อยากกระโดดลงจากรถไฟคันนี้จังเลย (Amish IV)
|
อยากกระโดดลงจากรถไฟคันนี้จังเลย (Amish IV)
|
19 ตุลาคม 2555 |
| จากการได้รับรู้เรื่องราวของชุมชนชาว Amish ในสหรัฐอเมริกาที่เคร่งครัดในศาสนาและใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบชนบทโดยปฏิเสธเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นส่วนมาก สร้างบ้านเหมือนๆกัน แต่งตัวเหมือนกัน เสียสละเพื่อเพื่อนพร้องและชุมชน ทำให้นึกถึงภาพยนตร์ลึกลับสยองขวัญเรื่อง The Village เป็นเรื่องราวของชุมชนกลางป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ก่อตั้งชุมชนเป็นกลุ่มมหาเศรษฐีที่เห็นว่าชีวิตในโลกปัจจุบันนั้นเลวร้ายและไม่น่าอยู่อีกต่อไป จึงลงขันกันซื้อที่ดินกว้างใหญ่ปลูกป่าทำรั้วล้อมรอบจ้างยามมาคุมไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป และสร้างหมู่บ้านเล็กๆใจกลางป่านั้น จากนั้นกลุ่มเศรษฐีจึงย้ายเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านกลางป่านั้น ปิดบังเรื่องราวของโลกภายนอก และสร้างเรื่องของอสูรกายในป่าขึ้นเพื่อกันไม่ให้ลูกหลานออกไปจากหมู่บ้าน จนความมาแตกกับรุ่นหลาน เมื่อยารักษาโรคในหมู่บ้านหมดลงและเด็กรุ่นใหม่จำเป็นต้องละทิ้งความกลัวจากอสูรออกจากหมู่บ้านมาหายาไปช่วยชีวิตคนเจ็บ
มันทำให้ผมได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า การใช้ชีวิตอยู่ในโลกทุกวันนี้นั้นได้ทำให้ตัวเรามีความสุขหรือไม่ คำตอบสำหรับตัวผมเองคือ ไม่ กรอบระเบียบของโลกที่เราล้วนสร้างมันขึ้นมาเอง กำลังทำลายตัวเราและโลกของเรา ในขณะที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมกำลังทำลายล้างโลก เรากลับพยายามกระตุ้นการบริโภคเพื่อพยุงระบบเศรษฐกิจเอาไว้ ซึ่งยิ่งเราบริโภคอย่างฟุ้มเฟ้อยิ่งซ้ำเติมปัญหาโลกร้อนซึ่งนั่นหมายถึงหายนะของโลกในที่สุด ในขณะที่ประชากรกำลังล้นโลกหลายประเทศพยายามกระตุ้นให้พลเมืองมีลูกมากๆเพื่อรักษาประชากรวัยแรงงานและขนาดทางเศรษฐกิจเอาไว้
ถามว่าเราไม่ทำเช่นนั้นได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ หากเราไม่กระตุ้นให้เกิดการบริโภค แต่บอกให้ประชากรใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุด ผลที่ตามมาก็คือการหดตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ภาคการผลิต บริการ และการเงินต้องปิดตัวหรือเลิกจ้าง ผลสุดท้ายประชากรจำนวนมากจะตกงาน นำมาซึ่งปัญหาความวุ่นวายมหาศาล
การลดจำนวนประชากรลงก็เช่นกัน สมัยก่อนเราจะเห็นว่ารัฐบาลพยายามที่จะให้ประชากรมีการคุมกำเนิด สปอร์ตโฆษณาพวก มีลูกมากจะยากนาน อะไรทำนองนั้นผุดขึ้นมาตลอดเวลา แต่สมัยนี้สิ่งเหล่านั้นหายไปหมด ไม่มีการพูดถึงอีก เพราะการที่ประเทศมีประชากรมาก นั้นหมายถึงขนาดของตลาดที่ดึงดูดการลงทุน และเงินทองที่จะไหลเวียนในประเทศมากยิ่งขึ้น คือผลประโยชน์มหาศาลและพลานุภาพแห่งประเทศชาติ นอกจากบางประเทศที่ทรัพยากรไม่เพียงพอจะเลี้ยงประชากรเช่นประเทศจีนถึงจะมีมาตรการเพื่อลดจำนวนประชากร
