Group Blog
All Blog
|
เนรมิตอักษรา 20 บทที่ 20 คนคู่ควร
ทำไมพี่ศาสไม่บอกวราเรื่องสำนักพิมพ์กับสัญญาทั้งหมดพี่ศาสเป็นคนจัดการทุกอย่างใช่ไหมคะ คนพูดหรี่ตามองชายหนุ่มขณะเดินออกจากอาคารพาณิยช์สถานที่ตั้งของสำนักพิมพ์ที่ได้ร่วมงานกันหมาดๆ ซองกระดาษสีน้ำตาลถูกกอดแนบอกราวกับมันจะหายไปอย่างนั้นนักเขียนสาวนึกเอะใจต่อบทพระเอกจนต้องนึกย้อนถึงวันที่ศาสวัตบอกกล่าวเรื่องน่ายินดี ที่พี่ศาสบอกได้รับเล่นเป็นพระเอกเรื่องอะไรคะ อย่าบอกนะว่า... วราลีหยุดมองแฟนหนุ่มอย่างคาดคั้นหากละครที่เขารับเล่นคือนิยายของเธอคงเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งอาจเรียกว่าโชคดีซ้ำซ้อน เธอลุ้นระทึกด้วยใจเต้นโครมคราม พี่เลือกเป็นพระเอกให้กับนักเขียนนามปากกาณ สิตางศุ์ เขาระบายยิ้ม ดีใจหรือเปล่าที่ฝันเป็นจริง วราลีปล่อยมือจากซองเอกสารข้างหนึ่งเพื่อโอบกอดแขนของศาสวัตเธอยิ้มกว้างและพยักหน้าให้เขา ปลาบปลื้มต่อทุกสิ่งที่สมหวัง คิดแล้วก็เหมือนทุกขลาภหลังเจ็บปางตายก็ได้รับโอกาสดี มีโชคหลายต่อ ยิ่งกว่าถูกรางวัลล็อตเตอรี่เสียอีก ดีใจมากเลยล่ะ ขอบคุณนะคะเจ้านาย คนพูดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มแฟนหนุ่มตอบแทนในสิ่งที่เขาทำเพื่อเธอ แม้ศาสวัตจะย้ำเตือนอยู่เสมอว่างานเขียนคือการสานฝันและก่อร่างให้ฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมาผลตอบแทนของความมุมานะคือความสำเร็จ แต่เธอเชื่อว่างานเขียนคือการเลือกทำในสิ่งที่รักผลตอบแทนที่ได้ ไม่ว่าจะการตีพิมพ์เป็นหนังสือ หรือนิยายกลายเป็นละคร นั่นคือรางวัลชีวิตมากกว่า ไม่อายใครแล้วหรือไง ศาสวัตกระเซ้าแหย่ เมื่อวราลีจะวางตัวนิ่งเฉยไม่ยอมแสดงออกกลางสาธารณชนแบบนี้ จะอ้างแทบทุกครั้งว่าไม่เหมาะสมบ้างล่ะ อายคนอื่นบ้างล่ะทว่าคราวนี้คงดีใจจนเก็บไว้ไม่อยู่ ทำไมต้องอาย...อยากทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว ใบหน้านวลออกแดงระเรื่อวราลีแก้เขินโดยการหันซ้ายหันขวา แอบคิดในใจ โชคดีแค่ไหนที่ไม่มีใครเดินผ่านมาแถวนี้ ศาสวัตโยกศีรษะเธออย่างเอ็นดูก่อนจะคว้าข้อมือเล็กไปจูง สองคนรักเดินกระหนุงกระหนิงเคียงข้างกันเพื่อขึ้นรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกล ภาพบาดตากระทบจิตใจของคนแอบมองอย่างรู้ตัว... กันดิศได้แต่ตะโกนปลอบตนเองในใจ วราลีเป็นของศาสวัต ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาและเธอเองก็ไม่มีเขาหลงเหลืออยู่ในความทรงจำอีกแล้ว สิ่งเดียวที่ต้องทำให้ได้ ควรลืมเสียที
