพบนักพัฒนาการครั้งนี้ แม่ได้อะไรกลับมาเยอะทีเดียวค่ะ...

Create Date : 01 ธันวาคม 2552 |
|
19 comments |
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 20:05:54 น. |
Counter : 3706 Pageviews. |
|
 |
|