Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
ลอยกระทงสงกรานต์ กับนัทต้อลตี๋แพง : partB






องก์สองเปิดฉาก~~~~~~



เพลงเอาแต่ใจ....จึงได้เริ่มขึ้น
....สงสัยส่วนตัวนะ ปั๊มเจ้าของเพลงเป็นผู้ชายเสียงสูง พี่เลยคาดว่า ตี๋อาจต้องลดคีย์ลงน่ะ ช่วงต่ำเสียงติดคอเลย
ท่อนฮุคติดหูชะมัด....สมเป็นเพลงอาร์เอส


ชอบตอนจบอ่ะ

ตี๋หยอดโคตรน่ารักกับท่อน ~จะขอทำเพื่อเธออออออออออ~

พร้อมกับหันไปมองภาพคู่ไล่ไปทีละภาพ ที่ติดใหญ่เบ้งราวกับวอลเปเปอร์ประกอบฉากอยู่นั่นล่ะ

เด็กไม่ค่อยพูด....แต่ความแพรวพราวไม่น้อยกว่าใคร


พาพี่นัทออกมาด้วยความสงสัยว่าไม่คิดว่าจะเป็นตี๋ที่ร้องเพลงนี้ เพราะว่า

“มันฟังดูแบ๊ว...ยังไงไม่รู้” นัทชำแหละเพลงนี้ช่างตรงใจ ก่อนล้อน้องชายที่ตามมุขใครเขาไม่ค่อยทัน “จินตนาการคนร้องประมาณ....” ก่อนทำท่า...เอิ้กกกก นัทล้อน่ารักโพดกับท่าประกอบเพลงท่อนอยากจะแต่ใจ...แต่ใจ

คนถูกล้อทำตัวไม่ถูก ต้องปล่อยให้พี่ชายอีกคนที่ขนาดอยู่หลังเวทีส่งเสียงแซวไซโคมาแทนตัว

“ตี๋ทำอาจดูแบ๊ว....แต่พี่ทำมันดูปัญญาอ่อนนะ”


สองหนุ่มหน้าเวทีหันไปหาตามเสียง

ก่อนตัดสินใจ....ปล่อยไป อย่าไปตอแย





“ไหนๆเราก็ขึ้นมาบนเวทีด้วยกันแล้ว” พี่นัทหันมาถามตี๋ “เรามาร้องเพลงด้วยกันไหมจ๊ะ”





ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตี๋อึ้งเป็นรอบที่เท่าไรเนี่ย



“จ๊ะคำเดียวนี่นะ” นัทชักเก่งใหญ่ล่ะ “มันมีอิทธิพลขนาดนั้นเลยเหรอ”

...เอิ่มมมม จ๊ะจากคนอื่นก็อย่างงั้นอย่างงั้นล่ะนัท แต่จ๊ะจากนัท แรงสะท้อนมันสูงงงงงง



ตี๋ทำเป็นเหลียวมองหลังก่อนตอบ

“เมื่อกี้พอบอก จ๊ะ ที...ผมล่ะเสียวข้างหลัง....แบบว่า” ตี๋น่าร้ากกกกก

“อ๋อ...คนนี้เหรอ” พี่นัทย้อนรอยด้วยการชี้ไปที่รูปคู่แพงตี๋

ทำเอาตี่ต้องเอื้อมมือขอหยุดทีพี่...ผมไม่กล้าแล้ว


พอพี่นัทเริ่มถามว่าตี๋จำได้ไหมว่าเพลงแรกที่ร้องคู่กันคือเพลงอะไร

“เพลงอ่า...เพลงที่...มีแต่กิ๊ก”

“อย่ามาดูถูกพี่!” นัทดุอย่างเข้มงวด “พี่ไม่นิยมกิ๊ก...เข้าใจเปล่า”

เอิ้กกกก ตี๋แพ้รอบที่เท่าไร(อีกแล้ว)เนี่ย


“แสดงว่าพี่นัทเป็นคนรักใครรักจริงเลย” ตี๋ถามย้ำขอความมั่นใจ

เฮ้ยยยย ตี๋ร้าย ใช้ได้นะน้อง


แต่ต่อมานี่สิ....

“เพลงนี้เราร้องด้วยกันครั้งแรก” นัททำท่านึก

“เออ” ตี่ตอบรับ

“เกือบปีละ” นัทต่อให้จบ

“เหรอ” ตี๋ตอบกลับด้วยน้ำเสียงหาความหมายไม่เจอ


แต่ทำเอา...นัทอึ้งบ้าง ง่ายๆเล้ยยยยย


ช่วยหน่อยสิน้อง...ช่วยทำมาหากินหน่อย

เจอน้องชายคนหนึ่ง นั่นก็ขยันเกินค่าแรง
มาเจออีกคน ก็ช่างถ้อยทีถ้อยอาศัย...ให้พี่นำร่องซะเรื่อย
....ดูจะเหนื่อยไม่ต่างกันนะนัทนะ ไอ้สองแบบเนี้ย




“ในตอนนั้นเราเอามาร้องเพราะความหมายในเพลงมันตรงกับเราสองคน” นัทพยายามบิ้วท์ต่อ

“อืม” ตี๋พยายามช่วย(บ้าง) “แล้ว?”

“แล้วมาวันนี้” นัทก็ยังต้องเหนื่อยต่อ

“อืม” ตี๋ก็พยายามอีกครั้ง

“เราหวังว่ามันจะเปลี่ยนไป” นัทชักใส่อารมณ์

“อื้มมมมม” คราวนี้ตี๋ยอมตอบรับยาวหน่อย

“แต่ว่า...มันก็ยังเป็นความหมายที่ตรงกับเราสองคนอยู่เหมือนกัน” นัทจบลงจนได้

“เอ๊ะ!” ตี่ขอฉงนสักนิด

“เราไม่มีพัฒนาการเลย....เข้าใจปล่าว” นัทขอสรุป

“อ๋อ~~~” ตี๋ทำความเข้าใจ


เหลือบดูประโยคสนทนาช่วงนี้...นี่มีช่วงไหนที่ตี๋พูดเกินสองพยางค์แล้วยังหว่า!?!



