Group Blog
All Blog
|
เนรมิตอักษรา บทส่งท้าย บทส่งท้าย
วรา! เร็วหน่อยซีงานสำคัญของเธอนะ เหมือนไม่ทุกข์ร้อนได้ไงกัน ญาดาบ่นอุบขณะเก็บข้าวของ อาทิเครื่องสำอาง กระเป๋าสตางค์ สมุดโน้ต กล่องนามบัตร ลงในกระเป๋าแบรนด์เนมอย่างรีบร้อนเมื่อเคยเทกระจาดของเหล่านั้นบนเตียงนอนเพื่อหาสารพัดเครื่องสำอางมาแต่งประทินโฉมให้เพื่อนสนิท คนถูกเร่งเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกลอกตาขึ้นสูงพ่นลมหายใจ เหนื่อย ร่างผอมบางในชุดเดรสสั้นเหนือเข่าสีขาวแบบสายคล้องคอเผยผิวกระจ่างเนียนด้านหลังสาวเท้าถี่ๆ จนกระโปรงทรงเอพลิ้วไหว ยิ้มมุมปากเมื่อเพื่อนยังบ่นไม่หยุดเสียทีได้แต่นึกในใจ ไม่ใช่ไม่ทุกข์ร้อนต่อเวลากระชั้นชิดหากแต่รีบจนสุดตัวแล้วต่างหาก ไม่ต้องเร่งเลยนะใครล่ะที่บังคับให้ฉันแต่งหน้า ถ้าไม่แต่งเธอจะกลายเป็นซอมบี้เดินเข้างานแถลงข่าวนะยะฉันอุตส่าห์หวังดีเสกความเลิศเลอให้ยังจะกล้าแขวะใส่อีกนะ คำพูดของญาดาทำคนถูกบ่นหลุดขำและส่ายศีรษะเบาๆวราลีหยิบสัมภาระส่วนตัวใส่กระเป๋าสะพายใบกะทัดรัด และเครื่องมือสื่อสารทำให้นึกถึงใครบางคนขึ้นมา พี่ศาสไม่ว่างโทรมาหาเลยตั้งแต่เช้า ไม่ต้องห่วงแฟนหรอกน่าเอาตัวให้รอดก่อนเถอะ พร้อมหรือยัง อีกครึ่งชั่วโมงเองนะ ญาดากังวลถึงระยะทางและเวลาซึ่งจวนเจียนเต็มทีเกรงจะพาเพื่อนไปไม่ทันงานแถลงข่าวเกี่ยวกับผลงานเรื่องแรก จากนวนิยายกลายเป็นละครซึ่งกำลังจะเริ่มต้นในอีกไม่ช้า ไปแล้วน่า หยุดบ่นซะทีเถอะ วราลีปัดเรื่องคนรักออกจากความคิดก้าวหาญาดาพร้อมคว้ามือเพื่อนให้เดินตามออกจากคอนโดหรูหราก่อนหูจะพังเพราะถูกบ่นไม่หยุด
ภายในตึกสูงของโรงแรมชื่อดังย่านกลางเมืองผู้คนหนาตายืนเต็มโถงล็อบบี้ด้านล่างส่วนใหญ่จะเป็นสื่อมวลชนและช่างภาพซึ่งตามมาเก็บบรรยากาศของงานในวันนี้แม้กระแสข่าวลือจะแพร่สะพัดถึงการแถลงข่าวของดาราชื่อดังแต่กลับไม่ใช่ทุกคนที่ได้เข้าร่วมงาน ญาดาถูกเตรียมการไว้ล่วงหน้าให้ขับรถขึ้นจอดบนอาคารแทนลานจอดด้านล่าง ข้างหน้าโรงแรมมีที่ตั้งเยอะทำไมต้องวนขึ้นตึกแคบแบบนี้ วราลีตั้งข้อสังเกตโดยปกติญาดาจะชอบจอดรถในลานโล่งกว้างมากกว่าบนตึกแบบนี้ ไม่ว่าจะไปที่ใดมักเป็นอย่างนั้นเสมอนอกจากเหตุสุดวิสัยไม่มีที่จอดจริงๆ ฉันขี้เกียจเดินขึ้้นชั้นสอง และไม่อยากขึ้นลิฟต์ด้วย เหตุผลของญาดาทำให้วราลีเลิกเซ้าซี้พลางนึกในใจ เรื่องเยอะตลอด นักเขียนสาวแอบขบขันคนเดียว ขณะญาดาถอยรถยนต์เข้าซองจอดและดับเครื่องสนิท