เจาะลึกทำเลเส้นทางเข้าสู่ตัวโครงการ

ในทำเลบริเวณ สถานี MRT บางแคนี้ ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก มีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง โครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62, โครงการดิออสการ์ คอนโด เพชรเกษม 58 และโครงการเดอะวีว่า คอนโด เพชรเกษม 68 ซึ่งโครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 นั้นถือว่าอยู่ใกล้สถานี MRT บางแคมากที่สุด มีระยะห่างจากสถานีเพียง 350 เมตร และในอนาคต ยังมีโครงการผุดขึ้นรายล้อมสถานี MRT บางแค อีกหลายโครงการเลยครับ

(เครดิต รูปจาก //www.prodigycondo.com)

จากแผนที่จะเห็นว่าโครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 อยู่บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า MRTสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย สถานีบางแค เพียง 350 เมตร เดินเหงื่อไม่ทันออกก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้วนะครับ สะดวกสุดๆ  ที่สำคัญอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดบางแคเลย ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ของชาวบางแค มีสินค้ามากมายให้จับจ่ายใช้สอยครับ และยังใกล้ห้างสรรพสินค้า เช่น ซีคอนบางแค, เดอะมอลล์ บางแค, โลตัส บางแค, เดอะวันเดอร์ ที่สำคัญตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม สามารถขึ้นรถไปไหนมาไหนสะดวกมาก มีรถสาธารณะให้เลือกมากมาย ทั้ง รถเมล์ สองแถว รถ Taxi มอเตอร์ไซค์คิว

เมื่อลองวัดระยะทาง google map จากตัวโครงการไปยังเดอะมอลล์ บางแค ห่างกันเพียงแค่ 1.9 กิโลเมตรเองครับ อยุ่ใกล้มากๆ เดินทางก็สะดวกสุดๆเลยครับ

เรามาเริ่มเดินทาง โดยตั้งต้นเดอะมอลล์ บางแค กันครับ

ซึ่งที่เดอะมอลล์ บางแคนี้ เป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้า MRTสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย สถานีหลักสองด้วยครับ

ขับต่อมาอีกเพียง 1 กิโลเมตร ก็จะถึง โลตัส บางแคแล้วครับ

ซึ่งที่บางแคนี้ ยังเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้า MRTสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย สถานีบางแคด้วยนะครับ จากโครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 เดินนิดเดียวเพียง 350 เมตร ก็ถึงสถานีบางแคแล้วครับ

ใกล้กันยังมีตลาดบางแค ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่อยู่คู่ชาวบางแคมาอย่างยาวนาน มีของกินของใช้มากมายเลยครับ

จากตลาดบางแค ข้ามคลองราชมนตรีมาปุ๊บก็ถึงโครงการเลยครับ โดยตัวโครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 นั้นอยู่ติดคลองราชมนตรีเลยครับ

จะเห็นว่าตัวโครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 นั้นอยู่ติดถนนเพชรเกษมเลยครับ ไม่ต้องเข้าซอยให้ยุ่งยากเสียเวลาครับ อยู่ตรงช่วงปากซอยเพชรเกษม 62  และฝั่งตรงข้ามเป็นตลาดสดบางแคเดินไปจ่ายตลาดได้ง่ายมากครับ ใกล้ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ใกล้ห้างซีคอน บางแค 800 เมตร และใกล้โลตัส บางแคประมาณ 850 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี BTS บางหว้าที่เปิดให้บริการแล้ว โดยเดินทางแค่ 3.5 กิโลเมตรก็ไปขึ้น BTS ได้แล้วครับ

