ลงทุนคอนโดไม่ยาก : คำถาม 8 ข้อก่อนลงทุนคอนโดมิเนียมให้กำไรงาม
คำถาม 1 ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น รถไฟฟ้า จะมีบทบาทมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะได้ยินบทสนทนาเกี่ยวกับว่า... ซื้อคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าทำเลไหนดี คำถามแนวนี้จะมากขึ้น และข่าวการเปิดตัวรถไฟฟ้า ความคืบหน้าใหม่ๆ การเปิดตัวคอนโดมิเนียมที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าจะมีมากขึ้น สำหรับภาพรวมโดยทั่วไปของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยปกติแล้วจะมีคอนโดมิเนียมถูกสร้างออกมาราวๆ 1 แสนยูนิตต่อปี แต่ความต้องการในระยะยาวนั้นมีเกือบ 1 ล้านยูนิต หมายความว่า อาจต้องใช้เวลาราว 10 ปี จึงจะสร้างได้ครบกับความต้องการ แต่อย่างไรก็ตามการเกิดขึ้นของคอนโดมิเนียมอาจมากกว่า 1 แสนยูนิตต่อปีในอนาคต เรื่องจากมีการเปิดหน้าดินใหม่ ทำเลใหม่ๆ นั่นคือ แนวรถไฟฟ้าหลากหลายสีนั่นเอง คำถามที่ 2 พอจะมีตัวเลขบ่งชี้การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์โดยภาพรวมหรือไม่ ภาพของคอนโดฯ โครงการใหม่ในไตรมาสที่ 4 ปี 2558 เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปีเดียวกัน เพราะมีการเปิดตัวของโครงการมขนาดใหญ่หลายแห่ง นอกจากนี้โครงการเปิดตัวใหม่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง (peripheral area) อย่างไรก็ตาม การเติบโตของห้องชุดที่เพิ่มขึ้นในฝั่ง supply ต้องสัมพันธ์กับ demand หรือความต้องการห้องชุดโดยที่ผ่านมามีการกระตุ้นให้เกิดความต้องการผ่านมาตรการณ์รัฐ ทว่า
ถึงจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่ช่วงต้นของไตรมาสที่ 4 แต่ยอดขายก็ยังลดลงเกือบ 50% ถ้าเทียบไตรมาสต่อไตรมาส (มาตรการนี้ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับโครงการคอนโดฯ สร้างเสร็จแล้วมากกว่าโครงการที่เพิ่งเปิดใหม่) โดยทำเลใกล้กับย่านศูนย์กลางธุรกิจ เช่น รัชดา พระราม 9 เพชรบุรี พหลโยธิน และลาดพร้าว ยังไปได้ และทำเลสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว และสายสีส้ม มีแนวโน้มดี เพราะสินค้ามีอยู่ไม่มาก และทำเลที่น่าสนใจก็คือ ทำเลย่านรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่กำลังจะเปิดใหม่เร็วๆ นี้นั่นเองครับ คำถามที่ 3 คอนโดมิเนียมกำลังล้นตลาด และเกิดฟองสบู่? หากเราพิจารณาจากกราฟจะพบว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะมี supply มากกว่า demand เป็นปกติทุกปี สาเหตุเป็นเพราะผู้ประกอบการหรือ developer เองก็มักจะนิยม ตุน ห้องชุดทำเลดีๆ เอาไว้ ไม่ยอมขายออกมาหมดในทีเดียว และส่วนใหญ่ห้องชุดที่ตุนเอาไว้มักจะมีทำเลติดสถานีรถไฟฟ้า หรือไม่ก็เป็นทำเลที่เกิดจุดตัดของรถไฟฟ้าสองสาย หรือที่เรียกกันว่า interchange นั่นเองครับ จากภาพ โครงการในย่านศูนย์กลางธุรกิจราคาเพิ่มขึ้นมาก(> 14%) เฉลี่ยราคาต่อตารางเมตรปัจจุบัน 217,706 บาท/ตารางเมตร ขณะที่โครงการนอกเขตธุรกิจ ราคาเฉลี่ย128,649 บาท/ตารางเมตร และโครงการย่านชานเมือง ราคาเฉลี่ย 73,388 บาท/ตร.