Helsinki เฮลซิงกิ เมืองที่มีประชากรมากที่สุดของฟินแลนด์เฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของฟินแลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งของอ่าวฟินแลนด์เป็นที่ตั้งของ Uusimaa ทางตอนใต้ของประเทศฟินแลนด์มีประชากร 650,058 คน เขตเมืองของเมืองมีประชากร 1,268,296 คนทำให้เป็นเขตเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในฟินแลนด์รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางการเมืองการศึกษาการเงินวัฒนธรรมและการวิจัยที่สำคัญที่สุดของประเทศ เฮลซิงกิตั้งอยู่ 80 กิโลเมตร (50 ไมล์) ทางเหนือของทาลลินน์, เอสโตเนีย, 400 กม. (250 ไมล์) ทางตะวันออกของสตอกโฮล์ม, สวีเดนและ 300 กม. (190 ไมล์) ทางตะวันตกของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, รัสเซีย มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ใกล้ชิดกับเมืองทั้งสามนี้ภาพ วิกิพีเดีย
เมื่อรวมกับเมืองต่างๆในเมือง Espoo, Vantaa และ Kauniainen และเมืองที่อยู่รอบ ๆ เมืองเฮลซิงกิได้รวมตัวกันเป็นมหานครมหานครเฮลซิงกิซึ่งมีประชากรเกือบ 1.5 ล้านคน มักจะถูกมองว่าเป็นเมืองหลวงเพียงแห่งเดียวของฟินแลนด์มันเป็นเขตเมืองเหนือสุดของโลกที่มีประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคนรวมทั้งเป็นเมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป หลังจากสตอกโฮล์มและออสโลเฮลซิงกิเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศแถบนอร์ดิก Nordic(ชาวยุโรปเหนือ) เมืองนี้ให้บริการโดย international Helsinki Airport สนามบินนานาชาติเฮลซิงกิซึ่งตั้งอยู่ในเมืองใกล้เคียงของ Vantaa วานตา พร้อมบริการไปยังจุดหมายปลายทางหลายแห่งในยุโรปและเอเชียเป็นประจำมหาวิหารเฮลซิงกิเป็นหนึ่งในอาคารที่โดดเด่นที่สุดในเมือง
เฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงแห่งการออกแบบระดับโลกสำหรับปี 2012 สถานที่สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1952 และ the 52nd Eurovision Song Contest in 2007 เป็นเจ้าภาพการประกวดเพลงยูโรวิชันครั้งที่ 52 ในปี 2550Coat of arms
เฮลซิงกิเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมาตรฐานการครองชีพสูงที่สุดในโลก ในปี 2011 นิตยสาร Monocle ของอังกฤษติดอันดับเฮลซิงกิเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกในดัชนีเมืองที่น่าอยู่ ในการสำรวจความสามารถดำรงชีวิตของ Economist Intelligence Unit ในปี 2559 เฮลซิงกิอยู่ในอันดับที่เก้าจาก 140 เมืองตอนกลางของเฮลซิงกิในปี 1820 ก่อนที่จะสร้างใหม่ ภาพประกอบโดย Carl Ludvig Engel
