...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
30 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
นักวาดการ์ตูนกระจอก ๓

บทรำพึง



ภาพเหล่านี้เคยนำลงในบล็อกมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่การนำเสนอหรือเรื่องราวอาจจะต่างมุมกันในฐานะที่ข้าพเจ้ามีอาชีพ (ตอนนี้)คือ เขียนเรื่องสั้น บทกลอนและนิยาย" จึงขอเขียนถ้อยคำในทำนองเพ้อ(เจ้อ) อีกสักครั้ง หวังว่าท่านที่มาเผลออ่าน คงจะไม่หาว่ามาขึ้นธรรมาสน์เทศนานะครับ

ทุก ๆ ชีวิตที่เกิดมาบนโลกต่างมีต้นทุนทั้งทางร่างกาย ฐานะทางบ้าน หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อมทางสังคมที่แตกต่างกัน ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียกได้ว่า "มีต้นทุนต่ำ" ในข้อที่ ๑ และ ๒



(หากท่านอยากทราบว่าผมมีต้นทุนแบบใด ท่านสามารถหาอ่านได้ในหนังสือเรื่อง "ครูไพบูลย์ฯ" ที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค วางขายคู่กับ "ไล่ตงจิ้นฯ และ หลินเจี้ยงหลงฯ" ซึ่งเป็นหนังสือแนวอัตชีวประวัติของคนจีนไต้หวัน

การมีต้นทุนต่ำเป็นเหตุให้คนเราต่างไขว่คว้าหาทุนใหม่ที่สามารถหาได้ด้วยตนเองมาเสริม เพราะถ้าไม่พยายามหาใครจะหามาให้ได้ละครับ



มีคำ ๆ หนึ่งที่ข้าพเจ้าฟังแล้วสะกิดใจตลอดทุกครั้งที่ได้ยิน คือคำว่า ขยัน กับ ขี้เกียจ พระพุทธเจ้าจึงตรัสเป็นพุทธภาษิตว่า "วิริเย นะ ทุก ขะ มัจ เจ ติ" แปลว่า ชีวิตจะพ้นทุกข์ได้ด้วยความเพียร

แต่ในความขยันนี้ มีบางท่านบอกว่า "ต้องขยันแบบฉลาด" ด้วยจึงจะประสบความสำเร็จ ส่วนถ้าขยันแบบโง่ ๆ ยิ่งขยันยิ่งฉายหิบ ว่าเข้าไปนั่น


ก็น่าจะจริง เพราะความเพียรของคนค้าขาย ทำให้คนกลายเป็นเศรษฐี ความเพียรของนักการพนันทำให้คน ๆ นั้นล่มจม ความเพียรของนักเขียน อาจทำให้จากที่เขียนไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่องกลายเป็นเขียนดีก็ได้


(อันนี้คือหัวเรื่อง เขียนให้คนที่เขียบนเรื่องมาลงในนิตยสาร)

ความเพียรฝึกฝนฝีมือทางช่าง สร้างมูลค่าเพิ่มให้ช่างแต่ละคนกลายเป็นช่างที่มีฝีมือ ความขยันในการฝึกซ้อมเพลงอาวุธของทหารในสงคราม ทำให้สามารถเอาตัวรอดได้จากศัตรู ฉันใดก็ฉันนั้น


(อันนี้ก็หัวเรื่อง)

"บุรุษและสตรีจึงไม่พึงปล่อยเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะชีวิตที่ชะตากรรมท่านสั่งให้เรามาเกิดเพื่อใช้กรรมนี้สั้นนัก"สาธุ...

(ขอยืมคำของนักปราชญ์ ศาสดามาเทศน์)

(หัวเรื่อง วาดประกอบให้นักเขียนที่เขียนเรื่องสั้นมาลงในนิตยสาร)


ด้วยเหตุดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงอยากจะเล่าว่า ข้าพเจ้าได้ใช้ทุก ๆ เวลาและนาที เพื่อจะสะสมต้นทุนเหล่านี้ และทุนที่ใฝ่หามาก็ได้ส่งผลให้ข้าพเจ้ามีทุนกินใช้ได้ในระดับหนึ่ง และในปัจจุบันข้าพเจ้าก็ยังต้องเพียรเพิ่มทุนให้กับตนเองไปเรื่อย ๆ จนกว่าม่านชีวิตของข้าพเจ้าจะถูกปิดลง

สาธุ...(อีกครั้ง)


(หัวเรื่อง)

ภาพทั้งหมดในนี้ คือต้นทุนหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้พยายามฝึกปรือมาในอดีต จนครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้ใช้มันเป็นเครื่องทำมาหาเลี้ยงชีพ ส่งตนเองเรียนเป็นค่าหน่วยกิต ค่าอาหาร ค่าหอพัก และค่าเสื้อผ้ารวมทั้งรายจ่ายนานา ตอนที่เรียนที่ มศว.ประสานมิตรระหว่างปี พ.ศ.๒๕๑๘-๒๕๑๙



(หัวเรื่อง สมัยนั้นมีคนเขียนเรื่องอาวุธปืนไปลงในหนังสือที่ข้าพเจ้าทำด้วย)



นี่ก็หัวเรื่อง เขียนประกอบเรื่องของนักเขียนที่เขียนไปลง




Create Date : 30 ตุลาคม 2553
Last Update : 30 ตุลาคม 2553 13:18:01 น. 26 comments
Counter : 6537 Pageviews.

 
สายัณห์สวัสดีค่ะลุงบูลย์
+============================+

ว้าว! ผีมือ อะกึ๊ย!
ฝีมือนักวาดการ์ตูนยุคเก่า...มาเล่าใหม่พร้อมนำภาพหัวเรื่องมาโชว์
ดูแล้วเหมือนย้อนความรู้สึกกลับไปสมัยเป็นนักเรียนชั้นประถม
หากแต่ไม่ค่อยได้อ่านการ์ตูนเล่มบาง ๆ บ่อยนัก
เพราะอยู่บ้านนอก ได้สตางค์ไปโรงเรียนแค่ไม่กี่สลึง
อย่าหวังจะได้ซื้อมาอ่านเล่นเชียวนะ อะคึ่ ๆ

ปล. วันนี้กระแสลมหนาวพัดแรงค่ะ ต้องสวมหมวกถุงเท้ากันหนาวอย่างหนา
คาดว่าฤดูหนาวปีนี้ ได้สวมเสื้อผ้ากันหนาวคุ้มค่าราคาแน่ ๆ หุ หุ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:16:34:32 น.  

 
จริงเลยครับ ต้องขยันแบบฉลาด จึงจะประสบความสำเร็จ

เอ ว่าแต่ว่า ขี้เกียจแบบฉลาดบางทีก็ประสบความสำเร็จได้ด้วยก็มีให้เห็นนะครับ อิอิ


ชอบอักษรประดิษฐ์คำว่าอาวุธปืนครับลุง


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:16:39:33 น.  

 
อ่านแล้วมีกำลังใจจัง
ชอบเรื่องประณิธานของฉัน แม่ค้าขายกล้วยแขกนี่คืออาชีพที่ใฝ่ฝันของหนูเลย จำได้ได้ว่าตอนไปโรงเรียนเรียนตอนเช้าต้องแวะตลาดไปดูแม่ค้าทอดกล้วยแขกก่อนไปเรียนจริงๆนะคะ เดี๋ยวเอาไว้ไม่มีงานทำ หนูจะไปทอดกล้วยแขกสานฝันในวัยเยาว์ (ทอดกล้วยแขกไม่เรื่องกล้วยๆ)


โดย: seton วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:18:14:27 น.  

 
ขอบคุณคุณลุงบูลย์ที่แต่งบทกลอนเป็นคอมเม้นต์ให้ผม
ชอบมากครับ

ภาพประกอกเรื่งสั้น หรือภาพหัวเรื่อง คงอยู่ในความทรงจำของคน
เขียนเรื่องไม่มีวันลืม เขาต้องขอบคุณและระลึกถึงคุณลุงบูลย์ตลอดไป

แต่ละลายเส้น แต่ละภาพ เห็นความมานะ ความพยายามที่ซ่อนอยู่
น่าจะมีหน้าตาของใครบางคนซ่อนอยู่ในภาพเหล่านี้ อย่างภาพน้ำตา
พ่อน้ำใจหมอ ผมนึกถึงรายการทีวีสมัยก่อน คือ รายการพบหมอศิริราชครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:19:07:06 น.  

 
โอ...ลุงบุลย์เอางานเก่าๆแบบนี้มาให้ดูเรื่อยๆเลยระยะนี้

เพลิดเพลินมากๆค่ะ

เป็นคนทำงานไว้เยอะทีเดียว

ภาพการ์ตูนในบล้อกวันนี้ ทำไมนักล่าฯดูมันหัวโตๆไปหมดคะลุง


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 27.130.211.125 วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:21:52:07 น.  

 
สวัสดีคุณอัยย์

ที่ว่าหัวโต ๆ นั่นเพราะตั้งใจจะให้มันเป็น ตูนครับ แต่ทีนี้ลุงคงไม่ถนัดตูนจริง ๆ มันก็เลยดูอีหลักอีเหลื่อ

โถ... บล็อกนี้มีผู้เข้ามาเกินร้อย แต่เมนท์แค่ ๕ แสดงว่า ควรหยุดหรือควรทำต่อไปดี

ขอเสียงหน่อย


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:9:21:57 น.  

 
มาลงชื่อก่อน เด่วมาใหม่ครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:10:37:48 น.  

 
ควรทำต่อไปครับคุณลุงบูลย์ (แต่เอ...ออกความเห็นแบบนี้จะทำให้คุณลุงบูลย์เหนื่อยมากขึ้นไหมนี่...)

อย่างน้อยเด็กรุ่นหลังจะได้ทราบความเป็นมาของต้นกำเนิดการ์ตูนไทย ชีวิตนักเขียนการ์ตูนอิสระสมัยก่อน เพื่อเปรียบเทียบกันนักวาดรุ่นใหม่ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือให้เลือกมากมาย อย่างน้อยเด็กๆที่เรียนอนิเมชั่นจะได้เข้ามาศึกษาครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:20:41:01 น.  

 
สวัสดียามเช้าวันหวยออกครับลุง

ชอบหลายถ้อยคำในบล็อกนี้ จำได้บ้างว่าเคยผ่านสายตามาแล้ว แต่มาดูซ้ำอีกครั้งก็ดูได้ไม่เบื่อ เพราะเป็นภาพวาดการ์ตูนที่ผมชอบครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:08:18 น.  

 
สวัสดีครับลุง

ขอบคุณที่ไปชี้แนะและให้กำลังใจผมครับ

ถ้ายังขยันสักวันอาจมีสนามให้ลง ใช่ไหมครับ

ผมอ่านไล่ตงจิ้นแล้ว วันหลังจะไปหา ครูไพบูลย์ฯ

ของลุงมาอ่านมั้งครับ


โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:21:48 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงบูลย์
+========================+

คนมีฝีในมืออย่างลุงบูลย์.. หาคนเลียนแบบได้ยากกกกส์ ในยุคนี้ค่ะ
เพราะฉะนั้น.. ต้องฝากลวดลายการ์ตูนให้ระเบิดเถิดเทิงต่อไป

เชื่อมั่นว่า... ที่นี่คือแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตหลากหลายสไตล์
และยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหลากหลายเช่นกันค่ะ
บล๊อกแก๊ง.. คือ สถานีอิสระเสรีในการคิด เขียนและ ฯลฯ
ทั้งเป็นการแสดงความรู้ ความคิด ความสามารถของมิตรรักฯ ได้ไม่จำกัด
ใครที่รู้จัก ไม่รู้จัก เมื่อเข้ามาอ่านในบล๊อกฯ (เป็นสมาชิกหรือไม่เป็น)
ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดโดยไม่จำกัดสิทธิใด ๆ ทั้งสิ้น
แม้ว่า... บางเวลาอาจเบื่อ(หน่าย) แต่หากได้แวะมาอ่านเรื่องดีดี
อยากน้อย ๆ ก็ช่วยให้สมองเกิดจินตนาการขึ้นมาเป็นแรงดลใจ
ให้ทำอะไรดีดี... อย่างสม่ำเสมอค่ะ

สู้ ๆ สู้ต่อไป
ไปเรื่อย ๆ จนกว่าลุงบูลย์ขี้เกียจเล่นบล๊อกฯ อะคึ่ ๆ

ปล. เขียนเม้นท์ซะยาวเฟื้อย
ดูเหมือนจะการเม้นท์เพื่อปลุกใจให้เข้าบล๊อกฯ ไปซะงั้น หุ หุ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:28:29 น.  

 
ลป. ขอปรับปรุงประโยคใหม่ แบบใส่อารมย์ขำขัน
เพื่อเข้ากับบรรยากาศของภาพการ์ตูน
+========================+

คนมีใฝในมือ อะกึ๊ย!
ฝีมืออย่างลุงบูลย์.. หาคนเลียนแบบได้ยากกกกส์ ในยุคนี้ค่ะ
เพราะฉะนั้น.. ต้องฝาก "ลวดลายการ์ตูนไทย" ให้ระเบิดเถิดเทิงต่อไป

หุ หุ อะคึ่ ๆ อะเอิ๊ก ๆ
ขำขันแบบ 3 เวอร์ชั่น


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:36:35 น.  

 
หวัดดีค่ะ

มาดูตูนหัวโต แล้วก็มาทักทายจร้า...

ทำต่อไปจิ...แฟนขาประจำก็ยังอยู่ครบนี่นา


คิดถึงนะคะ



โดย: นักล่าน้ำตก IP: 27.130.193.181 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:58:42 น.  

 
เมนท์ไม่ได้มานาน


โดย: ธารดาว IP: 110.49.205.87 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:4:24:55 น.  

 
อืมม์ วันนี้คอมเมนท์ได้แฮะ
โอ้โห ลุง ทำได้ขนาดลุงนี่่ก็สุุดยอดแล้ว...
คำสอนของลุงหลายๆอย่าง ถือว่าเป็นประโยชน์กับรุ่นหลังๆได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะในประเด็นงานเขียน หรือการใช้ชีวิต
***
ครูที่เคยสอนโรงเรียนประถมของผมหลายท่าน เกษียณอายุแล้วก็ยังลำบาก ท่านหนึ่งไม่มีแม้แต่บ้านจะซุกหัวนอน ต้องไปอาศัยอยู่กับครอบครัวที่ใช้ชีวิตแบบชาวสันติอโศก
อีกท่านหนึ่งเป็นระดับผอ. ท่านไม่มีรถยนต์ขับ ทั้งๆที่่สมัยเป็นผอ. ท่านเป็นคนชอบเรื่องรถ ปัจจุบันเห็นขี่มอเตอร์ไซค์ไปเอาของมาขาย...
ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเป็นถึงครูแล้ว บั้นปลายชีวิตกลับไม่มั่นคง แต่่ก็รู้สาเหตุ(ฟังจากลุงเล่า) ว่าทำไมครูหลายๆท่านถึงไม่มั่นคง...
***
ลุงรู้จักครูเพลงที่เพิ่งเสียชีวิต ชื่อ ครูจิ๋ว พิจิตร ไหมล่ะครับ ผมเพิ่งรู้จัก ทั้งๆที่่เคยฟังเพลงฝีมือการแต่งของครูเพลงท่านนี้คุ้นหูอยู่หลายเพลง
จากรายงานข่าว ทำให้รู้ว่า ครูเพลงอัจฉริยะผู้นี้ ก็ค่อนข้างจะอาภัพอยู่
***
แวะมาคุยครับ


โดย: ธารดาว IP: 110.49.205.87 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:4:40:58 น.  

 
ที่เขียนข้างบนนั้นมันเป็นอย่างนี้
คือสงสัยในวิถีคนมาหา
มากันร้อยสี่สิบในพริบตา
แต่คนมาทักทายกลายสิบคน

หันไปที่เฟลบุ๊คสนุกนัก
เขามาชักชวนเป็นเพื่อนเดือนร้อยหน
เขาสนุกอะไรสงสัยพิกล
แต่ตรงนี้ไม่มีคนค่อยทักทาย

ก็สงสัยแค่นี้นี่แหละหนอ
ว่าอะไรมันจะพอบอกได้หมาย(ไหม)
สิ่งเราทำอยู่รู้เสียดาย
แต่ทำไมที่เฟสบุคบุกรบกวน

ขอบอกกล่าวให้เข้าใจว่าไม่ชอบ
จะอยู่แต่ในกรอบบล็อกล้วนล้วน
ใครอยากคุยอยากท้าเชิญมาชวน
ลุงจะตอบทั่วถ้วนทุกทุกคน
............
ขอบคุณทุกท่านที่มาทักทาย พอดีจะรีบไปงานทอดกฐินพระราชทานกับสมาคมข้าราชการบำนาญ ที่ลุงเป็นกรรมการด้วยเดี๋ยวจะไปเยี่ยมท่านที่มาทักทายครับ


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:11:02 น.  

 
สวัสดีธารดาว

ฮ่า ๆ ในที่สุดก็เมนท์ได้ใช่ไหมล่ะ

นักเขียนดังเพื่อนเราคนหนึ่งที่เขียนบล็อกมานานปี และเขาเป็นคนชักนำให้ลุงมาหัดทำบล็อกเมื่อราวหกเจ็ดปีที่แล้ว(ถ้าจำไม่ผิด) ตอนหลัง ๆ เขาประกาศปิดบล็อก แล้วก็ไปเขียนเฟส.. เพราะว่าที่นั่นฮิตกว่า

คนเราจะเป็นเพื่อนกันทำไมต้องตามกระแสด้วย เมื่อก่อนไฮ ๕ ลุงก็เอากับเขานิด ๆ พอมาตอนนี้ อีกแล้ว เฟส ๆ ๆ มีนักเขียนตรึมเลย แต่พวกขายสินค้าก็ตรึมเหมือนกัน อิ ๆ

อย่างลุงจริง ๆ นะ ถ้าเห็นว่าที่นี่ไม่มีใครอยากคุยด้วยก็เลิกมันซะ จบ เวลาแต่ละนาทียิ่งมีค่าอยู่

เรื่องครู ๆ ที่มานะว่า ครูต้องสอนตนเองได้ด้วย ไม่ใช่สอนแต่คนอื่น ลุงเองตอนนี้หมั่นสอนตนเองทุกวัน ครูบางคนพอออกจากครูเอาบำเหน็จมากินหมด บางคนมีบำนาญเขาให้กู้บำนาญมาหมุนก็กู้อีก และถ้ารับเงินบำนาญรายเดือน สหกรณ์ครูเขาก็ยังให้กู้อยู่ ครูบางคนก็ไปกู้สหกรณ์อีก หนี้สินไปหมดคือแคนเซิลกันตอนตาย

ลุงเองตอนนี้งานรับจ้างไม่มีแล้ว มีแต่งานเขียนหนังสือ ก็ต้องขยันเขียนไปเรื่อยอย่างน้อยกลอนสักบทต่อสัปดาห์ก็ไม่ยากเกินไป แต่หนี้สินลุงไม่มี ฮา ๆ

บำนาญที่จะไม่พอก็มีอยู่เรื่องเดียว ภาษีสังคม พวกซองทั้งหลาย พวกนี้สร้างปัญหาให้มาก คนใกล้ตัวลุงยิ่งใจกว้าง แทบทั้งจังหวัดไปหมด เขาหวังว่าวันใดลุงเด็ต จะได้คืน คิดแบบนี้ผิด ผิดมากแต่ก็พูดกันไม่เข้าใจก็ต้องตามใจเขา

