เวลาเดินเท่ากันทุกคนแต่หัวใจเราเต้นไม่เท่ากัน ...

<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
10 ธันวาคม 2552
 

ทำไมถึงคิดว่า การลงทุนในตลาดหุ้นถึงมีความเสี่ยงสูง

ผมมีบทสัมภาษณ์ ที่น่าสนใจ ในหนังสือM&W ฉบับที่ 78 ดร. ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ได้ให้แนวคิดในการลงทุนไว้ ก็ขอคัดลอกมาบางส่วนดังนี้...

“ผมเห็นนักวางแผนการเงิน หรือที่ปรึกษาการเงินวางแผนวงกลมให้ลูกค้าแล้วบอกว่าอายุน้อยๆ สามารถรับความเสี่ยงได้สูงๆผมว่ามันผิด”
เหตุผล เพราะว่าคนอายุน้อยๆ ประสบการณ์การลงทุนย่อมมีน้อยหรือยังไม่เก๋า ซึ่งดร.ก้องเกียรติคิดตรงข้ามและวิธีปฎิบัติส่วนตัวก็ตรงข้ามกับบรรดานักวางแผนการเงิน โดยช่วงที่เป็นวัยรุ่น ดร.ก้องเกียรติจะลงทุนกับสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่นฝากธนาคาร ซื้อพันธบัตร ซื้อตราสารหนี้ ซื้อประกัน ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ แต่เมืออายุมากขึ้นประสบการณ์การลงทุนก็มีมากขึ้น ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก็สูงขึ้น (Risk appetite) ค่อยเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น


(ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมแนวความคิดของดร.ก้องเกียรติ ลองไ ปหาอ่านในหนังสือ M&W ฉบับที่ 78 เดือนตุลาคม 52 นะครับ)
.......


ผมอ่านแล้วทำให้ผมต้องไปค้นข้อมูลเรื่อง ความเสี่ยงในการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ..
แต่ผมยังไม่สามารถตกผนึก ความคิดออกมาได้แจ่ม (เมือไร ได้จะมาเขียนอีกรอบ)
เอา ณ ความคิดขณะจิตนี้ก่อนแล้วกัน

-ทำไมคนเราถึงต้องออมเงิน เก็บเงิน เพื่ออะไร
คงไม่ต้องเขียน มีให้อ่านมากมาย ขอผ่าน

-เหตุใดถึงนิยมออมเงินในธนาคารมากที่สุด...
ในปัจจุบันคงหายากที่เก็บเงินในหีบในไห ฝังดิน ดังนั้นทางออกจึงต้องหาวิธีเก็บเงินในที่ที่เราคิดว่าปลอดภัยที่สุด
แต่ทว่า เราๆก็ทราบกันดี อัตราเงินเฟ้อมันแผลงฤทธิ์กับเงินต้นของเราเมือเวลาผ่านไปทำให้เรามีมูลค่าเงินลดลงไปเรื่อยๆ
ดังนั้น เราจึงต้องเลือกที่จะเอาเงินต้นเราไปฝากในรูปแบบต่างๆ โดยเส้นทางหลักที่คนนิยมกันก็คือ ธนาคาร

-เราออมเงิน เราหวังอะไร

เพื่อความปลอดภัย เงินไม่สูญหาย เป็นเหตุผลหลักของคนทั่วไป
และที่สำคัญในปัจจุบัน เราหวังที่จะมีกำไรจากต้นทุนของเราเอง โดยเงินต้นไม่ลดลง (อันนี้ผมคิดอีกมุม คือ เวลาเราฝากของมีค่าต่างๆในสถานที่ต่างๆเค้าคิดค่าฝาก แต่เราฝากเงินในธนาคารเราดันคิดกำไรให้ตัวเราเอง อิอิ จริงๆแล้ว ธนาคารเอาเงินเราไปหมุนเวียนให้เงินงอกเงย เลยต้องมีกำไรมาคืนเจ้าของเงินด้วยก๊าบบ )

ขอเน้นคำว่า มีกำไรและเงินต้นไม่ลดลง

คำๆนี้นี่เองทำให้ เราเลือกที่จะออมเงินในรูปที่มีความเสี่ยงน้อย

และมาคำถามสุดท้ายที่ผมตกผนึกออกมาได้ ...


-ทำไมถึงคิดว่า การลงทุนในตลาดหุ้นถึงมีความเสี่ยงสูง

ผมอ่าน ข้อความข้างต้นของดร.ก้องเกียรติแล้วทำให้ผมได้ แนวคิดมาบางอย่าง นั้นคือ สิ่งที่ทำให้มีความเสี่ยงสูงของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ นั้น ไม่ใช่เพราะเงินต้นหาย หรอก มันก็แค่ปลายทางของเหตุผล ของความเสี่ยง สูง

ต้นทาง ของความเสี่ยงนั้นคือ ตัวเรานั่นเอง ...

