#เก็บหุ้นสร้างพอร์ตสไตล์VI “หุ้นปลดล็อกสินทรัพย์”

ช่วงที่ผ่านมาผมเจอ “หุ้นเปลี่ยนชีวิต” ที่พลิกพอร์ตผมให้โตขึ้นกว่าเท่าตัว หุ้นตัวนั้นคือ “หุ้นรถไฟฟ้า” สาเหตุที่ผมเลือกลงทุนหนักกับหุ้นรถไฟฟ้าเมื่อกว่า 3-4 ปีที่แล้ว เป็นเพราะผมมั่นใจในเทรนด์ใหญ่ของกิจการ นั่นก็คือ พฤติกรรมการเดินทางของผู้คนกำลังเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อความสะดวกสบาย และกำหนดเวลาที่แน่นอนได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม… ในปัจจุบัน หุ้นแบบที่ว่า เริ่มมีคนเห็นเยอะแล้ว และการคาดหวังว่ามันจะไปต่อไกลๆ อาจต้องลดความคาดหวังลงแล้วล่ะครับ … นั่นทำให้ผมอยู่เฉยไม่ได้ละ … ต้องหาหุ้นเปลี่ยนชีวิตตัวใหม่ และผมก็ค้นพบในที่สุด แต่ไม่ใช่หุ้นเติบโต มันคือ “หุ้นปลดล็อกสินทรัพย์” หรือ Asset Play Stock

หุ้นปลดล็อกสินทรัพย์ คือ อะไร

หุ้นปลดล็อกสินทรัพย์ จะคล้ายๆ กับ หุ้นสินทรัพย์แฝง ที่ในกิจการมีสินทรัพย์ที่ยังไม่ได้ปลดล็อกอยู่เป็นจำนวนมาก … แตกต่างกันตรงที่หุ้นปลดล็อกสินทรัพย์ เราจะเข้าไปลงทุนก็ต่อเมื่อมีภาพชัดเจนว่าเจ้าของเอาสินทรัพย์มาพัฒนา หรือเอามาใช้เพื่อสะท้อนมูลค่าของมันออกมา หุ้นในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง

หากเราพบกับหุ้นสินทรัพย์มากๆ แต่หลายครั้งเราซื้อแล้วลงทุนมันก็ไม่ขยับไปไหน นั่นเป็นเพราะเจ้าของเขาไม่อยากทำอะไรกับสินทรัพย์ หรือไม่มีแรงจูงใจที่จะปลดล็อกสินทรัพย์นั้นๆ เพื่อให้มันสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงออกมา … ถ้าเป็นแบบนั้น ผมคิดว่าเราควรหนีห่าง ไม่ควรลงทุนในหุ้นตัวนั้น เพราะเราจะเป็นได้แค่ ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ คือไม่มีทางได้ทรัพย์สมบัติที่ซุกซ่อนอยู่ในธุรกิจนั้นๆ ได้เลย … บางครั้งแย่กว่านั้น เจ้าของมีการยักย้ายถ่ายเทสินทรัพย์ออกไปโดยเราไม่รู้ตัวผ่านบริษัทย่อยทั้งหลาย ต้องระวังให้มากๆ

หลักการเลือกเฟ้นหุ้นปลดล็อกสินทรัพย์ต้องดูอะไรในเบื้องต้นบ้าง

ประการแรก “เลือกที่ PBV ต่ำๆ เข้าไว้”

สำหรับหลักการเลือกหุ้นปลดล็อกสินทรัพย์เก็บเข้าพอร์ตลงทุน (ต้องยาวๆ หน่อย) เราควรซื้อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุด ถ้าเป็นหลักการพื้นฐานทั่วๆ ไป นักลงทุนมักจะซื้อที่ PBV ต่ำๆ อาจต่ำกว่า 1 เท่า หรือต่ำถึง 0.5 เท่ายิ่งดี สาเหตุที่ต้องซื้อที่ PBV ต่ำๆ เพราะยังไม่มีส่วนเกินทุน ซึ่งเป็นส่วนที่นักเล่นหุ้นสินทรัพย์ หรือ Asset Play Stock สนใจในจุดนี้

ประการที่สอง “เลือกหุ้นที่มีสินทรัพย์สูงกว่าขนาดของกิจการมากๆ”

วิธีดูคร่าวๆ อีกแบบก็คือ เราจะดูสินทรัพย์ เปรียบเทียบกับ ขนาดของกิจการ หรือ Asset / Market Cap หากมันห่างกันมากๆ ยิ่งน่าสนใจมากๆ ผมเคยเจอหุ้นสินทรัพย์บางตัวมีสินทรัพย์เป็น 10 เท่าของ Market Cap ก็มี … แต่ข้อเสียของวิธีนี้ก็คือ เราไม่ได้สนใจเรื่องหนี้สินเลย ทำให้มีความเสี่ยงแฝงอยู่นั่นเอง

สำหรับแนวคิดแรกที่เราจะกินส่วนเกินทุนด้วยการซื้อหุ้นที่ PBV ต่ำๆ แนวคิดที่สองเราก็ต้องหวังว่าสินทรัพย์ที่มีสูงมากๆ ของกิจการที่เราสนใจจะถูกสะท้อนมูลค่าออกมา แล้วขนาดของกิจการจะเติบโตจนเกือบเท่ากับขนาดของสินทรัพย์ที่ธุรกิจนั้นๆ มีอยู่