สองสาวก้าวลงจากรถวราลีทำท่าเดินเข้าตัวอาคารด้านหน้า ทว่าญาดาเหนี่ยวรั้งไว้ก่อน จะไปไหน! มาทางนี้เข้าทางสะดวกด้านหน้ามีหวังถูกนักข่าวตามเข้าห้องน่ะซี ญาดาดึงมือเพื่อนให้เดินตามไปทางประตูหนีไฟซึ่งมีทางเดินเล็กๆ เชื่อมต่อไปยังด้านหลังของห้องจัดงาน ให้ฉันแต่งหน้าแต่งตัวซะสวย คิดว่าจะได้เป็นนางแบบหน้ากล้องซะอีก วราลีหรี่ตามองเพื่อนและอมยิ้มแอบประชดประชัดในน้ำเสียงนั้น ฉันเสริมสวยเรื่องอื่นต่างหากล่ะ ประตูบานใหญ่ถูกญาดาดึงเปิดและดันหลังอ้อนแอ้นให้เข้าไปยืนอยู่ท่ามกลางความมืดสนิท เสียงดนตรีแผ่วเบาค่อยๆดังขึ้นขณะประตูบานหนาปิดลง แสงสลัวจากไฟสีนวลตรงกลางห้องค่อยๆเพิ่มแสงขึ้นเรื่อยๆ จนสว่างพอประมาณ เก็บไว้ตรงนั้น...หัวใจของฉัน...เก็บมันเอาไว้ จะอยู่ที่ไหน หากไม่มีใครให้รู้ว่าฉันยังอยู่ กับเธอตลอดมา กับคำสัญญาที่มีให้เธอ ไม่ว่านานแค่ไหน ทุกสิ่งเปลี่ยนไป แต่ฉันยังคงเหมือนเดิม
เสียงทุ้มละมุนคุ้นเคยมาพร้อมเสียงกีตาร์คุ้นหูเพลงซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนสักครั้งในชีวิตนี้ ความตระหนกทำวราลีหันซ้ายหันขวาฝ่าความมืดสลัวมองหาญาดาทว่าไม่เจอใครสักคน เก็บทุกรอยยิ้มที่เธอให้ฉัน เก็บมันเอาไว้ โลกยังเคลื่อนไหว ไม่เคยรอใคร แต่ฉันยังรอแค่เธอ เพียงแค่หลับตาและใช้ใจฟังทุกความรู้สึก ว่ามันคือรักแท้ที่ไม่แปรเปลี่ยนไป
ท่วงทำนองไพเราะกอปรกับความหมายลึกซึ้งกินใจยังคงดำเนินต่อเรื่อยๆจนกระทั่งแสงจางๆ ฉายสว่างขึ้นตรงกำแพงรอบด้าน แสงเหล่านั้นคงมาจากเครื่องฉายภาพกลางห้องวราลีนิ่งคิดและตื่นตาไปกับภาพที่กำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้า
รูปของเราความฝันของเรา ยังเก็บมันไว้ตรงนั้นไม่ไปไหน อยากให้เธอรู้ อยากให้เธอเห็นว่าเธอเป็นคนรักของฉันตลอดไป
ภาพถ่ายของเธอกับศาสวัตวนเวียนอยู่รอบกายราวกับความฝันแสงจางๆ ปรากฏรูปภาพมากมายไม่ว่าจะรูปคู่หรือรูปเดี่ยว ตั้งแต่สมัยคบหากันใหม่ๆจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งภาพของเธอในมุมต่างๆ ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนสักครั้ง แต่ละภาพเป็นการเก็บรอยยิ้มของเธอมีทั้งความสดใสและอบอุ่น มองเห็นใบหน้านวลทั้งยามตื่นและยามหลับทำให้เจ้าตัวแปลกใจว่า ใคร แอบเก็บภาพของเธอและใคร สร้างความประหลาดใจเช่นนี้คำถามเกิดขึ้นในใจ ทว่าคำตอบก็ปรากฏชัดเจนพร้อมกับแสงสีนวลสาดส่องไปยังบุคคลต้นเรื่องศาสวัตวางกีตาร์ลงบนเก้าอี้และร้องเพลงต่อด้วยเสียงนุ่มละมุนละไม...
