Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
แบกเป้ ลุยเดี่ยวฯ วันที่ 55 Fuji 5th Station และทัวร์รอบ Kawaguchiko

วันที่ 30 เมษายน

ตื่นเช้าเดินจากโรงแรมไปสถานี Kawaguchiko ไกลเหมือนกัน แต่เดินไปเรื่อยๆอากาศเย็นสบาย ดูบ้านเมืองเขาก็เพลินดีค่ะ

ไปถึงสถานีซื้อตั๋วไป-กลับ ไป Fuji 5th station ราคา 2000 yen รถออกเวลา 9.50

ช่วงนี้ยังไม่ใช่หน้า High season เลยมีรถแค่ 5 เที่ยวต่อวัน ยังเหลือเวลาอีกเยอะก่อนรถออก เลยเดินหาร้านอาหารแถวสถานีกินอาหารเช้า

แต่ร้านรอบๆยังไม่เปิดกันเลย เช้าจัด เลยกลับมาสั่งอาหารร้านในสถานีแทน

วันนี้อากาศดีมาก โชคดีจริงๆ แดดจ้า ฟ้าใจอย่างที่อยากได้เลย

แต่ในความโชคดียังมีโชคร้ายนิดนึง เจอฝรั่งขี้วีนเมื่อวานอีกแล้ว ดันมานั่งรถเที่ยวเดียวกันอีกแน่ะ เซ็งงง มลพิษทางหูจริงๆตาคนนี้

แล้วแกก็โวยวายโน่นนี่กับคนขับอีกแหละ แอบเห็นคนขับทำหน้าเหนื่อย คุยกันไม่รู้เรื่องก็แย่แล้ว นี่ยังจะโวยวายให้สถานะการณ์แย่หนักไปอีก

วันนี้แกมาแปลกจากเมื่อวานนิดนึง หอบถุงซื้อของมาจากซุปเปอร์มาเก็ตด้วยหลายถุง แถมเอาถุงครอบหัวใบนึงด้วยแน่ะ สงสัยจะกันแดด ฝนไม่ตกซักหน่อย

ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ก็ถึงสถานี 5th station ความรู้สึกแรกเลยที่เห็นฟูจิใกล้ๆแบบนี้ บอกได้เลยว่าไม่ประทับใจซักกะนิด

ดูใกล้ฟูจิซัง ก็แค่ภูเขาธรรมดาที่มีหิมะคลุมเท่านั้นเอง




ดูไกลๆสวยกว่าเยอะ นักท่องเที่ยวเยอะมาก นักท่องเที่ยวไทยก็เยอะ ข้างบนนี้หนาวมากๆ ลมแรงด้วย เดินข้่างนอกได้ซัก 10 นาที ต้องหนีหนาวเข้าไปช๊อปปิ้งแทน

วิวรอบๆมองไปเห็นลานจอดรถ




ร้านขายของที่ระลึกเยอะเลยที่นี่ เหมาะสำหรับนักช๊อป




ดิฉันเข้าไปหาซื้อโปสการ์ด เขามีตราประทับให้ด้วย ได้ส่งโปสการ์ดจากจุดสูงที่สุดของญี่ปุ่นให้เพื่อนด้วย เริ่ดซะไม่มี

แต่เสียดายดันลืมส่งให้ตัวเองซะงั้น ไว้คราวหน้าต้องไปใหม่ซีเนี่ย

จุดที่ขายแสตมป์และประทับตราคนเยอะมาก ด้านหน้ามีตู้ไปรษณีย์ให้ส่งด้วย แต่ดิฉันส่งด้านใน




รูปปั้นนี้ไม่รู้ใคร ใช่คนปีนภูเขาฟูจิคนแรกหรือเปล่าไม่รู้




ด้านข้างร้านขายของเป็นศาลเจ้า




ด้านในศาลเจ้า ฟ้าใสมากวันนี้ ชอบจริงๆ




คราวหน้าถ้ามาที่นี่หน้าร้อน ดิฉันต้องหาเวลาปีนขึ้นบนยอดภูเขาไฟฟูจิแน่ๆ แต่ต้องฟิตร่างกายก่อนด้วย กลัวจะขึ้นไม่ไหว อายคุณลุงคุณป้าแถวนี้แย่

เคยอ่านเจอคนแก่อายุ 60-70 เดินขึ้นเขาที่นี่ได้ ทึ่งจริงๆ ที่นี่จะเปิดให้เดินขึ้นไปข้างบนได้เดือน กรกฏาและสิงหา

