...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
19 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 

เรารักษ์ชุมพร

เรื่องโดย คุณครูสุนีย์ จุนเจือ
ภาพโดย ครูกิตติพงศ์ พันธ์เมือง (อาจารย์พิเศษ)

(ช่วงนี้ลุงบูลย์ขอพักชั่วคราว เพื่อไปหัดวาดภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ครับ แต่ยังคุยกันได้เสมอ)

เรื่องย่อ

เด็กหญิงโสภี ย้ายติดตามพ่อและแม่ มาจากอำเภอหนึ่งทางใต้ มาอยู่ที่ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร โดยพ่อและแม่ของโสภี อยากจะทำสวนผลไม้ หรือปลูกกาแฟ พอดีมีชาวบ้านในตำบลหาดพันไกร บอกขายบ้านพร้อมสวนผลไม้ เพื่อย้ายไปอยู่กับลูกสาวที่จังหวัดเชียงใหม่



ที่ตำบลหาดพันไกร โสภีได้รู้จัก ครอบครัวของคุณตาคุณยายที่มีหลานเป็นผู้หญิงชื่อสีมา ทั้งสองรู้สึกถูกคอกันจนกลายเป็นเพื่อนที่สนิท นับแต่สัปดาห์แรกที่ครอบครัวของโสภีย้ายมาอยู่




ระหว่างโรงเรียนยังไม่เปิดเทอม สีมาได้ขี่จักรยานมาชวนโสภีให้ไปเที่ยวที่บ้านของเธอ เพื่อจะให้ได้รู้จักกับคุณตาเกื้อบุญคุณตาของสีมา เพราะสีมารู้ว่าโสภีกำลังอยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยวตำบล อำเภอ และจังหวัด ที่ตนเพิ่งมาอยู่




คุณตามีอายุ ๘๐ ปี คุณยายมีอายุ ๗๕ ปี แต่ทั้งสองยังมีสุขภาพดี ไม่ขี้หลงขี้ลืม และในอดีตคุณตาเกื้อบุญเคยเป็นกำนันตำบลหาดพันไกร จึงรู้เรื่องความเป็นมาของตำบล หาดพันไกรและเรื่องต่าง ๆ ของจังหวัดชุมพร มากกว่าใคร ๆ ในตำบลนี้



โสภีเขาอยากฟังเรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในจังหวัดชุมพร เช่น เรื่องที่ว่าเมื่อก่อน เมืองชุมพรเคยมีน้ำท่วมทุกปี เรื่องพายุเกย์ เรื่องที่ในหลวงมาขุดคลองให้ชาวบ้าน กับเรื่องตำนานเก่า ๆ เช่น ตำนานบ้านหูรอและพนังตัก เรื่องชุมชนโบราณบ้านสามแก้ว เรื่องวีรกรรมท่านางสังข์ ประวัติวัดพระขวาง เรื่องพ่อหลวงสงฆ์ ตำนานตำบลสลุยและบ้านวังครก ตำนานเรื่องเกาะมัตโพน เรื่องถ้ำตาชี บ้านทุ่งวัวแล่นฯลฯ


ทำไมตำบลนี้จึงมีชื่อว่าหาดพันไกร? ที่มามันเป็นอย่างไร? สีมาถาม
คุณตาเกื้อบุญจึงเล่าว่า “เมื่อประมาณ ๗๐ ปีที่แล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของตำบลนี้มีป่าไม้หนาแน่น ทำให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ทั้งช้าง เสือ หมี หมูป่า สิงโต เก้ง กวาง... พอค่ำ ๆ สัตว์เหล่านี้จะออกมาจากป่ามากินพืชไร่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ หลังจากนั้นจึงตรงไปที่แม่น้ำท่าตะเภา ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเดิมเป็นหาดทรายที่กว้างใหญ่ติดต่อกับแนวเขตป่า ทำให้มีเรื่องเล่าหรือข้อสันนิษฐานต่างกัน


