สายตาจับจ้องที่ดวงดาว และเท้ายังคงติดดิน (Keep your eyes on the stars, and your feet on the ground.)
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
รู้รักการออม...รู้คุณค่าสิ่งของ



เสียง ดัง “กริ๊ง!” ทุกครั้งที่หยอดเหรียญกลมๆ แบนๆ ลงในกระปุก ฟังแล้วน่าชื่นใจใช่ไหมคะ ว่าน้ำพักน้ำแรงที่เราเฝ้าสะสมกำลังทวีมูลค่าขึ้นทุกวินาทีที่เสียงกริ๊งแบบ นี้ดังขึ้น แต่ถ้าหันไปถามเจ้าตัวเล็กว่า “ภูมิใจไหมลูก เก็บตังค์ได้ตั้งเกือบเต็มกระปุกแล้ว” หนูๆ อาจทำหน้าเหรอหรา พลางตอบว่า “ภูมิใจครับ/ค่ะ” ทั้งที่ยังงงๆ อยู่ว่าเหรียญกลมๆ แบนๆ ที่คุณพ่อคุณแม่เชียร์ขาดใจให้ขยันหมั่นหยอดมันลงไปน่ะมีความหมายกับตัวเขา แค่ไหน



เพราะ เรื่องการออม รู้ใช้รู้รักษา สำหรับวัยอนุบาลนั้นยังเป็นเรื่องนามธรรมอยู่มากเชียวค่ะ พัฒนาการของวัยนี้เขายังเคยชินกับการเรียนรู้ผ่านของจริงที่เขาได้หยิบจับ ใช้งานจริง จึงต้องยอมรับว่าเขาทำความเข้าใจกับเรื่องเหล่านี้ได้ยากกว่าที่คิด นึกดูสิคะว่าท้าทายแค่ไหน ที่จะสอนเจ้าหนูว่าธนบัตรใบสีม่วงๆ แดงๆ นั้นแตกต่างจากกระดาษสีม่วงๆ แดงๆ ที่หนูๆ เอามาตัดแต่งทำงานศิลปะ (ถ้าหนูเกิดหยิบผิดใบไป เห็นทีคุณแม่คงลมใส่แน่ๆ)

การปลูกฝังลูกน้อยให้รักการออมตั้งแต่วัยอนุบาล จึงต้องไม่เร่งรัด แต่ต้องสนุก อย่างโปรเจ็กต์สนุกสะสมทรัพย์ฉบับอนุบาลต่อไปนี้ค่ะ

……………………..

ฝึกหนู...รู้จัก ‘หา’

ถึง จะยังอยู่วัยอนุบาล แต่เขาก็จดจำลักษณะควบคู่กับคุณประโยชน์ของวัตถุต่างๆ รอบตัวได้ เช่น ดินสอสี-มีไว้ขีดเขียน สบู่-มีไว้ถูตัวให้สะอาดเอี่ยม หรือหวี-มีไว้จัดทรงผมหนูๆ ให้สวยหล่อได้ดังใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องทื่อๆ ตรงๆ ที่หนูจะเรียนรู้ได้ในทันทีทุกชิ้นอันหรอกนะคะ เพราะยังมีวัตถุอีกหลายชิ้นที่มีประโยชน์ใช้งานอย่างหลากหลาย พลิกแพลงหยิบจับใช้ได้ตามสถานการณ์ เช่น น้ำใสๆ หนูจะรินใส่แก้วมาดื่มชื่นใจ หรือนำมาอาบให้ร่างกายสะอาด กระปรี้กระเปร่า หรือจะนำไปรดน้ำต้นไม้ที่สวนหลังบ้านก็ได้นะ

กลวิธี เปิดบัญชีใหม่...เพื่อสร้างลักษณะนิสัยของหนูน้อยนักออมให้วัยอนุบาล จึงสามารถเริ่มต้นโดยการปลูกฝังให้เขาคุ้นเคย และซึมซับถึงคุณค่าของสิ่งรอบตัวค่ะ

*เปิดบัญชีสนุกสะสมทรัพย์ Vol.1

- ให้เด็กๆ รู้คุณค่าสิ่งต่างๆ จากประโยชน์การใช้งานในชีวิตจริง เพราะวัยอนุบาลยังคุ้นเคยกับการเรียนรู้ผ่านของจริง สัมผัสได้จริงแบบไม่ต้องมีตัวแสดงแทนค่ะ เช่น บอกเขาว่า “ขอบคุณคุณทัพพีที่ช่วยตักข้าวร้อนๆ ให้เรากินทุกวันนะคะ” หรือ “รองเท้าช่วยทำให้เท้าของหนูปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่เป็นแผล” เท่านี้คุณค่าของสิ่งต่างๆ จะค่อยๆ ซึมซับลงในความทรงจำของนักออมตัวน้อย

