Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
4 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
ต้อล เจอ ว่าน...ก็ทันอยู่:partC





อินโทรดังขึ้น ว่านเดินออกมาหยุดรอ ยิ้มจนตาเป็นขีด แขนสองข้างกางกว้างราวจะโอบกอดเสียงเฮ


~จะดูรอบหนัง จะตีหน้าสดใส ก็ช่วยไม่ได้ ไม่ได้ ให้มันหยุดเหงา
จะเติมสีสัน ยังไงก็ยังงั้น ทุกวินาทีก้มมองก็เห็นแค่เงา~
~~~


ลำแขนตวัดไกวเป็นระลอกคลื่นเป็นลีลาประกอบการ เอิ่ม เต้น(มั้ง) แถมรอยยิ้มเขินฉายมาให้เห็นชัด

เนื้อเพลงดำเนินไปจนมาถึงท่อนดนตรีสั้นๆ....
พ่อหนุ่มหน้าตาเอาจริงรอเวลาอยู่แล้ว เอียงข้างทันที ตวัดมือที่ราวกับจะฟาดกะบาลใครทำเป็นเกลียวคลื่นอีกรอบ
แล้วเปลี่ยนมือจับไมค์มาทันท่อนร้อง

~ดูเขาจับมือกัน ผ่านไปทีละคู่~



...ว่านเป็นศิลปินที่ร้องเพลงดีมากประกอบการเอนเตอร์เทนที่ลงตัวดีนะ

อันนี้นอกรอบนะ
คือว่าเคยไหมคะ ที่เพลงฮิตบางเพลงน่ะ เราฟังแล้วสงสัยว่าทำไมมันฮิตได้น่ะ
ประเภทฟังรอบหนึ่งผ่านไป สองรอบผ่านไป รอบที่สามขอผ่านน่ะ
ก็ยังฟังไม่ออกว่ามันเพราะตรงไหน
แต่พอ...เพลงฮิตเพลงนั้นมันมาตกในมือของคนที่ร้องเพลงดีๆ
เราถึงได้รับรู้ว่า...เพลงนี้มันเพราะได้ขนาดนี้ สมแล้วที่มันเป็นเพลงฮิตขึ้นมา

ว่านกับต้อล เป็นนักร้องที่เวลาเอาเพลงคนอื่นมาร้องแล้ว ทำให้เรารู้สึกกับเพลงเพลงนั้นเปลี่ยนไปทุกครั้ง
คือจะชอบมากกว่าต้นฉบับ และรู้สึกว่าเพราะกว่าต้นฉบับ
...มันคือ ความลำเอียงหรือเปล่าน้า???





ท่อนฮุคสำคัญปิดท้ายมาถึง

~อยากมีsomeone someone~


แขนอวบๆของว่านยกมาข้างลำตัว ชักกลับไปมาเข้าจังหวะคำร้อง ตัวที่ย่อนิดๆ ขาขยับตามจังหวะ


การทุ่มสุดตัวเพื่อผู้ชมขนาดนี้ของว่าน ส่งผลที่เกินคาด
...........มีไอ้หนุ่มน้อยหนึ่งคนอดใจไว้ไม่ไหวก้าวเดินออกมาดูให้ชัดไม่ห่างจากด้านหลัง
ยิ้มซนๆของเด็กเกๆเต็มใบหน้า แถมทั้งเตรียมซุ่มซ้อมด้วยการ...มือสองข้างยกทำเป็นรูปหัวใจพร้อมสไลด์หมุนหนึ่งรอบ เตรียมพร้อมเอาไว้ เพื่อเก็บมาเป็นอาวุธทำลายล้างในช่วงเวลาต่อมา


~~~


กีต้าร์โซโล่ก่อนเข้าฮุคสุดท้าย
โดยมีว่านที่พยายามเต้น เอิ้กกก ไอ้ท่าขยับแบบนั้นจะเรียกว่าเต้นก็...
ถ้าตึกใหญ่ๆมีขาแล้วก้าวเดินได้ พี่ก็ว่า มันคงให้ความรู้สึกไม่ต่าง....กร๊ากกกก ขอโต๊ดดด
ก็แหม...ขนาดเจ้าตัวทุ่มเทจนลืมตัวก็ยังต้องออกตัวตบท้ายว่า....

“อายนะเนี่ย...อายนะเนี่ย” ว่านตะโกนกลบเกลื่อนกับรอยยิ้มที่ราวกับแยกเขี้ยว
เดินก้มหน้าก้มตา ตัดใจหมุนตัวรอบสุดท้าย ปลุกเร้าอารมณ์ด้วย “ช่วยกันครับ..มา! สุดท้ายแล้ว”

แขนยาวๆส่งมาด้านหน้าให้ถึงทุกคนดู

~อยากมีsomeone someone กุมมือชั้นไม่ว่าไปไหน someone someone สักคนให้ชั้นอบอุ่นใจ~
~I Iove You, Baby~


หนุ่มเจ้าของเสียงชวนใจสั่น ก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม

~I Iove You, Baby~
หนุ่มขี้เล่นโค้งกายมองไล่ทั่วห้อง กับรอยยิ้มหวาน

~I Iove You, Baby~
ชายหนุ่มตัวตัวยังกับตึก เอียงข้างกวาดมือครั้งสุดท้าย ทำท่ามูนวอร์คจนเกือบสุดเวที

ตบท้ายด้วยยิ้มเขินๆกับเกาหัวเบาๆชวนเอ็นดู
“เฮ้อออ” เสียงถอนหายใจปนโล่งอกดังแทรกมา


~อยากพูดคำนี้...จัง~
หยอดซะหวานหยดปิดท้าย



.....ต้องปรบมือดังๆให้ ไม่ว่าทั้งเสียงร้อง ทั้งลูกเล่น น้องได้ไปทั้งหมดใจ




ศิลปินขาแด้นซ์ก้มหน้าก้มตาหัวเราะเฮอะฮะ ยกตัวขึ้นยิ้มกว้างแล้วไหว้(รอบที่เท่าไรแล้วนะวันนี้)
“ขอบคุณครับ” ว่านหุบตัวใหญ่ลงเล็กน้อยไปมา “คงอยู่ไม่นานนะครับตรงนี้ เพราะว่าเขินมากนะครับ” ไอ้หนุ่มขี้เขินออกตัว “ขอตัวกลับไปซับเหงื่ออะไรข้างหลังนิดหน่อยนะครับ” แถมอธิบายลงลึกแก้เขินจัด “ติดขนตงขนตาให้เรียบร้อยแล้วเดี๋ยวเราออกมาเจอกันใหม่”


สองหนุ่มสวนทักทายกันกลางเวที

“ต้อลครับ”
“ครับ”
“รับหน้าที่ต่อครับผม”
หนุ่มขี้เขินยังก้มหน้าก้มตา ดึงเอาหัวไมค์เช็ดคราบ(น้ำลาย)อย่างแรงที่อกเสื้อส่งมอบให้ศิลปินรับช่วง
“อ่ะ..เชิญพี่ว่านไปพักนะครับ” ต้อลพูดส่งให้ขณะพี่ว่านเดินปรบมือท่วมหัวกลับไป

น้องชายที่แอบ ก็ไม่แอบนะ ออกมายืนดูด้านหลังตลอดเวลาสำหรับเพลงsomeone
ได้ยินทั้งเสียง ได้เห็นทั้งท่า
เพราะฉะนั้น...แซววาทีที่หายไปนานก็กลับมา
“แหม่...ทำไปด้าย” กบเน้นทีละคำ
กบชักเห็นว่าไม่ได้การ
พี่ชายโกยคะแนนไปอักโข ขอทวงตำแหน่งคืน
“เอาเพลงต้อลบ้างดีกว่านะ ฟังเพลงคนอื่นมาเยอะแล้ว เราก็...” กบยิ้มกริ่มจนตาพราว...แซวตัวเอง “มามะยมมะยมของเราดีกว่า”
แล้วยังติดใจ เพลงตัวเองที่โดนยำซะใกล้เละจากฝีปากเดี่ยวนัมเบอร์วัน
“มันเกี่ยวกันไหมเนี่ย” เสียงสงสัยสูงปิ๊ด ชวนละเหี่ยใจ “ไม่เกี่ยวกันเลย..นะ

อินโทรดังขึ้นจากกีต้าร์ไฟฟ้า

“มาดูสิว่ายังรักกันจริงอยู่หรือเปล่านะ” หนุ่มหัวยุ่งคาดโทษแฟนเพลงล่วงหน้า “ถ้ารักกันจริงต้องร้องให้มันได้ยินดังดัง”


~ปากบอกว่ารักแล้วดูเธอทำ พูดกันวันละคำสองคำ
บอกตรงตรงว่าคนรักกัน เขาไม่ทำ ไม่ทำ ไม่ทำ อย่างนั้นหรอก...จำไว้เลย~


ฮ่า ฮ่า ฮ่า...


