Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2560
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
17 ธันวาคม 2560
 
All Blogs
 
2017 ระนอง : Day 3 ชมวิวเขาฝาชี ปีนหัวรถไฟเก่า วังรัตนรังสรรค์ ภูเขาหญ้า



บล็อกก่อนหน้า >> Day  2  เที่ยวหมู่เกาะกำ 

วันนี้เป็นวันเที่ยววันสุดท้ายที่ระนองละ  เรามาตามเก็บที่เล็กที่น้อยมากมายในจังหวัดที่เรายังไม่ได้ไปกัน  วันนี้ตื่นสายกันหน่อย (จริงๆ ก็สายทุกวันไม่ใช่เรอะ Smiley)

ชิล ๆ สบาย ๆ เดินมากินอาหารเช้ากัน


กาแฟร้อน




น้ำสตรอเบอรี่ก็สดชื่นดี




แซลมอนโทสต์ อันนี้ชอบ ๆ ฮ่ะ อาหารดูเพื่อสุขภาพมาก ฝั่งนึงเป็นแซลมอนบนขนมปัง อีกฝั่งเป็นขนมปังเนยถั่วโปะด้วยกล้วยหอม มีไข่ดาวมาให้ 1 ลูกด้วย




อาเฮียสั่งไข่กระทะ





เมื่อกินเสร็จเราก็เอื่อยเฉื่อยค่อย ๆ ยุรยาตรกันออกมาเที่ยว เพราะวันนี้ไม่ได้มีอะไรที่เป็นไฮไลต์ แต่จะเป็นการเก็บตกที่เที่ยวเล็ก ๆ กะปริดกะปรอยหลายที่ พลาดไปมั่งก็ไม่เป็นไร  แต่สรุปแล้ววันนี้เป็นวันที่เราชอบมากเลย Smiley


ไปที่แรกจุดชมวิวเขาฝาชี  อันนี้ขับออกมาจากตัวเมืองประมาณ 40 นาทีเลย โดยไปทางน้ำตกปุญญบาล ที่จุดชมวิวนี้เค้าแนะนำว่าให้ไปเที่ยวช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตกกัน จะได้วิวที่สวยสุด ๆ ไปเลย  แต่พวกเราไปถึงกันซะเกือบ 11 โมงละ

ทางขึ้นชันและถนนแคบพอควรเลยนะคะ ถ้ามีรถวิ่งสวนนี่น่าหวาดเสียวมาก โชคดีแล้วที่พวกเราขึ้นกันตอนสายและไม่มีรถอื่นเลย

แต่ก็ขึ้นมาจนถึงละ






เค้าว่ามองเห็นไปถึงพม่าเลยเชียว  แต่อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้




วิวสวย ลมเย็น เงียบสงบดีมากค่ะ ตอนสาย ๆ ยังสวยขนาดนี้ ถ้ามาดูพระอาทิตย์ตกนี่คงสุดยอดเลยนะนี่
















เดินชมวิวกันจนอิ่ม เราก็ลงมาหาหัวรถไฟเก่าที่เที่ยวที่พวกสายฮิปเค้าชอบไปถ่ายรูปกัน

แวะชิมชาพะยอม  ร้านนี้มีชาชักด้วย







และที่เจ๋งสุด มีผลิตภัณฑ์จากพม่าด้วย  พวกสบู่ก้อน ทานาคาหลายแบบ  Smiley




อิฉันถอยมาเต็มเลย เป็นของฝากให้เด็ก ๆ  Made in Burma ล้วน ๆ 
มีก้อนสีขาวเล็ก  ๆ เป็นสบู่ข้าว อิฉันเก็บไว้ใช้เอง หอมสะอาดมาก กลิ่นข้าวหอมสุด ๆ  ก้อนละ 15 บาทเท่านั้น เสียดายมีแค่ก้อนเดียว 




เลี้ยวเข้าซอยไปแค่นิดเดียวก็เจอละ พิพิธภัณฑ์เชิงประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง





ที่นี่มีหัวรถไฟ 1 อัน เก่าหง่อม แต่อย่างน้อยก็มีหลังคากันแดดกันฝน 
และมีอาคารสภาพดี 1 หลังอยู่ข้าง ๆ หัวรถจักรนั่น แต่พอไปแอบเมียงมอง ก็พบว่าเป็นอาคารว่างเปล่า ไม่ได้ทำอะไรและไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย ดูแล้วน่าเสียดายจริง ๆ 

