- สอดแทรกการออมผ่านกิจวัตรประจำวัน โดยบอกเขาว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวไม่ใช่เกิดมาหรือหามาได้ง่ายๆ เช่น สอนให้เขาร้องขอเมื่อต้องการสิ่งต่างๆ เป็นถ้อยคำที่สุภาพ เช่น “โบผูกผมของหนูขาด หนูขอโบผูกผมเส้นใหม่ได้ไหมคะ” หรืออาจเป็นการตั้งโจทย์ให้เขาลงมือด้วยความสามารถตามวัย เช่น ช่วยคุณแม่ล้างผัก เพื่อให้แม่ทำอาหารเย็นเสร็จก่อน ถึงจะอ่านนิทานกับหนูได้

- อย่าให้ทุกสิ่งที่เขาต้องการง่ายเกินไป ส่งคำเตือนให้ผู้ใหญ่รอบตัวหนูๆ ว่า แม้หัวใจของคุณพ่อคุณแม่และคุณครู จะเอ็นดูหนูๆ เกินร้อยก็ตาม แต่การ ‘ให้’ ทุกสิ่งทุกอย่างกับเด็กๆ ง่ายเกินไป จะทำให้เด็กๆ เข้าใจว่า แค่เขาส่งสายตาเว้าวอนนิดเดียวก็ได้มาแล้ว หรือเหมืนกับที่เด็กๆ หลายคนเข้าใจว่าเงินได้มาจากการกดตู้เอทีเอ็มนั่นแหละค่ะ

- สอนวัยอ.2-อ.3 แยกแยะสิ่งที่เขา ‘Need’ หรือ ‘Want’ เพื่อให้เขารู้จักลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ และสิ่งใดควรรอคิวให้หนูเป็นเจ้าของทีหลัง เพราะยังไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน วิธีนี้จะปลูกฝังให้เขาเป็นผู้บริหารเงินทองหรือสิ่งของในความครอบครองอย่าง คุ้มค่าและมัธยัสถ์

**สรุปยอดสะสม

นัก ออมรุ่นจิ๋วได้เรียนรู้คุณค่าของวัตถุสิ่งของรอบตัว รู้จักใช้อย่างทะนุถนอม เพราะหนูรับรู้คุณค่า แม้จะยังไม่ได้ต่อยอดเปรียบเทียบประเมินราคาเป็นค่าเงิน แต่นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันมั่นคง มูลค่าในสมุดบัญชีของเรากำลังเพิ่มขึ้นทีละนิดแล้วค่ะ จากนี้เรามาหาหนทางเพิ่มดอกเบี้ยให้ต้นทุนของเราด้วยกลยุทธ์ต่อไปกันเลย

ฝึกหนู...รู้จัก ‘เก็บ’

ถ้า เป็นผู้ใหญ่อย่างเราๆ คงรู้ดีว่ากว่าจะได้มาซึ่งข้าวของเครื่องใช้อุปโภค-บริโภคแต่ละชิ้น ในสภาวะที่เศรษฐกิจติดป้ายขาลงอย่างนี้แสนยาก แต่เจ้าหนูตัวเปี๊ยกยังไม่เข้าใจหรอกค่ะ

ทว่า คุณรู้ไหมคะว่าเศรษฐกิจในกระเป๋านักเรียนก็ยุ่งเหยิงไม่แพ้เศรษฐกิจของ ประเทศเลยทีเดียว หลายๆ บ้านต้องเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว ตอนเช้าลูกขนอุปกรณ์การเรียน+การเล่นไปเต็มพิกัด แต่พอเจ้าหนูกลับจากโรงเรียน กระเป๋าโล่ง ของหายหมด แถมบางวันมีของใช้หน้าตาแปลกใหม่พกติดกลับมาบ้านด้วย จนวุ่นวายต้องกลับไปให้คุณครูช่วยตามหาเจ้าของตัวจริง

นั่น เพราะน้องอนุบาล โดยเฉพาะอ.1 ยังแยกไม่ออกระหว่าง ‘ของหนู’ ‘ของส่วนรวม’ และ ‘ของคนอื่นไม่ใช่ของหนู’ เช่น หนังสือนิทานในชั้นหนังสือที่โรงเรียน หนูสามารถหยิบมาอ่านได้ทุกเวลาที่คุณครูอนุญาต แต่หนูไม่สามารถนำหนังสือกลับมาที่บ้านได้โดยไม่บอกคุณครู แล้วแอบยึดไว้เป็นของตัวเอง

กลวิธี เพิ่มมูลค่าในบัญชีของหนูๆ ด้วยตัวเลขดอกเบี้ยแบบก้าวกระโดด คือการเรียนรู้ว่าอะไรที่เป็นสมบัติในความครอบครองของหนู ซึ่งไม่เพียงหนูจะได้ใช้ประโยชน์จากมันเต็มที่ แต่ยังหมายถึงการใส่ใจรับผิดชอบในสิ่งนั้น ซึ่งจะปลูกฝังระเบียบวินัยให้หนูได้อย่างดีค่ะ

*เปิดบัญชีสนุกสะสมทรัพย์ Vol.2

- เล่นเกมถามว่า “นี่ของใคร” ลองกวาดสายตามองรอบตัวที่มีวัตถุสิ่งของ ทั้งที่เป็นของใช้ร่วมกัน ของส่วนตัว และข้าวของส่วนตัวของคนอื่น แล้วถามว่า “นี่ของใคร” เป็นวิธีขั้นต้นที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น ลองชี้ที่แปรงสีฟันไซส์มินิของเขา เทียบกับแปรงสีฟันอันใหญ่ของคุณพ่อ แก้วนมใบเล็กของเขา กับหม้อหุงข้าวประจำบ้าน

- เขียนตารางฝึกการรู้จักแยกแยะ เพื่อให้รู้ว่าสิ่งของชิ้นไหนที่เขาต้องรับผิดชอบโดยตรง และอะไรบ้างที่หนูๆ ต้องร่วมแรงกับคนรอบข้างเพื่อดูแลรักษา เช่น แจกันดอกไม้ในห้องนั่งเล่นที่หนูสามารถช่วยปัดฝุ่น เช็ดถูให้เงางาม หรือกรอบรูปครอบครัวที่หนูสามารถช่วยตกแต่งกรอบให้สวยขึ้น จะได้อวดภาพสมาชิกของบ้านให้แขกที่มาเยือน

- เรียนรู้วิธีดูแลรักษาข้าวของเครื่องใช้ ให้มีอายุใช้งานได้นาน เช่น ให้นำสิ่งของต่างๆ ไปเก็บคืนที่ จะได้ไม่หายและหยิบใช้ง่าย ซึ่งเจ้าหนูจะได้ทบทวนตำแหน่งสิ่งของไปด้วย รีโมตทีวี พรมเช็ดเท้าหมอนใบนุ่ม ของเล่น หรือตั้งโจทย์ว่าของใครใช้ได้นานกว่ากัน ระหว่างถุงเท้าของหนูกับถุงเท้าของพ่อ เป็นต้น

**สรุปยอดสะสม

นัก ออมรุ่นจิ๋วได้เรียนรู้ว่าการออมไม่ใช่แค่การตั้งหน้าตั้งตาเก็บสะสมเงิน หรือทรัพย์สินราคาแพง แค่เรียนรู้ที่จะรักษาวินัยในการเก็บรักษาสิ่งของในความครอบครองไม่ให้สูญ หาย หยิบจับคว้านำมาใช้ประโยชน์ได้ในทุกเวลา เท่านี้ก็น่ายกนิ้วให้นักออมฉบับอนุบาลแล้วล่ะ

.......................................................................................

เพียง เท่านี้เด็กๆ ได้ยิ้มแก้มปริกับบัญชีสะสมทรัพย์ในจิตใจอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยมูลค่าที่เรียกว่า ‘จิตใจรักการออม’ ที่อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้นได้แบบไร้ขีดจำกัด

จาก: นิตยสาร Kids & School



Create Date : 04 พฤษภาคม 2556
Last Update : 4 พฤษภาคม 2556 11:07:13 น. 1 comments
Counter : 1476 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะค่ะ ที่แวะไปเยี่ยมที่บล็อค

อ๋อย ช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่บ้านค่ะ ไปอยู่บ้านพ่อแม่สามีที่ต่างจังหวัดค่ะ และเพิ่งกลับมาได้ 2-3 วัน ค่ะ

อ๋อยก็จะกลับไปหาแม่ ของอ๋อยที่ไทยช่วง กลางเดือนนี้ค่ะ ไปอยู่ 1 เดือน ตามที่ตั้งใจไว้ ต้องกลับไปอยู่กับแม่ ทุกปี

และต้องกิน ต้องเที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึงค่ะ

อ้อ ผลตรวจของคุณพ่อ เป็นอย่างไรบ้างค่ะ สู้สู้นะค่ะ
อ๋อยจะคอยเป็นกำลังใจให้ตลอด ตลอดนะค่ะ


โดย: Ooy1_chan วันที่: 5 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:27:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kanyong1
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]




เป็นคุณแม่ลูกสอง วัย42ปี สนใจการทำอาหาร และการท่องเที่ยวค่ะ ยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมบล็อคนะคะ หรือสามารถติดตามการทำอาหารได้ที่เฟสบุค Kannika Roddee

******************************
******************************

ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา…

จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว

ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร

แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ

ทำเท่าที่เราจะทำได้ และทำให้ดีที่สุด สักวันหนึ่ง ฝันของเราจะเป็นจริง :)

*****************************
*****************************
: จำนวนคนที่กำลังออนไลน์
online
Blackjack Online
free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add kanyong1's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.