~ไม่จำเป็นต้องแฟร์ ไม่ต้องแคร์เข้าใจ
หลอกกันไปมันไม่ดี ไม่ดี ไม่ดี เท่าไร...จำไว้เลย~


กร๊ากกกก

...ขอโทษ ต้อล ขอโทษ


~แต่เรายังรักกัน...ไม่ใช่เหรอ~


...นะน้องนะ




“ฮู้ววววว์” น้องชายคนนี้ตะโกนอย่างสะใจ ก้มตัวยกไหว้ “ขอบคุณมากครับ”

เพราะเสียงที่ร้องตามกระหึ่มจริงๆ

หนุ่มน้อยยกนิ้วชูแทนคำขอบคุณบวกชมเชยในพลังที่ส่งมอบให้
“โหย..ดีใจมากๆจริงๆนะครับ” กบน้อยบอกอย่างตื้นตันใจ “เสียงไม่มีเลยนี่”

เสียงกรี๊ดแหลมดังขัดมา... ให้กบฉวยเอามาประชดเล็กๆ “มันดีเลย์ไปไหม”
ประชดพักหายใจเสร็จ ศิลปินสารภาพ
“คิดถูกแล้วที่เก็บเพลงนี้ไว้เพลงสุดท้ายนะครับ” กบหอบจนได้ยินชัด “ต้องขอบคุณพี่นัทมากนะเนี่ย”
กาต้อลเข้าสู่โหมดจริงจังมีสาระ...สักครั้ง
“เพลงนี้เป็นเพลงที่...จะบอกว่าเป็นเพลงที่ร้องยากมาก...มาก เพราะว่าใช้เสียงเยอะมากนะครับ” กบเล่าประวัติ “ตอนอัดนี่ก็ อัดประมาณสามสี่รอบนะครับ กว่าจะ...”

เสียงแซวขัดมาจากด้านหลังเหมือนดูถูก

“แค่นั้นเองเหรอ” กบทวนคำดูถูก ขออธิบายต่อ “สามสี่รอบนี่ก็เสียงหมดแล้วนะครับ ก็เลย..” กบยังหอบฮัก “เก็บเพลงนี้ไว้ท้ายๆละกันนะ"

ในเมื่อกบยังคาใจกับคำล้อเลียนก่อนหน้านี้ของพี่ชายตัวดีไม่เลิก ก็ต้องเอาคืนบ้าง
“พี่ว่านว่าต้อล ร้องเพลงนี้แล้ว...อะไรไม่ท้องนะ” กบพูดนิ่มๆหน้าตาเป็นผ้าโดนรีด ขายาวเก้งก้างเดินไปสองสามก้าว ตากลมๆมีลูกยิ้มวิ่งไล่วน

ถึงเวลาเอาคืน...คิดดอกทบต้น

“มันจะท้องได้ไง” กาต้อลไม่เข้าใจ “ก็พี่เขา...ระยะปลอดภัยลูกเดียวเลย”



กร๊ากกก ขอทาย....รับรองน้องคนนี้คงอดใจมาตลอดงาน คิดหาทางแก้เผ็ดไว้เงียบกริบ
คงกะเอาคืนช่วงปิดท้ายนี่ล่ะ
มีหวังเป็นโอกาสที่เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อมาโดยตลอดด้วยซ้ำ



เสียงเฮรับคารมกบจบลง อีกหนึ่งเสียงนุ่มทุ้มสอดตามมาไม่ให้เสีย

“ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้ล่ะ...น้องเอ๊ย” หนุ่มตัวใหญ่นั่งพิงรอที่ข้างฝารำพึงอย่างคนผ่านชีวิตมาก่อน
หนุ่มน้อยกว่าหันตามเสียง ก้าวไปเชื้อเชิญ “มาเลยครับพี่ ระยะปลอดภัย” มือสวยกวักยิก “เชิญครับ”
คุณว่านก้มหน้าก้าวเดินออกมาตามคำร้องหา
“สุดท้ายแล้วนะครับ” หนุ่มหัวยุ่งผู้น้องประกาศให้รับทราบโดยทั่วกัน