ม. โดยโครงการย่านชานเมือง ราคาจะไม่ขยับมาก เนื่องจากยังมีโครงการเหลืออยู่ค่อนข้างเยอะ เมื่อเรามาติดตามราคาขายจะพบว่าราคาต่อตารางเมตรของคอนโดมิเนียมมีแต่จะปรับตัวสูงขึ้นทุกปี โดยราคาเฉลี่ยในไตรมาส 4 ปี 2558 สูงกว่า 2 แสนบาทต่อตารางเมตร หากเป็นนอกเมืองไปหน่อยราคาก็แตะหลักแสนเหมือนกัน จากภาพดังกล่าวทำให้ผมเข้าใจว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะยังไม่มีสัญญาณฟองสบู่ เนื่องจากการเติบโตของห้องชุดยังคงทำได้ดี และราคาก็ปรับขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ในยามที่ผู้คนมีหนี้สินมาก ไม่มีเงินจับจ่ายมากนักยังเติบโตได้แบบนี้ก็ถือว่าทำได้น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวเลยครับ คำถามที่ 4 ปัจจัยกำหนดความสำเร็จของการลงทุนคอนโดมีอะไรบ้าง? การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยกำหนดความสำเร็จที่แสนจะสำคัญก็คือ ทำเล หากเราลงทุนในทำเลที่ดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นทำเลที่ยังไม่แพงในปัจจุบัน แต่จะเพิ่มคุณค่า หรือ Value จะถูกสะท้อนออกมาในอนาคตนั้นถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ หรือแม้แต่คนที่ลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากเงินไว้กับธนาคารไม่ควรมองข้ามนะครับ ... โดยทำเลที่ดีตามหลักการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้ประสบความสำเร็จประกอบด้วย 1) ผู้คนในทำเลนั้นๆ มีมากเพียงพอ เพื่อที่จะหาคนเช่า หรือขายต่อทรัพย์ได้คล่องตัว 2) มีแหล่งงานขนาดใหญ่สำหรับผู้คนที่ต้องเดินทางไปทำงาน-กลับบ้าน ตลอดทั้งวัน 3) มีถนนสายใหญ่ สายสำคัญเชื่อมถึงกัน ไปมาสะดวกสบาย 4) หากอยู่ในทำเลตรงข้ามแม่น้ำควรมีสะพานขนาดใหญ่ขนส่งรถยนต์ รถโดยสารอย่างเพียงพอ 5) ที่สำคัญที่สุดก็คือ อนาคตรถไฟฟ้ามาแน่ๆ คำถามที่ 5 ปี 2559 มีทำเลใกล้รถไฟฟ้าที่ไหนน่าลงทุนบ้าง? สำหรับปี 2559 จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น นั่นก็คือ การเปิดบริการของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และในปีต่อๆ ไปก็จะมีสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ทำให้เราเห็นภาพได้ไม่ยากว่า อนาคตของคอนโดมิเนียม จะต้องขยับปรับตัวขึ้นอีกได้ในไม่ช้า เรามามองหาคอนโดทำเลทองคำปี 2559 ว่ามีที่ไหนบ้าง ติดตามกันเลยครับ ทำเลแรก... โซนศูนย์กลางธุรกิจ CBD (Central Business District) ในโซนนี้จะมีทำเลที่น่าสนใจสุดสุด 2 ทำเล ได้แก่ CBD ดั้งเดิม คือ ทำเล สาทร-สีลม-บางรัก และทำเล CBD แห่งใหม่ คือ ทำเล รัชดาฯ-พระรามเก้า สำหรับทำเล สาทร-สีลม-บางรัก เนื่องจากทำเลนี้ถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจ และโรงเรียนดังๆ หลายโรงเรียนก็มีที่ตั้งอยู่แถบนี้ แถมด้วยโรงพยาบาลทั้งรัฐ และเอกชนก็ยังมีที่ตั้งอยู่ในทำเลใกล้ๆ หากเราคิดจะลงทุนหาที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ เราอาจต้องมีเงินหนาหน่อยนะครับ เราสามารถซื้อห้องชุดไว้ปล่อยเช่า แล้วเก็งกำไรได้ไม่ยาก เก็บไว้ขายต่อคนทำงานบริเวณนี้ได้ ทั้งคนไทย และคนต่างประเทศ โดยจำนวนห้องชุดในทำเลนี้ยังมีอยู่ไม่เกิน 10% ของห้องชุดทั้งหมดในพื้นที่ของกรุงเทพฯ ด้วยที่ดินในบริเวณนี้ค่อนข้างจะหายากแล้ว ราคาห้องชุดจึงค่อนข้างสูง และอาจสูงกว่า 2 แสนบาทต่อตารางเมตร หากเราดูราคาของห้องชุดในทำเลนี้ย้อนหลังเราจะพบว่ามันปรับขึ้นมาโดยตลอด และมีการปรับขึ้นกว่า 11% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ทำเล CBD แห่งใหม่ คือ ทำเล รัชดาฯ-พระรามเก้า ทำเลนี้มีศักยภาพการเติบโตที่ดูเหมือนจะมากมาย มีทั้งรถไฟฟ้า MRT และสำนักงานการเงินจำนวนมาก รวมทั้งการเข้ามาของหน่วยงานด้านการเงินขนาดใหญ่ของภาคเอกชน ทำให้ย่านนี้กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางการเงินแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ไปแล้ว เราจะเห็นคอนโดมเนียมแบรนด์ดังๆ ต่างก็ไปพัฒนาเป็นที่พักอาศัย และยังมีศูนย์การค้ามารองรับผู้คนในย่านนี้อีกด้วย ทำเลที่สอง... ทำเลที่เป็นโซนยอดนิยมของชาวต่างชาติ หรือ Expact ทำเลในนิยามของการเป็นโซนยอดนิยมของชาวต่างชาติ หรือ Expact นั้นจะต้องใกล้รถไฟฟ้า โดยจะเน้นไปที่รถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ครอบคลุมพื้นที่ทำเล พร้อมพงศ์-เอกมัย-ทองหล่อ และพระขโนง ที่เป็นบริเวณที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะชาวต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น ชาวญี่ปุ่นจะ คุ้นเคย กับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และชอบใช้ชีวิตที่สะดวกสบายในย่านเมืองเป็นหลัก จึงทำให้ทำเลแถบนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก คอนโดมิเนียมที่อยู่ในย่านทำเลนี้มีราคาขายต่อตารางเมตรเฉลี่ยสูงกว่า 1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร หากเราคิดจะซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือขายต่อก็จะทำได้ไม่ยากเย็นนัก และที่สำคัญ ราคาของคอนโดฯ ในย่านนี้ถ้าเราหาดีๆ จะมีราคาที่ย่อมเยากว่าทำเลแรก ทำให้เราสามารถลงทุนได้ เพียงแต่เราต้องหากลุ่มลูกค้าของเราให้เจอนะครับ ทำเลที่สาม... ทำเลนอกเมืองที่รถไฟฟ้ากำลังจะไปถึง หากเราคิดว่าทำเลสองทำเลแรกนั้นมีราคาค่อนข้างสูง ลองมองดูรอบนอกเมืองออกไป เราจะพบทำเลอนาคตที่เป็นทำเลนอกเมืองที่รถไฟฟ้ากำลังจะไปถึง ทำเลเหล่านี้ ได้แก่ ทำเลแยกท่าพระ ทำเลบางใหญ่ เป็นต้น สำหรับทำเลแยกท่าพระ นั้นกำลังจะกลายเป็น HUB ของฝั่งธนบุรีอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากทำเลในย่านนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายมาตัดกับรถไฟฟ้าอีกสาย หรือที่เรียกกันว่า interchange นั่นเอง ผู้คนในย่านนี้ก็มีมากมาย ปัจจุบันต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธาระณะเพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองเป็นหลัก ทำให้รถค่อนข้างติดตามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แต่หากอนาคตมีรถไฟฟ้า การเดินทางก็จะสะดวกสบายขึ้นมาก เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา สามารถขนส่งผู้คนไปมาได้มากกว่า 1 ล้านเที่ยวต่อวันเลยทีเดียว ส่วนทำเลบางใหญ่ ถือเป็นทำเลที่ดี และน่าสนใจ เนื่องจากมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเข้ามาให้บริการผู้คนแถบนั้น รวมทั้งผู้คนที่ย้ายไปอยู่ชานเมือง เนื่องจากไม่สามารถซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองได้ ทำให้ผู้คนมีค่อนข้างมาก โอกาสก็เปิดออก คอนโดมิเนียมในย่านนั้นราคาขายต่อตารางเมตรถือว่ายังไม่สูงมากนัก เหมาะแก่การลงทุนทั้งระยะยาว และระยะสั้นเป็นอย่างยิ่งครับ และทำเลที่น่าสนใจไม่แพ้ทำเลที่กล่าวมาก็คือ ทำเลย่านนนทบุรี คำถามที่ 6 แล้วทำเลย่านนนทบุรีมีความน่าสนใจอย่างไร จากโจทย์ดังกล่าว... ทำให้ผมพบกับทำเลแห่งหนึ่งที่เข้าสเป็ก 5 ข้อข้างต้น นั่นก็คือ ทำเลนนทบุรี สนามบินน้ำ โดยทำเลแห่งนี้มี Node สำคัญ ที่เป็นแหล่งงานในพื้นที่นี้ก็คือ ศูนย์ราชการนนทบุรีขนาดใหญ่ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข มีถนนสายสำคัญอันได้แก่ ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนติวานนท์ และถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี เชื่อมต่อถึงกันอย่างเป็นระบบ มีผู้คนอาศัยอยู่ในย่านนี้อย่างมากมาย และต้องเดินทางไปทำงานแทบจะตลอดทั้งวัน อนาคตมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ และที่สำคัญจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงผ่านทำเลนี้ โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2553 และใกล้จะเปิดใช้บริการเต็มทีแล้ว ... คำถามที่ 7 คิดว่าลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กับฝากเงินไว้กับธนาคารอย่างไหนดีกว่ากัน? เมื่อชีวิตการทำงานเริ่มต้น และเริ่มมีเงินเก็บ แน่นอน ทุกคนย่อมมองหาแนวทางที่จะทำให้เงินที่เก็บออมได้จากการทำงานมีความคุ้มค่ามากที่สุด บางคนจะมองว่า การนำเงินเก็บไปฝากธนาคารสิ เพราะมีความปลอกภัยมากที่สุด บางคน อาจจะมองว่า นำมาลงทุนกับสลากออมสินสิ มีความปลอกภัย และยังได้ดอกเบี้ยมากกว่าอีกด้วย บางคน อาจจะมองว่า นำไปลงทุนกับกองทุนสิ น่าจะคุ้มค่ากว่า เพราะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่แน่นอน ว่าย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน ซึ่งในวันนี้ เราจะมาแนะนำการลงทุนอีกแบบหนึ่ง ซึ่งน่าจะให้ได้ผลการลงทุนที่มากกว่าการฝากเงินกับธนาคาร และได้เป็นสินทรัพย์ในรูปอสังหาริมทรัพย์ด้วย ใช่แล้ว การลงทุนในคอนโดมิเนียมนั่นเอง การลงทุนคอนโดมิเนียมที่ดีมีอนาคตนั้นจะช่วยให้เราเอาชนะเงินเฟ้อได้ เพราะอนาคตนั้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะ ลดลง ดูจากประเทศญี่ปุ่นเองก็มีอัตราดอกเบี้ย ติดลบ ไปแล้ว การลงทุนในคอนโดมิเนียมจึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผมครับ กาลงทุนในคอนโดมิเนียม หรือ คอนโด เป็นการลงทุนในรูปแบบที่เป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนที่มีชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กทม ของเรานั่นเอง โดยคอนโดที่อยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้าในเมือง จะเป็นคอนโดที่มีราคาที่สูงมาก ซึ่งอาจจะเหมาะกับผู้ที่มีรายได้สูง และมีความพร้อมทางด้านการเงินอย่างมาก