แบกเป้ ลุยเดี่ยวฯ วันที่ 23 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลาว พระธาตุภูสี
วันที่ 29 มีนา
กะว่าเช้านี้จะตื่นมาใส่บาตรข้าวเหนียวซะหน่อย แต่เพลียมาก ขอนอนตื่นสายหน่อยละกันวันนี้ ได้ยินเสียงเขาตีกลอง น่าจะบอกเวลาว่าพระมาแล้ว อยู่ใกล้ๆโรงแรม
หลังจากกินอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว ก็โบกตุ๊กตุ๊กไปส่งโรงแรมใหม่ ที่หาไว้เมื่อวาน
ห้องพักราคา 396 บาทต่อคืน ห้องแอร์ ถูกกว่าเดิมอีก แถมได้พักใจกลางเมืองเลย ร้านอาหารเพียบ
เดินนิดนึงก็ถึงตลาดมืด สะดวกสบายที่สุด จริงๆห้องพักนี้เป็นห้องสำหรับ 3 คน แต่อยู่สองคนเขาลดราคาให้เท่านี้
รูปห้องพัก
ลืมถ่ายรูปห้องน้ำมา แต่ห้องน้ำก็ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ แต่ที่นี่สะอาด พนักงานมาทำความสะอาดห้องทุกวัน
ที่นี่มีข้อเสียหน่อยนึงที่ไม่ชอบคือ ไม่มีกลอนข้างใน ตอนมาดูห้องก็ลืมดู เข้าพักแล้วถึงได้เห็น ว่าเขาถอดกลอนออกไป
วันที่พักคืนแรก มีเพื่อนเป็นฝรั่งห้องอื่นอยู่อีก 2 ห้อง แต่หลังจากคืนนั้นแล้วเหลือห้องเรา ผู้หญิง 2 คน ห้องเดียว
วันที่มาดูห้อง ทางเข้าด้านข้างโรงแรม มีพวกคนลาวตั้งวงกินเหล้า เคาะช้อน เคาะชามกันเสียงดัง รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเหมือนกัน ถ้ามีคนเมานั่งหน้าทางเข้าแบบนี้ แต่ดีว่ามีแค่คืนแรกเท่านั้น
หลังเข้าห้องพักแล้วก็ออกไปดูพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลาวกัน
เดินไปจากโรงแรมที่พักหน่อยเดียวก็ถึงแล้ว ถนนเส้นที่ผ่านพิพิธภัณฑ์นี่แหละที่ใช้ตั้งตลาดมืด ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 30000 กีบ
วัดภายในพิพิธภัณฑ์ กำลังทำการบูรณะ
ก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ต้องฝากกล้องและของมีค่าไว้ที่ล็อคเกอร์ ห้ามถ่ายรูปภายในค่ะ
พิพิธภัณฑ์เปิดตั้งแต่เวลา 8.00-16.00 พักเที่ยงปิดนะคะ ตั้งแต่เวลา 11.30-13.30
ออกจากพิพิธภัณฑ์ ก็ข้ามถนนไปพระธาตุภูสี ค่าขึ้นพระธาตุ 20000 กีบ
ทางขึ้นจะมีพวกขายของให้นักท่องเที่ยว
มีนกใส่กรงไว้ขาย แล้วปล่อยเวลาไปถึงพระธาตุแล้ว
Carolina ซื้ออีกแล้วค่ะ นกเมืองไทยดิฉันไม่แน่ใจว่านกอะไร ไม่เคยสังเกต แต่ที่นี่เป็นนกกระจอก
ถึงพระธาตุแล้ว ก็ปล่อยนกได้
วิวจากบนพระธาตุ มองลงมาเห็นเมือง
ลงจากพระธาตุ พักกินอาหารเที่ยงที่ร้านนี้