เดือนที่แล้วน้ำประปาไม่มี ฝนชุมพรไม่ตก หรือตกนาน ๆ ครั้ง ลงทุนซื้อโอ่งกับทำรางน้ำไปห้าพันบาท บำนาญรายเดือนไม่พอก็ไปถอนเงินตัวเองหมื่นหนึ่งมาจากสหกรณ์ครู แต่ยามปรกติก็ทำไม่รู้ไม่ชี้เสีย เงินปันผลรายปี ปีละหมื่นสองพันกว่าบาท กลายเป็นเงินฝาก เคยถอนไปเที่ยวลาวเสียห้าหมื่นพออีกสามปีไม่ไปยุ่งเงินก็ไหลกลับเข้าบัญชีเท่าเดิม

นี่เรียกว่าสอนตัวเอง ไม่รวยแต่ไม่เดือดร้อน (ถ้าคนข้างตัวไม่หาเรื่องมาให้)


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:18:36 น.  

 
อรุณสวัสดีค่ะลุงบูลย์
+=======================+

ขอบคุณค่ะสำหรับ "ลีลากวีกระวาด ณ บ้านนอก"
เขียนเหน็บได้จี๊ดใจจัง หุ หุ

โอ้ว!~ ธารดาว เจ้ามาได้จั๋งได่
ฮู้บ่เอื้อยสาวฯ คึดฮอดบักหำน้อยคักหลายเด้อ

น้ำท่วมนาแถวบ้านบ่บักหล่าคำแพง
เอื้อยเบิ่งสารคดี "ภาวะโลกฮ้อน" น้ำจิท่วมหนักขึ้นเรื่อย ๆ
คาดว่า "ภัยธรรมชาติ" กำลังลงโทษมนุษย์อย่างยุติธรรมนะ

ตอนนี้เขียนเรื่องสั้น ๆ ยาว ๆ ไปกี่เล่มแล้ว
นำเสนอให้แฟนคลิป อะกึ๊ย! แฟนคลับที่นี่ด้วยนะ
อาศัยบล๊อกลุงบูลย์ที่นี่แหล่ะ.. ไหน ๆ ก็เคยอาศัยมาแต่แรกแล้ว
เพราะไม่ยอมทำบลีอกเป็นของต้วเอง อะคึ่ ๆ



โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:40:11 น.  

 
มันดี555555


โดย: เน่ร IP: 117.47.13.214 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:02:42 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงบูลย์
+========================+

โอ้ว! ศิษย์ก้นหม้อ อะกึ๊ย!
ศิษย์รักนักเขียน "ธารดาว" มาได้จังได๋ หุ หุ
ผ่านไป 10 ปี ยังไม่สายสำหรับการแวะมาทักทายกัน อะเอิ๊ก ๆ

น้องหล่าคำแพง หายหัว-หายตัวไปโดนเติบ
เอื้อยสาวฯ คึดฮอดหลายคักเด้อ
ยามเบิ่งข่าวน้ำท่วมแถบอีสานที่มีลำน้ำไหลผ่าน
ย่านน้องบ่าวลอยน้ำตุ๊บป่อง ๆ ๆ ในนาข้าวซั่นเด่!

ตอนนี้เขียนนิยายขายได้กี่ล้านเล่มแล้ว
ละคร "กระบือสื่อรัก" ลงจอทีวีเมื่อใดจะได้ชมกันจ๊ะ

ณ บ้านนอก ตอนนี้กระแสลมรัก อะกึ๊ย!
กระแสมลมหนาวแรง โหมกระหน่ำทำให้หัวใจหวั่นไหวจัง หุ หุ
ว่าง ๆ จากงานเขียนนิยายก็แวะมาทักทายกันที่นี่บ่อย ๆ นะจ๊ะ

ปล. จขบ.ยิ่งขี้งอนและบ่นน้อยใจมิตรรักฯ
ที่น้าน นานจะแวะมาพูดคุยกัน
มากันบ่อย ๆ จขบ. อ่านเม้นท์แล้วยิ้มอยู่หน้าจอฯ มีความสุข อะคึ่ ๆ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:17:53 น.  

 
ตกลงสาวบ้านนอกมาทักทายธารดาวใช่ไหม

เอาเลยธารดาวอยู่ไหนมาตอบหน่อย

วันนี้เข้าบล็อกมาตอนสองทุ่ม ตกใจมากนึกว่าโดนยึดบล็อกเสียแล้ว เพราะล็อกอินไม่ได้ มีปกใหม่มาบังไว้หมด

นึกว่าพูดอะไรผิด ถ้าผิดก็กรุณาเตือนนะครับ เจ้านาย...


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:50:54 น.  

 
มาอ่านคำตอบยาวๆครับ

อย่างที่คุณลุงบูลย์ว่า ไม่ว่าจะอายุเท่าใด
ยังต้องเตือนตัวเองอยู่ร่ำไป แม้ในวัยเกษียณอายุแล้ว
ผมเคยคิดว่าวัยเกิน 60 น่าจะปลอดภัยเรื่องเงินๆ ทองๆ
จากตัวอย่างที่คุณธารดาวยกมาให้ดู
เห็นที่ต้องเตรียมตัวเหมือนกันครับ

เรื่องเฟสบุ๊คนี่ คุณลุงบูลย์กับผมใจเดียวกีน ผมมีเพื่อนในนั้น 3 คน
คนหนึ่งเป็นลูกาสาว เปิดไว้ไม่เคยเล่นเลยครับ ยังนึกไม่ออกว่าจะ
สนุกได้อย่างไร


โดย: Insignia_Museum วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:32:41 น.  

 
ตอนเดินผ่านแผงการ์ตูนก็ชะเง้อมองนะครับ ว่าจะมีผลงานของอาจารย์วางแผงบ้างไหม ไม่ทราบมีวางแผงไหมครับช่วงนี้


โดย: แมวหง่าว (chaiwatmsu ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2553 เวลา:1:35:01 น.  

 
ซำบายดีเอื้อยสาวฯ
คุณกระบือฯคงไม่ได้ออกอากาศแล้วละ ไม่มีคำอธิบายจากทางสถานี
มีละครหลายเรื่องที่ถูกดอง ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันครับ

ีปีนี้น้ำมามาก โชคดีหน่อย แถวบ้านไม่ท่วม แต่ชาวนาหลายคนก็ช้ำใจมากกับต้นข้าวที่จมอยู่ใต้น้ำ ก็ได้แต่ให้กำลังใจกันไป

หนาวจนขนลุกแบบนี้ เอื้อยสาวมีผ้าห่มหรือยัง ผ้าห่มตราผู้บ่าว 555

มาทักพี่สาว ไม่ทักเ้จ้าของบ้านกันละ อิอิ


โดย: ธารดาว IP: 110.49.193.98 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:59:20 น.  

 
ผมก็อีกคนหนึ่งที่ไม่สนเฟสบ๊ง เฟสบุ๊ค อะไรนั่น คงเล่นแต่บล็อกอย่างเดียวนี่ละ จะได้มีเวลาทำอย่างอื่นบ้าง

สวัสดียามบ่ายครับลุง ฟ้ามืดมาอีกแล้ว นี่อีกไม่กี่วันก็สิ้นปี ถ้าเกิดคลื่นยักษ์มาอีก คราวนี้แถวคึกคักบ้านผมไม่เหลือแน่


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:50:15 น.  

 
ถูกต้องเลยสาวบ้านนอก กำลังจะอัพบล็อกใหม่ยู้ เห็นมีคอมเมนท์ถูกแบนทั้งตู่ เลยรีบแก้ปมให้ อิ ๆ ตอนแรกตกใจนึกว่าใครมาถอนหงอก หมู่นี้บรรยากาศล้วนน่าระแวงไปหมด ทั้งธรรมชาติและคน

รับเมล์เมื่อเช้าเขาว่า วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๕๓ นี้ จากชุมพรยันนราธืวาสแผ่นดินจะจมลงใต้ทะเล ให้เตรียมอพยพ ลุง เตรียม ตต.อย่างเดียวไม่รู้จะอพยพไปไหน ขอไปอยู่บ้านสาว กับบ้านธารดาวได้บ่


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:10:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.