๏ ..ลำนำ ขมหวาน เมื่อวันวาน .. ๏
๏ สุดอดสูอับสิ้น ....... สรรพสติ จักหน่วงพ่วงนัยพิ-...... นอบน้อม ฤาดึงลู่สู้ริ-...... ปูล่วง ไป่แล พวักพะวนพร้อม ...... พรั่นแว้งแกว่งไหว ๚ะ
๏ ชนดูชาชะแสร้ง ..... ความชัง สุนัขหยันย่ำยัง ...... หยิ่งเย้ย พิบัติซัดสุมขัง ...... เคล้าคลุก ท่วมเนอ พร่ำท่วงพ่วงถูกเพ้ย ...... พากย์ทั้งยังเข็ญ ๚ะ
๏ เคล้าสุขเทียมเคลือบแท้ ...... ทุกข์คลอ ใดเหือดเดือดหายหอ ....... ซุกห้อม จีรังชั่งชลอ ........... เชวงใช่ ฉานแล รอมลายแหลกล้อม ........ ป่นล้มปมหลอน ๚ะ
๏ ขจรขื่นขับเล้า ..... คราบโลม เถือบั่นหั่นบิโถม ...... ระทดท้อ เซ่นบาปซับบ่มโซม ..... เฉกเหงื่อ ท่วมนา พรูร่วงพ่วงเพ้อพ้อ ...... แผกได้ใช้กรรม ๚ะ
๏ ปูมเก่าเคล้าป่ายชี้ ...... เผยเห็น พิบากผลักกระเซ็น ...... ก่อนชี้ คราทุกข์ยังขุกเข็ญ ..... ขมขื่น กี่ภพกลบเก่าหนี้ ...... สบัดทิ้งถวาย ๚ะ
๏ สุด-อดสูอับเศร้า ...... สาทรวง กระอักกระอ่วนกลวง-...... อกกลั้น- แดเดียวเปลี่ยวเปล่าดวง ...... ดื่นแปร่ง แปลกเฮย คงนิ่งจำนงค์นั้น ........ เนื่องน้าวเข้าขันธ์ ๚ะ
+ กิ่งโศก+
|
|
..............วันนี้กิ่งโศก ขยับขั้น(กระแดะ)ฟังเพลงฝรั่ง ทั้งๆที่แปลก็ไม่ค่อยจะออก แต่เนื่องจากเพลงนี้ ฟังมาแบบสเนค ฟิชๆ ตั้งแต่ตอนมัธยมแล้ว จำได้ว่ารุ่นพี่มาดเท่ห์แกจะชอบดีดกีต้าโปร่ง อวดสาวนักเรียนรุ่นน้อง ช่วงตอนพักเที่ยงกลางวันที่ริมสนามฟุตบอลของโรงเรียน มีพวกเรารุ่นน้อง ไปล้อมวงฟังกันเพียบ สมัยนั้นพี่เขาชอบเล่นเพลงของวงชาตรี สลับกับเพลงฝรั่ง...จำติดตาคือเห็นพี่แก แหกปากลั่น... เฟ้...เม..( Free me) พร้อมกับดีดสายกีต้า ด้วยความมันส์ พวกเราก็คอยปรบมือคลอกัน ..แต่ที่พี่ท่านเล่นบ่อย คือเพลง เมื่อวาน (Yesterday) ผมฟังพี่แกครวญ ก็ดูประทับตาจำท่าทางได้ แกดีดจังหวะช้าๆ หลับตา..ร้องเพลงเมื่อวาน เพลงดังของวงสี่เตาทอง เดอะบีทเทิล ....กิ่งโศก แปลไม่ออก ฟังแกบ่นไปจบเพลง...หลายครั้งหลายครา ก็ฮัมๆ คลอไปในใจ ..
