หมา มอง เครื่อง บิน
คิด ถึง นาง ฟ้า
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 

+++สูญเสียอะไร เพื่อให้ได้อะไรกลับมาเสมอ+++

++นกฝูงนั้นกำลังบินมาจากพื้นที่อันแสนหนาวเหน็บ จากซีกโลกหนึ่งสู่อีกซีกโลก
เด็กน้อยคนนั้นแหงนคอมองจนขนานกับพื้นโลก จนกระทั่งนกฝูงนั้นลับขอบฟ้าไป
นกอ่อนล้าตัวหนึ่งบินรั้งท้ายอย่างโรยแรง เด็กน้อยเฝ้ามองเอาใจช่วย พยายามลุ้นให้มันตามฝูงได้ทัน
แต่แล้วมันก็ร่วงลงบนกอหญ้าริมคันนา ไม่ไกลจากบ้านของเด็กน้อยมากนัก
เด็กน้อยรีบวิ่งปรี่เข้าไปด้วยหวังจะช่วยชีวิตเจ้านกตัวนั้นเอาไว้
มือเล็กๆค่อยๆแตะตัวนกที่สั่นเทาหายใจรวยริน จากนั้นก็ประคองมาไว้แนบอก
รีบเดินกลับบ้านอย่างระวัง ไม่ให้เจ้านกตัวนั้นบอบช้ำ
วางเจ้านกตัวนั้นไว้บนแคร่ใต้ร่มไม้ใหญ่ข้างบ้าน รีบกุลีกุจอหาเศษผ้านุ่มๆมาให้นกรองนอน
เด็กน้อยนั่งคุกเข่าบนพื้นดินค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆดูว่าเจ้านกยังหายใจอยู่ไหม
แต่ลมหายใจมันก็รวยรินเต็มที
ใกล้เวลาที่พ่อกับแม่ของเด็กน้อยจะกลับบ้านจากการทำนา เขาจึงรีบนำนกไปซ่อนใกล้ๆจอมปลวกหลังบ้าน พลางภาวนาให้จอมปลวกช่วยคุ้มครองเจ้านก
แต่แล้วตอนเช้ามืดเด็กน้อยแสร้งว่าปวดท้องจะออกมาปลดทุกข์หลังบ้าน
เจ้านกตัวนั้นก็ลาโลกไปเสียนานแล้ว



+++ความทุกข์แสนสาหัสของแม่ก็คงยามที่ลูกป่วยไข้
ยามนี้ลูกน้อยไข้ขึ้นสูง ให้กินยาแก้ไข้ ทั้งใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามเนื้อตัวก็ไม่ดีขึ้น
ผ้าห่มที่มีก็แสนเก่าและฉีกขาด จะพาลูกไปโรงพยาบาลก็ยังมืดอยู่ไม่มีรถเข้าตัวเมือง ที่ทำได้ก็แค่เพียงประคองกอดให้ไออุ่นลูกน้อยเท่านั้น
ผู้เป็นพ่อก็เร่งร้อนไม่แพ้กัน คิดว่าครานี้คงเจ็บหนัก ต้องไปทำงานต่างเมืองอีกครา เพื่อค่าแรงดีกว่านำเงินมารักษาลูกน้อย



+++หน้าห้องฉุกเฉิน ผู้เป็นแม่พยายามมองผ่านประตูกระจกเข้าไปหวังจะได้เห็นลูกน้อยแม้เพียงชั่วครู่
แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า



+++คุณหมอเดินออกมานอกห้องแล้ว บอกผู้เป็นแม่ว่าอาการยังน่าวิตกอยู่ และไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
ผู้เป็นแม่นั่งทรุดลงกับพื้น และนิ่งเงียบสายตาเหม่อลอย



+++ฝ่ายผู้เป็นพ่อที่เดินทางมาตรากตรำในเหมืองแร่ต่างเมือง เพียงเพื่อหวังค่าแรงที่ดีกว่า และเศษแร่ที่นายจ้างให้ก็ขายพอได้เงินอยู่บ้าง
ใจพลางก็คิดห่วงลูกเมียที่อยู่ต่างเมือง หินก้อนเท่ากำหมัดก็กระเด็นมากระทบศีรษะอย่างแรงจนสลบไป



+++ผู้เป็นแม่นั่งอยู่ข้างเตียงลูกน้อยที่มีสายระโยงระยางรอบกาย
ตัวเธอเองก็ต้องล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และสวมเสื้อคลุมเพื่อเข้ามาหาลูก
“ลูกของเราเป็นอะไรนะ” เธอรำพึงในใจ สักพักเธอเริ่มหายใจขัด และหอบถี่
เธอค่อยๆสูดหายใจช้าๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าจนปกติดี
พยาบาลเข้ามาเชิญเธอออกจากห้องเนื่องจากหมดเวลาเยี่ยม และจะเข้ามาเจาะเลือดตรวจ
เธอออกมาเจอผู้เป็นพ่อของเด็กน้อย นั่งรออยู่ ที่หัวมีผ้าพันแผล
เธอเข้าไปนั่งข้างๆไต่ถามทุกข์สุขหลังจากที่เขาจากบ้านไปได้ 5วัน และถามถึงที่มาของแผล
จนตะวันลับขอบฟ้า ทั้งคู่จึงเดินทางกลับบ้าน



+++ผู้เป็นแม่อาการไม่สู้ดีอีกคน คนทั้ง 2 จึงพากันไปเยี่ยมลูกน้อยและจะเข้ารับการตรวจไปด้วยอีกคน
เมื่อทั้งคู่มาถึงโรงพยาบาล คุณพยาบาลก็รีบมาตามให้เข้าไปพบหมอ
ลูกน้อยของพวกเขาอาการเข้าขั้นวิกฤตแล้ว!
แม่ร้องไห้ พ่อรีบจูงมือผู้เป็นแม่ไปที่ห้องฉุกเฉิน
ทั้งคู่มองลูกน้อยผ่านกระจกห้องฉุกเฉิน ที่แง้มม่านไว้ให้ทั้งคู่พอเห็นลูกที่ไม่รู้สติอยู่ตรงหน้า
คลื่นหัวใจของลูกน้อยเต้นแผ่วลงทุกที ทุกที
ในที่สุดเครื่องนั้นก็ได้บอกเป็นเส้นตรง เด็กน้อยคนนั้นก็ลาโลกไปเสียแล้ว
คนทั้งคู่รีบผลักประตูเข้าไปดูลูกน้อย ผู้เป็นพ่อเอื้อมมือไปจับแขนเจ้าตัวน้อยที่พึ่งลาโลกไปต่อหน้าต่อตา ส่วนผู้เป็นแม่ร้องไห้เสียจนสิ้นสติไป



+++ผู้เป็นแม่ตื่นขึ้นมาบนเตียงของโรงพยาบาลในชุดคนไข้
คุณหมอตรวจพบโรคกับที่เกิดกับลูกน้อยในเลือดของเธอเช่นกัน
ไวรัส H5 N1 (ไข้หวัดนก) เธอกำลังจะเป็นคนต่อไป
นกฝูงนั้นจะเป็นรายต่อไป ถ้ามันจะไม่ตายด้วยโรค มันก็จะถูกฆ่าเพื่อให้มนุษย์อยู่รอด
สัตว์ปีกละแวกนั้นจะเป็นรายต่อไป เพื่อให้มนุษย์อยู่รอด
ส่วนผู้เป็นพ่อเพื่อความไม่ประมาทจึงได้รับการตรวจเลือดด้วย แต่ก็ไม่พบเชื้อไวรัสนั้น
หากแต่พบปริมานตะกั่วในเลือดที่สูงกว่าปกติ อันเนื่องจากการไปทำงานเหมือง
ถ้าน้ำในเหมืองนั้นไหลลงสู่แม่น้ำสายใหญ่ จะต้องทำอะไรเพื่อให้มนุษย์อยู่รอด
หรือต้องเสียชนกลุ่มน้อย เพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม


+++สูญเสียอะไร เพื่อให้ได้อะไรกลับมาเสมอ +++






++เรื่องเล่าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากข่าวช่วงปัจจุบัน เป็นเพียงแค่การบ่นที่ไม่รู้จะสามารถช่วยอะไรได้ ขอบคุณที่ฟังบ่นจากไอ้ชะเอมคนนี้ ราตรีสวัสดิ์ (แล้วถ้าเค้ามาอ่านตอนกลางวันล่ะ!)+++




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2548
6 comments
Last Update : 3 เมษายน 2549 14:08:59 น.
Counter : 670 Pageviews.

 

วิ้ว ๆ
เยี่ยมๆ

 

โดย: FiLmSicK IP: 61.90.241.169 25 ตุลาคม 2548 23:47:33 น.  

 

wtf

 

โดย: cradled IP: 82.174.187.203 26 ตุลาคม 2548 0:30:34 น.  

 

พรรณนาเพิ่มอีกนิด ก็จะดีไม่น้อยเลย ว่าแต่ว่า เอมก็นำเสนอ เป็นภาพได้ดีนี่ ถ้าเอาแค่ภาพ แค่ตอนแรก สวยเลย ที่ว่าเอานกที่ตกมา แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เอาแค่นั้นก็สวยเลย แล้วตัดมาที่ลูกป่วยตายกะทันหัน แม่ร้องให้หนักจนป่วยตายตาม แล้วก็ปล่อยให้คนมันเดาว่าเป็นอะไรกันวะ ก็ดีนะเนี่ยอิอิอิ

 

โดย: พี่เอ็กซ์จ้าา IP: 58.10.215.245 27 ตุลาคม 2548 0:40:35 น.  

 

เหะๆ แอบเดาถูกอะคับ ว่าเด็กน้อยจะเป็นโรคนี้ง่ะ กะลังอินกะเหตุการณ์เชียว อุอุอุ

ชอบครับ อยากเขียนเรื่องได้ดีแบบนี่มั่งจัง

ปล. ขอบคุณที่อุตส่าห์แวะไปอ่านบล็อกงงๆของผมนะคับ

 

โดย: nanoguy (nanoguy ) 27 ตุลาคม 2548 17:16:28 น.  

 

อ่า...
ชอบเรื่องที่เขียนจังเลยครับ
ชอบๆๆๆ

 

โดย: it ซียู 31 ตุลาคม 2548 11:21:23 น.  

 

มาอ่านตอนกี่โมง ดูเอาเองนะ
ไม่ใช่เวลาราตรีสวัสดิ์เลย

ไม่เคยเห็นเอมเขียนอะไรแบบนี้มาก่อน
ดีนะ ไอเดียดีมากๆ เขียนบ่อยๆ ล่ะ
(ชอบผลงานใครก็ชมๆ เค้าไปเถอะ ไม่ต้องเขิน)


นั่นสินะ
ทำไมในการที่เราจะได้อะไรมา
ต้องเสียบางสิ่งไปแลกด้วย??

ทำไมคนจำนวนสิบ
ถึงมีค่าน้อยกว่าคนจำนวนแสน

แล้วทำไมสุนัขจรจัด หรือว่านกติดเชื้อ
ถึงต้องถูกกำจัดให้ราบคาบ

เมื่อไหร่ และใครกัน
ที่ตัดสิน
ให้มนุษย์มีอำนาจครองโลก

 

โดย: ลูกแกะหลงเฝ้า เงาจันทร์ 1 พฤศจิกายน 2548 6:03:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


LUNATIC SPACE
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จงภาคภูมิใจในเกียรติภูมิแห่งนักออกแบบโดยถ้วนทั่วกัน






adopt your own virtual pet!

Friends' blogs
[Add LUNATIC SPACE's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.