เจาะลึกรายละเอียดของตัวโครงการ

โครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 เป็นคอนโดมิเนียมHigh rise จำนวน 2 อาคาร คือ อาคาร A  และ B โดยอาคาร A สูง 31 ชั้น 474 ยูนิต และอาคาร B สูง 33 ชั้น 799 ยูนิต รวมเป็นห้องพักอาศัย 1,273 ยูนิต และร้านค้า 5 ยูนิต มีที่จอดรถ 50% หรือ 650 คัน รวมจอดซ้อนคัน ฮวงจุ้ยโครงการถือว่าดีมากครับ โดยการออกแบบอาคารเรียงต่อเนื่องจากด้านหน้าเข้าไปด้านใน โดยอาคารด้านหลังซึ่งเป็นอาคาร B ออกแบบให้เป็นตัว L โอบล้อม Facilities ของโครงการทั้งหมด ซึ่งเจ้าของโครงการคือ จีดีที พร็อพเพอร์ตี้

โครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 มีแบบห้องให้เลือกอยู่ 5 แบบ คือ

– Studio : 23 ตร.ม.

– 1 Bed : 29 ตร.ม.

– 1 Bed Plus : 33.5 ตร.ม.

– 2 Bed : 50.5 ตร.ม.

– 2 Bed Corner : 50 ตร.ม.

                   (เครดิต รูปจาก //www.prodigycondo.com)

ผมจะพามาดูแบบห้องแรกกันครับ คือ แบบห้อง 1 Bed Plus ขนาด 33.5 ตร.ม. จากแปลนห้องจะเห็นว่ามี  1 ห้องนอน  1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น  เพดานสูง 2.6 เมตร ครัวเป็นแบบเปิด พื้นที่ห้องนั่งเล่น ขนาดใหญ่ โดยแบ่งเป็นส่วนครัว มุมรับประทานอาหาร และมุมนั่งเล่น ถัดเข้าไปด้านในเป็นมุมทำงาน ส่วนห้องนอนจะกั้นกระจกแบบ Bay Window พร้อมห้องน้ำภายในห้องนอน

พอเปิดประตูเข้าห้องไปก็จะเจอส่วนครัวก่อนเลยครับ ซึ่งจะเป็นเคาเตอร์ครัว built in โดยทางโครงการใจป้ำมาก ๆ แถมครัว built in นี้มาให้เลยครับ  ให้ครบ set ทั้ง ซิงก์ล้างจาน เตาไฟฟ้า hood ดูดควัน ตู้ชุดใส่ช่องเก็บของพร้อมบานประตูตู้ แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่แถมนะครับ แต่แถมให้เท่านี้ก็เรียกได้ว่าเกือบครบชุดแล้วครับ

hood ดูดควัน ที่โครงการให้มาเป็นยี่ห้อ HAFELE ของดีเลยครับ

ถัดจากส่วนครัวเข้าไปจะเป็นส่วนนั่งเล่นครับ โต๊ะวางทีวี และตู้วางของที่เห็นนี้ ขอบอกว่าทางโครงการแถมมาให้หมดเลยนะครับ ยกเว้นทีวีอย่างเดียวที่ไม่แถม

วางโซฟาสไตล์ modern ทำให้เข้ากันได้ดีกับส่วนนั่งเล่นเลยครับ และโครงการก็แถมชุดโซฟานี้ให้หมดอีกแล้วนะครับ

ติดกับส่วนนั่งเล่น ก็เป็นมุมทำงานเล๊กๆ โดยทางโครงการก็ built in โต๊ะทำงานมาให้พร้อมกับเก้าอี้เลยครับ

เข้ามาดูที่ห้องนอนกันครับ ตกแต่งในสไตล์โทนสีฟ้าครีม ดูเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความอบอุ่นครับ และทางโครงการก็แถมเตียงมาให้อีกแล้วครับ อยากจะบอกเลยว่า ถ้าซื้อโครงการนี้ เอามาแค่ตัวกับเสื้อผ้าก้เข้าอยู่ได้เลยครับ สะดวก สบายสุดๆ

โต๊ะเครื่องแป้งขนาดกระทัดรัด บริเวณหัวนอน สำหรับ คุณผู้หญิงไว้เสริมสวย โครงการก็แถมให้ครับ  ทางเซลล์มาบอกกับผมว่าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่เห็นในห้องตัวอย่างนี้ ทุกห้องทุกแบบ แถมหมดเลยครับ ผมนี้รีบอยากจจะจองโครงการทันที ประหยัดงบตกแต่งได้มากๆเลยครับ

ที่ปลายเตียงวางทีวีขนาดกำลังเหมาะ ไว้ดูละครคลายเครียดก่อนนอนครับ

ตู้เสื้อผ้าสีขาวแซมลายไม้ เข้ากันดีกับห้องนอน

ส่วนห้องนอนจะกั้นกระจกแบบ Bay Window ทำให้ห้องนอนดูโล่งโปร่ง กว้างขึ้นครับ

ห้องน้ำขนาดกำลังดี ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ เหมาะสมกับพื้นที่ห้องครับ โดยโครงการใช้สุขภัณฑ์ของ American standard ครับ

มีแยกส่วนเปียกด้วยครับ ไม่ต้องกลัวพื้นเปียกแล้ว

ทางโครงการแถมแอร์ให้สำหรับทุกห้องทุกแบบด้วยนะครับ โดยเป็นยี่ห้อ SAMSUNG

ส่วนระเบียงไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ เอาไว้ตากผ้าก็เหมาะทีเดียวครับ

                                            (เครดิต รูปจาก //www.prodigycondo.com)

มาดูที่ห้องตัวอย่างต่อไปกันครับ คือ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. จากแปลนห้องจะเห็นว่ามี  1 ห้องนอน  1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น  เพดานสูง 2.6 เมตร ห้องนี้จัดฟังก์ชันมาค่อนข้างลงตัว มีพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นกว้างพอสมควรครับ

เมื่อเปิดห้องเข้ามาจะเจอห้องนั่งเล่น โดยมีระยะดูทีวีกว้างๆ สบายๆ ไม่แออัดครับ

วางโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง และโต๊ะกลาง เข้ากันดีเลยครับ

ตรงข้างโซฟา จะมีชุดตู้ ชั้นวางของโครงการแถมมาให้ด้วยครับ

เข้าไปดูส่วนทำอาหาร จะเป็นครัวปิด โดยจะมีประตูกระจกบานเลื่อนเดี่ยว กันกลิ่นอาหารได้ดีครับ มีเคาเตอร์ครัว buit in มาให้ด้วยครับ

เข้ามาดูที่ห้องนอนกันต่อครับ ขนาดกว้างขวาง โล่งโปร่งสบาย น่านอนมากเลยครับ

ในห้องนอน วางโต๊ะวางทีวี พร้อม มุมทำงานเล๊กๆ ขนาดกำลังดีครับ

ภายในห้องน้ำ ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ครับ

ส่วนอาบน้ำมีฉากกระจกบานเลื่อนนิรภัย กั้นระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้ง

บริเวณข้างๆ ส่วนอาบน้ำ มีชั้นวางของต่างๆ ได้ สะดวกสบายดีครับ

บริเวณระเบียง ด้านล่างคอมเพรสเซอร์แอร์ สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ โดยทางโครงการ ติดตั้งปลั๊กไฟแบบกันน้ำ พร้อมเดินท่อน้ำดี และ ท่อน้ำทิ้งให้เรียบร้อย พร้อมใช้งานได้เลยครับ

      (เครดิต รูปจาก //www.prodigycondo.com)

มาดูห้องสุดท้ายกันครับ เมื่อดูแปลนห้องตัวอย่าง จะเป็นแบบ  Studio ขนาด 23.00 ตร.ม. ความสูงเพดาน 2.6 เมตร โดยจะเป็นห้องขนาดเล็กสุด โดยไม่มีการกั้นห้องนอน แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานภายในห้อง นั้นจัดมาให้แบบครบครัน แบ่งสัดส่วนได้ลงตัว มากครับ

เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปจะเจอส่วนแรก ตกแต่งเป็นส่วน Living Area นั่งพักผ่อน ดูทีวี คลายเครียดหลังกลับจากที่ทำงานได้เลยครับ

ทางโครงการแถมโซฟา ขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางผิว Particle board สวยงามเข้ากันดีครับ

