#ปลูกหุ้นวีไอให้รวย ... “กรณีศึกษา หุ้นที่ยอดขายเติบโตมากกว่าต้นทุนขาย”
.
สำหรับการลงทุนในระยะยาว นั้นส่วนตัวผมมักจะแบ่งออกเป็นสองแบบ ได้แก่ การลงทุนในหุ้นเติบโต และการลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่า
.
การลงทุนในหุ้นเติบโต หมายถึง การลงทุนที่เราต้องค้นหา “ต้นกล้าหุ้น” และลงทุนเสียแต่เนิ่น ๆ รอกิจการเจริญเติบโต สร้างผลกำไร และเงินปันผลกลับมาให้เรา
.
สำหรับการลงทุนในหุ้นคุณค่า หมายถึง เราต้องมองหาหุ้นดีราคาถูก ๆ มีสินทรัพย์มาก ๆ และในอนาคตจะดีขึ้น หรืออาจเกิดการปลดล็อกสินทรัพย์ขึ้นมา ทำให้กำไรโผล่ และส่งผลไปสู่ราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นไปตามผลกำไรที่ดีขึ้น
.
สำหรับการ “ปลูกหุ้นวีไอให้รวย” ในส่วนนี้ขอเน้นหุ้นเติบโต หากเราสามารถซื้อหุ้นเติบโตที่กิจการโตไปได้เรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราสามารถซื้อหุ้นที่ยอดขายเติบโตมากกว่าต้นทุนขาย โอกาสที่เราจะประสบความสำเร็จในระยะยาวก็จะเป็นไปได้มากขึ้น ... จะเป็นอย่างไรบ้าง ให้นายแว่นลงทุนเล่าให้ฟังนะครับ
.
ประการแรก “มองหาหุ้นที่ยอดขายโตมากกว่าต้นทุนขาย”
.
การมองหาหุ้นลงทุนเราควรมองหาหุ้นที่ยอดขายเติบโตมากกว่าต้นทุนขาย ถ้ากิจการใดยอดขายเติบโต แต่ต้นทุนขายโตช้ากว่า กิจการนั้นมีแววที่ “กำไร” จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ขอยกตัวอย่างกิจการต่อไปนี้

.
กรณีตัวอย่างหุ้น #TNP หรือ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภายใต้ชื่อ "ธนพิริยะ" ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 19 สาขา แบ่งออกเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 18 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขา
.
จากภาพประกอบพบว่า หุ้นตัวนี้มีรายได้เติบโตสม่ำเสมอ โดย TNP เป็นหุ้นที่ยอดขายโตเร็วกว่าต้นทุนขาย ยอดขายเติบโตปีละ 10% ติดต่อมาหลายปี (แต่เริ่มสะดุดในปี 2561) ในขณะที่ต้นทุนขายเติบโตไม่ถึง 10% แต่ในปี 2561 ต้นทุนขายเริ่มเติบโตพอ ๆ กับยอดขาย
.
โดยปกติแล้วหุ้นเติบโตแบบนี้มักจะมีพีอีสูง ในห้วงแห่งการเติบโตหุ้นตัวนี้มีพีอีเฉลี่ยสูงถึง 17 – 48 เท่า ซึ่งเป็นช่วงพีอีที่กว้างมาก เนื่องจากตลาดอาจให้ฟรีเมี่ยมของการเติบโตในบางปี และเมื่อการเติบโตเริ่มสะดุดลงในปี 2561 ทำให้ตลาดปรับพีอีให้ใหม่ หากเราลงทุนในช่วงพีอีสูงสุดที่เกือบ 50 เท่า (ในปี 2559) ซึ่งราคาหุ้นอยู่ที่ 3.36 บาทต่อหุ้น เราจะขาดทุนอย่างหนัก เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ราว 1.4 บาทต่อหุ้น (ต้นปี 2562)
.
ประการที่สอง “แล้วหุ้นแบบนี้จะลงทุนได้หรือไม่ อย่างไร”
.
จากตัวเลขยอดขายที่ยังคงเติบโต ทำให้เราอาจพิจารณาได้ว่า หุ้นตัวนี้ยังมี Room ให้ Growth อยู่ แต่การเติบโตของยอดขายที่เริ่มลดลง เราต้องกลับไปพิจารณาปัจจัยเชิงคุณภาพว่า กิจการยังมีปัจจัยเชิงคุณภาพที่แข็งแกร่งอยู่หรือไม่
.
จากข้อมูลที่นายแว่นลงทุนเคยคุ้ยแคะแกะเข้าไปดูพบว่า ... การขยายสาขาไปเรื่อย ๆ เป็นมูลเหตุที่ทำให้ยอดขายของกิจการนี้เติบโต แต่ยอดขายต่อสาขาเริ่มไม่โต นั่นอาจเป็นเพราะการขยายสาขาได้กินลูกค้าไปบางส่วน หรือบางพื้นที่อาจจะชนกันเอง และปัจจุบันก็มีคู่แข่งที่น่าจับตามอง นั่นก็คือ “ร้านธงฟ้าประชารัฐ” ที่เน้นขายของราคาถูก พ่วงไปกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งการสะดุดครั้งนี้จะเป็นภาวะชั่วคราวหรือไม่ เราคงจะต้องติดตามกันต่อไป
.
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ ... หุ้นตัวนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ แม้เราจะเจอหุ้นดีที่มีการเติบโตสูง ยอดขายโตเร็ว กว่าต้นทุนขาย แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็อาจเกิดขึ้นมาได้เสมอ ๆ ดังนั้นก่อนจะลงทุนหุ้นตัวใดเราต้องศึกษาให้รอบด้าน และไม่ควรซื้อที่พีอีสูงลิ่วจนเกินไป เพราะนั่นอาจทำให้เราเจ็บตัวได้ง่าย ๆ เลยนะครับ
.
#CPALL #หุ้นค้าปลีก #นายแว่นลงทุน

...............................................................................................................
.
#แนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ ... "พลิกหินหาหุ้น ด้วยกระแสเงินสด"
.
คอร์สนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือนักลงทุนที่ลงทุนมาระยะ 1-2 ปีนะครับ
.
https://www.skilllane.com/courses/Unlock-Stock-Cash-Flow
.
ใครสนใจเข้าร่วมกลุ่ม "ถอดรหัสหาหุ้นเติบโต" add เข้ากลุ่มได้ที่นี่เลยครับhttps://www.facebook.com/groups/781681738849907/
.
หรือติดตามผ่านช่องทางยูทูปที่https://www.youtube.com/chan…/UCcQxvgiObaaA2DI3UOqrXZw/feed…
.
และสามารถอ่านบทความนี่น่าสนใจได้ที่นี่ https://www.topofliving.com/นายแว่นลงทุน
.
ติดตาม #นายแว่นอสังหา ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/topofliving