อยู่ข้าง ๆ แม่น้ำ






อิฉันตามมาที่นี่จากรีวิวหลาย ๆ คนที่เล่าให้ฟังว่าหัวรถจักรนี้เป็นของตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นเอามาทิ้งไว้ ทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เคยมีสงครามก็คงทิ้งไว้เป็นเรื่องปกตินี่นา

แต่พอกลับมาบ้านก็ลองมา search หาประวัติ ก็พบว่ามันน่าสนใจไม่เบา เพราะนี่เป็นรถไฟสายสั้น ๆ มีแค่ 5-6 สถานีที่ญี่ปุ่นให้คนไทย (และเชลยมาสร้างต่อ เพราะคนไทยเผ่นกันหมด) มาสร้างเพื่อเอาไว้ขนเสบียงและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ในช่วงสงครามโลกเท่านั้น และใช้กันเป็นเวลาสั้น ๆ มาก เพราะเมื่อสัมพันธมิตรเข้ามาแล้ว ญี่ปุ่นก็ทำลายหลักฐานทิ้งไปเกือบหมด 

แต่ที่อิฉันไปเจอแล้วน่าสนใจก็อยู่ตรงที่ มีกลุ่มคนแถว ๆ กระบุรีกลุ่มหนึ่งเค้าพยายามค้นคว้าประวัติในแถบนั้นอย่างจริงจัง โดยใช้เวลาและเงินของตนเองในการค้นหาประวัติทางรถไฟสายนี้ และหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาได้มากมาย ที่ยังคงถูกทิ้งตามข้างทางตามป่าตามบ้านผู้คน เจอกระทั่งส้วมทหารญี่ปุ่น หรืออุโมงค์ซ่อนตัวของทหารญี่ปุ่นที่ป่านนี้ยังเข้าไปสำรวจได้ไม่หมดเลย เพราะขาดเครื่องไม้เครื่องมือ คนกลุ่มนี้พยายามทำให้รัฐสนใจนะคะ ยื่นเรื่องไปทั้งรัฐบาล หรือผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ทางผู้ว่าบอกให้ชาวบ้านทำกันเองไปก่อน   Smiley

หากใครสนใจลองเข้าไปดูใน facebook : ทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ชุมพร - กระบุรี - เขาฝาชี เลยนะคะ น่าสนใจมาก ๆ เลย  อยากให้ทางหน่วยงานท้องถื่นเห็นความสำคัญของประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบ้างจริง ๆ ไม่เช่นนั้นก็จะสูญหายไปตามกาลเวลา  


ขับรถกลับมาทางตัวเมือง ระหว่างทางเจอร้านกาแฟเล็ก ๆ น่ารัก เลยแวะซะหน่อย











เมนูน่าสนใจฮ่ะ มีนมกาหยู (เม็ดมะม่วงหิมพานต์)ปั่นด้วย  อันนี้แนะนำ เพราะหวานหอมกลมกล่อมมาก  จริงๆ สนใจอีผักเหลียงและส้มจี๊ดปั่นด้วย น่าจะสดชื่นดีนะ






โต๊ะเก้าอี้มีจัดไว้ให้ริมน้ำ ใครอยากลงไปนั่งกินก็สั่งน้ำแล้วลงไปจับจองที่กันได้เลย มีห้องน้ำสะอาดกริ๊บด้วย





นมกาหยูปั่น เด็ดมากฮ่ะ



จริง ๆ อิฉันไม่ค่อยชอบร้านอาหารที่ลงไปนั่งกินกันในน้ำซักเท่าไหร่ เพราะมีความรู้สึกว่ามันน่าจะสกปรก เดี๋ยวคงมีอะไรต่อมิอะไรร่วงลงน้ำกันเต็ม แต่ที่นี่สะอาดดีค่ะ น้ำใสแหนว ไม่มีขยะเลย  เข้าใจว่าเพราะยังไม่มีขายอาหารด้วยแหละ