แต่แล้ว....พอน้องพูดเป็นประโยคขึ้นมา....ตี๋เอ๊ยตี๋



“พี่รู้ได้ไงว่าผมไม่มีการเปลี่ยนแปลง” ตี๋ขอเริ่มบ้างคราวนี้

“ตี๋กำลัง...แถลงข่าวอะไรหรือเปล่า” นัทถามกลับด้วยเสียงซื่อๆ “เพราะว่าเพลงที่เรากำลังจะร้องนี่ชื่อเพลงคนไม่มีแฟน”

นัทก็ยังทำหน้าทำตาทำเสียงร้ายเดียงสาได้อีก

“ถ้าคนไม่มีแฟนวันนั้นมีอะไรเปลี่ยนไป ก็แสดงว่าวันนี้...” นัทหยุด..ให้คิดต่อเอาเอง

“มีแต่กิ๊กไง” ตี๋พยายามเอาตัวรอดแต่น้ำเสียงมันอ่อนระโหยชะมัดน้องเอ๊ยยยย


ตี๋พูดยาวแค่ประโยคเดียวเกือบเอาตัวไม่รอด ฮ่า ฮ่า ฮ่า





.....................สองหนุ่มร่วมร้องกันมาเกือบจบเพลงแล้ว


“ถ้าใครอยากให้นัทกับตี๋มีแฟนเร็วๆช่วยกันร้องหน่อยครับ”

ประโยคศักดิ์สิทธิ์ของพี่ชายคนโตทำเอาน้องชายจอมป่วนเดินออกมาจากหลังเวทีพร้อมยกมือมาแต่ไกลกับเสียงที่ร้องเพลงตามมา

~แม้ใครได้ครอบครองเจ้าของใจดวงนี้ จะคอยให้ความรัก จะดูแลอย่างดี~




ซึ่งพอเพลงจบ แซววาทีก็เริ่มต้น...ก็จะใครที่ไหนเล่า

“ไม่น่าเชื่อ...หน้าตาอย่างตี๋นี่ไม่มีแฟน” ต้อลหันไปมองนัท “พี่นัทก็ไม่น่าเชื่อเลย”

“ทำไมล่ะ” นัทขอย้อนถาม

“ต้อลว่าทุกคนมีหมดแล้วแฟน” กบเล่นมุขเดิม “แฟนคลับไง”

“คราวนี้พูดซึ้ง...พูดซึ้ง” นัทเอ่ยชมเชยปนโล่งใจไงชอบกล


แล้วก็ช่างเกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อ......................



“เดี๋ยวนะ...เดี๋ยวนะ” ตี๋ขอหยุดทุกคน “เดี๋ยว.....”

“จะเล่นอะไร...เราตั้งใจฟังแล้วอ่ะ” เห็นตี๋ตะกุกตะกัก ต้อลเลยใจดีช่วยสักนิด


“เดี๋ยวเราไปข้างหลังก่อนดีกว่า...ดีไหม” ขนาดจะขอตัว ตี๋ยังขอด้วยความเกรงใจเลย....คิดดู๊

“เอ๊อะ เอออะ เอออะ เอออะ เอออ” พี่ตัวแสบรับคำร้องขอด้วยน้ำเสียงล้อเลียนการพูดน้อยของตี๋ต่อหน้าต่อตา

ทำเอานัทไปไม่เป็น ไอ้ที่จะคุยกับน้องสักนิดก็มัวแต่โดนตัวความขำเข้าครอบครอง

“เออะ เออ” ต้อลยังไม่ยอมหยุด

“เอ่อะ” ตี๋คุยตาม

“เออะ เออะ เอ่อ” ต้อลคุยต่อ

“ขอบใจมาก” ตี๋ยอมแพ้ ขอบคุณกับ....ที่ทำเป็นเข้าใจกันสองคนนั่นล่ะ

“เอ่อ เออ” ต้อลยังคงรักษาคอนเซ็บ

พี่ชายตัวแสบก็ยังคงล้อไอ้น้องคนนี้ไปจนตบไหล่ลากันก็ไม่เลิกกับไอ้เอ่อะ เออ นั่นน่ะ
ขนาดตี๋เดินตัวปลิวไม่เหลียวหลัง ก็ยังส่งเสียงไล่หลังตามไป
ส่วนนัทน่ะเหรอ โชว์ยิ้มฟันขาวลูกเดียว


แต่ตี๋...น้องก็ใช่ย่อย ยอมแพ้ง่ายๆก็เสียชื่อวิวิศน์ไปนิด
ตอนเดินกลับผ่านภาพหน้าต้อลขนาดยักษ์ เลยขอหยุดสักนิด จับคางกบ(ในภาพ)สักหน่อย

เสียงเฮฮาดังขึ้น กบเลยรู้ตัวว่าโดนเข้าแล้ว หันกลับไปมอง แต่ยังคงคุณชายคอนเซ็บไม่หลุดง่ายๆ
ส่งเสียงเอ่อะ เออ ดังรับการลบเหลี่ยมของตี๋น้อยอย่างใจเย็น

พร้อมหันกลับมารับเสียงโห่แซวรับจากรอบทิศไม่ยอมเลิกอย่างภาคภูมิ



กว่ากบตัวแสบจะยอมเลิกราก็เพราะ...ต้องเข้าเพลงต่อไป
ที่กว่าจะเข้าได้ ทุ่มเถียงกันแค่เรื่อง...มีแฟนกับไม่มีแฟน
จริงๆมันก็ยังไม่มี(เวลา)หาแฟนกันทั้งคู่นั่นล่ะ...เถียงกันยังกับเด็กๆ