ตัวเรามีความพร้อมในการรับความเสี่ยงแค่ไหน
ที่ผมบอกก็คือ ไม่ใช่เราพร้อมที่จะเสียเงินได้มากแค่ไหน แต่ตัวเราพร้อมที่จะเผชิญกับความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นมากแค่ไหนต่างหาก...

ความพร้อมที่เขียนถึง คืออะไรล่ะ

ประเด็นที่ผมมองอันดับแรกคือ
ผมมองข้อได้เปรียบและเสียเปรียบระหว่าง วัย เช่น คนอายุมากขึ้นรวมถึงคนที่มีประสบการณ์มากขึ้นจะมี วิจารณญาณ และการตัดสินใจรวมถึงเหตุผล น่าจะเป็นข้อได้เปรียบกว่าคนอายุน้อย แต่ก็ไม่ใช่เสมอไปแต่น่าจะส่วนใหญ่
อันดับต่อมาคือ ความมีวินัยของคนๆนั้น และการศึกษาแนวทางการลงทุนรวมถึงการหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ


ที่เขียนก็แค่บอกแค่ว่า ให้มองที่ตัวเราเองว่า ตัวเราพร้อมแค่ไหน
ถ้าไม่พร้อม แต่อยากหาประสบการณ์ ก็กระจายความเสี่ยง ให้เหมาะสม
ถ้าพร้อม ก็เพิ่มในอัตราที่เหมาะสม

เมือนั่น ....
ตัวเราที่มีความพร้อมในการรับความเสี่ยง( เช่น นิสัย วินัย ประสบการณ์ ความรู้ สภาวะจิตใจ) ก็จะแปรผกผัน กับความเสี่ยง
ยิ่งเราพร้อม เราก็จะมีความเสี่ยงลดลง
เหมือน ดั่งที่ดร.ก้องเกียรติเขียน คำว่า risk appetite การยอมรับความเสี่ยง ซึ่งน่าจะหมายถึง เรามีความพร้อมที่จะเผชิญความเสี่ยง แค่ไหน ต่างหาก


ยิ่งคุณพร้อมมาก คุณก็เสี่ยงน้อยลง

ผมลองยกตัวอย่างเอามาโยงกับเรืองราวต่างๆที่เขียนไว้ข้างต้น
-คุณจะไปปีนเขา แต่คุณไม่เคยฝึกไม่เคยเรียนรู้ คุณมีนิสัยกลัวความสูง หรือ คุณอายุมากๆ คุณเสี่ยงไหม
- คุณมีสติ ไม่กินเหล้า ขับรถตามกฎ มีวินัย ถามว่า คุณมีความเสี่ยงมากหรือน้อยกว่าคนกินเหล้าแล้วขับรถ


เมือไรที่เรามีความเสี่ยงน้อย เมือนั้น มันก็ใกล้เคียงกับ ความเสี่ยงอื่นๆที่เราเผชิญ
การลงทุนในหุ้น สุดท้าย ก็อาจจะเป็นแค่การออมเงินในรูปแบบหนึ่งของเราเท่านั้น

ผมเดาว่า หลายๆคนก็คงทำใจได้ยากว่า นี่คือการออมเงิน เพราะ เรามองว่า การออมเงินนั้น เงินต้นไม่ลด กำไรต้องมี

แต่ เมือไรที่คุณพร้อมที่จะลงทุนในตลาดหุ้น (เสมือนนักกีฬาที่พร้อมจะแข่งขัน )
คุณก็จะคิดว่า มันก็คือ การออมเงิน ที่เงินต้นไม่ลด กำไรก็มีได้เช่นกัน



Create Date : 10 ธันวาคม 2552
Last Update : 10 ธันวาคม 2552 20:18:49 น. 3 comments
Counter : 2881 Pageviews.  
 
 
 
 
จริงๆเราก็ไม่รู้นะ ว่าเราพร้อมหรือป่าว

แต่ไม่ลองก็ไม่รู้ ถือว่าค่อยสะสมประสบการณ์ไป

คิดแบบนี้นะ อิอิ
 
 

โดย: Kookkai IP: 125.25.230.247 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:21:07:44 น.  

 
 
 
ทุกคนมีจุดหมายของชีวิต แต่คนๆนั้นจะเริ่มทำเพื่อให้ไปถึงจุดหมายเมื่อไหร่ เท่านั้นเอง

"ออมก่อนรวยกว่า"
 
 

โดย: bank IP: 119.31.126.141 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:22:33:05 น.  

 
 
 
ยอดเยี่ยมครับ
"ยิ่งคุณพร้อมมาก คุณก็เสี่ยงน้อยลง"
 
 

โดย: set2000 วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:19:04 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

kunjoja
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add kunjoja's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com