บรรยากาศดีมาก เสียงน้ำไหลฟังแล้วชวนง่วง








น้ำไม่ลึก ลงไปลุยได้เย็น ๆ 








อ่างล้างมือ น่ารักเชียว




เข้ามาในเมือง แวะหาโรตีกิน แต่มาถึงเอาเกือบบ่ายสอง ร้านโรตีบังกีเหลือแค่แกงไก่กับโรตีกรอบ   เสียจุยย  อยากกินแกงเนื้อกับโรตีอาหรับ  Smiley





มาต่อที่พระราชวังรัตนรังสรรค์ ซึ่งก็อยู่ในเมืองนั้นแหละ 

ที่นี่เป็นพระราชวังไม้จำลอง ทำขนาดลงลงมาจากของเดิมที่เป็นพระราชวังไม้ที่เจ้าเมืองในสมัยรัชกาลที่ 5 สร้างขึ้นเพราะไว้ใช้รับรองรัชกาลที่ 5 สมัยเสด็จประพาสมลายู


ดีงามกว่าที่คิดมากมายฮ่ะ เสียค่าเข้าคนละ 50 บาท อาเฮียร้อยนึง ถ้ากระโปรงใส่สั้นไปก็มีผ้าซิ่นให้เช่า ข้างในห้ามถ่ายรูปนะคะ แต่น่าสนใจมาก มีห้องบรรทม ร.5 ห้องพักของพระมเหสีและสนม ห้องทรงงานต่าง ๆ มีไกด์มาคอยเล่าให้ฟังด้วย ตั้งแต่ ร.5 เสด็จประพาสมลายูก็เดินทางทางเรือ และมาต่อด้วยขบวนช้างเป็น 100 เชือกจากชุมพรมากระบุรีอะไรประมาณนี้ ก่อนที่จะลงเรือต่อไปยังมลายู ซึ่งสมัยนั้นคงอลังการมากเลย  


ตอนที่ผ่านมายังระนองนั้น ทางเจ้าเมืองก็ให้สร้างพระราชวังไม้เอาไว้ ซึ่งแต่ก่อนไม่ได้อยู่ตรงนี้หรอก อยู่ใกล้ ๆ กัน และขนาดก็ใหญ่กว่านี้   แต่พอเวลาผ่านไปประกอบกับระนองเป็นเมืองฝนแปดแดดสี่ ความชื้นก็ไม่เป็นรองใคร พระราชวังไม้ก็ผุกร่อนไปตามกาลเวลาและความชื้น  เมื่อไม่กี่สิบปีก่อน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดในสมัยนั้น ก็สร้างพระราชวังไม้จำลองขึ้นมา เพื่อที่ประวัติศาสตร์จะได้ไม่เลือนหายไป 

เท่าที่อิฉันติดตามเพจชาวกระบุรีที่ว่าไว้ด้านบน ก็ทำให้ทราบว่าประวัติศาสตร์ที่ระนองนี่เยอะมากนะคะ มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ญี่ปุ่นบุกขึ้นบกมาก็ที่นี่ มีการปะทะกันด้วย หากท่านผู้ว่าในยุคนี้มีดำริจะเก็บหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไว้ศึกษาบ้าง คงจะดีไม่น้อย ไม่งั้นประวัติศาสตร์คงจะเหลือแต่เป็นตัวหนังสือ

บ่นไปเรื่อยเจื้อย  ตามมาดูพระราชวังกะอิฉันดีกว่า 




สวยอลังค่ะ













นุ่งผ้าซิ่นทับกระโปรงสั้น









ระเบียงรอบนอกถ่ายรูปได้  ข้างในอาคารนั้น นอกจากไกด์ จะมีมัลติมีเดียคอยแสดงให้ความรู้ถึงพระราชวัง ถึงเจ้าเมืองต่าง ๆ ในสมัยก่อนทำได้ดีและไม่น่าเบื่อเลย 





ข้างบนเขานั้น จะมีต้นมะขามที่ ร.5 ทรงปลูกเอาไว้ด้วย คุณไกด์เล่าว่าสมัยก่อนเวลาวันปิยมหาราช  ชาวระนองจะมาทำพิธีกันที่ต้นมะขามนี้ แต่ไม่นานมานี้มีการสร้างรูปปั้น ร.5 ที่หน้าศาลากลางจึงย้ายไปทำพิธีที่นั่นแทน อิฉันว่าทำพิธีที่ต้นมะขามดูขลังกว่ากันเยอะแฮะ