ในขณะที่คนหน้าใหม่ๆ ที่อาจจะเพิ่งเริ่มทำงาน และเริ่มมีเงินเก็บในระดับหนึ่ง อาจจะต้องมองหาคอนโดที่สร้างออกมาทางด้านนอกๆหน่อย เพราะราคาจะเริ่มย่อมเยาลงมา อยู่ในช่วงที่พอจะรับได้กับเงินเก็บและรายได้ที่มี คำถามที่ 8 ลักษณะของการลงทุนคอนโดมิเนียมที่จะคุ้มค่ากว่าการฝากเงินไว้กับธนาคารเป็นอย่างไร? ลักษณะของการลงทุนคอนโดที่จะคุ้มค่ากว่าการฝากเงินไว้กับธนาคาร - ทำเลต้องใช่: คนทั่วไปอาจจะซื้อในซอยบ้าน แต่ผมจะซื้อติดริมถนนใหญ่เลย เพราะว่าทำเลริมถนนไม่ต้องใช้การโฆษณามากมายๆ คนขับรถผ่านไปผ่านมาก็จดจำได้ง่าย อีกทั้งคอนโดที่ติดริมถนนนั้นจะปลดล็อคเรื่อง EIA ไปได้ครึ่งหนึ่งเพราะไม่ใกล้ชุมชน วัด เป็นต้น (**EIA คือ การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ถ้าโครงการไม่ผ่าน EIA อาจมีปัญหาในการก่อสร้างได้)
- ต้องมีปัจจัย 3 ข้อ : โดยปัจจัย 3 ข้อที่คอนโดนั้นต้องมี อย่างหนึ่งอย่างคือ อยู่กลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า เห็นวิวแม่น้ำ ซึ่งเหมาะตลาดคอนโดให้เช่าสำหรับคนทั่วไป (Mass Market) ราคาปกติอยู่ที่ประมาณ 1-3 ล้านบาท/ยูนิต
ที่สำคัญเราต้องดูเรื่องของศักยภาพของทำเล ก่อนด้วยว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่หรือเปล่า เช่น มีรถไฟฟ้าผ่านหรือไม่ มีโครงการห้างสรรพสินค้า เพราะเหล่านี้คือปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคน คอนโดที่ดีมีศักยภาพควรอยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเกินกว่า 300-400 เมตรจึงจะดีครับ (รถไฟฟ้า = การเดินทาง , ห้างสรรพสินค้า = การ Shopping , สถานที่ทำงาน = การเดินทางและเวลา) คอนโดที่ดีต้องสร้างกระแสเงินสดได้ : สำหรับคนที่คิดจะลงทุนด้วยการซื้อคอนโด และปล่อยเช่า ต้องดูดว่าว่า ทำเลที่เราซื้อนั้นสามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับเราได้หรือไม่? เราสามารถเดินสำรวจคอนโดมิเนียมบริเวณใกล้เคียงเพื่อเปรียบเทียบ ทั้งเรื่องของการเดินทาง ทำเล อัตราค่าเช่าต่อตารางเมตร ประกอบการพิจารณาครับ เลือกคอนโดที่ราคาคุ้มค่า: ผมจะไม่ซื้อคอนโดที่แพงที่สุดในย่านนั้น แต่จะศึกษาตลาดแถวนั้นก่อน สมมุติ มีคอนโดเกิดใหม่ 10 โครงการ โครงการที่ซื้อไม่ใช่โครงการที่แพงที่สุด แต่เป็นโครงการที่คุ้มค่าโดยเปรียบเทียบแล้วนั้นเอง (ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากเพราะความคุ้มค่าของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน) ผมจะเปรียบเทียบจากเกรดที่เท่ากันๆ ราคาจะเกี่ยวเนื่องกับค่าแบรนด์ด้วย หากเป็นคอนโดมี่มีแบรนด์ ราคาจะบวกเพิ่มไปอีก 10% ปัจจัยราคาจะมองที่ราคาอนาคตมากกว่า โดยตัวค่าเช่าควรได้ผลตอบแทนประมาณ 7% ต่อปี กับ ราคาในอนาคตต้องโตอย่างน้อย 20 % ซึ่งปัจจัยนี้ต้องใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์มากๆเหมือนกัน ควรพิจารณาทั้งมือหนึ่ง และมือสอง: ถ้าซื้อมือสอง ต้องดูว่า นิติบุคคลมีความเข้มแข็งขนาดไหน สภาพแวดล้อมภายนอกโอเค? เพราะสภาพภายนอกแก้ไขไม่ได้ แต่ภายในห้องแก้ไขได้ และต้องดูเงินในกระเป๋าของเราด้วย ถ้ามีเงินสดจำกัด มือหนึ่งเรายังไม่ต้องโอน ใช้เงินไม่มาก ซื้อได้หลายที่ แต่มือสองซื้อปุ๊บต้องใช้เงินและโอนในทีเดียวตรงนี้คือข้อจำกัดของมือสอง ลักษณะทั้ง 5 ประการเป็นลักษณะของการลงทุนคอนโดมิเนียมที่ดีมีอนาคต เพราะอนาคตนั้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะ ลดลง ดูจากประเทศญี่ปุ่นเองก็มีอัตราดอกเบี้ย ติดลบ ไปแล้ว การลงทุนในคอนโดมิเนียมจึงถือเป็นทางเลือกที่น่สนใจ เพื่อนๆ ลองปรับไปใช้กันดูนะครับ และอ่านทุกเรื่องราวของหุ้นอสังหา หุ้นที่จะได้รับอนิงสงค์จากการที่มีรถไฟฟ้าหลากหลายสายเกิดขึ้น! คลิ๊กอ่านต่อที่นี่เลยครับ [เกี่ยวกับผู้เขียน] นายแว่นธรรมดา ผู้แต่งหนังสือขายดี "รวยหุ้นวีไอไม่เสี่ยง" และหนังสือ "ลงทุนคอนโดไม่ยาก" และผู้ก่อตั้งเว็บ //www.naiwaen.com และ //www.topofliving.com ผมขออาสาถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการลงทุนในหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ให้เพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่านได้อ่านแบบเข้าใจง่าย ติดตามกันให้ได้นะครับ #ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว : ปัญหาของนักลงทุนหุ้นโตเร็วก็คือ มองหุ้นโตเร็วไม่ออก มองภาพใหญ่ไม่ชัดเจน และจัดพอร์ตไม่เป็น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ "ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว" ติดตามได้ที่นี่เลยครับ #ช่องทางการติดตามข้อมูล #นายแว่นธรรมดา สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการติดตามข้อมูล โดยเฉพาะสมาชิกเว็บ www.naiwaen.com ท่านสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ naiwaentammada@gmail.com หรือเข้าไปติดตามบทความในรูปแบบคลิ๊ปเสียงที่ https://www.youtube.com/channel/UCcQxvgiObaaA2DI3UOqrXZw เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวใหม่ล่าสุดที่บล็อกพันทิป //www.bloggang.com/mainblog.php?id=naiwaentammada(ปัจจุบันมียอดเพจวิวกว่า 3.1 ล้านวิว) หรือยังไม่จุใจท่านยังสามารถเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกันที่นี่ครับ https://plus.google.com/u/0/118319315169248364407 สำหรับเรื่องราวของอสังหาริมทรัพย์... เพื่อนๆ สามารถเข้าไปหาข้อมูลที่ต้องการได้ที่นี่ www.topofliving.com และเตรียมพบกับเว็บบอร์ดคุยเรื่องหุ้นเร็วๆ นี้นะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่าน อีโมติคอน grin สำหรับ "นายแว่นธรรมดา" แล้วเราจะทำให้เพื่อนๆ ทุกท่าน "มีชีวิตที่ง่าย และดี" ขอแนะนำเว็บไซค์เกี่ยวกับบ้าน และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ //www.topofliving.com โปรดติดตาม ลงทุนคอนโดไม่ยาก กับนายแว่นธรรมดาได้ในบทความต่อไป และขอแนะนำหนังสือ ลงทุนคอนโด ไม่ยาก เขียนโดยนายแว่นธรรมดา และคุณเพชร ผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมิน และลงทุนคอนโดมิเนียมตัวจริง วางขายตามแผงหนังสือทั่วประเทศนะครับ
Create Date : 02 มิถุนายน 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2559 12:40:29 น. |
Counter : 1021 Pageviews. |
|
|
|