สองหนุ่มยืนเคียงข้างปิดท้ายมินิคอน
เพลงสุดท้ายกบยื่นขอเสนอ(ชวนตกใจ)ที่นานๆจะมีที
“เดี๋ยวให้พี่ร้องต้อลเต้นไง”
หนุ่มตัวโตก้มหน้าขบคิดกับข้อเสนอที่ชวนไม่น่าวางใจ
“หรือจะให้ต้อลร้องพี่เต้น” กบเสนออีกทาง
“เมื่อกี้เห็นสเต็ปเปล่า เห็นสเต็ปเปล่า” บี้เดอะเอเอฟเกามือยิกโอ่
“เห็นแล้ว” ต้อลจำใจยอมรับ
“เห็นสเต็ปเป่า” ว่านยังโอ้อวดไม่หยุด “พรึ่บพรั่บ พรึ่บพรั่บยังงี้”
“มันธรรมดา ธรรมดา” กบเกทับหมดหน้าตัก “ขอจริงต้องอย่างงี้”

กาต้อลเตรียมเต้น!!!
โห.....ไอ้น้องถึงกับฝากไมค์ให้พี่ว่านถือ

หนุ่มน้อยเคลื่อนมูนวอร์ค มากับแขนสองข้างตวัดโค้งทำท่ารูปหัวใจตรงอก
....ก็ไอ้ท่าที่ซุ่มซ้อมตอนพี่เขาโชว์นั่นล่ะ เด็กคนนี้เดินหมากล่วงหน้ากะเก็บทั้งกระดาน

หนึ่งเสต็ปที่ออกมากับรอยยิ้มพราว เรียกเสียงกรี๊ดแทบผับกระเจิง
ทำอะไรไม่ได้.....ว่านยังต้องยอมยกนิ้วให้

“อันนี้ somebody love ครับ” เสียงนุ่มโอ่บอกทับเสียงกรี๊ด

ถึงคิวว่านตามเสียงเรียกร้อง เพียงแต่ว่า....
“ยอม” ว่านตวัดเสียงตอบกลับยอมแพ้ไม่คิดสู้ ถอยหนีโดยพลัน
“พี่” กาต้อลเดินตามไปดึงไว้ ยิ้มจนหัวเราะเกาะบ่าว่านไม่ให้หนี สารภาพประมาณรู้ตัวตามมา “ต้อลว่าถ้าพี่ไม่ยอมอ่ะ มันจะขายหน้ากว่านี้” กบหัวเราะกลั้วไม่หยุด
คุณว่านหัวเราะ หุ หุ หุ เข้าใจตามประสาคนหัวอกเดียวกัน
“ตะกี้เป็นต้อลน่ะ คงไม่รู้จะเอาหัวมุดไว้ที่ไหนแล้วนะ” มือเรียวสวยทาบอกย้ำสารภาพบาปอีกครั้ง
พี่ชายเงยหน้าขึ้นมองยังคงนิ่งฟัง
“กล้ามาก” กาต้อลชมเชยต่อเนื่อง “ขอเสียงปรบมือให้พี่ว่านหน่อยครับ”
หนุ่มว่านยืนตัวตรงแหน๋ว ทำหน้าเหรอหราไม่ต่อปากต่อคำ หน้าตาเด๋อส่ายไปมาซ้ายขวาไม่หยุด
“โอ้โห มันคุ้มค่ามากสำหรับวันนี้นะครับ” กบผายมือให้พี่ชายคนเก่ง “ต้องยอมให้พี่เขาเลยนะครับ”
ว่านเริ่มเหี่ยวรับคำชมประหลาดๆ
“เอาใหม่ดิ๊พี่ ขอดูเป็นขวัญตาด้านหน้าได้ไหม” กบชงยาจีนขมปี๋ให้พี่กะไม่ให้ตั้งตัวไม่ติด
“อะไร!” ว่านหลุดปากโพล่งออกมา
“ตะเกี๊ย ท่าต่ะเกี๊ย” หนุ่มนักชงทรุดตัวลงนั่งต่อหน้าชั้นเฟิร์สคลาส “someone someone”