ประวัติในปีพ.ศ. 2093 พระเจ้ากุสตาฟที่ 1 แห่งสวีเดน ทรงก่อตั้งเมืองเฮลซิงกิขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการค้า แข่งกับเมืองทาลลินน์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอ่าวฟินแลนด์ จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางการทหาร เฮลซิงกิจึงตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำวันตา ได้รับการปกป้องจากบรรดาเกาะเล็กๆทั้งหลาย ในช่วงแรกเฮลซิงกิไม่ประสบความสำเร็จมากนัก 90 ปีต่อมา สมเด็จพระราชินีคริสตินา ทรงดำริให้ย้ายเมืองไปทางใต้ 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบันของเมือง เฮลซิงกิได้รับสถานะเป็นเมืองสำคัญ สามารถทำการค้าขายกับต่างประเทศได้ แต่ในเวลานี้สวีเดนได้ครอบครองทางใต้ของอ่าวฟินแลนด์แล้ว เฮลซิงกิจึงไม่มีความสำคัญมากนัก และยังคงเป็นเมืองเล็กๆอยู่การก่อสร้างของ Suomenlinna เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 18
ในปีพ.ศ. 2291 เริ่มมีการสร้างฐานทัพ Suomenlinna บนหมู่เกาะบริเวณปากอ่าวของเฮลซิงกิ การก่อสร้างนี้ส่งผลต่อเฮลซิงกิจากการที่คนงานนับพันคนเข้ามาทำให้การค้าเจริญเติบโตขึ้น รวมถึงทหารประจำการที่มาพร้อมกับครอบครัวและวัฒนธรรมแบบชาวสวีเดนชั้นสูงทัศนียภาพอันงดงามเหนือหัวเมืองทางใต้สุดของเฮลซิงกิจาก Hotel Torni โบสถ์เก่าเฮลซิงกิและสวนสาธารณะโดยรอบนั้นมีให้เห็นในเบื้องหน้าในขณะที่หอคอยโบสถ์เซนต์จอห์น (ใกล้ศูนย์กลาง) และโบสถ์มิคาเอลอะโคลา (ขวา) สามารถมองเห็นได้ในระยะกลางโดยถอยห่างจากอ่าวฟินแลนด์
พ.ศ. 2351-52 เกิดสงครามระหว่างรัสเซียและสวีเดน ดินแดนฟินแลนด์ตกเป็นส่วนหนึ่งของสวีเดนในฐานะราชรัฐปกครองตนเองฟินแลนด์ ชาวฟินแลนด์บางส่วนเริ่มสนับสนุนความคิดการตั้งเฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงของราชรัฐ ความคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากฝั่งรัสเซียเช่นกัน เนื่องจากเฮลซิงกิอยู่ใกล้กับเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมากกว่า และมีอิทธิพลของสวีเดนน้อยกว่าตุรกุซึ่งเป็นเมืองหลวงเดิม ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 จึงตั้งเฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แทนที่ตุรกุในปีพ.ศ. 2355 จากการที่เฮลซิงกิถูกทำลายด้วยไฟในปี 2351 ทำให้ซาร์วางแผนที่จะสร้างเมืองขึ้นใหม่ ได้มีการแต่งตั้งวิศวกรชาวฟินแลนด์ให้ออกแบบเมืองใหม่ และเชิญสถาปนิกชาวเยอรมันมาร่วมงาน มีการสร้างอาคารใหม่จำนวนมาก รวมถึงการย้ายมหาวิทยาลัยมาจากตุรกุด้วย สถาปัตยกรรมที่สร้างใหม่นี้มีรูปแบบนีโอคลาสสิกตามแบบเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เฮลซิงกิได้กลายมาเป็นศูนย์กลางทางการปกครองและวัฒนธรรมศาลาว่าการเมืองเฮลซิงกิเป็นที่ตั้งของสภาเทศบาลเมืองเฮลซิงกิ
ในช่วงสงครามกลางเมืองฟินแลนด์ พ.ศ. 2461 เฮลซิงกิถูกยึดโดยฝ่ายแดงในเดือนมกราคม วุฒิสภาย้ายไปประจำการที่เมืองวาซา กองทัพฝ่ายขาว ร่วมกับทหารเยอรมันสามารถยึดเฮลซิงกิกลับมาได้ในเดือนเมษายน เฮลซิงกิได้รับความเสียหายไม่มากนัก ในช่วงสงครามฤดูหนาวและสงครามต่อเนื่อง (ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง) เฮลซิงกิถูกโจมตีทางอากาศจากสหภาพโซเวียต อย่างไรก็ตาม เฮลซิงกิได้รับความเสียหายไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองสำคัญอื่นๆในยุโรป เฮลซิงกิยังเป็นหนึ่งในสามเมืองหลวงของประเทศในทวีปยุโรปที่เข้าร่วมสงครามที่ไม่ถูกยึดครองโดยฝ่ายศัตรู (อีกสองเมืองคือลอนดอนและมอสโก)มุมมองข้ามฤดูร้อนEläintarhanlahti
