การเลือกใช้วัสดุในการประกอบชิ้นงานสำหรับผู้ประกอบการ ผู้ออกแบบหรือโปรดักซ์ดีไซน์ หรือแม้กระทั่งการนำวัสดุมา ใช้ใน บ้าน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนจะพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียของวัสดุนั้นๆ ลองมาพิจารณาดูกันว่าสเตนเลสดีอย่างไร
ทนทานต่อการกัดกร่อน
สเตนเลสทุกตระกูลทนทานต่อการกัดกร่อน แต่จะแตกต่างกันไปตามส่วนผสมของโลหะ เช่น เกรดที่มีโลหะผสม ไม่สูง สามารถต้านทาน การกัดกร่อนในบรรยากาศทั่วไป ในขณะที่เกรดที่มีโลหะผสมสูงสามารถต้านทานการกัดกร่อน ในกรด ด่าง สารละลาย บรรยากาศคลอไรด์ ได้เกือบทั้งหมด
ความต้านทานต่ออุณหภูมิสูงและอุณหภูมิต่ำ
สเตนเลสบางเกรดสามารถทนความร้อนหรือ/และความเย็น รวมถึงการเปลี่ยนอุณหภูมิโดยฉับพลันได้ดี และด้วยคุณสมบัติพิเศษในการทนไฟ ทำให้มีการนำสเตนเลสไปใช้ในอุตสาหกรรมขนส่ง อุตสาหกรรม ปิโตรเคมี อย่างแพร่หลาย
ง่ายต่องานประกอบ หรือแปรรูป
สเตนเลสส่วนใหญ่สามารถ ตัด เชื่อม ขึ้นรูป ตบแต่งทางกล ลากขึ้นรูป ขึ้นรูปนูนต่ำได้ง่าย ด้วยรูปร่าง สมบัติ และลักษณะต่างๆของสเตนเลสช่วยให้ ผู้ผลิตสามารถนำสเตนเลสไปประกอบกับวัสดุอื่นๆได้ง่าย
ความทนทาน
คุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งของสเตนเลสคือความแข็งแกร่งทนทาน สเตนเลสสามารถเพิ่มความแข็งได้ด้วยการขึ้นรูปเย็น ซึ่งใช้เพื่อออกแบบงาน โดยลดความหนา น้ำหนักและราคา สเตนเลสบางเกรดอาจใช้ในงานที่ทนความร้อนและยังคงความ ทนทานสูง
ความสวยงาม
ด้วยรูปทรงและพื้นผิวที่หลากหลายรูปแบบที่สวยงาม ทำความสะอาดได้ง่าย ปัจจุบันสเตนเลสมีสีให้เลือกมากมายด้วย กรรมวิธีชุบเคลือบผิวด้วยเคมี ไฟฟ้าสามารถทำให้สเตนเลสมีผิวสีทอง บรอนซ์ เขียว เงิน และสีดำ ทำให้สามารถเลือก ประยุกต์ใช้สเตนเลสได้อย่างมากมาย นอกจากนี้ ความเงางามของ สเตนเลสในอ่างล้างจาน อุปกรณ์ประกอบอาหาร หรือ เฟอร์นิเจอร์ทำให้บ้านดูสะอาดและน่าอยู่อีกด้วย
ความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ
การทำความสะอาด การดูแลรักษาสเตนเลส และมีความเป็นกลางสูงจึงไม่ดูดซึมรสใดๆ เป็นเหตุผลสำคัญที่สเตนเลสถูกนำมาใช้งานในงานโรง พยาบาล เครื่องครัว ด้านโภชนาการและด้านเภสัชกรรม เนื่องจากความทนทาน ต้องการการดูแลรักษาน้อย และค่าใช่จ่ายต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาการใช้ งาน การใช้อุปกรณ์เครื่องครัวสเตนเลสใน บ้านเรือนให้ความรู้สึกถึงความปลอดภัยแก่ผู้ใช้
ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สเตนเลสเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และกว่า ของวัตถุดีที่ใช้ในการผลิตมาจากเศษเหล็ก
ประโยชน์และลัษณะการนำสเตนเลสไปใช้งาน Gradeลักษณะการนำไปใช้งานอุตสาหกรรมที่นำไปใช้
เกรด 201
-ทำพื้นรถเข็นต่างๆ
-ทำเฟอร์นิเจอร์
-ทำแผง และอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุ
-ถังเก็บ,ถังแก๊ส
-กันชนรถทุกประเภท
-ท่อพักท่อไอเสีย
-ลายประดับรั้ว,ราวประเภทต่างๆ-อุตสาหกรรมรถเข็น
-อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
-อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการขนส่ง
-อุตสาหกรรมแก๊ส