ส่วนครัวจะอยู่ถัดเข้าไปด้านหลัง โดยโครงการให้ชุดครัว มีเคาน์เตอร์ครัว , ชุดอ่างล้างจานจาก Mex เตาไฟฟ้า และที่ดูควันครับ

ถัดจากพื้นที่นั่งเล่น วางเตียงนอนขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ครับ

ชุดโต๊ะเครื่องแป้ง อยู่ระหว่างพืนที่นั่งเล่นกับเตียงนอนครับ โครงการก็แถมมาให้อีกนะครับ

ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-In ที่โครงการให้มาครับ อยู่บริเวณปลายเตียง

ห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องครัวครับ

แยกโซนเปียกกับโซนแห้งมาเรียบร้อยครับ

(เครดิต รูปจาก //www.prodigycondo.com)

สระว่ายน้ำระบบเกลืออยู่ที่ชั้น 6 เป็นสระว่ายน้ำรูปตัว L ความยาวประมาณ 50 เมตร กว้าง 6 และ 8 เมตร

(เครดิต รูปจาก //www.prodigycondo.com)

ห้องฟิตเนส ซาวน่าแยกชาย-หญิง พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน

(เครดิต รูปจาก //www.prodigycondo.com)

โถงรับแขกอันหรูหราที่สามารถต้อนรับแขกเหรื่อ ได้อย่างภาคภูมิใจ พร้อมชมวิวสวยๆ ของเมืองยามค่ำคืน

(เครดิต รูปจาก //www.prodigycondo.com)

สกายเลาจน์ชั้นดาดฟ้าที่เปิดรับวิวเมืองในมุมกว้าง ไว้นั่งเล่นชิลๆ ดูเมืองในมุมสูง เก๋ไม่หยอกครับ

ผมเอารูปความคืบหน้าโครงการมาฝากเพื่อนๆ ด้วยครับ ความคืบหน้าไปแล้วกว่า 60 %

ทางโครงการบอกว่า ประมาณ ม.ค. 2560 ก็สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้แล้วครับ สมัยนี้เทคโนโลยีการก่อสร้างล้ำหน้ามากๆ ทำให้ย่นระยะเวลาไปได้เยอะทีเดียวครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย

• Studio เนื้อที่ 23 ตร.ม. ราคา 1,699,000 ล้านบาท หรือประมาณ 73,900 บาท/ตร.ม.
• Studio เนื้อที่ 23 ตร.ม. ราคา 1,840,000 ล้านบาท หรือประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม.
• 1 BR. เนื้อที่ 29 ตร.ม. ราคา 2,146,000 ล้านบาท หรือประมาณ 74,000 บาท/ตร.ม.
• 1 BR. เนื้อที่ 29 ตร.ม. ราคา 2,407,000 ล้านบาท หรือประมาณ 83,000 บาท/ตร.ม.
• 1 BR. Plus เนื้อที่ 5 ตร.ม. ราคา 2,579,500 ล้านบาท หรือประมาณ 77,000 บาท/ตร.ม.
• 1 BR. Plus เนื้อที่ 5 ตร.ม. ราคา 2,780,500 ล้านบาท หรือประมาณ 83,000 บาท/ตร.ม.
• 2 BR. เนื้อที่ 50 ตร.ม. ราคา 3,840,000 ล้านบาท หรือประมาณ 76,800 บาท/ตร.ม.
• 2 BR. Plus เนื้อที่ 5 ตร.ม. ราคา 4,191,500 ล้านบาท หรือประมาณ 75,500 บาท/ตร.ม.