........พอมาปัจจุบันทำให้นึกถึงอดีตยามวัยสะรุ่นนั้น ลองกลับมาฟังดู ฟังเอาทำนอง ฟังน้ำเสียง เคยลองร้องในคาราโอเกะ..ก็ดูเข้าท่า (คิดคนเดียว 55 คนอื่นอาจนั่งอาเจียนเป็นแน่) หากมาดูในเนื้อร้องแบบเปิดดิกชั่นเนอรี่ แปลแบบ กบๆ เขียดๆ ก็ดูมีความหมายดี ที่สะท้อนวันวาร วันวานที่ผ่านไป ที่มีทั้งความหวานชื่น สลับความขื่นขม ความสองรู้สึกที่ผ่านไป เราไม่อาจเรียกให้มันคงอยู่ หรือรั้งให้หยุดไว้ได้...วันเวลานี่ช่างไม่คอยใครเลย แถมไม่ปราณีเมตตาใคร จะทนหยุดทนรอสักเสี้ยววินาทีก็ไม่ได้
....... วันวาน กลายเป็นวันแห่งอดีต เหตุการณ์ภาพที่เคลื่อนไปตามกาลเหล่านั้น หากเราเปิดเครื่องฉาย (ความคิด) โดยรีเพล์กลับไปในเหตุเบื้องต้น บางภาพ บางเหตุที่เราไม่ค่อยอยากจำ กลับถูกบันทึก Memory ไว้ในเครื่องบันทึก(สมอง) แม้นจะdelete ลบอย่างไรก็ไม่ออก ติดแน่นเสียจริง...
..... วันวานนั้นหวานอยู่จริงหรือ? เชื่อได้หรือไม่ วันวานยังขมอยู่หรือ? รสชาติที่สัมผัส หากมาย้อน ณ ตอนนี้ คงยากนักที่จะเปรียบเทียบได้ เพราะรสหวานบางรสที่มองว่าหวาน แต่รสหวานวันนี้อาจหวานกว่า หรือรสความเจ็บปวดในวันวาน อาจเจ็บปวดน้อยกว่าวันนี้ก็เป็นได้ เพราะไม่มีเครื่องมือใดๆ เอามาวัดว่า อันไหนมากว่าน้อยกว่า...
....... เถิดเราลองมาฟังเพลงฝรั่งกันดูบ้างเถอะ อย่างน้อยก็เป็นดนตรีเฉกเช่นเดียวกันทั่วโลกที่บรรเลงร้องเพื่อจรรโลง ขับกล่อม ปลอบ โหยหา ครวญคราง ไม่ได้แตกต่างกัน ไม่ว่าภาษาไหนดนตรีไหน ... ดัง บทหนึ่งในพระราชนิพนธ์แปล ( จากต้นฉบับของ วิลเลี่ยม เช็กเปียร์ )
ในรัชกาล ที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
" ชนใดไม่มีดนตรีกาล....... ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ ........ เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์
ฤๅอุบายมุ่งร้ายฉมังนัก............... มโนหนักมืดมัวเหมือนราตรี
และดวงใจย่อมดำสกปรก........... ราวนรกชนเช่นกล่าวมานี่
ไม่ควรไว้ใจใครในโลกนี้........ เจ้าจงฟังดนตรีเถิดชื่นใจ "
ดังนั้นเรามาฟังเพลงนี้กันครับ
YESTERDAY
The Beatles
..
...Yesterday,
all my troubles seemed so far
away.
Now it looks as though
they're here to stay.
Oh I believe in yesterday.
Suddenly,
I'm not half the man
I used to be.
There's a shadow
hanging over me.
Oh yesterday come suddenly.
Why she had to go I don't know,
she wouldn't say.
I said something wrong
now I long for yesterday.
Yesterday,
love was such an easy game
to play.
Now I need a place to hide away.
Oh I believe in yesterday.
Why she had to go I don't know,
she wouldn't say.
I said something wrong
now I long for yesterday.
Yesterday,
love was such an easy game
to play.
Now I need a place to hide away.
Oh I believe in yesterday.
Mm mm mm mm .......