วันเวลาผันเปลี่ยนไปตามเข็มนาฬิกาหมุนวนรอบแล้วรอบเล่าจากนาทีเป็นชั่วโมง จนล่วงเลยเป็นวันและเดือนตามลำดับการดำเนินชีวิตยังคงราบรื่นด้วยดี เกือบสามเดือนแล้วหลังจากผลงานของวราลีผ่านการพิจารณาและถูกตีพิมพ์เป็นนวนิยายวางขายตามแผงหนังสือ ตั้งแต่ได้รับผลงานของตนเองในแบบรูปเล่มมาครอบครองเธอยังไม่ได้เปิดนิยายอ่านอย่างตั้งใจสักครั้ง ด้วยหน้าที่การงานรัดตัวทำให้เวลาว่างเหลือน้อยเต็มทีจะดีหน่อยก็อย่างวันนี้ ได้หยุดพักผ่อนหนึ่งวันเต็ม จึงมีโอกาสหยิบจับงานขึ้นมาอ่าน นักเขียนสาวเปิดหนังสือทีละหน้าอย่างประณีตราวกับมันคือสิ่งบอบบางนึกชื่นชมต่อความสำเร็จซึ่งถูกผลักดันจนเอกสารปึกหนึ่งกลายมาเป็นหนังสือสมบูรณ์แบบอย่างนี้ตัวอักษรที่เรียบเรียงสะสวยถูกไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรก ขึ้นต้นคำนำของสำนักพิมพ์และนักเขียนจนเข้าสู่เรื่องราวของนิยาย แม้ตัวอักษรเหล่านั้นจะเคยผ่านตามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนขณะทบทวนและแก้ไขแต่เมื่อนิยายออกมาเป็นรูปเล่มหนังสือ กลับน่าอ่านและชวนติดตามยิ่งขึ้นเพลิดเพลินจนไม่อยากวาง ตัวละครใหม่ที่ถูกเพิ่มเติมลงไปในงานเขียนนั้นคงช่วยให้เรื่องราวมีสีสันมากขึ้น และเหตุผลของการเพิ่มเติมตัวละครนี้เองเกิดจากความรู้สึกหดหู่เมื่อจำได้ว่าตัวประกอบมาวินเป็นชายหนุ่มผู้อาภัพรักและโชคร้ายถูกนักเขียนอย่างเธอยัดเยียดบทเสียชีวิตให้ วราลีจึงแก้ไขบทบาทให้มาวินเสียใหม่โดยเปลี่ยนจากบทตายเป็นมีความรักกับหญิงสาวอีกคน ซึ่งเป็นเพื่อนของนางเอกศีตลา ระหว่างอ่านนิยายไปหลายบทจู่ๆ เกิดสะดุดกับลักษณะของตัวละครฝ่ายหญิงที่เพิ่มเติมเข้าไปจำได้ว่าตอนแก้ไขต้นฉบับไม่ได้บรรยายลักษณะของตัวละครให้มีความคล้ายคลึงกับตัวเองสักนิด มาได้ไงเนี่ย เธอพึมพำอย่างงุนงงนึกถึงขั้นตอนพิสูจน์อักษรและแก้ไขผลงาน หลังถูกบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ติติงมาจำได้ว่าไม่มีการแก้ไขตรงจุดนี้เสียหน่อย เหตุใดผลงานของเธอจึงมีการเปลี่ยนแปลงวราลีนึกเอะใจ อยากสอบถามกับสำนักพิมพ์ กุ้งแห้ง ดามาหา เสียงของกัมพลจากดังขัดจังหวะจากนอกห้องนอนขณะวราลีกำลังหยิบโทรศัพท์เพื่อกดเบอร์หากองบรรณาธิการ อยากสอบถามให้หายข้องใจเท่านั้นเธอละความสนใจจากเครื่องมือสื่อสาร วางมันบนเตียงนอนก่อนลุกไปเปิดประตู นักเขียนคนดัง หายหน้าหายตา ไม่ติดต่อเพื่อนเลยนะญาดาแขวะใส่อย่างล้อเลียน เธอก้าวเข้ามาในห้องและมองไปรอบๆนี่เธอนอนห้องเดียวกับพี่ศาสหรือเปล่า ภาพโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของดาราชื่อดังบ่งบอกให้คิดเช่นนั้นและห้องนี้คงเป็นห้องนอนของศาสวัตอย่างแน่นอน วราลีชะงักไปเล็กน้อยขณะดึงประตูปิดเธอชำเลืองมองกัมพลที่เดินกลับไปนั่งตรงโซฟากลางห้อง เกรงว่าเขาจะได้ยินคำถามของเพื่อนสนิท จะบ้าเหรอฉันกับพี่ศาสยังไม่ได้แต่งงานกันซะหน่อย คนท้วงส่ายศีรษะและนึกขำในความคิดของเพื่อนคงไม่แปลกหากญาดาจะคิดเช่นนั้นในเมื่อคอนโดหรูหราแห่งนี้มีห้องนอนกว้างขวางเพียงห้องเดียว! เนื่องจากเธอกับกัมพลย้ายมาอยู่ที่นี่ชั่วคราวขณะปลูกสร้างบ้านใหม่ศาสวัตจำเป็นต้องยกห้องนอนของเขาให้เธอ และชายหนุ่มผู้เสียสละจึงต้องระเห็จไปนอนอยู่นอกห้องกับกัมพลแต่โดยส่วนใหญ่ศาสวัตไม่ค่อยได้กลับมาที่คอนโดสักเท่าไร เมื่อกองถ่ายละครเร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่เช้าจรดเย็นและล่วงเลยจนค่อนคืนแทบทุกวัน เขาจึงหาโรงแรมใกล้สถานที่ถ่ายทำไว้พักผ่อนเพื่อความสะดวกรวดเร็ว แหม๋ ก็แค่แซวเล่น ทำร้อนตัวไปได้สมัยนี้ไม่จำเป็นต้องแต่งงานก็นอนด้วยกันได้นะจ๊ะ ญาดาสวนกลับทันใจแววตาล้อเลียนทำให้วราลีพูดไม่ออกสักคำ เธอเข้าใจดีว่าความเป็นอยู่ในฐานะคู่รักสมัยเทคโนโลยีก้าวไกลเป็นเรื่องไม่แปลกเลยหากใช้ชีวิตที่เรียกว่าชิงสุกก่อนห่าม แต่ศาสวัตก็รับปากกัมพลไว้มั่นเหมาะว่าจะไม่ล่วงเกินเธอจนกว่าจะแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว ดารู้ได้ไงว่าฉันหยุด วราลีเปลี่ยนเรื่องในทันที รู้สึกคล้ายตนเองกำลังจนมุมและไม่อยากต่อล้อต่อเถียงให้เพื่อนสนิทกล่าวหาว่าความรักของเธอเข้าทำนองหัวโบราณล้าสมัย เพราะติดต่อเธอไม่ได้ฉันเลยโทรถามพี่ศาส เขาบอกเธอหยุด เลยแวะมานี่แหละ ญาดาหย่อนกายนั่งบนเตียงนุ่มกว้างขนาดหกฟุตหันมองเพื่อนสนิทแล้วถาม ทำอะไรอยู่ล่ะ วราลีพยักพเยิดให้คนถามมองไปยังหนังสือนิยายที่วางอยู่ตรงนั้นทนโท้ เออ...