ผมเอาตัวอย่างราคาของห้องขนาด 29 ตร.ม. ที่อยู่ชั้น 15 มาฝากเพื่อนๆ ไว้พิจารณาครับ

ตัวอย่างราคาของห้องขนาด 29 ตร.ม. ที่อยู่ชั้น 7 ราคาก็จะถูกลงครับ

เจาะลึกสรุปภาพรวมโครงการ

ข้อมูลโครงการ : The Prodigy เพชรเกษม 62

เจ้าของโครงการ : จีดีที พร็อพเพอร์ตี้

ที่ตั้งโครงการ : ถนนเพชรเกษม ปากซอยเพชรเกษม 62 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. 10160

โซน : เพชรเกษม, บางแค, บางหว้า, ภาษีเจริญ

ขนส่งสาธารณะ : ใกล้รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย สถานีบางแค 350 เมตร

รถเมล์ที่ผ่าน : สาย 7, 7ก, ปอพ.10-2, 80, 80ก, 81, 84, 84ก, 91, 91ก, 101, 146, 147, 157, 163, 164, 169, 171, 189, 509, 547

ประเภทห้องและขนาดห้อง :

• 1 Bed / 24 - 35 ตร.ม.
• Studio : 23 ตร.ม.
• 1 Bed : 29 ตร.ม.
• 1 Bed Plus : 33.5 ตร.ม.
• 2 Bed : 50.5 ตร.ม.
• 2 Bed Corner : 50 ตร.ม.

ข้อมูลตึก :  คอนโด High rise 2 อาคาร

เนื้อที่ทั้งหมด : 6-2-16.6 ไร่

จำนวนชั้น :

– อาคาร A สูง 31 ชั้น

– อาคาร B สูง 33 ชั้น

จำนวนห้อง :

– อาคาร A : 474 ยูนิต

– อาคาร B : 799 ยูนิต

– ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ : 5 ยูนิต

ที่จอดรถทั้งหมด :  51% หรือ 650 คัน รวมจอดซ้อนคัน

เริ่มก่อสร้าง :  เม.ย. 2558

ปีที่สร้างเสร็จ :  ม.ค. 2560

ราคา : เริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม  :  ประมาณ 75,000 บาท

ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม.

ค่าส่วนกลาง :  40 บาท/ตร.ม./เดือน

สิ่งอำนวยความสะดวก :  Lobby, Indoor & Outdoor Lobby Mini Shop ร้านค้าภายในโครงการ พื้นที่สวนขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่น Roof Garden Sky Lounge Jogging Track ฟิตเนส, ซาวน่า สระว่ายน้ำ CCTV Access Card Control รปภ. 24 ชม.

สถานที่สำคัญใกล้เคียง :

• ซีคอน บางแค (ประมาณ 0.4 กม.)
• เทสโก้ โลตัส บางแค (ประมาณ 800 ม.)
• เดอะมอลล์ บางแค (ประมาณ 9 กม.)
• สถานี MRT บางแค (ประมาณ 350 ม.)
• ตลาดบางแค (ประมาณ 100 ม.)
• โรงพบาบาล เกษมราษฎร์ (ประมาณ 9 กม.)
• โรงเรียนวัดนิมมานรดี (ประมาณ 800 ม.)
• โรงเรียนราชวินิตประถมบางแค (ประมาณ 1 กม.)
• โรงพยาบาลเพชรเกษม (ประมาณ 1 กม.)

วิเคราะห์ความคุ้มค่า

ผมขอให้คะแนนแยกเป็นหัวข้อ ดังนี้ครับ (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)

โดยจุดเด่นด้านต่างๆ มี ดังนี้

ในด้านสถาปัตยกรรม :

โครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 ดีไซน์ตัวอาคารออกมาในสไตล์ modern  ตัวตึกเรียบหรูสวยงามด้วยโทนสีเทาเข้ม ขาว โดดเด่นด้วยระแนงสีทองตรงชั้นบนในส่วนยอดอาคาร เมื่อมาดูในส่วนของแปลนห้อง มาดูที่ห้องสตูดิโอขนาด 23 ตารางเมตร ขนาดห้องจะมีพื้นที่เล็กไปหน่อย ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 29 ตารางเมตร การแบ่งพื้นที่ก็ดูลงตัวดี แยกพื้นที่ใช้สอยในแต่ละห้องออกมาเป็นสัดส่วน  ต่อมาที่ห้องแบบขนาด 33.5 ตารางเมตร จะได้ขนาดพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มมา ส่วน 2 ห้องนอน เนื้อที่ 50.5 ตร.ม. จะมีขนาดห้องใหญ่สุดครับ เป็นแปลน 2 ห้องนอนที่ทำออกมาได้ลงตัวดีมาก