คิดหรือว่าว่านจะถอย...ไม่มี๊
ระดับคุณว่านไม่เคยถอยหนีง่ายๆ
เมื่อมีเสียงเรียกร้อง...ก็จัดมา

หนุ่มตัวใหญ่ย่อตัวลงเล็กน้อยสร้างระดับ มือซ้ายกำแน่นยกข้างลำตัวปล่อยเป็นปืนบาซูก้าพร้อมเสียง...
“พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ....พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ”
กบน้อยเห็นจนพอใจลุกขึ้นยืนมาถามเหล่าผู้ชมว่า
“อย่างนี้เลยหรือครับ..ต่ะกี้ อย่างงี้เลยหรือครับ” กบย้ำเพื่อความแน่ใจกับสเต็ปเทพของพี่ชายตัวป่วน
เพื่อเป้าหมายที่แอบแฝงเปิดเผยตามมา
“เห็นข้างหลังมันไม่เห็น” กบทำตาปิ๊งปิ๊ง “มันเห็นแต่ตูดบิดไปบิดมานะครับ” กบพยายามส่ายให้เห็นภาพ แต่ภาพที่เห็นก็คือกบพริ้วส่ายไม่เฉพาะตูดแต่มันไปทั้งตัว


ฮ่า ฮ่า ฮ่า กะเอาคืนพี่ว่านเขา คนดูเลยได้เห็น....
กบพริ้วซะ...ยิ่งกว่าต้นฉบับ



ว่านหรือจะยอม ลูกเล่นน่ะมีเป็นกระบุง
“อ๋อ...นี่เป็นท่าล่าง ท่าล่าง” ว่านก็ส่าย “ปึ้บ ปึ้บ ปึ้บ ปึ้บ” ว่านขยายความ “แต่เราแยกประสาท” ว่านแนะนำไล่มาทีละส่วน “หัว ไหล่ มือ แล้วก็ ปุ๊บ ปุ๊บ ปุ๊บ ปุ๊บ” แนะนำมาถึงส่วนล่าง..ส่ายตุบตับ “ปุ๊บ ปุ๊บ ปุ๊บ ปุ๊บ...เนี่ย”
เจอมาสเตอร์ใส่เป็นชุดไม่มีหลบ เด็กรุ่นน้องเอาได้แต่จ้อง สุดท้ายเลยต้องหัวเราะรับเป็นลูกคู่
“มันต้องฝึกหัด” ว่านมอบคำแนะนำปานครูเป็ดมาเอง “คือการเต้นเนี่ยเราซ้อม ต้องซ้อม”
“ต้องแยกประสาทเยอะมาก” นักเรียนแด้นซ์ฝึกหัดรับรู้
“อยู่บ้านต้องซ้อม...นะ” ครูว่านสั่ง
“ทำไม่ได้ขนาดนั้นนะ” นักเรียนขอยกธงขาวเอาดื้อๆ
“ซ้อม..ม คึ คึ คึ” ว่านแม้พยายามจะตะแบงต่อทนความโวเกินตัวรับไหวหลุดกลั้วหัวเราะมาอย่างทนไม่ไหว
หนุ่มรุ่นพี่ตัวโตเดินหนีบหนีไปอีกทางพร้อมหลุดปาก
“อาย” ว่านหัวเราะจนปากกว้าง ว่าตัวเองซ้ำ “ห่วย”
สองหนุ่มหัวเราะร่วนเข้าใจตามประสาคนพันธุ์เดียวกัน
“โอเค” กาต้อลยอมช่วย เปิดทางรอดให้พี่ว่านเดินโล่ง
“ครับ” หนูว่านตะโกนรับคำ
“เรามา...เพลงสุดท้ายแล้ว ขอแบบ..” ศิลปินหนุ่มกระตุ้นแฟนเพลง “หลังๆใครสะดวกยืนก็ยืนนะครับ ..สุดท้ายแล้ว ไหนไหนแล้วก็...”
ศิลปินรุ่นน้องกำลังชักชวน
ศิลปินรุ่นพี่ชักสายตายาว มองทะลุไปถึงหลังห้อง
“ตามวัยล่ะครับ” ว่านทำเป็นยอมเข้าใจ
“ใครรู้ว่ายังไม่แก่ขนาดนั้นก็ยืนขึ้นมาได้นะครับ” ต้อลทั้งชักทั้งจูง “คนที่ยังไหวก็ไหวนะ”