“สันนิษฐานแรกว่า มีช้างเพศเมียหรือช้างพัง ชื่อ “ไกร” มาตายอยู่บนหาดริมแม่น้ำ
“สันนิษฐานที่ ๒ ว่า มาจากที่คนจำนวนมาก มาสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัย มีการปลูกผัก ทำนา ทำไร่ ทำสวน ซึ่งมีเครื่องมือในการตัดไม้ ใบหญ้า ที่เรียกว่า “ไกร” เมื่อทำงานเสร็จในแต่ละวัน ก็นำมาที่ชายหาดเพื่อล้างหรือลับให้คม พร้อมอาบน้ำชำระกายไปด้วย ไกร(คือมีดด้ามยาว ๆ)มีจำนวนเป็นพันๆ เล่ม เป็นเหตุให้พูดติดปากกันมาว่า หาดพันไกร


สันนิษฐานที่ ๓ ว่ามีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักและนับถือของทุก ๆ คนในชุมชน สามีชื่อ “นายพัน” ภรรยาชื่อ “นางไกร” นายพันและนางไกรตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณหาดทราย ชาวบ้านจึงตั้งชื่อบริเวณนั้นว่า “หาดนายพันและนางไกร” กาลเวลาผ่านคำที่เรียกถูกตัดทอนให้สั้นลงเหลือเพียง หาดพันไกร”



“ปัจจุบันตำบลหาดพันไกร อยู่ในเขตอำเภอเมืองชุมพร ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ ๘ กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ ๒๐,๐๘๖ ไร่ หรือประมาณ ๔๙.๒๒ ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับตำบล ต่าง ๆ คือ
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลท่าข้าม อำเภอท่าแซะ
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลวังไผ่ อำเภอเมืองชุมพร
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ




“ภูมิประเทศของตำบลหาดพันไกร มีแม่น้ำท่าตะเภาไหลผ่าน พื้นที่ทางทิศตะวันตกมีแนวเทือกเขาตะนาวศรีกั้นเป็นเขตแดน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า พื้นที่ส่วนมากของตำบลเป็นที่ราบเชิงภูเขา มีลักษณะเป็นลูกคลื่นลาดและลูกคลื่นลอน สลับกันไป บางแห่งเป็นที่ราบลุ่ม มีน้ำท่วมขังทุกปี

เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ น้ำท่วมในตลาดชุมพรสูงมาก พ่อกับแม่ของสีมาพาเรือไปจากบ้านหาดพันไกร พายเข้าไปในเมืองชุมพร เพื่อจะไปช่วยญาติ ๆ ที่ติดอยู่ในตัวเมืองชุมพร ที่ถูกน้ำท่วม เรือที่พายไปชนกับเสาสะพานรถไฟ เรือพลิกคว่ำ พ่อแม่ของสีมาจมหายไปกับสายน้ำ ทำให้สีมาต้องกำพร้าพ่อแม่ และอยู่กับตาและยายมาโดยตลอด



แต่หลังจากในหลวงมาแก้ปัญหา โดยขุดคลองระบายน้ำสายหัววัง-พนังตักให้ ในเมืองชุมพรก็ไม่มีใครตาย หรือมีทรัพย์สินเสียหายเพราะน้ำท่วมอีก
ในหลวงทรงรับสั่งให้ขุดคลองหัววัง-พนังตัก ระบายน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาสูง ในอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอท่าแซะ และสร้างแก้มลิงที่หนองใหญ่ ทำให้น้ำที่เคยท่วมชุมพรไม่ท่วมอีกเลย”



"พอหลังจากในหลวงมาแก้ปัญหา โดยขุดคลองระบายน้ำสายหัววัง-พนังตักให้ ในเมืองชุมพรก็ไม่มีใครเสียชีวิตหรือทรัพย์สินเสียหายเพราะน้ำท่วมอีกเลย" คุณตาเล่า
"แล้วทำไมก่อนหน้านั้น ตอนที่ในหลวงยังไม่มาขุดคลองให้ ทำไมจึงไม่มีใครในชุมพรคิดแก้ปัญหาเรื่องนี้?” สีมาถาม



“เคยมีคนคิด แก้มาก่อนแล้ว คือกรมชลประทาน โดยขุดคลองลัดขึ้นที่บ้านสามแก้ว ตำบลนาชะอัง เพื่อแบ่งน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำท่าตะเภา ให้ไปออกบ้านพนังตักแทน ซึ่งตอนแรก ๆ มันแก้ได้ แต่ความที่ว่า ตัวเมืองชุมพรตั้งอยู่ในที่ลุ่ม มีภูเขาสูงด้านทิศตะวันตก เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ไหลมาจากอำเภอท่าแซะ และส่วนหนึ่งมาจากเทือกเขาในอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อีกแหล่งมาจากป่าเขารอยต่อจังหวัดชุมพรกับจังหวัดระนองไหลผ่านเขตชุมชนในเมืองชุมพร ทำให้ต้องผ่านตัวเมืองตามแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำท่าตะเภา


“ประกอบกับหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา เมืองชุมพรยังไม่ขยายกว้างขึ้นมากเท่าปัจจุบัน แม่น้ำลำธารเท่าที่มีก็ยังไหลคล่อง กับอีกเรื่องคือ การตัดไม้ทำลายป่า การทำลายธรรมชาติ การถมดินก่อสร้างถนนและบ้านเรือนขึ้นมาขวางทางน้ำ มีมากขึ้น จนมาถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร มีระดับน้ำท่วมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชุมพร บางที่น้ำท่วมสูงถึง ๓ เมตร ทำให้ทรัพย์สินของราชการประชาชน ห้างร้านของคนที่ทำมาค้าขาย รถยนต์จมน้ำ เกิดความเสียหายหนักมากกว่าครั้งไหน ๆ

ในหลวงจึงทรงมาช่วยแก้โดยให้รีบขุดคลองหัววัง-พนังตัก ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด แต่จังหวัดทำไม่ได้เพราะไม่มีเงินงบประมาณ ในหลวงจึงต้องช่วย”

“คลองหัววังพนังตัก ถึอเป็นคลองพระราชทาน เป็นน้ำพระทัยจากในหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพศกนิกรชาวชุมพร ในการระบายน้ำ จากคลองท่าตะเภาลงสู่ทะเลอ่าวพนังตักไม่ให้เข้าเมืองชุมพร กับสร้างแก้มลิงหนองใหญ่ สามารถรับน้ำในฤดูฝน ที่ลงมาจากคลองละมุ คลองขี้นาค และคลองกรูด มาเก็บกักไว้ประมาณ ๓,๐๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ในเนื้อที่ประมาณ ๒,๐๐๐ไร่ ทำให้สามารถแบ่งน้ำที่จะไหลไปสู่ตัวเมืองชุมพร ไม่ให้น้ำท่วมเมืองชุมพร

ส่วนคลองหัววัง-พนังตัก ปัจจุบันใช้เป็นที่พายเรือแข่งในทุก ๆ ปี

ส่วนที่แก้มลิง หนองใหญ่ จังหวัดกำลังปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีสินค้าโอท็อปจำหน่ายด้วย และจะใช้เป็นสถานที่จัดงานกาชาดด้วย

ภาพ (เป็นลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย) ของคุณครูกิตติพงศ์ พันธุ์เมือง

เรื่อง (เป็นลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของ) คุณครูสุนีย์ จุนเจือ โรงเรียนวัดหาดพันไกร ชุมพร




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2553
33 comments
Last Update : 19 ธันวาคม 2553 15:53:51 น.
Counter : 30273 Pageviews.

 

สวยมาก น้อยคนที่จะวาดสีน้ำได้สวย คุมสีได้สวยมาก
ดูสายตา เก็บรายละเอียดดีมาก โดยเฉพาะรูปที่ 5 สีของช้าง ท้องฟ้า ภูเขา สายน้ำ ใช้สีได้สวยจริงๆ
เป็นสื่อที่สมควรให้เด็กได้ศึกษาจริงๆ เกี่ยวข้องกับประวัติในท้องถิ่นอีกด้วย

 

โดย: seton 19 ธันวาคม 2553 16:25:28 น.  

