BlogGang.com : : คนดีผีคุ้ม : 2018 Mae Hong Son driving trip : แม่ฮ่องสอน - ปางมะผ้า - บ้านจ่าโบ่

2018 Mae Hong Son driving trip : แม่ฮ่องสอน - ปางมะผ้า - บ้านจ่าโบ่ - ปาย

บล็อกก่อนหน้า >> แม่ลาน้อย - ผาบ่อง- หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว - ซูตองเป้ -แม่ฮ่องสอน

วันนี้ได้เวลาเริ่มโร้ดทริป 1864 โค้งแล้ว

ไอ้ที่ผ่าน ๆ มาอิฉันว่ามันก็โค้งพอสมควรแล้วนา นึกว่ามันผ่านไปแล้วซัก 500 โค้งซะอีก แต่มันยังไม่ได้เริ่มเลยท่านผู้ช๊มมมม

ไอ้เจ้า 1864 โค้งนี่ อิฉันไม่แน่ใจจุดเริ่มต้นมันเริ่มจากไหน จากปายรึจากเชียงใหม่ แต่จุดสิ้นสุดมันอยู่ใกล้ ๆ ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนนี่แหละ

เริ่มวันแต่เช้า เราก็เดินลงหาไรกินกัน

จริง ๆ ที่แม่ฮ่องสอนนี้ ถ้าไม่ใช่คนหลังยาวอย่างพวกเรา นักท่องเที่ยวเค้าก็จะตื่นเช้า ไปหาของกินและช็อปปิ้งของพื้นเมืองที่ตลาดเช้ากัน เค้าว่าดี๊ดี แต่ไม่เป็นผลกะพวกเรา เวลานอนมีค่า พลาดคราวนี้จะได้หาโอกาสมาเที่ยวคราวหลัง

ตื่นสายโด่ง เดินละเอียดชมโรงแรม

มีสระว่ายน้ำด้วย ใบไม้ลงไปเยอะอยู่ สระอยู่กลางสวน บรรยากาศดีมาก ถ้าได้มาคราวหน้าก็ว่าจะมาเจาะลึกแม่ฮ่องสอน แล้วพักที่นี่หลาย ๆ คืนหน่อยคงมีเวลาลงแช่น้ำบ้าง โรงแรมนี้น่าสนใจนะคะ ด้านหลังมีทางเดินเข้าป่าด้วยเป็น Trail ระยะสั้น ๆ

มีพวกลานผิงไฟด้วย หน้าหนาวมานั่งผิงไฟดูดาวคงจะฟินน์น่าดู

ห้องอาหารกว้างดีค่ะ อาหารมีให้เลือกพอควร

โต๊ะข้าง ๆ มากันเป็นครอบครัวใหญ่ คงเพิ่งกลับมาจากตลาดเช้า เอาอาหารขนมและของฝากมาเปิดอวดกันใหญ่ เห็นมีขนมอะไรน่าสนใจเพียบ แถมใจดี คงเห็นอิฉันและอาเฮียดูอยากจะเจือก เลยส่งขนมมาให้ชิมและเอาหมวกอะไรไม่รู้ที่เพิ่งซือมาให้อาเฮียใส่

หล่อดีนะเฮียยังกะชาวพื้นเมือง

ขับรถมาทางเดิมที่เราไปแล้วเมื่อวาน ขับไปทางถ้ำปลา แล้วเราก็เจอร้านกาแฟยอดฮิต ร้านกาแฟช้างไทยกาแฟหลักสิบวิวหลักล้าน ซึ่งเหมือนจะเป็นจุดสิ้นสุด 1864 โค้ง แต่เรามาเริ่มฝั่งนี้ ดังนั้น เรายังเหลือ 1864 โค้งเท่านั้น

วิวสวยมากกกกกกก วิวท้องนาเขียวสวย ที่นั่งมากมาย

วันนี้เราจะไปปายโดยผ่านทางปางมะผ้า

สารถีและยานพาหนะของเขา

ผ่านโค้งไปนิดหน่อย เจอจุดชมวิวบ้านลุกข้าวหลาม

วิวสวยสุด ๆ เทือกเขายาวเป็นแนวเลยยย

เมืองไทยสวยจริง ๆ

ชี้ทักทายเพื่อนฝั่งขะโน้น

ที่จุดชมวิวนี้ ฝั่งตรงข้ามถนนจะมีตลาดที่ชาวบ้านเอาของมาขายกัน โขวโบกกกของถูกมากกกกกกกกกกกกกก ช่วย ๆ ชาวบ้านไปเถอะค่ะ อิฉันไม่แน่จว่าราคาที่ขายนี้ชาวบ้านเค้าได้อะไรกันบ้าง งานแฮนด์เมดทั้งนั้น มีทั้งพวกกระเป๋าใบยักษ์ เป๋าตังค์ใบน้อย ผ้าขาวม้า และพวกผลิตภัณฑ์ชาวเขาต่าง ๆ ในราคาเหมือนให้ฟรี