ฮ่วย....มีศิลปินปากจัดในดวงใจก็ต้องกัดฟันทนกันไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า


“เรามาระยะฟักไข่กันดีกว่า” หนุ่มน้อยชักชวน
“ปลอดภัยครับผม” ว่านแก้ขึ้นมาอย่างรู้หน้าที่

โซโล่ดังขึ้น

กบน้อยถอยไปเป็นหางเครื่องยืนขยับไปมา เซิ้งรักได้อีกประกอบลีลาเล็กน้อยเป็นน้ำจิ้มรับเสียงกรี๊ด

~ช่วงเวลาดีดีที่เธอและฉันไม่ต้องกังวลอะไร เป็นช่วงเวลาดีดีที่เราทั้งสองจะมีความปลอดภัย~

~~~



ว่านถาม ~ลองดูที่แก้มฉัน เธอนั้นว่ามีอะไร~
ต้อบขอเฉลย “ตอนนี้เป็นสิว เป็นสิว”



สองหนุ่มยกมือแตะหน้าผากพร้อมร้อง
~เอามือไปแตะหน้าผากว่าตัวร้อนไหม~


...แล้วอย่านึกว่าวันนี้ต้อลจะไม่เป็นพระปะโทน น้องหยอดไว้นิดทั้งๆที่น้องประกบกันมา
หนุ่มน้อยตาพราวระยับก่อนร้องเพิ่มน้ำหนักเน้นดังทับเสียงเจ้าของเพลง
พร้อมมือที่ยืดชี้เป็นสัญลักษณ์ให้เตรียมตัวรอฟัง....คารม

~อยากให้มันเป็นยังไง จะยืนจะล้มจะนอนตะแคงยังไง~

~~~




ช่วงโซโล่ยาวๆมาถึง น้องชายที่ถอยไปด้านหลัง ถูกพี่ชายเชื้อเชิญให้เดินออกมาโชว์เสต็ป

กบว่าง่าย...วันนี้ หน้าตาขบคิดหนัก แขนปล่อยข้างลำตัวก่อนตัดสินใจ...
ยกมือเซิ้ง....ท่ารักได้อีกนำร่อง กับแก้มยุ้ยๆที่แอบกลั้นความเขินเอาไว้จนเห็นชัด

ยกหนึ่งผ่านไป

“โชว์มั่ง..โชว์มั่ง”กบน้อยผู้ไม่ยอมเสียเปรียบกระตุ้นเตือน “เอาหน่อย เอาหน่อย...เอาหน่อยน่ะ!”
ว่านยิ่งครุ่นคิดหนักกว่า หน้าตาราวกับแบกหินไว้เป็นตัน
“ฮู้ววว์......ขอเสียง ขอเสียงหน่อยครับ!” กบน้อยปิดประตูตีแมวยักษ์

ยกสอง(จำใจ)เริ่มขึ้น
กาต้อลถอย...เปิดพื้นที่กว้างบนเวทีให้พี่ว่านโชว์เต็มที่

คุณว่านตัดใจกระโดดซ้ายขวาเป็นกระต่ายนวดแป้ง ปิดท้ายเสียงเฮรับด้วยตวัดมือเลื้อยเซะซี่แยกประสาทส่วนบนลงล่าง
นำพารอยยิ้มกว้างของไอ้เด็กรุ่นน้องที่มากับเสียงตะโกนอย่างปลาบปลื้ม
“โห...สุดยอด”

สองหนุ่มหลังจากปล่อยอายกันไปคนละยก
กระโดดเต็มกำลังร้องตะโกนชักชวนกระตุ้นอารมณ์จนห้องเล็กๆแทบทะลาย

“เป็นไงครับ...ช่วยกัน...ยกมือ”


~มีบรรยากาศฝนตกรถติดช่วยฉัน ยังมือเปล่าว่างอยู่ให้จับเท่านั้น
ลองดูที่แก้มฉัน เธอนั้นว่ามีอะไร~




กลองรัวเร้าอารมณ์
สองหนุ่มยกมือพาดไหล่โค้งคำนับพร้อมกัน ยกมือไหว้ขอบคุณปิดท้าย

“ขอบคุณมากครับ”

คือคำพูดที่เด็กสองคนมอบให้แฟนเพลง และมอบให้แก่กัน

“ขอบคุณพี่ว่านมากครับ” กาต้อลยกมือไหว้โค้งขอบคุณ
“ขอบคุณต้อลมากครับวันนี้” คุณว่านโค้งตัวไหว้ขอบคุณกลับไป


“วันนี้ขอบคุณแฟนคลับน้องต้อลด้วยแล้วก็วันนี้สนุกมากสำหรับผมนะครับ” ว่านคนขี้อายที่ไม่ชอบสบตาใครเวลาพูดอะไรซึ้งๆและจริงจัง มือกวาดยกให้น้องชายคนเก่ง “สำหรับต้อล...เยี่ยม!”
“เช่นกันพี่” กาต้อลสวนคืนไม่รอช้า “เยี่ยมมากๆ”


กาต้อลขอเสียงให้เหล่านักดนตรีทุกคนที่ร่วมงานกันในวันนี้
ศิลปินทั้งสองผายมือเปิดส่งให้ทั้งตัว

“เอ๊ย มัน มัน ชอบ ชอบ ชอบ” ว่านตบไหล่บอกน้องชาย
น้องชายยิ้มรับแปะบ่าขอบคุณ


ตามธรรมเนียมปฏิบัติ อังกอร์ปิดท้ายส่งมา
(ทำเอาต่อมสงสัยทำงาน จะมีคอนไหนบ้างที่ปล่อยศิลปินกลับไปง่ายๆโดยไม่ร้องขอให้เอาอีกบ้างนะ
ถ้าขืนมีจริงๆ ศิลปินมีหวังกลับไปนอนคิดมากที่บ้านแหงมเลย)

“หมดเวลาแล้ว” ศิลปินเอาแต่ใจตวัดเสียงสูง “ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรานะ”
“ถ้าเกิดอยากดูอีกก็ ภาคสองละกันนะครับ” ว่านอ่อยทิ้งท้าย “รับรองว่า ภาคสองผมเต้นแรงกว่านี้อีก”
“มีถ่งมีถอด มีถ่งมีถอดเลยนะ” ต้อลกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์
“อ๋ายยยย” ว่านแอบอายร้องประท้วงซะหน้ายับยู่

สองหนุ่มการันตีมินิคอนครั้งนี้อีกครั้ง
“วันนี้สนุกมากจริงจริง” ต้อลบอกกล่าวความรู้สึกกับศิลปินที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาในวันนี้
“สนุกมากครับผม” ว่านก็เช่นกัน


ปิดท้ายด้วยคำคมประจำตัวหนุ่มน้อยขายาวสองคนฝากเตือนด้วยความห่วงใย


“ขอบคุณนะครับ กลับบ้านดีดีนะครับ”
“ขับรถระวังชน ซุกซนระวังเอดส์นะครับ”




ศิลปินเดินจากไปพร้อมกับหน้าที่สมบรูณ์แบบตลอดชั่วโมงครึ่งที่ผ่านมา
ผู้ชมทยอยออกมาพร้อมความรู้สึกที่ตักตวงมาอย่างเต็มเปี่ยมเก็บไว้ในลิ้นชักแห่งความทรงจำ



ในที่สุดตัวเราเอง...
ก็ได้ไขขานกับความคิดที่ติดค้างอยู่ในใจ

ว่านจะต้อนกาต้อลให้จนมุมได้ด้วยวิธีไหน
กาต้อลจะสู้ทางพี่ชายจอมแพรวพราวคนนี้ไหวไหม
และทางดนตรีของเด็กผู้ชายสองคนนี้
จะสร้างสีสันได้หลากสีมากมายเท่าสายรุ้งใต้ละอองน้ำของดวงอาทิตย์ยอแสงหรือไม่

คำตอบมาพร้อมกับเสียงชื่นชมกับรอยยิ้มในห้องเล็กๆที่อัดแน่นด้วยผู้คนผ่านช่วงเวลาที่แสนสั้น



ขอบคุณศิลปินสองหนุ่มจอมยุ่งแสนยียวนที่ร่ายเวทมนตร์ผ่านเสียงดนตรีชวนสนุกและแสนทึ่ง
..จะไม่ลืมเลยล่ะ
















Create Date : 04 มกราคม 2552
Last Update : 4 มกราคม 2552 19:39:33 น. 0 comments
Counter : 631 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.