จัดร้านบรรยากาศน่านั่งมาก แต่พนักงานหน้าตาไม่รับแขกเอาซะเลย
กินเสร็จจะจ่ายตังค์ พึ่งรู้ตัวว่ากระเป๋าตังค์ไม่มี ใจหายแว๊บเลย นึกไปนึกมา ถอดทิ้งไว้บนเตียง ก่อนเข้าห้องน้ำนี่เอง มันเป็นกระเป๋าคาดเอวเลยลืมซะ
ดีนะว่าไม่ได้มาคนเดียว เลยให้เพื่อนนั่งเป็นตัวประกันไว้ก่อน ดิฉันรีบจ้ำไปที่ห้อง ภาวนาให้กระเป๋ายังอยู่เถอะ โชคดีของไม่หายไปไหน
หลังจากนั้นไปดูวัดใหม่ฯ
อยู่ใกล้ๆพิพิธภัณฑ์น่ะแหละ วัดนี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะ เพราะอยู่ใกล้ที่ท่องเที่ยวสำคัญด้วยมั้ง ไกด์เลยพานักท่องเที่ยวมา ไม่ต้องเดินทางไกล
ต่อจากวัดใหม่เดินตรงไปเรื่อยๆ ถึงวงเวียน จะมี Tourist information ตั้งอยู่ ไปขอแผนที่ฟรี แต่มันไม่ละเอียด เลยซื้อแผนที่มา แต่ก็ไม่ได้ใช้เลย แผนที่ที่นี่ทำไม่ดีเท่าไหร่ อนที่ซื้อมาก็ไม่ละเอียดเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าของฟรีหน่อยนึง
จาก Tourist Information ข้ามถนนไปจะเจอไปรษณีย์ ไปรษณีย์ที่นี่เปิดดึก แต่มีเวลาพักเป็นช่วงๆ
ไม่เหมือนไปรษณีย์ที่วังเวียงมีที่เดียว เปิดตามเวลาราชการทั่วไป เลยต้องหอบไปรษณีย์บัตรที่เขียนแล้วจากวังเวียงมาส่งที่นี่แทน
เดินเลยไปรษณีย์ไปจะเจอร้านเบเกอรี่ดังของนักท่องเที่ยวไทย ร้าน Joma เยื้องจากร้านก็จะเจอวัดนี้ที่เราจะไปกัน จำชื่อวัดไม่ได้แล้วค่ะ วัดสวยมาก
ใกล้ๆ
ประตูก็สวย ละเอียดมาก
ส่วนนี่วัดติดกัน ก็สวยเหมือนกัน แต่วัดแรกหรูหรากว่า
วันนี้อาหารเย็นกินที่ร้านนี้ค่ะ มีอาหารลาว ไทยและฝรั่ง ที่สำคัญมี Wifi ที่เลือกเข้าร้านนี้ส่วนนึงก็เพราะนี่แหละ
นั่งกินได้ซักพัก ฝนเริ่มตก ลมแรง ต้องย้ายไปนั่งชั้น 2กัน ลมแรงขึ้น ซักพักไฟก็ดับ เหมือนเมืองไทยเล้ยยยย ไฟดับๆติดๆ เป็นชม. กว่าไฟจะมา ดูเหมือนดึกๆจะดับอีกรอบ
ก่อนกลับแวะร้านเน็ทหน่อย เพราะ Wifi ในร้านอาหารไม่แรงพอ โหลดภาพเข้า facebook ไม่ได้
ค่าใช้จ่ายวันที่ 23 : ค่าอาหาร 489 บาท, โรงแรม 198 บาท , รถตุ๊กตุ๊กไปโรงแรมใหม่ 21 บาท, แผนที่ 78 บาท, ค่าขึ้นพระธาตุภูสี 78 บาท, ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 120 บาท, อินเตอร์เน็ท 21 บาท รวมเป็นเงิน 1005 บาท
ยอดรวมทั้งหมด 24,997 บาท
Create Date : 15 มิถุนายน 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:47:52 น. |
Counter : 1175 Pageviews. |
|
|
|
สวยแบบน่ารัก