จากมุมนี้ถ้าหันขวาไป จะมีศาลาเล็ก ๆ ที่มีพระพุทธรูปอยู่ด้วย คุณไกด์บอกว่ามีคนเอามาให้ทางการ หลังจากเจอพระลอยน้ำมาจากซึนามิเมื่อคราวนั้น











ทางด้านหน้าข้ามนนไปจะมีร้านขายของฝาก ร้านบ้าน ๆ แต่ขายของถูกดี มีน้ำพริก เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อิฉันได้สร้อยมุกแหวนมุกมาใส่เล่นหลายอัน เป็นพวกมุกถูก ๆ เม็ดไม่เท่ากันเลย 30 เม็ด 30 รูปร่าง แต่น่ารักดีนะคะ เสียดายน่าซื้อมาอีก






รถสองแถวไม้ ของดีเมืองระนอง




บ่ายสามเกือบสี่โมงละ เป้าหมายสุดท้ายคือไปดูภูเขาหญ้ากับน้ำตกหงาวที่อยู่ตรงข้ามภูเขาหญ้ากันก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ดังนั้น ยังพอมีเวลาอยู่นิดหน่อย เราจึงไปป่าชายเลนหงาวกัน อยู่ไม่ไกลจากภูเขาหญ้าฮ่ะ แต่ถ้าไปตาม GPS ระวังโดนมันหลอกนิดนุง  เพราะจุดที่มันบอกว่าถึงแล้ว ไม่ใช่ทางเข้าไปป่าชายเลนนะครัช ต้องขับเลยเข้าไปอีกหน่อยหลายร้อยเมตรอยู่ ซึงวันที่อิฉันเข้าไปเป็นวันอาทิตย์จึงดูเงียบมาก มีเด็กซัก 5-6 ขวบมาพาอิฉันไปลงชื่อในสมุดเข้าป่า และขากลับก็เจอน้องหมาฟันยื่นอีกตัวมายืนส่ง นอกนั้น ไม่เจอใครเลยยย 




















มีจุดชมวิวสวย จะเห็นเกาะหลายเกาะเลย




ตามรูปเป๊ะ






นี่คือน้องหมาเหยินที่มาส่ง เสียจุยยไม่มีขนมติดรถมาให้กินเลย 




มาต่อกันที่ภูเขาหญ้า  ซึ่งใครไปใครมาก็ต้องแวะ จริง ๆ มันก็คือเนินเขาเตี้ย ๆ ไม่มีต้นไม้ขึ้น มีแต่หญ้า และฝั่งตรงข้ามจะเห็นน้ำตกหงาวด้วย




เป็นลานกิจกรรมที่ดี มีพ่อค้าแม่ค้าเอาอาหารมาขายกันประปราย มีครอบครัวพาลูก ๆ มาเล่นว่าว พาหมามาวิ่งเล่น อากาศดี๊ดี ลมพัดสบาย

ได้ไอติมนมเย็นมากิน







อาเฮียไปขโมยว่าวเด็กแถวนั้นมาเล่น Smiley










อาเฮีย Skype คุยกะป๊าม๊าที่อังกฤษ ภาพเสียงชัดแจ๋ว
ข้างหลังเห็นน้ำตกหงาวด้วย












ขับรถกลับที่พัก ผ่านตัวเมืองแวะเดินตลาดจักหน่อย 












วันนี้เที่ยวหลายที่ หมดแรง เลยมากินข้าวชิล ๆ กันที่ที่พัก อันนี้เป็นอาหารโบราณ ล่าเตียง ข้างในเป็นหมูสับกุ้งสับ อร่อย




ผักซีอิ๊วทะเล




ปลาทรายทอดขมิ้น กรอบอร่อย






แล้วอยู่ ๆ อีเหมียวก็โผล่มา

นางมองเฉย ๆ เฉย ๆ เฉย ๆ ไม่หืออือ ไม่ร้องไม่อะไรทั้งนั้น 
มองมันเข้าไป 





ให้ก็ได้วะ




เมื่อปลาหมด นางก็มองล่าเตียง

มองเฉย ๆ 










สั่งขนมมาปิดท้าย  อาหารที่นี่ดีจริง ๆ The hidden resort 

เครปกล้วยคาราเมล





กล้วยบวดชี




กลับห้องมาดูของที่ช็อปมาวันนี้ฮ่ะ  มีกาหยู ชาลำไย (อันนี้ OTOP ของเชียงราย  ตรูจะเอามาเพื่อ Smiley)  ชา 3in 1 ของระนองหอมดีนะคะ  น้ำพริกต่าง ๆ และสบู่พม่า