-อุตสาหกรรมประกอบรถบรรทุก
-อุตสาหกรรมประกอบรถยนต์
-อุตสาหกรรมทำรั้ว,ราวประตู,หน้าต่างๆ
(ใช้งานภายใน)
เกรด 202
-ใกล้เคียงกับเกรด 201
แต่มีความต้านทานการกัดกร่อนได้ดีกว่าเหมือนเกรด 201
เกรด 304
-ตู้เย็น,เครื่องทำความเย็น
-ทำเฟอร์นิเจอร์สนาม,เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานภายนอก
-ถัง/แทงค์ บรรจุน้ำ
-เครื่องใช้เกี่ยวกับครัวเรือน เช่น เตา -โต๊ะ : อุปกรณ์ประกอบอาหาร
-เครื่องมือเวชภัณฑ์ ในโรงพยาบาล
-เครื่องล้างจาน,อ่างล้างจาน,ภาชนะหุงต้ม -อุตสาหกรรมผลิตเครื่องเย็น
-อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
-อุตสาหกรรมผลิตถังน้ำ
-อุตสาหกรรมผลิต/สั่งทำเครื่องครัวอุปกรณ์,อุปกรณ์ต่างๆ
-อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์
-อุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือน/อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
เกรด 316
-โดยทั่วไปมีการใช้งานเหมือนเกรด 304ซึ่งมีลักษณะการใช้งานที่กว้างกว่าเกรด 304คือ
-งานตกแต่งอาคาร,งานสถาปัตยกรรม
-ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
-ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ,เวชภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในโรงพยาบาล
-ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้อุตสาหกรรมต่อเรือ -อุตสาหกรรมตกแต่งภายใน
-อุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม
-อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
-อุตสาหกรรมการต่อเรือ
เกรด 410,430
-ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์,สินค้าตกแต่งภายในบ้าน,อาคาร
-เครื่องใช้,เครื่องมือบนโต๊ะอาหาร,มีด,ช้อน-ส้อม
-อุปกรณ์ ดูดฝุ่น,ท่อดูดควัน,ท่อดัก
-ใช้ทำส่วนประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น ท่อพัก,ท่อไอเสีย,ถังน้ำมัน -อุตสาหกรรมตกแต่งภายใน
-อุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือน
-อุตสาหกรรมผลิตท่อต่างๆ
-อุตสาหกรรมประกอบชิ้นส่วนรถยนต์
สิ่งที่ไม่ควรทำกับผิวสเตนเลส <<
January 10, 2014 at 8:10am
อย่าเคลือบสแตนเลสด้วยขี้ผึ้งหรือสารที่มีความมัน เพราะจะทำให้ฝุ่นหรือรอยเปื้อนติดบนพื้นผิวได้ง่ายขึ้นและทำความสะอาดออกได้ยาก
อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของคลอไรด์ ( Chlorides) และ เฮไลด์ ( Helides) เช่น โบรไมน์( Bromine) ไอโอดีน ( Iodine) และ ฟลูออรีน (Fluorine)
อย่าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดสแตนเลส
อย่าใช้กรดไฮโดรคลอริค ( HCI) ในการทำความสะอาด เพราะจะทำให้เกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็มและแบบเป็นรอยร้าวได้ ( Pitting and Stress Corrosion Cracking)
อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่แน่ใจ
อย่าใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเงิน
อย่าใช้ปริมาณสบู่และผงซักฟอกมากเกินไปในการทำความสะอาด เพราะอาจทิ้งคราบไว้บนพื้นผิวได้
อย่าทำความสะอาดส่วนที่มีคราบฝังแน่นในขั้นตอนเดียว ควรทำความสะอาดเบื้องต้นก่อนขจัดคราบฝังแน่
ขอบคุณสาระน่ารู้ จาก ที จี โปร