แต่ก็เห็นบางคนพยายามเดินรอบๆเหมือนกัน แต่หิมะยังเยอะอยู่คงเดินได้ไม่เท่าไหร่หรอก

ดิฉันรอรถขากลับเวลา 11.40 อยู่ต่อไม่ไหวแล้ว หนาวมากๆ เสื้อผ้าที่ใส่มาไม่ได้กันความหนาวขนาดนี้ อยู่ได้แค่ชม. เดียวก็แย่แล้ว

ขากลับเจอฝรั่งขี้วีนอีกแล้ว สงสัยจะดวงสมพงษ์กันแน่

คราวนี้แกหาตั๋วไม่เจอ คนขับขอดูตั๋วแกก็ไม่สนใจ เดินเบียดคนขับขึ้นมาเลย บอกว่าตั๋วน่ะมีแน่ๆอยู่ที่ไหนซักแห่งนี่แหละ เดี๋ยวหาให้ โวยวายเสร็จก็ขึ้นรถไป

คนขับก็คงเหนื่อยจะเถียง พูดกันคนละภาษาด้วย ก็เลยปล่อยให้ขึ้นไป ขึ้นไปแกก็บ่นๆๆ แล้วหาตั๋วไปด้วย หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ แต่คราวนี้เงียบได้ สงสัยกลัวโดนไล่ลงกลางทาง

พอกลับถึงสถานี ดิฉันก็ซื้อตั๋ว One day สำหรับนั่งรถบัสเล็ก ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ราคา 1300 เยน

นั่งรถได้ 2 เส้นทาง เขาจะให้แผนที่เส้นทางที่รถจะวิ่งและรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวมาด้วย

ดิฉันไม่ได้หาข้อมูลท่องเที่ยวของที่นี่มาก่อนเลย ไม่รู้จะไปดูอะไรก่อนดี

รถมี 2 สาย เลยเลือกเอาสถานที่ชื่อคุ้นๆไว้ก่อนแหละ เอาเส้นที่ไปทะเลสาป Kawaguchi ก่อน

พอถึงป้าย ทะเลสาป Kawaguchi ดิฉันก็ลงไปเดินดูทะเลสาป มันไม่มีอะไรเลยนอกจากทะเลสาปกับเรือถีบ แถมจุดที่รถจอดนี่ไม่สวยด้วย



เสียเที่ยวซะแล้ว ต้องเดินหาป้ายรถที่จะขึ้นไปจุดอื่นต่อไป

ระหว่างที่เดินหาป้ายรถ หันซ้ายหันขวาไปเจอเคเบิ้ลคาร์เข้าก่อน เลยเปลี่ยนใจไปขึ้นเจ้านี่ก่อน เคเบิ้ลขึ้นภูเขา Tenjo

เคเบิ้ลคาร์คันที่สวนมา มีตัวทานุกิอยู่ข้างบนด้วย




วิวจากสถานีเคเบิ้ลด้านบน สวยมาก




มีซากุระโผล่ให้เห็นบ้าง อากาศข้างบนเย็นสบายไม่หนาวเหมือนบนฟูจิ




เดินขึ้นไปอีกนิดก็เห็นฟูจิแสนสวย ต้องมองไกลๆแบบนี้ถึงจะสวย




ญี่ปุ่นนี่เขาถนัดเรื่องจัดอะไรน่ารักๆแบบนี้จริงๆ มีมุมให้คู่รักถ่ายรูปด้วย




กระต่ายกับฟูจิเป็นฉาก ทำไมต้องเป็นกระต่ายไม่เข้าใจ หรือว่าจะเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านของที่นี่ก็ไม่รู้




รอบๆจุดชมวิว นักท่องเที่ยวกำลังสนุกกับการถ่ายรูปกับดาราของที่นี่ ภูเขาไฟฟูจินั่นเอง




มีทางให้เดินต่อไปขึ้นเขาต่อไปด้วย




แต่ดิฉันไม่ได้มีรองเท้าดีๆมาเลยไม่อยากเดินต่อ อีกอย่างมีที่อื่นต้องไปดูอีก

ลงจากเคเบิ้ลคาร์มารอรถที่ป้าย ที่ต่อไปตั้งใจจะไปดูตุ๊กตาที่ Muse Museum เห็นตัวอย่างตุ๊กตาของศิลปินคนนี้แล้วโดนจริงๆ

เจอสาวญี่ปุ่นที่ป้ายนี้ เลยถามเขา เขาก็ช่วยดูแผนที่แล้วบอกว่าต้องขึ้นคันเดียวกับเขา เขาจะไปเส้นนั้นเหมือนกัน แต่ไป Iyashi no Sato Open Air Museum

เขาเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน เดินทางมาจากเมืองอื่น อัธยาศัยดีทีเดียว แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็คุยญี่ปุนกันแบบกระท่อนกระแท่นไป

เส้นทางไป Muse museum อยู่ไม่ไกลจากเกสท์เฮ้าท์ที่ดิฉันพักเท่าไหร่ ดีจัง ขากลับ จะได้ไม่ต้องนั่งรถไปลงสถานีรถไฟ

พอถึงป้ายสาวญี่ปุ่นก็บอกให้ลงป้ายนี้ แล้วก็บ๊ายบายกัน ป้ายที่ลงให้จำร้านนี้เป็นหลัก นอกนั้นไม่มีอะไรให้สังเกตเลย



ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ




เสียดายที่นี่ห้ามถ่ายรูปข้างใน ตุ๊กตาที่นี่สวยมาก มีเอกลักษณ์ และดูมีชีวิตดี

รูปศิลปินเจ้าของผลงานค่ะ Yuki Atae รูปจากเว็บ japantimes




ดิฉันไปเสริชหารูปตุ๊กตาของ Yuki Atae เพื่อมาใช้ประกอบเรื่องในบล็อก เลยไปเจอคนขายสมุดภาพผลงานของเขา ในอีเบย์เข้า

ตุ๊กตามีทั้งแบบที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่น




ออกแนวแฟนตาซี






แบบที่ใส่ชุดสากลก็มี แต่ดิฉันไม่ชอบเท่าไหร่แฮะ

ดิฉันชอบผลงานเขาที่ปั้นรูปเด็กมาก น่ารักจริงๆ






มีวีดีโอการทำตุ๊กตาของเขาให้ดูด้วย ตอนแรกนึกว่าเป็นตุ๊กตาผ้ายัดนุ่นซะอีก เพราะเพ่งใกล้ๆหน้าตุ๊กตาจะเห้นว่าเป็นผ้า แต่ข้างในเป็นดินเหนียว ปั้นแล้วหุ้มผ้าอีกที

ออกจากพิพิธภัณฑ์เดินไปป้ายรถเมล์ ดูเวลายังไปได้อีกที่เลยตัดสินใจไปที่ Iyashi no Sato Open Air Museum ที่สาวญี่ปุ่นคนนั้นไป

บนรถเงียบมาก มีดิฉันคนเดียวบนรถ คนอื่นไปไหนกันหมดเนี่ย

นั่งมาซักพักใหญ่ก็มีคนโบกรถ มีคนเข้ามาคุยกับคนขับ แล้วก็ให้เด็ก 2 คนขึ้นมาบนรถ เข้าใจว่าคงฝากเด็กนั่งรถมาด้วย เพราะรถต้องขับผ่านทางนั้นอยู่แล้ว รถเมล์ธรรมดาคงไม่มีผ่าน

พอไปถึงป้ายที่จะลง เจอสาวญี่ปุ่นคนที่ดิฉันเจอบนรถนี้ เขากลับพอดี ก็เลยสวัสดีกันอีกรอบ

เช็คเวลารถเที่ยวสุดท้ายว่ามากี่โมง แล้วเดินเข้าไปซื้อตั๋ว ถามคนขายว่าเข้าได้มั้ย เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 15 นาทีเขาจะปิดแล้ว แต่ไหนๆนั่งรถมาตั้งไกลแล้วจะไม่เข้าได้ยังงัย

พอได้ตั๋วแล้วก็รีบจ้ำทำเวลาก่อนรถเที่ยวสุดท้ายจะมา ถ้าพลาดเที่ยวนี้หละก็ได้นอนที่นี่แน่ เพราะมันไกลมาก ไม่มีรถเมล์ธรรมดาผ่านด้วย

บรรยากาศรอบๆพิพิธภัณฑ์เปิด




มองจากพิพิธภัณฑ์ลงมาเห็นภูเขาไฟฟูจิชัดมาก




หลังจากกลับมาแล้วดิฉันมาอ่านเจอว่ามีบ้านหลังนึง ถ้าขึ้นไปชั้น 2 แล้วจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิชัดๆ

ด้านในบ้านจัดให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นสมัยก่อน




บางอันก็เป็นร้านขายอาหารหรือของที่ระลึก




ตอนนี้ไม่เหลือนักท่องเที่ยวแล้ว เห็นมีนักท่องเที่ยวพึ่งมาหลังจากดิฉันอีก 2 คน

กลับลงมารถรถเมล์ พวกป้าๆที่ขายของแถวนั้นก็ชวนคุย แต่ไม่ได้ชวนซื้อของนะ เขากำลังเก็บของกลับบ้านเหมือนกัน ขนาดเราฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแกยังเม้าท์ด้วยได้อีกแน่ะ สามารถจริงๆ

ขากลับไม่เงียบเหงาเหมือนขามา มีเพื่อนบนรถเมล์หลายคน แต่คนขับคนเดิม

กลับที่พัก ตอนแรกว่าจะไปแช่ออนเซ็นที่นี่ แต่เปลี่ยนใจขี้เกียจขึ้นมาซะงั้น เลยไปกินข้าวเย็นร้านเดิมกับเมื่อวาน

จริงๆประชาสัมพันธ์ที่นี่ก็ให้แผนที่ร้านอาหารแถวนี้มานะ แต่เมื่อวานเดินไปรอบนึงแล้วไม่เห็นมีร้านน่าสนใจ เลยเข้าร้านเดิมนี่แหละ ใกล้ๆ

กลับมาจองเกสท์เฮ้าส์สำหรับพรุ่งนี้ที่นารา ที่นี่ไม่มีสัญญาณ Wifi มาถึงห้องพัก ต้องใช้คอมที่เขาจัดไว้ให้ด้านล่างจอง

ตอนที่จ่ายเงินด้วยบัตรก็เสียเหมือนกัน กลัวโดนลักข้อมูล ปกติไม่เคยใช้คอมสาธารณะซื้อของออนไลน์ แต่ก็ไม่มีอะไรหลังจากนั้น

ค่าใช้จ่ายวันที่ 55 :ค่าอาหาร 595 บาท, ค่าตั๋วรถบัส 405 บาท, ค่ารถขึ้นภูเขาไฟฟูจิ ไป-กลับ 625 บาท, โรงแรม 845 บาท, ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์เปิด 110 บาท, ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา 190 บาท, ค่าซักผ้า 95 บาท, เคเบิ้ลคาร์ 220 บาท, ค่าจองโรงแรมผ่านเว็บ 65 บาท รวมเป็นเงิน 3150 บาท

ยอดรวมทั้งหมด 118,278 บาท


Create Date : 29 กรกฎาคม 2554
Last Update : 30 กรกฎาคม 2554 6:00:03 น. 4 comments
Counter : 9413 Pageviews.

 
รีวิวได้ละเอียดมาก อ่านแล้วก็ได้นึกภาพ
ตามไปด้วยเหมือนได้ไปเที่ยวเลยครับ



โดย: รักคนห้องนี้ วันที่: 30 กรกฎาคม 2554 เวลา:2:18:54 น.  

 
สุดยอดเลยค่ะ ไปตั้งนาน ได้เที่ยวตั้งเยอะ หมดไปแสนกว่าๆ นับถือจริงๆ อยากไปแบบนี้มั่ง แต่คงต้องรอปิดเทอม คราวก่อนที่ไปแค่ห้าวันยังหมดตั้งห้าหมื่น ทำยังไงคะนี่ กับเงินและเวลาขนาดคุณน่ะ


โดย: คู IP: 125.26.172.94 วันที่: 30 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:39:59 น.  

 
คุณคู ไปที่ไหนคะ 5 วันที่ว่า ญี่ปุ่นเหรอ? ถ้าไปจำนวนวันน้อยๆอย่างนี้แพงค่ะ เพราะตั๋วเครื่องบินก็กินไปเกือบ 20000 แล้ว

จริงๆงบ 50000 นี่ไปได้หลายประเทศ อยู่ได้เป็นเดือนนะคะ ถ้าไปแถวประเทศเพื่อนบ้านเสียค่ารถไม่แพงเท่าไหร่

ลองอ่านไปเรื่อยๆจะมีบอกถึงวิธีการหาที่พักฟรีด้วยค่ะ


โดย: luvreise วันที่: 30 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:02:03 น.  

 
โชคดีจังค่ะอากาศเป็นใจถ่ายรูปวิวฟูจิซังได้สวยมาก ๆ ค่ะ ^^
คราวหน้ามาหน้าร้อนมาปีนฟูจิซังนะคะ ^^


โดย: fahtsuki วันที่: 31 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:04:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

luvreise
Location :
Norway

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ONLINE COUNTER

VISITOR COUNTER

New Comments
Friends' blogs
[Add luvreise's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.