“คนไม่มีแฟนร้องไปแล้ว ต่อไป...” ก้มหาเศษตังส์กันทั้งพี่ทั้งน้อง “คนมีแฟนบ้างล่ะ”

“ก็มาบ่นอีก” นัทต่อเรื่อง....ที่ดูเหมือนมันไปกันคนละเรื่องกับกบ

“ห๊า!?!” กบเลยชักงง

“ยัง!!!” นัทปฏิเศษ....ที่พี่ขอเดา นัทต้องนึกว่าไอ้น้องคนนี้มันจะเล่นพี่เรื่องมีไม่มีแฟนอยู่ เลยปฏิเศษเสียงแข็งแต่ก็ตามประสาเด็กหัวไว ชักรู้ตัวว่าสงสัยจะหนังคนละม้วนเลยอุทานตามมาเหมือนกัน “ห๊า?!?”

พอพี่ชายหันมาหน้าหน้างุนงงกบเลยเน้นเสียงสูง

“คนมีแฟนแล้ว!” ก่อนก้าวขาโหย่งๆอ้อมไปดูลิสต์ให้จะ จะ

“ไม่ช่าย!” นัทยังยืนยันปฏิเศษเช่นเดิม...ถึงคนละเรื่อง แต่ก็ยังใช้โหมดปฏิเศษได้เช่นเดิม

คราวนี้น้องชายเลยขอชี้ จิ้มลงไปให้เห็นชัดๆต่อหน้าต่อตา “นี่ไง!”

“ไม่...แต่คนร้องยังไม่มีแฟน...ในเพลงเนี้ยอ่ะ” นัทก็ขอชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงบ้าง


เสียงกรี๊ดจากอินเนอร์รอบข้างดังแหวกอากาศขึ้นมา เด็กสองคนเลยขอหยุดถกประเด็นก่อน...หันมาทำหน้าตาชวนสงสัย

“เป็นอะไร” พี่นัทชักอดไม่ไหวขอถาม

“เดี๋ยวก็ตกน้ำอีกหรอก” กบแซวมุขส่วนตัวกับแฟนๆ ก่อนชักชวนกันลอยกระทงด้วยกันหลังจากจบคอน

“วันนี้เราจะมีกระทงมาลอย” กบตบท้าย

“ลอย! จริงเหรอ!!!” สติชแอ๊คติ้งเก้าเข้าสิง หน้าตาตื่นชวนสงสัย “แต่แถวนี้ไม่มีแม่น้ำนะ”

“โอเค...ร้องเพลงก่อนดีกว่าค่อยพูด” กบจำใจตัดบทดังฉับเพราะดนตรีข้างหลังไม่รอแล้ว


....แฟนใครไม่รู้ ....ตกลงคนร้องยังไม่มีแฟนจริงๆด้วย
แต่....ก็จริงอย่างกบว่า สาวน้อยในเพลงก็มีแฟนแล้วจึงได้เกิดเป็นชื่อเพลงขึ้นมาจริงๆ

....ก็แค่มองกันคนละมุม นี่เนอะ
ถูกทุกมุม แต่มองอีกมุมก็กลายเป็นผิดได้.....

กับท่อนฮัม...กบสโลว์แดนซ์แย่งซีนต่อหน้าต่อตา
กับเสียงหลบ...นัทยังหลบสวยเหมือนเคยๆ หลบแข็งแรงเนอะน้องเนอะ



ฟังเพลงแบบนี้แล้วสะท้อนใจ....จริง จริง

เพลงจากอัลบั้มเดี่ยวของบีม กวี ซึ่งผ่านมาไม่นานเลยกับดูโอคู่แดน
แต่เด็กสองคนกลับเอามานำมาร้องดูเอ็ท ทั้งๆที่ต่างก็ออกอัลบั้มเดี่ยว



คนเราไม่มีทางได้ดั่งหวังและตั้งใจในทุกสิ่ง(เสียงลมลอยกระซิบข้างหู....โดยเฉพาะจากบริษัทดนตรีที่มีฝัน)





“แฟนใครไม่รู้!” จบเพลงกบก็พูดย้ำ...ตาม ตามเคย ก่อนหันไปถามพี่ “รู้ยัง?”

พี่ที่ยังไม่ทันพักหายใจเลย เลยไม่อาจรับของที่ส่งมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

“รู้หรือยัง?” กบใจดีถามให้อีกครั้ง

“รู้หรือยัง!?!” นัททวนคำถาม แม้มีเวลาให้ขบคิดเพียงเสี้ยววินาที หนุ่มหัวไวก็ไม่ทิ้งลาย “ไม่รู้! เพราะพี่ก็ยังไม่รู้ว่า...คนแถวนี้เค้ามีแฟนหรือยัง”

ขณะนัทใช้มุขอ้อนแบบหนุ่มน้อยหน้าตาดี
หนุ่มร่างโย่ง กลับใช้มุขเด็กถาปัดนั่งแถวตีนบันไดคณะ

“พี่ อย่าพูดเลยว่ามีแฟนเลย มีลูกกันแล้วหรือยังดีกว่า”

......บาด!!!


กว่าจะจบ แยกย้ายกันจากไปด้วยไอ้ เอ่อะ เออะ เออ ที่ต่างคนต่างงัดมารับ-ส่งไม่รู้เรื่องจนนัทลาลับเข้าไปหลังเวที



เพราะต่อไป...ทะเลสีดำ ช่วงที่ทำเอาทุกคน...ขาดใจตาย ด้วย.......