เธอเท่านั้นยังคงสำคัญ หัวใจฉันยังเป็นของเธอ เธอคนนี้พิเศษเสมอ อยากบอกรักเธอไปทุกวัน ต่อจากนี้แม้เราต้องไกล ใจของฉันจะเก็บไว้ให้เธอ สุดที่รัก...ฉันรักเธอ เธอ...คือเธอเท่านั้น คือเธอเท่านั้น : PARATA
วราลียกมือปิดปากตัวเอง ตกตะลึงและประทับใจในคราวเดียวกันเมื่อแสงไฟสว่างทั่วห้องทำให้มองเห็นผู้คนมากมายยืนหลบอยู่ตรงมุมต่างๆ ทั้งกัมพลญาดา เพื่อนร่วมงานในกองถ่าย และสื่อมวลชนช่างภาพ นักเขียนสาวจ้องมองคนรักที่กำลังเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มกว้างทั้งเขินและอาย ใบหน้าสดใสร้อนผะผ่าว รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก เมื่อเข้าใจว่าแฟนหนุ่มทำเซอร์ไพรส์ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเธอในงานแถลงข่าววันนี้ ศาสวัตเดินมาหยุดยืนเบื้องหน้าจนเห็นความสูงเหลื่อมล้ำเขากุมมือเธอไว้... แต่งงานกันไหม? คำพูดสั้นๆ แต่ประโยคนั้นทำวราลีนิ่งไปหลายอึดใจเธอเบิกตากว้างเมื่อทบทวนคำพูดของเขา เกิดอาการมือไม้สั่นและหวิวไหวที่หัวใจคล้ายถูกสูบลมจนค่อยๆพองโตราวกับร่างกายกำลังล่องลอย เขาขอเธอแต่งงานอย่างนั้นหรือ วราลีนึกทวนประโยคนั้นซ้ำๆ ตกลงหรือเปล่า? ศาสวัตถามซ้ำเสียงทุ้มละมุนทำให้มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความฝัน ใบหน้านวลอุ่นร้อนจนขอบตาเริ่มพร่ามัวเมื่อหยาดน้ำค่อยๆเอ่อริน วราลีพยักหน้าซ้ำๆ พร้อมยิ้มกว้างอวดฟันสวย พูดไม่ออกสักคำได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตาก่อนโผเข้ากอดคนตัวสูงแนบแน่น ทั้งยังพยักหน้าอยู่อย่างนั้นและการกระทำของเธอคือคำตอบ ตกลง ความสุขมากมายกับครั้งหนึ่งในชีวิตของหญิงสาวคงไม่พ้นการถูกขอแต่งงานอย่างที่วราลีกำลังเป็นสุขท่วมท้นขณะนี้ เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังพร้อมแสงแฟลชสว่างวิบวับไม่ขาดระยะทุกคนตรงนั้นส่งยิ้มให้คู่รักอย่างยินดี ความสุขเปี่ยมล้นจนกระจายเต็มหัวใจเมื่อความอบอุ่นโอบล้อมใจสองดวงไว้พร้อมกับรักแท้จะคงอยู่ตลอดกาล ตา...