 

เอื้อก ๆ ๆ ๆ

หอบตัวโยนมาทิ้งเม้นท์ไว้แถวนี้ก่อน ไม่รู้ได้ค่าเม้นท์บ้างไหมเนี่ย 555

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 19 ธันวาคม 2553 16:34:59 น.  

 

ลุงวาดรูปในหลวงตอนที่ท่านทรงทอดพระเนตรรถตักดินกำลังทำงานนั้น แจ่มมากเลยครับ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 19 ธันวาคม 2553 16:43:36 น.  

 

สวัสดีตอนเย็นค่ะคุณลุง เล็กชอบภาพที่หก ที่เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านค่ะดูมีชีวิตชีวาดี แต่โดยรวมสวยทุกภาพค่ะฝีมือคุณลุง เก่งอยู่แล้ว ทานข้าวเย็นให้อร่อยนะคะ

 

โดย: หญิงแก่น 19 ธันวาคม 2553 18:17:24 น.  

 

ยกเว้นคุณสีทน นอกนั้น ไม่รู้เล้ย(ไม่ได้อ่านเล้ย) ว่าภาพทั้งหมดนี้ไม่ใช่ฝีมือลุงบูลย์ แต่เป็นฝีมือคุณอู๊ด กิตติพงศ์เขาวาด ขืนลุงวาดได้อย่างนี้ ยิ้มตายเลย โอ้ ๆ

ก็ถึงว่าจะไปหัดวาดแบบคุณ seeton อยู่นี่ไง กั๊ก ๆ ๆ

อย่างว่าแหละบางคนแค่เข้ามาใช้ทุนเท่านั้น ส่วนอีกหลายท่านมาเงียบมาเอาสาระแล้วไป ไม่ทิ้งรอย แต่ร่องมี ก็คือ วิวเพจหรือเพจวิว
ไม่เป็นไรถือว่านั่นคือ ผู้ใช้บริการ แฮ่ ๆ

 

โดย: จขบ. (pantamuang ) 19 ธันวาคม 2553 19:05:27 น.  

 

อยูเด็กชุมพรครับผม ขอบคุณมากครับ

 

โดย: ปอ IP: 118.173.116.226 19 ธันวาคม 2553 20:25:02 น.  

 

สายัณห์สวัสดีค่ะลุงบูลย์
+==========================+

นายอู๊ด วาดการ์ตุน "ภาพสีน้ำตามรอยพ่อ"
(แบบว่า...ฝีมือลูกชายครูไพบูลย์..ที่หล่นใต้ต้น หุ หุ)

ชอบทุกภาพ แต่ชอบมากเป็นพิเศษคือภาพที่ 6 ค่ะ

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 19 ธันวาคม 2553 21:36:35 น.  

 

ภาพฝีมือคุณกิตติพงศ์ใสสะอาดดีครับ

โทนสีม่วง เย็นตาดี

เห็นคุณลุงบูลย์ไปหัดวาดภาพด้วยโปรแกรม

สนันสนุนครับ คงไม่ทิ้งการวาดภาพแบบเดิมๆนะครับ

การปาดป้ายพู่กันบนเฟรมของจริง คงไม่มีอะไรมาแทนที่ได้

ไม่ว่าผลของงาน หรือความอิสระทางความคิด

นี่เป็นความเห็นส่วนตัวครับที่ไม่ค่อยยอมรับวิธีการใหม่ๆ...





 

โดย: Insignia_Museum 19 ธันวาคม 2553 21:59:58 น.  

 

อ้าว...นู๋เล็กหน้าแตกเหรอค่ะก็นู๋เห็นนามสกุลพันธ์เมืองเหมือนนามแฝงลุงบูลย์นี่นาเลยนึกว่าใช่ ว่าแต่นามแฝงลุงอ่านว่าพันธ์ตาเมือง หรือพันธ์เมืองคะ (ขออภัยถ้าข้าน้อยอ่อนด้อย)

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: หญิงแก่น 20 ธันวาคม 2553 10:20:50 น.  

 

ว้าว...เก่งกันทั้งบ้านเลยนะคะ
นู๋เล็กเข้าใจแล้วค่ะ

 

โดย: หญิงแก่น 20 ธันวาคม 2553 14:30:49 น.  

 

สวัสดีบ่ายๆวันจันทร์ครับลุง

หัดแล้วมาบอกมั้งนะครับ นะหว่างสบัดปลายภู่กับกับลากเม้าส์อันไหนให้ความรู้สึกดีกว่ากัน

 

โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน 20 ธันวาคม 2553 14:53:46 น.  

 

แวะมาเยี่ยมตอนดึกค่ะ

เป็นภาพวาดที่สวยเย็นสบายตา

ขอบคุณเรื่องราวที่นำมาฝากกันนะคะ

 

โดย: jamaica 20 ธันวาคม 2553 23:38:13 น.  

 

ผลงานชิ้นแรกครับ
ผลสรุปเคร่าว ๆ ว่าไม่เวิร์ก ทำงานได้ช้า ใช้เมาท์หนูวาด ใช้โฟโต้ชอพครับ วาดเสร็จกว่าจะโพสต์อีกก็ลำบากอีก โฮ...

ยังไม่แน่ใจว่าจะสู้ต่อหรือไม่


 

โดย: จขบ. (pantamuang ) 21 ธันวาคม 2553 9:52:04 น.  

 


ยังไม่เสร็จดีครับ ภาพโฟโตชอพภาพแรกในชีวิต จะใช้คอเวลดรอว์แต่คอเรลไม่มี มีแต่โฟโต้ในเครื่อง

ลองอีกรูป

 

โดย: จขบ. (pantamuang ) 21 ธันวาคม 2553 9:55:29 น.  

 

งานชิ้นแรกผมว่าดีนะ ก้าวต่อไปเลยลุง อีกหน่อยก็เก่ง ฉลุยแน่นอน

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 21 ธันวาคม 2553 10:33:07 น.  

 

เยี่ยมมาก

ลุงได้ตัวตายตัวแทนแล้วค่ะ

สไตล์มาแบบลุงเลย แต่นักล่าฯว่าภาพเค้าดูนุ่มนวลกว่าลุงนิดหน่อย

ฮ่าๆ พูดจริงๆนะ ลูกต้องเก่งกว่าพ่อสิคะ

ภาพก็ดูโปร่งตา สบายตากว่า ของลุงดูแออัดไปเลย พอเจอแบบนี้เข้า

สีเด่นของเขา น่าจะเป็นสีม่วงนะเนี่ย สวยมั่กๆ

เรื่องสีโอเค. แต่เรื่องสัดส่วน รู้สึกว่าภาพเด็กผู้หญิงทั้งภาพแรก และภาพที่สี่ ดูจะเป็นยักษ์ปักหลั่นไปหน่อย

แต่ภาพรวมๆแล้ว ปลื้มใจแทนลุงบูลย์มากเลยค่ะ

 

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.87.71 21 ธันวาคม 2553 10:43:56 น.  

 

ทักทายยามสายค่ะคุณลุงขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ ผลงานชิ้นแรกกับโปรแกรมใหม่มักจะยากก่อนแล้วต่อไปพอคล่องคุณลุงก็จะบอกว่าง่ายกว่าเดิมอีกใช่ม้า สำหรับภาพผลงานแรกผ่านโปรแกรมคอมฯนับว่าใช้ได้ค่ะแต่หน้าตาไม่เห็นเถื่อน-ดิบเลยอ่ะหน้าหวานหรือว่าเป็นนางเอกปลอมตัวมาค่ะอิอิ อย่าลืมทานข้าวเที่ยงนะคะ

 

โดย: หญิงแก่น 21 ธันวาคม 2553 11:02:59 น.  

 

สวัสดีครับลุง

มองผ่านๆก็ไม่ต่างกัน แต่ถ้าลองสังเกตุผมชอบภาพวาดด้วยมือมากกว่าครับ

หัวฟูๆอย่างนี้เหมือนผมมากกว่าลงนะครับ คนที่บ้านบอกหน้าตาจะเป็นโจรขึ้นทุกวัน

 

โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน 21 ธันวาคม 2553 11:46:09 น.  

 

สวัสดีตอนเที่ยงคะ
เก่งนะนี้วาดภาพบนโฟโตชอพเสียด้วย หนูยังใช้โฟโตชอพวาด
ภาพไม่ได้เลย ก้าวแรกมักจะเป็นก้าวที่ยากเสมอ สักพักถ้าให้
เครื่องมือคล่อง เราจะใช้งานได้ง่ายขึ้น อีกหน่อยอาจาร์ยคงเป็นเซี่ยนโฟโตชอพแน่นๆเลยคะ รอชมผลงานชิ้นต่อไปนะคะ
ที่สำคัญพักผ่อนบ้างอย่าหักโหมเกินไปนะคะ สู้ๆๆ

 

โดย: คุณแอน (seton ) 21 ธันวาคม 2553 12:21:55 น.  

 

สายัณห์สวัสดีค่ะลุงบูลย์
+=======================+

วาดภาพด้วยโปรแกรมโฟโตชอพ.. ลุงเก่งจังเลยค่ะ
แม้ว่า... ฝีมือป้ายแปรงสำเร็จรูปเหมือนเด็กหัดวาด หุ หุ
ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ได้ลองเรียนรู้ค่ะ

หากวาดบ่อย ๆ อาจจะดูง่ายขึ้นกว่าเดิมแน่ ๆ
แต่...ภาพวาดปาดป้ายด้วยฝืมือตัวเองได้ความรู้สึกดีกว่าค่ะ

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 21 ธันวาคม 2553 19:57:28 น.  

 

การใช้โฟโตชอพของคุณลุงบูลย์ออกมาดีมากครับ

รู้สึกว่าไม่ใช่งานที่เกินความสามารถ

ดวงตาของตัวการ์ตูนบ่งบอกว่านี่เป็นฝีมือคุณลุงบูลย์

ขอบคุณครับที่เอามาให้ชม

 

โดย: Insignia_Museum 21 ธันวาคม 2553 20:19:06 น.  

 

ขอบคุณมากๆค่ะ

ที่เอาภาพประวัติศาสตร์ไปฝากแม่หมู

คุณลุงใช้งานคอมพิวเตอร์ได้เก่งนะคะ ขอชื่นชม

สมัยแม่หมูเป็นเด็กนักเรียน

ภาพที่วาดได้ก็คือภูเขา สองลูก และบรรจงเติมดวงอาทิตย์

ขีดเส้นรัศมีแสงสว่าง บวกกับต้นมะพร้าว สุดฝีมือเขาหละ

วันหลังจะวาดไว้เป็นที่ระลึกบ้างค่ะ


ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณลุง


 

โดย: jamaica 21 ธันวาคม 2553 21:01:23 น.  

 

ไม่อยู่รัง 2-3 คืน ฝากรังด้วยนะครับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 21 ธันวาคม 2553 22:22:52 น.  

 

ตอบแบบสรุป ๆ จากคอมเมนท์ของทุก ๆ ท่านนะครับ

จริง ๆ แล้ว คือว่า ภาพประกอบผลงานครูนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของลุงเองหรือลูกชายก็ตาม ล้วนเป็นการวาดแบบต้องการให้เสร็จเร็ว ๆ ทั้งนั้น เพราะส่วนใหญ่เวลามีงานเข้า งานก็จะมีมาราวน้ำท่วม (แต่ถ้าทำเสร็จก็กวาดเงินทีละสี่หมื่นห้าหมื่นบาท) แต่พอไม่มีก็ไม่มีเลยเหมือนฝนหน้าแล้ง (ต้องนั่งขอดเศษสตางค์ก้นกล่อง กระปุก กระป๋องออมสินออกมายาไส้)

ทีนี้ไอ้ความที่ว่าพอมีมากรับไม่ไหว เราก็พยายามรับให้ได้มากเท่าที่จะรับได้ ส่วนหนึ่งที่ไม่ทันลุงเคยส่งต่อไปให้ลูกชายบ้าง ลูกสาวบ้างทำแทน ผลงานจึงมีน้อยมากที่จะออกมาแบบสมบูรณ์ทุกรูป

แต่ถ้าว่างอย่างตอนนี้ (ว่างจากวาดรูป-แต่งานเขียนเรื่องสั้นยังอยู่) จะวาดให้ดีทุกรูปก็พอจะวาดได้ อย่างเช่นโฟโต้ชอพบ้างบน ใช้เวลาศึกษาอยู่ ๔ วันกว่าจะได้ลงมือ ลงมือตั้งแต่เช้าค่ำได้แค่นั้นแหละ ยังง ๆ กับเครื่องมืออยู่

แต่ถ้าวาดด้วยมือและสีน้ำ (แก้ไขด้วยสีโปสเตอร์เมื่อครูทักท้วง) ลุงเองได้วันละ ๓ -๔ ภาพ แต่ลูกชายได้วันละเป็น ๑๐ ภาพ (วาดกลางคืนด้วย ส่วนลุงกลางคืนไม่วาด สายตาไม่ดี) แต่ไปนั่งใช้คอมพ์เขียนหนังสือแทน

เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ จ้าวนายยยย...

 

โดย: จขบ. (pantamuang ) 22 ธันวาคม 2553 7:24:08 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าครับลุง

แปลว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นทุกคนเลยสิครับลุง

ผมหละวาดไม่เป็นเอาซะเลย

 

โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน 22 ธันวาคม 2553 9:44:56 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: หญิงแก่น 22 ธันวาคม 2553 13:19:06 น.  

 

แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะ

งานวาดภาพจากโปรแกรมโฟโต้ชอพ เป็นยังบ้างคะตอนนี้


 

โดย: jamaica 23 ธันวาคม 2553 23:32:11 น.  

 

เกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ ไปโพสต์ที่บล็อกแม่หมูไม่ได้
อยากบอกว่าตอนนี้หยุดวาดรูปอีกแล้วครับ มีงานอื่นเข้า

 

โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) 24 ธันวาคม 2553 7:50:17 น.  

 

Photobucket
.......................
สวัสดีปีใหม่ครับคุณลุงบูลย์

 

โดย: panwat 24 ธันวาคม 2553 12:58:10 น.  

 



We wish you a Merry Christmas,
We wish you a Merry Christmas,
We wish you a Merry Christmas,
And a Happy New Year !

 

โดย: jamaica 24 ธันวาคม 2553 15:20:21 น.  

 

ลุงมีงานอะไรเข้าอีกคะ

หนุ่มๆสาวๆก็สู้ลุงไม่ได้เลยนะเนี่ย


สุขสันต์วันคริสต์มาสจ้า

 

โดย: นักล่าน้ำตก 25 ธันวาคม 2553 8:22:46 น.  

 

ทักทายตอนสายๆๆ สุขสันต์วันคริสต์มาส นะคะ

 

โดย: seton 25 ธันวาคม 2553 9:33:19 น.  

 


สวัสดีคุณ im คุณบอกว่าชอบตราชุมพร ผมสงสัยว่าตรานี้ลูกชายจะค้นหาจากของเก่าในอินเทอร์เน็ตมาวาด ซึ่งเป็นรูปเทพอุทุมพร ประทับยืนบนแท่นระหว่างต้นมะเดื่อชุมพร ๒ ต้น ใช้เป็นตรายางประทับประจำหน่วยสำนักงานจังหวัดมานานแล้ว

ทีนี้ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ ปีพ.ศ.๒๕๒๖ ผมย้ายมาจากพังงา พอดีเจ้านายเก่าที่เป็นปลัดจังหวัดพังงา ย้ายมาเป็นรองผู้ว่าฯ จังหวัดชุมพร ท่านเรียกผมไปพบบอกว่า

"บูลย์ช่วยออกแบบตราชุมพรใหม่ให้ที เอาให้สวย ๆ หน่อยนะ"

แล้วตราชุมพรที่ผมวาดจึงมาเป็นแบบนี้
นี่คือฝีมือของผมที่วาดให้พวกครูไปครับ

ส่วนของลูกชายน่าจะไปลอกมาจากของเก่าในอินเทอร์เน็ต จึงโป๊ไปหน่อย อิ ๆ

 

โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) 26 ธันวาคม 2553 12:27:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.