แล้ววิถีชีวิตของเราล่ะ เรามีความสุขแล้วหรือ กับการอยู่อย่างอยากเช่นนี้ เราอยากอยู่ตลอดเวลาในสังคมที่พยายามเหลือเกินให้คุณบริโภคเข้าไว้ ชีวิตคนธรรมดาคนหนึ่งเราต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถกันเกือบครึ่งชีวิต ต้องสำรองเงินมากๆไว้ซื้อชีวิตตอนเราเจ็บไข้ ต้องทุ่มเทเวลาเกือบทั้งหมดเพื่อทำงานที่เราไม่อยากทำเพื่อรักษาวิถีชีวิตเอาไว้ วันๆต้องคอยระวังโจรผู้ร้ายที่ไม่อาจจะยังชีพได้ตามวิถีปุตุชน แล้วหากินทางลัดด้วยการเบียดเบียนผู้อื่น สิ่งต่างๆมากมายในชีวิตที่เราต้องทำแต่ไม่อยากทำ ชีวิตแบบนี้หรือครับที่เราต้องการ
สมัยที่ผมบวชเรียน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ทุกวันตื่นขึ้นมาแล้วมีความสุขกับการเรียนรู้ที่จะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราเอง เรียนรู้หนทางแห่งความสุข ซึ่งก่อนหน้าที่ผมจะบวช ผมก็ศึกษาและปฏิบัติธรรมมาบ้าง แต่ก็สารภาพว่าไม่ได้มีความสุขจากการปฏิบัติเลยจริงๆ แต่พอได้อยู่ในผ้าเหลืองสิ่งต่างๆกลับเปลี่ยนไป การปฏิบัติธรรมภายใต้สภาวะของนักบวชให้ผลแตกต่างออกไปเป็นอย่างมาก การไม่ต้องดิ้นรนหาอยู่หากินทำให้เราปลดเปลื้องพันธนาการหนักๆลง การไม่แต่งตัว ไม่มีทรัพสิน ไม่อาจถือครองสิ่งต่างๆเป็นของตนได้ มันทำให้เราไม่อยากมีอยากได้ไปมากกว่าที่จำเป็นแก่การยังชีวิต ชีวิตเบาๆเหมือนลอยได้ และเหมือนว่ามันมีความสุข แต่ถึงนั่นจะเป็นหนทางแห่งสุขนิรันดร์ก็จริงอยู่ แต่เราส่วนมากก็ยังอยากจะมีความสุขในแบบของปุตุชนไม่ใช่นักบวชผู้สละโลก
กลับมาที่ชุมชนชาว Amish ซึ่งดูเหมือนว่าการมีชีวิตสมถะนั้นจะเต็มไปด้วยความสุขและไม่มีปัญหา แต่ความจริงคือชุมชน Amish กำลังประสบปัญหาใหญ่ที่เกิดจากวิถีของ Amish นั่นเอง ชาว Amish เคร่งครัดในคริสศาสนาและไม่ยอมที่จะคุมกำเนิดตามหลักศาสนา ผลที่ตามมาคือการเพิ่มจำนวนประชากร จนที่ดินที่ถือครองอยู่นั้นไม่เพียงพอกับลูกหลาน วิถีชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อความสุขของชุมชนเกษตรกรรมจึงเปลี่ยนไป ชาว Amish รุ่นใหม่จำนวนมากจำต้องออกจากชุมชนเกษตรกรรม ไปทำงานในเมืองเพื่อความอยู่รอด และนั่นทำลายวิถี Amish และสิ่งนี้เองบั่นทอนวิถีชุมชน Amish ลงอย่างสิ้นเชิง
มีคนเคยกล่าวว่า การใช้ชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบันเหมือนการโดยสารอยู่บนรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูง หากเราจะเปลี่ยนวิถีชีวิตไม่ตามกระแสโลก ก็เหมือนการตัดสินใจกระโดดลงจากรถไฟที่กำลังวิ่งอยู่ ซึ่งไม่ง่ายเลยจริงๆ เช่น หากว่าประเทศไทยจะตัดสินใจให้ประเทศปรับรูปแบบเศรษฐกิจเป็นแบบพอเพียงเต็มรูปแบบ พอเพียง ไม่ฟุ้มเฟ้อ ประหยัด และใช้จ่ายลงทุนตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ ในขณะที่ทั่วโลกอยู่ในกระแสบริโภคนิยม และมีการไหลบ่าของเงินลงทุนมหาศาล ถ้าเช่นนั้นแล้วประเทศจะเป็นเช่นไร คำตอบคือเราจะเสียตลาดการบริโภคภายในประเทศลง ถ้าเราเพิ่มการส่งออกได้ไม่เพียงพอกับการสูญเสียตลาดภายในเศรษฐกิจก็จะหดตัวส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นและเกิดภาวะเงินฝืด เสียโอกาสและศักยภาพการแข่งขันกับประเทศต่างๆ ถึงแม้ว่าเราจะเติบโตอย่างมั่นคงแต่เราจะตามประเทศต่างๆไม่ทัน และตามมาด้วยปัญหาความมั่นคงในที่สุด การกระโดดออกจากรถไฟขบวนนี้จังไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
หนทางที่ทำได้ก่อนรถด่วนสายโลกจะวิ่งไปผิดทิศผิดทางจนพามวลมนุษยชาติตกเหวในที่สุด ก็คือการล้มระบบเศรษฐกิจนี้ลงอย่างสิ้นเชิง และสร้างสรรค์มันขึ้นมาในรูปแบบใหม่ หลายๆคงโดยเฉพาะนักเศรษฐศาสตร์คงหาว่าผมเพ้อเจ้อและสิ่งนั้นทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ และระบบเศรษฐกิจนี้ต้องคงอยู่เพราะเป็นธรรมชาติของโลก แต่สิ่งหนึ่งที่เราลืมไปจริงๆก็คือ ระบบเศรษฐกิจก็คือกรอบกฎเกณฑ์ที่มนุษย์เราทำขึ้นมา เมื่อเราสร้างมันขึ้นมาเอง มันไม่ใช่ธรรมชาติของโลก ทำไมเราจะเปลี่ยนแปลงมันไปไม่ได้ ในเมื่อเราต่างรู้กันอยู่แก่ใจว่าท้ายที่สุดมันจะพาเราสู่ก้นเหวแห่งหายนะ
ระบบเศรษฐกิจในฝันนั้นไม่ควรส่งผลต่อระบบอำนาจการเมือง ให้ความสำคัญในคุณค่าของความดีงามและปัญญามากกว่าค่าของสิ่งของและสิ่งที่อาจเรียกว่าเงินตรา ซึ่งเราอาจวัดทรัพย์ของคนคนหนึ่งจากคุณค่าภายในตัวเค้ามากกว่ามรดกตกทอดหรือสินทรัพย์ การพัฒนายังคงต้องมีอยู่ แต่ทำอย่างไรเราจะกระตุ้นให้ผู้คนอยากพัฒนาสิ่งต่างๆได้โดยมีสิ่งเร้าที่มีค่ามากกว่าเงินทอง ทำอย่างไรที่เราจะลดการบริโภคลง ทำอย่างไรคนที่ประหยัดจะรู้สึกเป็นคนยิ่งใหญ่กว่าคนที่มีแต่ความอยาก ทำอย่างไรชีวิตมนุษย์จะมีค่าและถูกเชิดชู ไม่ใช่ต้องจบสิ้นลงเพียงเพราะไม่มีเงินซื้อชีวิตตนเองเอาไว้ได้ สิ่งเหล่านี้มีการคิดไว้ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณแต่ยังคงเป็นเพียงมายาภาพที่ไม่อาจทำให้เป็นจริงได้ แต่ว่า... มันทำไม่ได้จริงๆหรือ ในเมื่อรถไฟขบวนที่มวลมนุษยชาติร่วมโดยสารอยู่นี้กำลังพาเราสู่หุบเหวแห่งหายนะ
|
Create Date : 19 ตุลาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 19 ตุลาคม 2555 11:13:52 น. |
Counter : 2708 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| | |