“คนที่น่าจะรู้ดีที่สุด...ออกมาได้แล้ว เอ่อะ เออ เออ เนี่ย” ต้อลยืนรอสาวสวยที่สุดบนเวที “อย่ามัวเขียนขอบตานาน....เร็ว” พี่ชายก็เร่งจั๊ง ทั้งๆที่อุปกรณ์ยังเตรียมไม่เรียบร้อยเล้ย ยังจะเร่งอีก

แล้วก็ในเมื่อเร่งเท่าไร น้องสาวก็ยังไม่ยอมออก พะแพงก็เริ่มเกรียมด้วยฝีปากกาต้อล

“พะแพงเนี่ยอยู่ด้วยกันมานาน เจอด้วยกันมาเยอะ” กบเริ่มมินิซีรี่ส์น้องสาว

“ไม่ออกมาก็จะโดนเม้าทส์อย่างนี้ล่ะ” กบเริ่มเรื่อง “จะมีเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขาเสียเซลฟ์อยู่ สี่อย่าง ถ้าเกิดไม่มีจะทำให้เขาขาดความมั่นใจมาก” กบนั่งรอพร้อมกีต้าร์ตัวเก่งของ?

“หลังจากที่โพลของเรานี่นะฮะ เอแบคจากโพลที่เราสำรวจประชากรทั่วโลกเนี่ย” พี่ชายจอมเก๋าเริ่มอ้างอิงทบวงกระทรวงกรมเพื่อความน่าเชื่อถือก่อนปล่อยข้อมูล

“อย่างแรกนั่นก็คือ ขอบตา ถ้าเกิดมีวันไหนที่เธอไม่ได้ทาขอบตาเธอจะรู้สึกเหมือนว่าขาดความมั่นใจ ไม่เป็นตัวเอง ไม่กล้าออกบ้าน ไม่กล้าพูดคุยกับใครอะไรทั้งสิ้น” จบเรื่องไม่กล้า... ก็ขอต่อไม่ให้ขาดตอน

“อย่างที่สองคือ ไล้จมูก” หรือต้อลจะหมายถึง ไร้จมูกพี่ไม่อยากจะเดา “เพราะว่าตื่นเช้ามา...ตื่นเช้ามากเพราะว่าปกติเป็นคนตื่นเช้ามาก เพราะเวลานอนเนี่ย ตาซ้ายจะไหลไปรวมกับตาขวา...ไม่มีคั่นตรงระหว่างดั้ง ก็เลยต้องไล้จมูก”

.....เสียงพี่ชายคนโตสุดลอยมาขัดเบาๆ “พะแพงปล่อยเค้าไป อย่าไปโต้ตอบ อย่าไปโต้ตอบ”

กบทำเป็นไม่สนใจเสียงนกเสียงกา เพราะไม่อาจหยุดเครื่องที่ติดเต็มสตรีมปล่อยตัวเต็มกำลังได้

“อย่างที่สามนั่นก็คือ...” กบชักรู้สึกว่าโดนขัดจังหวะกับเสียงโห่ฮาเลยต้องขอถาม “อยากฟังปล่าว!” ก่อนทำหน้าจริงจัง “เฮ้ย...นี่มันเรื่องจริง รับให้ได้หน่อย รับให้ได้หน่อย”

“จริงๆเราทำสำรวจโพลมาแล้ว...จากทั่วโลกจริง” ผู้ชายกับกีต้าร์ยังขอย้ำความน่าเชื่อถือก่อนปล่อยอย่างที่สามออกมาให้โลกรับรู้

“อย่างที่สาม ฟองน้ำ...ฟองน้ำ” เล่าได้ถึงตรงนี้ เจ้าของเรื่องเดินตรงลิ่วเข้ามาหาเลยไม่ทันได้ขยายความ ทำเอาคนไม่ใช่FCแพงต่าง(แกล้ง)งงกันเป็นทิวแถว



....อย่างที่สี่ ก็เลยไม่มีการเฉลยจากปากกบ คงต้องรอมินิคอนเด็กสี่คนครั้งหน้า~~~~



เมื่อน้องสาวทักถามเลยไปถึงกีต้าร์ที่เอามาครอบครองถึงได้รู้ว่ายืมของน้องสาวที่ตัวเองนั่งจาระไนเรื่องราวเขาไม่หยุดนั่นล่ะ

แม้แพงจะทักว่าวันหลังให้เตรียมเอาของตัวเองมาใช้บ้างอะไรบ้าง พี่ชายเลยให้เหตุผลขึ้นรถไฟกลับมา

“เขาเรียกว่าโลกร้อน” ก่อนปล่อยภาษาบ้านเกิด “Global Warming” พูดเองก็เขินเองแต่ก็ไม่อาจหยุดกบ “ทำอะไรเราต้องประหยัดนิดนึงนะ”

ก่อนปล่อยเหตุผลที่ชวนเชื่อ(ตายเลย)

“เอากีต้าร์มา...รถมันหนัก หนักปุ๊บมันต้องเปลืองน้ำมันต้องเหยียบคันเร่งเยอะ...นะ” ต้อลอ้างเป็นเหตุเป็นผล “ก็เลยแพง...ไหนๆก็เอามาแล้วเลยก็....”