ในด้านวัสดุ :

ทางโครงการจะให้ห้องทุกประเภทเป็นแบบตกแต่งครบ ด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก Modernform  โดยมีเฟอร์นิเจอร์แทบจะครบครัน เช่น ตู้ เตียง ชั้นวางทีวี โซฟา ชุดครัว เครื่องปรับอากาศ เรียกได้ว่ามาแต่ตัวกับเสื้อผ้าก็เข้าอยู่ได้เลยนะครับ ส่วนภายในห้องน้ำให้อุปกรณ์ก๊อกน้ำ, ฝักบัว เป็นของ American Standard มีแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยฉากอาบน้ำบานเลื่อนกระจก โดยพื้นห้องพักจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต และพื้นห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคนอกจากนี้วัสดุแบบ 2 ห้องนอนนั้นก็จะดูดีขึ้นมาจากแบบ 1 ห้องนอนอยู่ในบางจุด เช่น  เตาและเครื่องดูดควันที่จะแถมให้

ในด้านพื้นที่ส่วนกลาง :

พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2.5 ไร่ การออกแบบสวยงาม  สระว่ายน้ำรูปตัว L ระบบเกลือ อยู่ที่ชั้น 6 ความยาวประมาณ 50 เมตร กว้าง 6 และ 8 เมตร มีห้องฟิตเนส ซาวน่าแยกชาย-หญิง หันหน้าออกวิวสระว่ายน้ำ รอบสระว่ายน้ำมีสวนพักผ่อน และมุมนั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ จุดเด่นอยู่ที่ Sky Lounge ที่ชั้น 32 ของอาคาร B และ Roof Garden พร้อม Jogging Track สามารถวิ่งออกกำลังกายได้ ที่ชั้นดาดฟ้าของทั้ง 2 นอกจากนี้ส่วนกลางภายในอาคารค่อนข้างหรูหรา สวยงาม มีร้านค้า 5 ยูนิตที่เปิดในบริเวณโซนด้านหน้าโครงการ โครงการมีจำนวนลิฟท์โดยสาร 5 ตัว และ ลิฟท์บริการ 2 ตัว (เฉลี่ยลิฟท์โดยสาร 1 ตัว/ 255 ยูนิต) จำนวนที่จอดรถ ประมาณ 50% หรือ 650 คัน รวมจอดซ้อนคัน

ในด้านการทำเล :

โครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นทำเลที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย สถานี บางแค ห่างกันเพียงแค่ 350 เมตร และตัวโครงการยังอยู่ติดกับถนนเพชรเกษมเลย ไม่ต้องเข้าซอยให้ยุ่งยาก  ซึ่งทำเลถนนเพชรเกษม ตรงย่านบางแค ถือเป็นทำเลทอง เพราะจากถนนเพชรเกษมสามารถเข้า ออก ตัวเมืองได้สะดวก และยังมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งผ่านครอบคลุม และนอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้ตลาดบางแคซึ่งเป็นตลาดใหญ่มีของกินของใช้ให้เลือกหลากหลายมากครับ และยังมีห้างใกล้ๆ มากมาย ทั้ง Seacon บางแค และ The Mall บางแค lotus บางแค และใกล้สถานศึกษา เช่น โรงเรียนผดุงกิจวิทยา, โรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐาราม, โรงเรียนประทุมอนุสรณ์, โรงเรียนภาษานุสรณ์ บางแค, มหาวิทยาลัยสยาม ส่วนโรงพยาบาล ก็จะมี โรงพยาบาลเพชรเกษม 2, โรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค

ในด้านการเดินทาง :

การเดินทางถือว่าเดินทางได้สะดวกเพราะตัวโครงการยังอยู่ติดกับถนนเพชรเกษมเลย ไม่ต้องเข้าซอยให้ยุ่งยาก  แต่การจราจรมีติดขัดบ้างช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ทำให้รถค่อนข้างติดมาก ในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จ รถน่าจะติดน้อยลง ถนนใกล้ๆโครงการนั้นถนนหลักเป็นถนนเพชรเกษม และยังมีเส้นทางที่ใช้เชื่อมต่อไปเส้นอื่นๆได้ เช่น ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซึ่งจะเชื่อมต่อไปเข้าถนนบรมราชชนนีไปโซนปิ่นเกล้า หรือจะวิ่งเล้นราชพฤกษ์เข้าสาทร หรือจะออกบางแคเข้ากัลปพฤกษ์ ไปยังสาทรได้ไม่ลำบาก  หรือจะออกไปยังจังหวัดอื่นๆ ได้สะดวก ทั้ง นครปฐม, สมุทรสาคร  จัวโครงการอยู่ใกล้ป้ายรถเมล์ มีรถเมล์ผ่านหลายสาย เรียก Taxi มอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ง่ายจากหน้าโครงการ ในอนาคตมีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางแค ยิ่งเดินทางได้สะดวกมากๆ

ในด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต :

พื้นที่ในย่านบางแค ถือเป็นโซนที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างหนาแน่นแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ตัวโครงการอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้ามากมาย ที่สำคัญในอนาคตอันใกล้ จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง – บางแค และตัวโครงการอยู่ใกล้สถานีบางแคเพียง 350 เมตร การเดินรถของสายสีน้ำเงินจะมีลักษณะเป็น 2 เส้นทางคือ เริ่มที่หัวลำโพง วนขวาผ่านบางซื่อมาสิ้นสุดที่ท่าพระ ขากลับก็ย้อนเส้นทางเดิมจากท่าพระไปทางบางซื่อแล้วกลับไปหัวลำโพงใหม่ และอีกเส้นทางคือเดินทางตรงๆจากสถานีหลักสองมาหัวลำโพง ขากลับก็วิ่งจากหัวลำโพงไปหลักสอง โดยมีสถานีท่าพระเป็นสถานีInterchange กันภายในสายสีน้ำเงิน ระหว่างช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และ ช่วงหัวลำโพ-บางแค นอกจากนี้ในแต่ละเส้นทางที่วิ่งก็ยังตัดกับรถไฟสายสีอื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางได้สะดวกขึ้น เมื่อรถไฟฟ้าเสร็จเราสามารถเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องกังวลกับรถติดอีกต่อไป โดยโครงการสายสีน้ำเงินนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2561 ครับ

สรุปภาพรวม :

สรุปจากการที่ได้ไปสำรวจมา  โครงการ The Prodigy เพชรเกษม 62 ตอบโจทย์สำหรับมนุษย์เงินเดือน ที่อยู่ย่านบางแค และฝั่งธน ที่ทำงานในตัวเมืองกรุงเทพมหานคร ทั้งแถบสาทร สีลม สุขุมวิท และต้องการความสะดวกในการใช้รถไฟฟ้าเข้า-ออกเมือง เดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก  ชอบมีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลายทั้ง รถไฟฟ้า รถเมล์ รถแท็กซี่ มี lifestyle ที่เป็นแบบชีวิตคนเมือง ใช้ส่วนกลางบ้างแต่ไม่บ่อยนัก มีงบประมาณอยู่ที่ 1.7 – 4.2 ล้านบาท หรือยอดผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,000 – 33,000 บาท

(Mr. Top of Living)

www.topofliving.com : สนใจติดต่อให้ทีมงานไปรีวิวโครงการเด่นน่าสนใจ

และผู้ที่สนใจต้องการลงอสังหาริมทรัพย์เพื่อประชาสัมพันธ์ หรือฝากขายติดต่อที่นี่ครับ naiwaentammada@gmail.com

[เกี่ยวกับผู้เขียน]

Create Date : 26 กันยายน 2559
Last Update : 26 กันยายน 2559 16:31:39 น.		0 comments
Counter : 2033 Pageviews.
Share Tweet