เห็นหนังสือแล้วนึกได้ญาดาหยิบนิยายขึ้นมาพร้อมเปิดหน้ากระดาษไปเกือบครึ่งเรื่อง ตัวละครที่ชื่อปลายฝันเธอจงใจใส่คาแร็กเตอร์ตัวเองลงไปหรือเปล่า ความใคร่รู้ของญาดาคือสิ่งที่นักเขียนสาวสงสัยและกำลังจะหาคำตอบนั้นเช่นกัน ดาคิดว่ามันแปลกหรือเปล่าฉันไม่ได้บรรยายลักษณะแบบนั้นตั้งแต่แรก ไม่รู้บก.เพิ่มเติมตอนไหน วราลีพยายามหาเหตุผลประกอบ ถ้าให้เดาต้องเป็นพี่ศาสแน่ๆตอนเธอนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราฉันเห็นเขาอ่านงานของเธอแล้วแก้สำนวนให้ด้วยนี่ ฉันว่าเขาต้องเอาคาแร็กเตอร์ของเธอใส่ลงไปก่อนบก.จะตีพิมพ์แน่ๆเพราะโดยส่วนใหญ่สำนักพิมพ์จะไม่ปรับเปลี่ยนอะไรหากเจ้าของผลงานไม่รับรู้ไม่ใช่เหรอ คงงั้นมั้ง วราลีคิดตาม แล้วอีกอย่างตอนเธอไปเซ็นสัญญาก็เห็นพี่ศาสเป็นเพื่อนกับบก.ด้วยใช่หรือเปล่าไหนจะเรื่องละครที่เขาแอบเซอร์ไพรส์อีกล่ะ เหตุผลของญาดาฟังขึ้นจนวราลีไม่มีอะไรท้วงติงเธอพยักหน้าพร้อมไตร่ตรอง พบเจอศาสวัตเมื่อไรคงได้ถามไถ่ให้หายข้องใจกับปัญหาเหล่านี้
เกลียวคลื่นม้วนตัวเข้าหาฝั่งสาดซัดน้ำทะเลแทรกผ่านผืนทรายก่อนถูกดึงกลับสู่ท้องทะเลซ้ำๆสายลมแผ่วพลิ้วยามพระอาทิตย์คล้อยต่ำจนเกือบถึงเส้นขอบฟ้า แสงสีนวลตาสร้างบรรยากาศชวนฝันไปกับคู่พระนางที่กำลังเปิดเผยความในใจระหว่างกันตามบทบาทของละคร เดี๋ยวฉากนี้กันดิศต้องจูบกับศีตลานะทำให้คนดูฟินทะลุจอไปเลย แล้วพอผ่านไปสักระยะสมภพก็วิ่งเข้ามาในฉาก กระชากกันดิศออกจากนางเอกแล้วดึงคอเสื้อทำท่าจะต่อยสีหน้าต้องขึงขังมากๆ เข้าใจหรือเปล่า น้ำเสียงแหบห้าวดังกังวานอยู่ริมชายหาดหลังจากนั้นมาวินก็รีบเข้ามาห้ามเลยนะ เอาเป็นว่าเริ่มเลยดีกว่าเตรียมเข้าฉากกันได้แล้ว ผู้กำกับปรบมือสร้างความพร้อมเพรียงขณะสั่งการกับเหล่านักแสดงและทีมงานเพื่อจัดเตรียมการถ่ายละครตามฉากหนึ่งของนิยายฉากที่ว่านั้นเป็นบทของตัวละครคู่พระนางเดินเล่นกินลมเรื่อยเปื่อยตรงชายหาดและบรรยากาศนำพาให้พระเอกสารภาพความในใจแต่แล้วก็ถูกตัวประกอบขัดขวางจนเกิดเรื่องวิวาท วราลีนั่งมองดาราชื่อดังทั้งชายหญิงซึ่งรับบทเป็นตัวละครในนิยายของเธอนึกชื่นชมทีมงานเมื่อสามารถเลือกสรรดาราที่มีลักษณะตรงกับคำบรรยายของเธอ ลักษณะของนางเอกสาวศีตลา ตามบทบาทในนิยายหล่อนเป็นหญิงสาวผู้มาดมั่นเฉลียวฉลาดและบางมุมยังมีความอ่อนหวานสดใสอีกด้วย ร่างระหงสูงเพรียว ผิวขาวนวลผมยาวสีเข้มประกายแดงดัดเป็นลอน มองเห็นถึงความสง่างาม ตัวประกอบหนุ่มมาวิน