รถติดหรือครับทำไมยังมาไม่ถึง งานแถลงของศาสวัตกับวราลีใกล้จะเลิกแล้วนะครับ เอกราชต่อสายถึงพันธิตราที่มาล่าช้าเกินเหตุเป็นชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่นัดหมายกันไว้ เมื่อเธอขอแวะไปคอนโดของศาสวัตเพื่อนำแก้วนครามาเก็บไว้หลังจบเรื่องงานแต่งของพี่ชายเมื่อไร เธอจะเดินทางกลับอเมริกาและนำสิ่งของล้ำค่าไปให้มารดากับน้าสาวเห็นถึงความสวยงาม เสียงหวานจากปลายสายสั่นเครือขณะอยู่ในโรงพยาบาลเธอบอกสาเหตุที่ยังไปถึงโรงแรมเสียที ปัญหาเกิดขึ้นระหว่างทางเมื่อเจออุบัติเหตุรถชนชายหนุ่มทำให้การจราจรติดขัดจนเป็นอัมพาตร่วมชั่วโมงแล้ว พันธิตราเล่าว่าเธอลงจากรถแท็กซี่เพื่อเข้าไปดูเหตุการณ์เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนอนหายใจรวยริน จึงเข้าไปช่วยกดบาดแผลบริเวณขาซึ่งมีเลือดแดงฉานไหลทะลักเป็นสายน้ำ เมื่อนึกขึ้นได้ถึงความอัศจรรย์ที่เคยเกิดขึ้นกับวราลีมาแล้วเธอจึงนำลูกแก้วสีดำแวววาวให้ชายคนนั้นกำกุมไว้ จนหน่วยกู้ภัยและรถพยาบาลมาถึงพันธิตราจึงติดรถไปด้วยเพื่อให้ปากคำ เธอทราบประวัติของชายคนนั้นจากญาติสนิทซึ่งเดินทางมาถึงโรงพยาบาลหลังรู้ข่าวเขาเป็นนักเขียนชื่อดังแนวสยองขวัญ กำลังเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อหาแรงบันดาลใจกับการเขียนงานทว่าถูกรถชนจนสาหัสเสียก่อน พันธิตราเล่าเรื่องราวทั้งหมดจนเอกราชนึกห่วงกระวีกระวาดออกจากโรงแรมในทันทีอย่างไม่ลังเล ตารอผมอยู่ที่โรงพยาบาลนะครับเดี๋ยวผมไปรับ
-เอี๊ยดดดด-เสียงเหยียบเบรกลากล้อดังสนั่นฉุดให้นักเขียนหนุ่มหันขวับไปยังต้นทางเสียงนั้น ทว่าทุกอย่างว่างเปล่ารถราบนถนนยังแล่นฉิว ไม่มีคันใดเบรกกะทันหันตามเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ เว้นเสียแต่ตอนเขาหันกลับมา... พ่อหนุ่ม...ตารบกวนหน่อย มีอะไรให้ผมช่วยครับคุณตา ลูกแก้วสีแดงแวววาวถูกยื่นส่งตรงหน้าฉุดสายตาของชายหนุ่มให้มองตามอย่างตกตะลึง เก็บรักษาลูกแก้วนี้ไว้ทีตาอยากมอบให้เพื่อตอบแทนที่พ่อหนุ่มช่วยเหลือตาเมื่อตอนเย็น หากพ่อหนุ่มเก็บของสิ่งนี้ไว้คงมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจอย่างแน่นอน ชายหนุ่มนึกทวนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เขาช่วยชายชราผู้นี้ข้ามถนนรู้สึกภูมิใจในตัวเองเมื่อความดีไม่สูญเปล่า เขาจ้องมองคุณตาผู้นั้นยิ้มเยือกเย็นโดยยังไม่รู้ตัวว่าอีกไม่นานเรื่องอัศจรรย์จะเกิดขึ้น อย่างไม่อาจลืมเลือน...
Theend |
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |