+ ลำนำ.... กี่-เพลิง-พิษ-เฉก-ร้อย ? +
๏ กี่ปองรักหักแล้ว....... โศกครวญ
เพลิงพิษสวาทหวน........ รุกห้อม
เฉกถ้อยสาปสบทวน ......ทดแทรก ย้อนนา
ร้อยป่วนฤทธิ์ปิดล้อม...... ปลุกเร้าเปิงสลาย ๚ะ
๏ กี่-ปองป่วนครวญรักเกินหักแล้ว
กี่-คำแผ่วคืนพล่านสะท้านหาย
กี่-ห่วงหวงเกินแหนห่มแกนกาย
กี่-รสหลงโกรกผ่ายลุกไหม้ลาม ๚ะ
๏ เพลิง-รักพ่ายมลายม้างมิยั้งมอด
เพลิง-รักพรอดผลุดไหวเชื้อใหม่หวาม
เพลิง-รักจมจ่อล้วงโชติช่วงยาม-
เพลิง-รักถามร่ำถึงคำนึงเนา ๚ะ
๏ พิษ-ถ้อยพ้อห่อพอกคำบอกบท
พิษ-กำหนดแรงโน้มประโคมเขลา
พิษ-กำเริบกรูรบกี่พลบเงา
พิษ-แพงเร้าผูกเร้นโยงเส้นใย ๚ะ
๏ เฉก-เพลิงสุมรุมโชนให้ป่นเชื้อ
เฉก-พิษเถือแล่ถากให้ตักษัย
เฉก-คมมีดกรีดหั่นให้บรรลัย
เฉก-ซุกเล่ห์เสน่ห์นัยไพล่ซ่อนนำ ๚ะ
๏ ร้อย-สวาทกระหวัดรั้งสรรพางค์ร้อน
ร้อย-รสกร่อนเล็มกินจนสิ้นหวำ
ร้อย-กิเลสหลงเพริดจนเกิดกรรม
ร้อย-ถลำฤทธิ์พร่าราคะ.....เพลิง ๚ะ
๏ สวาทรัดรส,ร้อย........ยิ่งหลอน
เล็มเลาะเกาะรานรอน........ลุกไหม้
กิเลสเกร็ดตะกอน......... กองเติ่ง
เพลิงเร่าผ่าวรุกไล้ ......... แพร่ล้วงบ่วงผลาญ ๚ะ
+ กิ่งโศก+
|
|
รักพ่าย หรือพ่ายรัก.. สมรัก หรือรักสม ..ประโยคเหล่านี้ มักจะมาเยือนเยี่ยมบรรดาเหล่า คนหนุ่มสาว เมื่อล่วงพ้นวัยเยาว์. มิเคยขาดช่วงตอน.,
บ้างสุขสม
บ้างทุกข์ตรม
บ้างสลับทุกข์ สลับโศก กันมามิขาดสาย ..มองแบบคำสอนพุทธองค์ ทรงตรัสสอนเทศนา ไว้ว่า...ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์..
เพราะ อารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง ย่อมเป็นต้นตอกำเนิด ผลสิ่งที่ตามมามากมาย
เมื่อแรกรัก ก็พะวง ว่าอีกฝ่ายจะรักเราไหมหนอ เมื่อยิ่งรัก ยิ่งพะวงหลงเพ้อ ครุ่นคิด ว่าเขาทำอะไร คิดอะไร? อา...รสรัก.ได้ก่อความกังวล เมื่อกังวล ย่อม อยู่ไม่สุข นั่นก็คือทุกข์นั่นเอง
บางคนจักกี่ช่วงชีพ ก็ยังวนเวียนใน วังวน กับสิ่งที่เรียกว่า ความรัก ..
มีใครบ้างหนอ จักรู้ จักวาง ความเหมาะสม ในเรื่องรัก เรื่องเสน่หา นี้ได้อย่างเหมาะเจาะโดยมิต้อง มีกังวล มีไหม?
พิษเสน่หา มันทำร้ายจิตใจคนมากยิ่ง บางคนต้องฆาตเพียงสิ้นรักสิ้นเสน่หา บ้างกำเนิดตำนานรอยโศก ให้ผู้คนหม่นหมองตาม..
..โลกมนุษย์ คงยากสิ้น และยังคงแรงเริงบ่มด้วย อารมณ์รัก อารมณ์หลง อารมณ์โกรธ และอารมณ์โลภ แล ยิ่งเนิ่นนานวันเท่าใด สิ่งเหล่านี้จะคงยิ่งพอกพูนเท่านั้น
...เราๆ ท่านๆ ยังจับต้องด้วยอารมณ์ที่ไหว ทุกท่วง ยังรู้เจ็บ รู้จำ รู้ชื่น รู้เศร้า คงต้องเวียนว่าย โลดแล่นไปตามบทบาท ไปจนกว่าจะถึงที่หมาย?
วันนี้ ที่จริง ขณะขับรถ ได้เปิดฟังเพลงคลอ เบาๆ เป็นงานเพลงเก่าๆ (เช่นเดิม) แต่อาจยังไม่เก่าหากนับคนร้อง ( บางเพลงมีคนร้องหลายรุ่น) เพลงลูกกรุงเก่าๆ ออกแนวกึ่งเศร้า ..ชื่อเพลง มนต์รักเรียกหา ผมฟังที่ไร ชวนเคลิ้มมิรู้สร่างเลยละครับ....เสียงของนักร้องท่านนี้ที่เพิ่งล่วงลับไปไม่นาน
มนต์เสน่ห์ในน้ำเสียง ฟัง แล้วพริ้มตา ดูนะครับ จักรู้รสแห่งคีตะที่ตรึงใจนักและ
เพลง... มนต์รักเรียกหา
ศิลปิน... กุ้ง กิตติคุณ เชียรสงค์
ความรักเรียกหาเหมือนมนตราตรึงใจ
เฝ้าคร่ำครวญไปไม่รู้สร่าง
หวิวหวั่นฝันแต่ภาพนวลนาง
คลั่งไคล้ไม่จางคร่ำครวญถึงนางคนเดียว
บุพเพเสกสรรรักครองกันปางใด
จึงมาดลใจใฝ่รักกลมเกลียว
เห็นกันหัวใจพลันปลาบเสียว
วาบหวิวนักเชียว สุดเหนี่ยวสุดรั้งยั้งใจ
ลืมตัวมัวเมาเฝ้าพิศวาส
หลงรูปจูบกระดาษที่วาดไว้
พร่ำภาวนารักเอยพาสมใจ
สิ่งเดียวรักยิ่งสิ่งใด
หลุดโลกสดใสอยู่ในอารมณ์
ชาตินี้ปองรัก รักไปจนวันตาย
ไม่มีเสื่อมคลายจากชู้คู่ชม
ฝันใฝ่ฝังอยู่ในอารมณ์
แอบรักชื่นชมเมื่อไหร่จะสมใจเรา