ได้สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้าของรักษะวาริณ  และมุกราคาไม่แพงมาใส่เล่น




*************************************************************************
*************************************************************************

วันสุดท้าย กลับกัน flight ก่อนเที่ยง จึงไม่เหลือเวลาทำอะไร

พอแค่ Enjoy อาหารเช้าแล้วไปคืนรถและขึ้นเครื่องเท่านั้น อาเฮียบอกให้ลงไปว่ายน้ำเล่นได้อีกรอบ แต่วันนี้ตอนเช้าหนาวยะเยือกเลยไม่ลงดีฝ่า

วันนี้กินชาร้อนๆ 




อาหารชุด American breakfast





และ Very Berries Smoothies  ชอบที่สุดดดด Smiley




แล้วนางก็มา  Smiley





มองเฉย ๆ 




มองเงียบ ๆ 




มอง  ไม่หือไม่อือ




เห็นชั้นด้วยเหรอมะนุด




เริ่มแสยะยิ้ม




 แสยะยิ้มจริงๆ ด้วย Smiley





หึหึหึ เป็นทาสชั้นซะสิ












เล่น(หูเล่นตา)กับนางจนหนำใจ เพราะจริงๆ แล้วนางไม่เล่นด้วย ที่นี่มีแมว 3 ตัว พนักงานบอกว่า ตัวสีส้มชอบเล่นกับคน สีดำกลัวคน และอีเทานี่ไม่ค่อยชอบคน แต่มีแต่นังเทานี่แหละที่มานั่งจ้องหน้า

แพ็คเป๋ากลับบ้านกันอย่างปลาบปลื้มกับที่พักที่นี่

มาขึ้นเครื่องกลับ เคาน์เตอร์นกแอร์มีป้ายแขวนกระเป๋าขาย น่ารักและช่วยการกุศลด้วย








พร้อมกลับบ้านละ




น้องนกแจกน้ำขากลับ






แล้วก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ทริประนองนี้ดี๊ย์ดีย์ มีอะไรให้ทำเยอะแยะกว่าที่คิด ที่พักก็ดี ทริปลงเรือเที่ยวเกาะก็สวยยังกะโปสการ์ด ที่เที่ยวในจังหวัดก็มีมากมายหลายหลาก ทั้งวิวทิวทัศน์ ประวัติศาสตร์ ทะเล เกาะ น้ำตก ป่า วัด น้ำพุร้อน อาหารก็อร่อย ผู้คนก็น่ารัก  ที่นี่เป็นจังหวัดทางใต้สุดเท่าที่อิฉันเคยลงใต้มาละ  สรุปได้ว่าอิฉันชอบคนใต้แฮะ ดิบ ๆ บ้าน ๆ ตรง ๆ ดูจริงใจดี อาหารใต้ก็ชอบ รู้สึกว่าทางใต้มีเสน่ห์ หลงรักภาคใต้แล้วสิ เร็ว ๆ นี้อยากจะหาโอกาสกลับมาเที่ยวทางใต้อีก เล็งว่าปี 2018 นี้จะไปสงขลาและพัทลุงให้ได้ฮ่ะ


Create Date : 17 ธันวาคม 2560
Last Update : 17 ธันวาคม 2560 20:46:19 น. 1 comments
Counter : 2925 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96


 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 18 ธันวาคม 2560 เวลา:3:45:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนดีผีคุ้ม
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




อิฉันทำรีวิวเพื่อที่จะเก็บบันทึกการเดินทางไว้เหมือนไดอารี่ เอาไว้มาดูอัลบั้มการท่องเที่ยวของตัวเองที่ผ่านมา ดังนั้น จึงมีรูปตัวเองและอาเฮียเยอะแยะ ไม่ได้เป็นรีวิวเพื่อแนะนำการท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครผ่านไปผ่านมาและอาจได้ประโยชน์จากบล็อกบ้าง ก็นับเป็นโชคดีของอิฉันที่ยังอุตส่าห์มีอะไรมาแบ่งปันนะคะ
Friends' blogs
[Add คนดีผีคุ้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.