หลังจากเฮลซิงกิถูกตั้งเป็นเมืองหลวง เฮลซิงกิก็ถูกแปรสภาพจากเมืองเล็กๆที่มีประชากรเพียง 4,000 คนเป็นศูนย์กลางการปกครองของฟินแลนด์ สถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากจักรวรรดิรัสเซีย โดยเฉพาะรูปแบบนีโอคลาสสิกตามแบบเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คาร์ล ลุดวิก เองเกล ชาวเยอรมัน ทำหน้าที่เป็นสถาปนิกใหญ่ในโครงการสร้างเมืองใหม่นี้ ศูนย์กลางของแผนอยู่ที่จัตุรัสวุฒิสภา (Senaatintori; Senatstorgot) ซึ่งมีขนาดใหญ่รองรับคนได้หลายหมื่นคน สิ่งก่อสร้างสำคัญบริเวณจัตุรัสนี้คือมหาวิหาร (ในอดีตเรียกโบสถ์นิโคลัส) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัส ทางทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นทำเนียบรัฐบาลและอาคารหลักของมหาวิทยาลัยตามลำดับ อาคารสองหลังนี้มีขนาดใกล้เคียงกัน ทำเนียบรัฐบาลมีเสาหินแบบคอรินเธียน ในขณะที่อาคารมหาวิทยาลัยเป็นแบบไอออนิก[9] สิ่งก่อสร้างทั้งสามนี้เป็นผลงานของเองเกล เช่นเดียวกับสิ่งก่อสร้างอีกหลายแห่ง อาคารที่มีชื่อเสียงของเองเกลอีกแห่งหนึ่งคือห้องสมุดมหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการยกย่องในเรื่องความงดงาม อิทธิพลของรัสเซียอีกอย่างหนึ่งคือโบสถ์ออร์โธดอกซ์ ซึ่งแห่งที่สำคัญของเฮลซิงกิคือมหาวิหารอุสเปนสกี ก่อสร้างในช่วงปีพ.ศ. 2405-2411โรงละครแห่งชาติฟินแลนด์ (1902) ออกแบบโดยสถาปนิก Onni Tarjanne
ภาพ วิกิพีเดีย
เฮลซิงกิยังมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว (Jugenstil) โดยมีสถาปนิกคนสำคัญคือเอเลียล ซาริเนน ในช่วงแรกซาริเนนร่วมงานกับสถาปนิกอีกสองคนในบริษัท Gesellius, Lindgren & Saarinen ผลงานที่สำคัญในเฮลซิงกิคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ออกแบบในปีพ.ศ. 2445 ผลงานสำคัญของซาริเนนอีกอย่างหนึ่งคือสถานีรถไฟกลางเฮลซิงกิสนามกีฬาโอลิมปิกเฮลซิงกิเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมในช่วงโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1952
ภาพ วิกิพีเดีย
อาคารรัฐสภา (Eduskuntatalo) เป็นผลงานนีโอคลาสสิกชิ้นสำคัญของฟินแลนด์ยุคหลังประกาศเอกราช ออกแบบโดยโยฮัน ซิกฟริด ซิเรน ในปีพ.ศ. 2467 และสร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2474 ภายหน้าอาคารเป็นเสาหินแบบคอรินเธียน 14 ต้นท่าเรือเซาท์
ภาพ วิกิพีเดีย
สถาปัตยกรรมแบบประโยชน์นิยม (อังกฤษ: functionalism) ได้รับความนิยมในฟินแลนด์ยุคใหม่ อัลวาร์ อาลโต เป็นสถาปนิกชาวฟินแลนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านนี้ โดยมีสิ่งก่อสร้างในเฮลซิงกิคือหอฟินแลนเดียจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ของแต่งบล็อก....ญามี่ / ชมพร / เรือเรไร / Rainfall in August / oranuch_sri