กระเป๋าใบใหญ่ ๆ น่าจะประมาณ 150-200 บาท

แม่ค้าขายมันทาทานาคาซะหน้าขาวผ่อง

อาเฮียแวะซื้อมันมากิน

อิฉันสอยเป๋าเศษตังค์ใบเล็กมาฝากเพื่อน ๆ ในราคาถูกแสนถูก จำไม่ได้ราคาเท่าไหร่ แต่ราคาหลักสิบบาทกว่า ๆ เท่านั้น สงสารคนทำเลยฮ่ะ

ผ่านมาแถวนี้ยังไงก็ต้องแวะบ้านจ่าโบ่ ไปแวะกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่โด่งดัง บ้านจ่าโบ่นี่ไม่ได้อยู่ริมถนนนะคะ ต้องขับขึ้นเขาไปอีกหน่อย

เค้าจะอยู่กันเป็นหมู่บ้าน สร้างบ้านกันอยู่ริมเขาเลย และตอนนี้ก็ไม่ได้มีแค่ก๋วยเดี๋ยวห้อยขากันอีกต่อไป แต่มีโฮมสเตย์และร้านกาแฟห้อยขาอยู่อีก 2-3 ร้าน

ร้านก๋วยเตี๋ยวคนเยอะมาก และอาเฮียไม่กินก๋วยเตี๋ยว เราจึงไปแวะร้านกาแฟกัน

ร้านนี้ก็มีที่นั่งริมผา

หวาดเสียวว๊อยยยย

มีเปลญวนให้นอนเล่นด้วย

ได้ชาเขียวเย็นมากิน

ได้ยินเสียงโอ๊กอ๊ากๆๆๆ ใหญ่โต หันไปดู ชาวบ้านกำลังพาหมูย้ายไปอยู่ที่อื่น มันจึงประท้วงซะเสียงดัง

ไม่พอใจก็ไม่ไปง่ายๆ นะครัช

ร้านกาแฟเด็กดอย

เดินผ่านคุณยายกำลังนั่งทำชุดชาวเขา งานแฮนด์เมดแท้ๆ กว่าจะปักได้แต่ละแถบ แกนั่งยิ้มอารมณ์ดี

เดินดูหมู่บ้านได้ ชาวบ้านเป็นมิตรมาก

ตามมาดูอีหมูตัวมะกี้ นางก็ยังคงนอยด์อยู่

หน้าย๊าวยาว

ออกจากจ่าโบ่ ก็มาตามทางไปเรื่อยๆ แวะกินข้าวร้านข้างทาง

ไปจนถึงจุดชมวิวกิ่วลม ที่นี่มีชาวเขาตัวน้อยมาเป็นพร็อพถ่ายรูปแบบเรียกเก็บเงินกันไม่น้อย ธุรกิจคงจะดีอยู่

ทุกคนจะมาอีหรอบเดียวกัน ท่องมาสคริปเดียวกัน สวัสดีค่ะคุณพี่คนสวย ช่วยการศึกษาหนูหน่อย หนูเป็นฝาแฝด พูดย้ำๆ ไปจนกว่าจะได้ตังค์

หลังจากช่วยการศึกษาเด็ก ๆ ไปประมาณ 10 คนแล้ว เด็ก ๆ ก็ยังคงมาคุณพี่คนสวยอย่างต่อเนื่อง จนอิฉันชักจะดูวิวไม่สวยละ รายหลัง ๆ อิฉันจึงปฏิเสธไป เด็กบางคนคงจะจับรังสีอำมหิตได้

ขับรถตามโค้งมาเรื่อย ๆ ถึงปาย แถว ๆ ปายนี่จะมีที่เที่ยวรัว ๆ หนึ่งในนั้นคือหมู่บ้านสันติชลที่เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน โด่งดังเรื่องขาหมูหมั่นโถว

มีกิจกรรมให้ทำเยอะอยู่ ทั้งขี่ม้า นั่งชิงช้า หรือเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดจีน ๆ แต่วันนี้อากาศร้อนมากซะจนไม่อยากจะเปลี่ยนเสื้อผ้าใด ๆ

งั้นข้ามมาทำสิ่งที่ต้องทำดีฝ่า มานี่เลยขาหมูหมั่นโถว

สั่งมา 1 ขาบวกหมั่นโถว 2 ลูก สำหรับกิน 2 คนที่ไม่ค่อยหิว
อันนี้ของดีจริงฮะ ห้ามพลาดเลย ขาหมูนุ่ม น้ำแดงชุ่มฉ่ำมาก หมั่นโถวนุ่ม ๆ เมื่อกินกับขาหมูโคตรจะเข้ากัน

เมื่อกินเสร็จก็เช็คอินเข้าที่พัก วันนี้เราพักกันที่ Hotel des artists rose of Pai ซึ่งอิฉันว่าเป็นที่พักไฮไลต์ทริปนี้ของอิฉันเลย สวยงามเกร๋กู๊ดมาก

โรงแรมนี้อยู่ในตัวเมืองติดกับสะพานไม้ไผ่ตรงถนนคนเดินเลย ดังนั้น บริเวณจะค่อนข้างจอแจ แต่ในโรงแรมก็เงียบสงบดีนะคะ โลเกชั่นเดินไปหาของกินง่ายมาก