ชายมาดเท่หุ่นดีไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด ผมหยิกรวบขึ้นด้านบนด้วยผ้าคาดหน้าผากเก๋ไก๋แววตากับรอยยิ้มออกทะเล้นอยู่ในท่าที นิสัยสนุกสนานตามแบบฉบับของตัวละครนี้ นักเลงบ้านนอกสมภพชายหนุ่มผู้มียิ้มจริงใจ แต่สายตาเจ้าเล่ห์ในบางจังหวะพาวราลีหลุดยิ้มเมื่อนึกถึงช่วงแรกในการเริ่มเขียนนิยายเรื่องนี้เธอให้เขาแต่งตัวด้วยเสื้อลายดอกเฉิ่มเชย จนรู้สึกคล้ายเป็นการทำร้ายตัวละครมากกว่าจึงแก้การบรรยายเรื่องเสื้อผ้าเสียใหม่ ให้เขาแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีพื้นสว่างแทน และเมื่อหันไปสำรวจพระเอกกันดิศ ทำให้วราลีนึกได้ศาสวัตคล้ายกับพระเอกในนิยายของเธออย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าความรู้สึกแปลกๆ แวะเวียนเธอมองแฟนหนุ่มและนึกตงิดใจเป็นอย่างมาก เมื่ออีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะต้องเห็นศาสวัตจูบกับผู้หญิงอื่นต่อหน้าต่อตาแม้จะเป็นเพียงการแสดงก็ตาม เกิดไม่ชอบใจโดยไม่ทราบสาเหตุ นักเขียนสาวเดินห่างจากบริเวณถ่ายทำละครตรงไปยังกำแพงปูนสูงระดับเอว กั้นเขตระหว่างหาดทรายกับพื้นดินไว้ แนวกั้นยาวสุดตาร่างบอบบางกระโดดขึ้นนั่งบนกำแพงนั้น รู้สึกจิตใจว้าวุ่นไม่เป็นสุขเสียเลยเมื่อนึกถึงบทหวานซึ้งของตัวละครที่กำลังจะดำเนินหลังจากนี้ เธอได้แต่บอกตัวเองซ้ำๆเดี๋ยวก็จบ เดี๋ยวก็ผ่านไป ทำไมทำหน้ายุ่งแบบนั้น เสียงทุ้มละมุนดึงสายตาของหญิงสาวที่ผินหน้าทางอื่นให้หันกลับมามองยังคนคุ้นเคย หน้ายุ่งอะไร เปล่าซะหน่อยว่าแต่ทำไมมาอยู่ตรงนี้ ไม่ถ่ายละครหรือไง วราลีพยายามทำเสียงให้เป็นปกติทั้งที่มันขุ่นเหลือเกินสีหน้าบึ้งตึงเมื่อนึกถึงบทเลิฟซีนที่คู่รักแห่งละครต้องถ่ายทำในอีกไม่กี่นาทีแม้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเป็นฉากในนิยายที่เธอสร้างขึ้นเองแต่ก็ไม่อยากเห็นคนรักจูบกับใครอย่างนั้น ยังไม่ได้กำลังใจเลยจะถ่ายทำได้ไง ศาสวัตกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน คำพูดและท่าทางของเขานิ่งเรียบแต่ทำคนฟังจ้องมองอย่างประหลาดใจ กำลังใจอะไรคะ? เธอถาม ศาสวัตเท้ามือวางบนสะพานปูนขนาบข้างร่างบอบบางเอาไว้ กักกั้นไม่ให้เธอขยับหนีไปไหนได้ ใบหน้าคมคายโน้มหาความใกล้ชิดนำริมฝีปากแดงจัดแตะนาบไปกับกลีบปากอิ่มอย่างนุ่มนวล มอบรอยจุมพิตอ่อนหวาน