พี่ชายพูดต่อไม่ได้ละ เพราะน้องสาวกะสกัดดาวรุ่ง ยกเก้าอี้สีแดงมานั่งบังไม่ให้ใครมองเห็นนักดนตรีที่พูดไม่ยอมหยุดพร้อมให้เหตุผลที่ชวนเชื่อไม่แพ้กันออกมา

“มันเปลืองเนื้อที่...จะได้โฟกัสคนเดียว”

ทำเอานักดนตรีชักอึดอัดขอประท้วง “พี่ว่าไม่ดีหรอก พี่ว่าแพงกลับไปอยู่ข้างๆก็ดีแล้ว เพราะว่ากล้องมันถ่ายมาจะดูไม่ดี” ต้อลทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีของน้องสาว “มันเป็นกล้องอยู่ข้างหน้าอยู่” พี่ชายคนดีขอย้ำอีกที “พี่รักษาภาพพจน์แพงเสมอ”


“อ่ะ..อยู่ตรงนี้ล่ะดีแล้ว จะไปนั่งทำไมข้างหน้าให้คนเค้าเห็นเราสองคนชัดๆหน่อย นานๆจะได้ร้องเพลงคู่กันทีนึง” ต้อลเริ่มจะบรรเลงเพลง

แต่น้องสาวขอ...สักที

“เดี๋ยวนะ...หนูได้กลิ่นเหม็นจากตรงไมค์เต็มไปหมดเลย พูดมากไปหรือเปล่า”

“กลิ่นเหม็นตัวเองหรือเปล่า” กาต้อลไม่ขอยอมรับ(ความจริง)

“กลิ่นเหม็นใช้ได้เลยนะเนี่ย” แพงที่เอามือไปถูไมค์มาดมบ่นออกมา

“ไม่อยากจะพูดเลยนะเนี่ยว่า...” ปากกบเม้มสนิทบ่งบอกอาการคันปากที่พยายามกลั้นเก็บไว้ “เวลาจะพูดกับพะแพงต้องกลั้นหายใจตลอด”

แพงไม่น่าเริ่มก่อนเลยหนู เล่นกับกบ กบเอาคืนสิบเท่า

“ส้มตำเอย อะไรอีก” หันไปถามน้องสาวก่อนตอบเองต่อ “ปลาร้าเอย...ชอบไปกินตลอดเลยเนี่ย แล้วไม่ชอบแปรงฟันด้วย”

“พี่ชอบเอาเรื่องส่วนตัวมาโยนให้แพงตลอดเลย” น้องสาวตัดพ้อแต่ก็ไม่อาจหยุดแรงเฉื่อยที่ตามมาหลังจากออกตัวเต็มที่ไปแล้วของกาต้อลได้

“ไม่ไปขี้ก็ไปอึ...ต่อหน้าต่อตาเรา” พี่ชายกระพริบตาปิบปับก่อนจะขอเบรกตัวเอง “พอเหอะ...เสียภาพพจน์”

พี่ชายหลังจากใส่ความน้องไปชุดใหญ่ กลับลำดังเอี๊ยดดดดด

“ไม่มีนะ...ที่พูดมาไม่มีเลย” แก้ตัวให้น้องสาวด้วยหน้าตาจริงจัง

“แพงไม่เคยเป็น แพงเป็นเด็กดีเสมอ” สาวน้อยในชุดสีชมพูยืนยัน

“ถูกต้อง เป็นเด็กดีในสายตาแฟนทุกคนอยู่แล้วนะฮะ” พี่ชายวางใบรับรองตามมากับใบหน้าที่พยักหงึกหงัก (แกล้ง)หลับตาปี๋อย่างที่กลัวใครเห็นความรู้สึกแท้จริงในแววตา

แพงขอดึงรอกกลับเข้าเพลง

“แล้วจะร้องได้ยังเนี่ย เพราะว่า...” แทนที่แพงจะได้พูดจบ บ๊ะ! ถูกตัดบทด้วยเออะ เออ ที่เอาตี๋มาเลียนแบบอีกแล้ว


ก่อนนำเข้าเพลงอย่างเป็นทางเป็นการ

“โอเค...เพลงนี้นะแพงเป็นคนเลือกมา”

“ใครบอก...หนูไม่ได้เลือก” น้องสาวปฏิเศษเสียงหลง

“อ่าว! พี่นัทบอกนะว่าแพงเลือกมา” พี่ชายคนรองเอาคำพี่ชายคนโตมายืนยัน

“ก็พี่ต้อลบอกพี่ต้อลร้องเพลงนี้ได้” แพงขอแย้ง

“พี่นัทมาเคลียร์กันดิ๊...ยังไงกันเนี่ย” กบชักน็อตหลุดหันมองหาพยาน “สรุปใครเลือก...แพงไม่ได้เลือกเหรอ”

“ไม่ได้เลือก” แพงก็ยังยืนยันเสียงแข็งก่อนตบท้าย “แต่อยากร้อง”



โธ่เอ๊ย น้องเอ๋ย บอกอย่างนี้แต่แรกก็ไม่ต้องหาเอาบุคคลที่สามมาเป็นตัวอ้างอิงแล้ว



กว่าจะสรุปจบก็อ้อมโลกซะไกล



กำลังจะเริ่มละ...แต่ก็เริ่มไม่ได้สักทีเพราะ....กีต้าร์ไม่ยอมมีเสียง




“เมื่อกี้แซวๆ ก็กีตาร์มันเลยหวงเจ้าของ” เจ้าของกีตาร์ให้เหตุผล

“อ๋อเหรอ...แล้วทำไมเมื่อกี้ตี๋จับมันถึงยังมีเสียงอยู่เลยล่ะ” กบทำเป็นถามกลับด้วยความข้องใจ

“อ้าว!....ก็ตี๋เค้าไม่ได้กัดไง” แพงแก้แทน “เค้าไม่ได้แซว พี่ต้อลชอบแซว”

ต้อลทำเป็นปฏิเศษก่อนถามแฟนคลับเสียงอ่อนเสียงหวาน “เค้าเรียกว่าแซวหรือครับอย่างเงี้ย”

พอเสียงตอบกลับมาเซ็งแซ่ว่านั่นล่ะแซว กบเลยต้องแกล้งทำเป็นงงว่าพูดอะไรออกไป

“ไม่เป็นไรหรอกเพราะหนูรับได้ทุกอย่าง” แพงยอมรับหน้าใส “เพราะหนูเป็นอย่างนั้นทุกอย่าง”

น้องสาวยอมรับอย่างว่าง่าย พี่ต้อลอมยิ้มพยักหน้าหงึกรับตามสัญชาติญาณ แต่ทันทีที่นึกได้พี่ชายที่แสนดีเลยต้องกลับมาทำหน้าที่

“เฮ้ย! ต้องรักษาภาพพจน์นิดนึง จะไปใช่ ต้องปฏิเศษนิดนึง เป็นกุลสตรี...ไม่ใช่” ต้อลทำเสียงแข็ง

“อ๋อ...ไม่ใช่นะคะ พะแพงเป็นเด็กดี เรียบร้อยแล้วก็...เป็นผู้หญิงที่ดูดีแล้วก็...มีแต่คนสนใจ โดยเฉพาะหนุ่มๆ ไฮซง ไฮโซ....อะไรอย่างเงี้ย” นางสาวไทยคนล่าสุดประกาศสรรพคุณไม่ขาดปาก

พี่ชายทำหน้ากล้ำกลืนยอมรับทุกคำทุกประโยคที่น้องสาว(ช่าง)กล้าพูดออกมา



เข้าเพลง....เข้าเพลง
ที่ก็ยัง...ไม่อาจเข้าได้ เพราะ...ยังพูดกันไม่จบไม่สิ้น

“เคยร้องอยู่ครั้งเดียวเอง” ต้อลขอยอมรับความจริงที่เป็น

“หนูไม่เคยร้องเลย” แพงยิ่งกว่า....

คำตอบจากแพงทำเอาพี่ชายข้างๆแอบสะดุ้งทำเอาแทบจบทั้งๆที่ยังไม่มีการเริ่ม

ต้อลหมดกำลังใจที่จะขึ้นเพลงเมื่อเจอความจริงวันนี้....

“ไม่เป็นไร...พี่ว่าหลายคนคงพอมั่วไปกับเราได้อยู่” ต้อลขอกวาดพรรคพวกเข้าสังกัด

“ขนลุกเลยทีเดียว” จู่ๆแพงก็พูดขึ้นโดยไร้ที่มา

“ห๊า!!!” กบชักตามแพงไม่ทัน

แต่ด้วยความไวของการเคยกับการปล่อยมุขเรี่ยราดของตัวเองทำให้ต่อกลับไปทัน

“เพราะว่า?” กบชงกลับด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

“ปวดท้อง” น้องสาวตอบกลับด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

“กะจะเล่นแล้วเชียว” กบตัวเก็บมุขสารภาพโดยดี ขำกับมุขที่โดนตัดหน้า “ร้องให้จบก่อน...ยังมีเวลาอีกเยอะ”



.....โห ไอ้ที่พูดๆกันมาเนี่ย ไม่เพียงพอใช่ไหม!!!



ทะเลสีดำ...มาจนได้

....ไม่ได้ซ้อม แทบไม่เคยร้อง และไม่เคยร้องมาก่อน
เหลือเชื่อจริงๆ


จะมาเชื่อก็ตรง.....กำลังอินไปกับเพลงเหงาๆ




แพงร้อง...~โอบกอดฉันไว้~

ต้อลบอกแก้...จับมือ! จับมือ!

ต้อลร้อง...~ทะเลสีดำ ทำให้ฉันกลัว~

แพงถาม...จริงเปล่า?

ต้อลตอบ...จริง!

ต้อลร้องต่อ...~อาจทำให้เธอ~

แพงยืนยัน...ไม่หรอก..ไม่! ไม่!

ต้อลก็ยังร้อง...~นั้นต้องลำบาก~

แพงร้องบ้าง...~ไม่เห็นเป็นไร~

ต้อลไม่เห็นด้วย...เป็นดิ!

แพงร้อง...~อย่าไปคิดมาก~

ต้อลเลยถาม...แล้วทำไง?

แพงร้อง...~มันคงไม่ยาก ถ้าเธอจับมือฉัน~

ต้อลขอปฏิเศษ...เล่นกีตาร์อยู่!!!



กลับมาที่ต้อลร้อง...~ออกไปเห็นเส้นตรงขอบฟ้าไกล~

คราวนี้แพงปฏิเศษ...ไม่เห็น ไม่เห็น

ต้อลต้องร้องถาม...~เธอแน่ใจ~

แพงร้องตอบ...~เพราะไม่แน่ใจ~

ต้อลก็เห็นด้วย...~ก็ว่างั้นแหล่ะ~

แพงเริ่มหาที่ไป...~ก็ว่ากั่นไป๊~

ต้อลยอมแพ้...~สู้ตี๋ไม่ได้~

แพงขอแย้ง...~มันคนล่ะค้น~




ต้อลกลับเข้าเพลงปกติ...~ทะเลสีดำ~

แพงตาม...~ไม่นานก็เช้า~

ต้อลแก้เนื้อเพลงให้...ไม่ต้องหวาดหวั่น ไม่ต้องหวาดหวั่น

แพงขอแก้ตัว...เอาใหม่

ต้อลขอถาม...~จะทำเช่นไร~

แพงเน้น...~กอดชั้นไว้~


กีตาร์หยุด ส่งคนร้อง


แพงอีกที...~กอดฉันไว้~


กีตาร์ยังหยุด...รอ


แพงส่งปิดท้าย...~ก็...กอดฉันไว้เธอออออ~



กีตาร์รับ~~~.....สวย






จะพูดอะไรได้...จะเหลืออะไรให้พูด







มาฟังความจริงจากปากศิลปินกันดีกว่า

“เหงื่อแตก” แพงเช็ดเหงื่อเม็ดใหญ่ที่ซึมแถวหน้าผาก “ไม่ได้เตี้ยมกันนะ...อันนี้สาบาน”

“ที่เหงื่อแตกนี่เพราะว่ามันคิดอยู่ว่าจะเอาไงต่อ” ต้อลกลั้วหัวเราะ

“เอ๊ะก็จะเอายังไงดี” แพงต่อเหมือนกัน

“เหมือนกันเลยเนี่ย....นี่ต้องเล่นด้วยนี่” ต้อลยอมรับง่ายๆ “ชอบทำให้เสียวอยู่เรื่อยเลย


....แล้วจำได้ไหมเด็กสองคนค้างอะไรไว้ที่บอกจะต่อหลังจบเพลง
เรื่องแบบนี้ไม่มีลืม


“พี่...พี่เล่นซะทำให้หนูหาย” แพงเว้นนิดนึงก่อนต่อ “หายหดเลยทีเดียว”

“ปวดๆอยู่นี่...ไม่ปวดเลยนะ” ต้อลต่อด้วยความไม่ห่วงใย(ที่ไม่มีอยู่จริง)

“คิดอยู่ว่าจะเล่นอะไร” แพงเกาหัวดังแกก “พี่เล่นอย่างนี้มา หนูทำไงอ่ะ”

“ห๊า...ใครนอกเรื่องก่อน” เรื่องแบบนี้ต้อลไม่มีทางยอมเป็นแพะ “แพงล่ะชอบมั่วก่อน”

“บ๊า~~~” แพงร้องก่อนแก้ตัว “เค้าว่าศิลปินที่ดีต้องหัวไวอะไรไว แก้สถานการณ์ได้ถูกต้อง”

“แต่ว่าถ้าอย่างนี้บ่อยมันอาจล่มได้” ต้อลขอเตือนด้วยความจริงจัง

“ไม่เป็นไร” แพงขอความเข้าใจ “เพราะว่าแฟนคลับเค้ารับได้”

“เอ๊~~~~” ต้อลเหมือนไม่แน่ใจก่อนเปลี่ยนใจยอมรับ “เอ้ออออ เออะ เออะ เออ”



พี่ชายอยากเปิดโอกาสให้น้องชายใจดีที่ไม่กล้าหืออือไม่ว่าพี่จะทำอะไร

“พี่เล่นไม่ถนัดเลยกีตาร์ตัวนี้” ต้อลส่งต่อด้วย “ต้องให้อีกคนมาเล่น เพราะว่าเห็นเขาซ้อมจริงจังมาก”

ก่อนส่งเสียงเรียก “เอ้า ตี๋ ตี๋ มา มา....มาสืบทอดทายาทอสูรหน่อยเร้ว”




เด็กสองคนเล่นกับหนึ่งเพลงบวกช่วงทอร์คก่อนและหลัง...กินเวลานานโข

จนเกิดความเห็นใจให้กับนักดนตรีแบ็คอัพ

“พี่เค้าเป็นวงดนตรีใหม่นะฮะวันนี้” ต้อลแนะนำเช่นเคย “ต้อลก็ไม่เคยเห็นหน้าเลยนะ” แล้วก็ตามธรรมเนียมดีดีที่ต้อลทำเป็นปกติ “เอ้า...ขอเสียงปรบมือให้พี่ๆนักดนตรีหน่อยไหมครับวันนี้” ก่อนอธิบายเพิ่มเติม “เป็นวงดนตรีเฉพาะกิจเฉพาะงานงานนี้เลยนะฮะ”

และก็ยัง...เล่นอีกตามเคยนะ...กาต้อล

“วันสงกรานต์นั่นเองนะครับ”


คราวนี้คนจำเป็นต้องคอยแก้ให้คือเหล่าบรรดาแฟนคลับตรงหน้า

“ลอยกระทง...ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก” กบยิ้มปากกบตายิบหยี....น่ารัก น่ารัก น่ารัก


กบรีบกลับเข้าหลังเวทีไม่รอรีเมื่อตี๋ก้าวเข้ามารับต่อ......กับเพลง ดาว


พอจบ........................


รู้สึกอะไรบ้างไหม....ใครสักคนหายไป

เมื่อก้าวขึ้นมานัทก็เลยขอตัดพ้อ

“ยังจำกันได้ไหมเนี่ย...หายไปหลายเพลงมากนะครับ” นัททำเสียงละห้อย “ไอ้เราก็เพิ่งจะรู้ว่าเค้าเรียงเพลงให้เราไม่ค่อยได้เจอกับใครเลย” ก่อนบอกให้รับรู้ “เล่นเหงาอยู่ข้างหลังคนเดียวตั้งนาน”


เพลงรักคุณเสียยิ่งกว่าใคร จบลง

เพลงปิดท้ายใกล้มา เด็กๆขึ้นมาจนครบ ก่อนอื่นตามธรรมเนียมกับเพลงอวยพรวันเกิด

ขอหยิบทอร์คส่วนคำแค่สองสามประโยคมาเก็บไว้...เพราะมันเด็ด บวก เจ็บ

ต้อลเอ่ยขึ้น “วันนี้วันเกิดต้อลด้วย” ก่อนต่อด้วยความรู้เท่าทันตัวเอง “ เกิดทุกวันล่ะอ๊ะ”

นัทที่ยืนหันหลังอยู่ไม่ไกล หันขวับกลับมาตอกตะปูฝาโลง “เกิดอยากจะพล่าม...อ่ะดิ”



เอ๋ยยยยยยยย นัทกรุ่นมาจากไหน
....จริงๆก็พอเห็นสีหน้าสีตานัทกับไอ้อาการอยากจะฟาดสักเปี๊ยะเวลากบมันไปเรื่อยน่ะ
ดูเหมือนนัทวันนี้จุดเดือดต่ำกว่าปกติ



กบก็ยังเป็นกบ คำแรงแค่ไหน...แต่ว่าเล่นก็ยังคือเล่น พูดตัดบทให้ทุกอย่างซอฟท์ลงแบบไม่เอามาใส่ใจ

“ชอบทำให้เสียบรรยากาศอยู่เรื่อย”


ก็อย่างที่นัทเคยเล่าเคยบอกมาให้ได้รับรู้ ว่านัทน่ะเป็นคนที่โกรธ แต่น้องชายไม่เคยเอาเรื่องราว ประมาณนัทน่ะโกรธต้อล แต่ต้อลไม่เคยโกรธนัท...............

นั่งมองนัทมาตลอดทั้งคอน เรื่องราวเหล่านี้ลอยกลับมาให้เห็นเป็นภาพชัด



ก่อนจบแซวกันกระจุยกระจาย

ทั้งขอโทษขอโพยถ้าได้ล่วงเกิน ทั้งกบสอนตั้งท่าไหว้ขอบคุณสวยๆที่มันเกือบไม่จบ....ถ้าพี่นัทไม่ตัดสินในยึดไมค์ต้อลมาเป็นตัวประกัน

เด็กทั้งสี่ก้มไหว้ขอบคุณสมกับเป็นเด็กไทยที่น่ารัก.....มาก

กาต้อล เด็กที่ตะลอนตะลุยไปกับคำพูดจาตลอดทั้งมินิคอนครั้งนี้ ทรุดตัวก้มลงกราบขอบคุณที่พื้นอย่างงดงาม


เด็ก...น่ารักทุกคน


เด็กสี่คนพากันปล่อยกระทงลอยขึ้นฟ้า









นัท ต้อล ตี๋ แพง .................ไม่ขอให้น้องพบเจอแต่เรื่องดี ดีหรอกเพราะเกรงใจเบื้องบนท่านจะทำงานหนักเกินไป
แต่หวังให้ เรื่องร้ายๆที่ชอบเดินทางเข้ามาหาอย่างไม่ยอมบอกกล่าวล่วงหน้า ก็ให้จากไปอย่างว่องโดยไม่ต้องกล่าวลาทักทาย
ในวันที่ความสุขกรูเข้ามาหาก็กอบโกยไว้เป็นกำไรในชีวิตละกัน
จะได้ไม่ต้องคิดถึงมันมากนัก เวลาที่อยู่ๆเจ้าความสุขถูกเจ้าตัวขี้เกียจเข้าคลอบงำจนมาหาเราช้าไปบ้าง น้อยไปหน่อย


ขอบใจน้องๆทั้งสี่ที่นำรอยยิ้มมาเปื้อนหน้าตลอดทุกช่วงเข็มนาฬิกาที่ก้าวเดินจ้า





Create Date : 19 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2551 12:13:32 น. 4 comments
Counter : 532 Pageviews.

 
....และขอบคุณพี่เจน ไม่มีพี่ คิวคงพลาดงานดีดีเพียบ
ขอบคุณที่คราวนี้ปล่อยคิว....ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ปล่อยให้คิวบ้าตามสไตล์ของคิวโดยไม่ต้องปะทะกับแรงกดอากาศต่ำ
ขอบคุณที่มอบความเข้าใจให้น้องคนนี้เสมอมาค่ะ



โดย: Quaver วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:03:45 น.  

 
อ้อ!

มีความสงสัยเกิดขึ้น ว่าทำไมเจ้าของบล็อกนี้ต้องผ่าเรื่องสองเรื่องเป็นสองส่วนอยู่เรื่อย



ก่อนตบท้าย

หนูขี้เกียจคลิก!!!!





เอิ้กกกกกกก

ขอตอบตรงนี้เลยละกัน

พี่ก็พย้าม พยายามแล้วที่จะจับมันยัดลงเป็นแค่บลลอกเดียวน่ะ
แต่น้องรู้ไหม...ความขี้โม้ของพี่ทำให้แต่ละบลอกมันอัดไม่ลง

แต่ละบล็อกเค้ากำหนดใช้ตัวอักษรได้แค่ 40,000ตัว เท่านั้นเอ๊งงงงง


แต่ไอคนขี้โม้อย่างพี่หยิบตัวหนังสือมาใช้งานอย่างหนักปาเข้าไปตั้งเกือบห้าหมื่นหกหมื่นตัวน่ะ


เค้าว่ากันว่า....คนไทยอ่านหนังสือปีละไม่เกินสามบรรทัด
พี่ก็เลยกะช่วยกระทรวงการศึกษาไทย เพิ่มอัตรเฉลี่ยให้มันสูงบ้าง....ก็แค่นั้นเอ๊งงงงง




ข้อแก้ตัวแบบกบฟังขึ้นไหมจ๊ะ
ถ้าไม่ขึ้นก็ปล่อยพี่ไปเห๊อะ
คลิกอีกคลิก...ไม่เมื่อยนิ้วเท่าไรหรอก
....ไอ้บรรดาตัวอักษรที่พี่หยิบมาใช้งาน ยังไม่กล้าบ่นเล้ยยยย ว่าพี่ใช้แรงงานเกินควรน่ะ



โดย: Quaver วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:11:52 น.  

 
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน

หนูชอบอ่านอะไรยาวๆค่ะ สนุกจัง

อ่านแล้วมีความสุขเน้อออออออออ


ขอบคุณพี่ Q นะคะ ที่มาเล่าเรื่องสนุกๆให้ได้อ่านตลอดเลย ตั้งแต่ในบ้านแมคแล้ว

ชอบวิธีการเล่ามากเลยค่ะ อ่านแล้วยิ้มแก้มปริ และฮา

บางอันฮากว่าดูคลิปอีก 5555


^________________________^


โดย: gibt วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:23:08 น.  

 
ดีใจจังน้องgibt

ที่เจอน้องหน้าตาคุ้นเคยมาทักทาย
พอมาเขียนบล็อกหาคนมาทักยากเจงๆ

นะ....มีคนเข้ามาอ่านก็ดีใจแล้วค่ะ



โดย: Quaver วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:57:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.