ประการที่สาม “อย่าลืมดูหนี้สินของเขาด้วย”

การที่เราเล็งเห็นแต่สินทรัพย์เพียงอย่างเดียว ก็เหมือนเราตาบอดคลำช้าง … มองข้ามหนี้สินซึ่งเป็นส่วนสำคัญในงบการเงินไปซะอย่างนั้น!! ความจริงแล้ว หนี้สินที่มากเกินไป นอกจากจะเป็นตัวฉุดกิจการแล้ว ยังเป็นเหมือน “ระเบิดเวลา” ที่จะระเบิด ตูม…มม!!! เมื่อไหร่ก็ได้

หลักการง่ายๆ ก็คือ … นักธุรกิจที่ดีไม่ควรกู้หนี้ระยะสั้นไปลงทุนระยะยาว และไม่ควรกู้หนี้ระยะยาวมาลงทุนระยะสั้นๆ เพราะมันผิดวัตถุประสงค์ของการบริหารหนี้สินอย่างสิ้นเชิง … และสิ่งที่น่ากังวลยิ่งในยุคสมัยนี้ (ช่วงปี 2560) นั่นก็คือ “ตั๋วบีอี” เงินด่วนระยะสั้นๆ ที่มีความเสี่ยงสูงมากๆ … หากเราอยากรู้ว่ากิจการใดมีการใช้ตั๋วชนิดนี้อยู่ และมีการชำระเงินต้นไปบ้างหรือไม่อย่างไร ให้เข้าไปดูที่เว็บ //www.sec.or.th ซึ่งเป็นเว็บของ ก.ล.ต. นั่นเองครับ

ประการสุดท้าย “ดูความจริงใจของผู้บริหาร”

สิ่งที่ควรคำนึงถึงประการนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะหลายครั้งผู้บริหารที่ไม่จริงจัง มักจะเพิ่มทุน หรือใช้นวัตกรรมทางการเงินแสนพิลึกกึกกือ หลอกเอาเงินรายย่อย แทนที่เราจะได้สินทรัพย์ที่ถูกปลดล็อกออกมา ผู้บริหารบางคนกลับใช้สินทรัพย์เป็น “เหยื่อล่อ” รายย่อยให้เข้าไปติดกับดักแทน

ตัวอย่างก็มีให้เห็นเร็วๆ นี้ จากนักลงทุนหุ้นกลับตัวคนดัง หรือจะเรียกได้ว่าเป็น “เซียนหุ้น” ก็ยังหลงกลผู้บริหารที่คิดไม่ดีเข้าให้จนได้ ดังนั้นการลงทุนในหุ้นแบบนี้ควรดูความจริงใจของผู้บริหารด้วยนะครับ ว่าเขามีแผนที่จะปลดล็อกสินทรัพย์ที่มีอยู่ในมือจริงๆ หรือไม่

ว่าที่จริงแล้ว … “หุ้นปลดล็อกสินทรัพย์” หรือ Asset Play Stock เป็นหุ้นที่ลงทุนไม่ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายเหมือนหุ้นเติบโต หรือ Growth Stock แต่หากคุณลงทุนเป็นจะได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ และใช้เวลารวดเร็วกว่าหุ้นประเภทอื่นๆ ถ้าเราจับจังหวะลงทุนได้ถูกต้อง ลองศึกษาดูนะครับ

#หนังสือเสียง … “กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโตเร็ว”
หนังสือ นายแว่นฯ มี audio book ด้วยนะครับ … คลิ๊กหนังสือเสียงที่นี่เลยครับ

แนะนำหนังสือ

หาหุ้นโตเร็ว สไตล์ VI – โต 10 เท่าในสิบปี

“หาหุ้นโตเร็ว สิบเท่า ในสิบปี” … หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนในยามตลาดหุ้นผันผวน และดูเหมือนว่านักลงทุน “ส่วนใหญ่” มองไม่เห็นว่าการลงทุนหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้อย่างไร … แต่ข้อเท็จจริงก็คือ แม้ในยามตลาดแย่ ก็มีหุ้นโตเร็วเกิดขึ้นมากมาย บางตัวโต 1 เท่าตัว 2 เท่าตัว หรือ 5-10 เท่าตัวก็มี … ทำอย่างไรเราจะ “ค้นหา” หุ้นโตเร็ว หรือ Growth Stock เหล่านี้ได้ หนังสือเล่มนี้มีคำตอบครับ #NaiwaenInvestment

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ How to การบริหารจัดการเงิน อสังหา “คลิ๊กอ่านที่นี่เลยครับ”

[เกี่ยวกับผู้เขียน]

“นายแว่นธรรมดา” หนึ่งในกูรูหุ้น FINOMENA และผู้ก่อตั้ง //www.topofliving.com ผู้เขียนหนังสือ “ลงทุนหุ้นโตเร็ว” และหนังสือขายดี “กลยุทธุ์จับจังหวะลงทุนหุ้น” ปัจจุบันเป็นนักลงทุนอิสระ นักเขียนอิสระ ขอถ่ายทอดความรู้ด้านการลงทุน เผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ

ติดต่อนายแว่นธรรมดาได้ที่นี่ครับ  naiwaentammada@gmail.com