ทำวราลีผงะไปเล็กน้อยก่อนเขาถอนจูบนั้น เลิกทำหน้าบูดได้แล้ว จูบแบบนี้พี่ยกให้เราคนเดียวส่วนจูบกับนางเอกในเรื่อง ใช้แค่มุมกล้องต่างหาก อย่าคิดมากน่า วราลีไม่พูดจาได้แต่หลบตามองทางอื่นความอบอุ่นกระจายอยู่เต็มหัวใจจนเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ไม่คิดว่าเขาจะล่วงรู้ความรู้สึกของเธอราวกับเข้ามานั่งตรงกลางใจเพราะคิดมากจริงๆ นั่นแหละทำให้แอบหลบผู้คนออกมาปลีกวิเวกอยู่ตรงนี้คนเดียว อารมณ์ดีขึ้นหรือยังถ้ายังจะป้อนยาอีก จะได้หายหน้าบึ้งซะที ศาสวัตกลั่นแกล้งทำท่าโน้มเข้าหาวราลีอีกครั้งทว่าเธอเอี้ยวกายหลบและหัวเราะขบขัน อายคนอื่นเขาบ้างเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า อายทำไม...อยากทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว ศาสวัตยิ้มล้อเลียนอย่างที่เธอเคยกล่าวไว้ครั้งก่อนวราลีไม่พูดอะไรได้แต่ฉีกยิ้มกว้างและมองแฟนหนุ่มที่ยกมือยีผมสลวยเบาๆ ไปทำงานได้แล้วเดี๋ยวผู้กำกับดุเอานะ คนพูดเขย่าแขนของศาสวัตให้ทำตามที่ร้องขอเกรงจะกลายเป็นเสียงานเพราะเธอเป็นต้นเหตุ และสุดท้ายดาราหนุ่มก็ยินยอมกลับไปทำงานแต่โดยดี ภาพของคู่รักร่ำลากันด้วยความเอ็นดูทำให้กันดิศยิ้มเศร้าเขาพยายามหลายครั้งหลายคราวกับการ มองไม่เห็น แต่อดไม่ได้ที่จะมองหาเธอ ยิ่งอยู่ใกล้กันอย่างนี้ยิ่งทำใจได้ยากเย็น พี่กันคะ ศีพาเพื่อนมาแนะนำให้รู้จัก กันดิศหันเหความสนใจไปยังนางเอกสาวหล่อนเดินมาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่ง และเธอคนนี้ทำให้กันดิศชะงักนิ่งไปหลายอึดใจมองเธอด้วยความตกตะลึงและอุทานเบาๆ วราลี สวัสดีค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เขาเดินปรี่เข้าไปหาหญิงสาวคนนั้นในทันทีและท่าถอยร่นของเธอทำให้กันดิศคิดได้เขาชะงักฝีเท้ากับที่และควบคุมจิตใจให้สงบเมื่อมันสั่นไหวจนเกินต้านทาน หญิงสาวร่างบอบบางปากนิดจมูกหน่อย ดวงตาคมหวานโดดเด่นเพราะขนตาหนาเป็นแพรล้อมกรอบ คิ้วดกดำรับกับใบหน้ารูปไข่เธอยิ้มแห้งและมองกันดิศอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อตั้งสติได้พระเอกหนุ่มกะพริบตาถี่ๆหันกลับไปมองวราลีซึ่งนั่งอยู่ลำพังอีกครั้ง เหตุใดจึงมีหญิงสาวที่ละม้ายคล้ายกันอย่างนี้ถึงสองคนและเขาไม่ได้ตาฝาดไป เมื่อครู่เกือบอดใจไม่ไหวโผเข้ากอดเธอเสียแล้ว ไอ้กันถึงกับตะลึงเลยหรือวะเธอชื่อปลายฝันนะเว้ย ไม่ใช่วราลี ไม่ต้องจ้องขนาดนั้น มาวินหยอกล้อในที ตัวประกอบหนุ่มหันมองศีตลาและลอบยิ้มด้วยกันทั้งคู่ กระแสความประหลาดใจสื่อออกจากนัยน์ตาสีถ่านจนใครสักคนควรอธิบายเพื่อความกระจ่างก่อนถึงเวลาเข้าสวมบทบาทแห่งจิตวิญญาณของตัวละครเสียที อะไรคะพี่กันเดี๋ยวนี้ไม่สนใจโลกจนตกข่าวหรือไง กันดิศหันมองนางเอกสาวและเลิกคิ้วสูงปล่อยให้ปลายฝัน หญิงสาวซึ่งมีความละม้ายคล้ายกับวราลีอย่างกับแกะยืนขำขัน เพราะกันดิศมัวแต่เศร้าสร้อยเกี่ยวกับเรื่องของนักเขียนจากไปจนไม่รู้ข่าวคราวของการเพิ่มเติมตัวละครขึ้นมาอีกคน นั่นสิ เอ็งนี่แปลกคน บทจะเศร้าก็หงอยเป็นหมาป่วยบทจะตื่นตัวก็ยืนช็อกเป็นไก่ตาแตกเลยนะ มาวินอธิบายถึงการปรากฏตัวของปลายฝันเมื่อนิยายของวราลีถูกสร้างตัวละครขึ้นใหม่เพื่อตัวประกอบอย่างเขาโดยเฉพาะแต่หารู้ไม่ว่าการที่ศาสวัตใส่ลักษณะของแฟนสาวลงไปในต้นฉบับ เท่ากับได้สร้างหญิงสาวในดวงใจของกันดิศขึ้นมาในโลกแห่งจินตนาการ มาวินหันมองศีตลาที่กำลังหัวเราะชอบใจและนึกอยากแหย่หล่อนขึ้นมาบ้าง อีกอย่างวราลีสร้างปลายฝันมาเพื่อข้าเอ็งต้องคู่กับศีตลาไปจนกว่าละครเรื่องนี้จะจบแล้วล่ะ ข้าจะควงปลายฝันแสนสวยให้เอง มาวินกล่าวทั้งยิ้มร้ายและหรี่ตามองนางเอกสาวเพียงเท่านั้น รอยยิ้มสดใสที่เคยมีก็เปลี่ยนเป็นหุบลงกะทันหัน ศีตลาเหวี่ยงสายตาเขียวปั้ดมองมาวินในทันทีราวกับอยากกินเลือดกินเนื้อของเขาเดี๋ยวนั้น กล้ามากนะที่พูดจาแบบนี้ถ้าฉันไม่สนใจนายขึ้นมาจริงๆ อย่ามาร้องไห้เป็นเผาเต่าแล้วกัน นางเอกสาวสะบัดหน้าหนีก่อนปั้นปึ่งเดินไปทางอื่นทำมาวินหัวเราะร่วนและวิ่งตามหล่อนไปติดๆปล่อยให้ชายหญิงอีกคู่ยืนนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ กันดิศลอบมองใบหน้าสวยซึ่งมีรอยยิ้มสดใสประดับอยู่บนนั้นด้วยหัวใจกระตุกผิดจังหวะคราวนี้หากให้เริ่มต้นรักใครใหม่ เขาควรรอบคอบและเลือกที่จะเสียสละมากกว่าครั้งที่ผ่านมา เดินเข้ากองถ่ายกันดีกว่า กันดิศกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเฉยทว่าภายในใจเต้นตึกตัก เขาอยากคิดว่าเธอคนนี้เป็นตัวแทนของวราลีซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อกันและกันและเธออาจคู่ควรกับเขา หากเริ่มสานสัมพันธ์ต่อไปหลังจากนี้... To be continued... |
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |