ร้ายสาระ...23 พฤศจิกายน
ค.ศ. 1707 เป็นวันเกิดของลินเนียส (Carolus Linnaes) นักอนุกรมวิธานวิทยาชาวสวีเดน
ค.ศ. 1869 เป็นวันเกิดของพอลเซน (Valdemar Poulsen) ผู้ประดิษฐ์เทปบันทึกเสียงสมัยใหม่แบบที่เราใช้กันอยู่ชาวเดนมาร์ก
ค.ศ. 1966 การแข่งขันหมากรุกคอมพิวเตอร์นานาชาติระหว่างคอมพิวเตอร์ของแมคคาร์ธี (John Mc Carthy) แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา กับคอมพิวเตอร์ของอลิกานอฟ (Abram Alikhanov) จากสถาบันฟิสิกส์ทฤษฎีและปฏิบัติแห่งสหภาพโซเวียต ผลปรากฏว่า รัสเซียชนะ 3 - 1
วันครบรอบ 100 ปีวันนักถ่ายภาพไทย รูปถ่าย ทำให้เราทราบถึงเรื่องราวความเป็นมาของเหตุการณ์นั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี ผู้คนจึงมักนิยมถ่ายภาพเก็บบันทึกความประทับใจต่าง ๆ กันเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นงานหรือเทศกาลใดก็ตาม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ...
การถ่ายภาพครั้งแรกของประเทศไทย เริ่มเข้ามาเผยแพร่ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โดยช่างคนแรกของแผ่นดินสยามนี้คือ บาทหลวงปาเลอกัว ชาวฝรั่งเศส ถ้าจะนับเอาแต่ชาวไทยแท้ ๆ นั้น ก็เห็นจะเป็น นายโหมด อมาตยกุล หรือ พระยากระสาปน์กิจโกศล ที่เป็นช่างภาพคนแรกของประเทศไทย สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นสมัยที่การถ่ายภาพในเมืองไทยมีการพัฒนาเจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก มีการเปิดร้านถ่ายภาพกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากแต่ก่อนคนที่จะถ่ายภาพจะต้องเป็นคนชั้นสูงเท่านั้น เล่ากันมาว่า มื่อมีการถ่ายรูปเข้ามาใหม่ ๆ คนไทยยังไม่กล้าถ่ายรูปกันมากนักเพราะมีความเชื่อ เก่าอยู่ว่การถ่ายรูปจะทำให้อายุสั้น หรือเกรงว่าจะถูกเอาไปใช้ทำร้ายด้วยเวทมนตร์อีกทั้งเป็นเพราะพระ องค์ทรงโปรดการถ่ายภาพ ทรงมีกล้องถ่ายภาพประจำพระองค์ และทรงบันทึกภาพเหตุการณ์ ต่าง ๆ
ในพระราชกรณียกิจเป็นประจำ เช่น ภาพข้าราชการประชาชนพลเมืองที่มาเฝ้าชมพระบารมี ตลอดจนปูชนียสถานทิวทัศน์ที่สวยงาม เมื่อเสด็จประพาสไป ณ ที่ใด ๆ จะทรงมีกล้องถ่ายรูปติดไปด้วยแทบทุกครั้งและทรงถ่ายรูปเองเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้านายและขุนนาง ตลอดจนพ่อค้า ข้าราชการ นิยมเล่นถ่ายรูปกันโดยแพร่หลายด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการถ่ายภาพทำให้เกิดการรวมตัวของสมาคมทั้ง 4 ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ สมาคมถ่ายภาพสยามคัลเลอร์สไลด์ สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และสมาคมถ่ายภาพกรุงเทพ ในการประกอบกิจกรรมร่วมกัน โดยมีจุดมุ่งหมายที่สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกันในการที่จะร่วมกันช่วยพัฒนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ให้การถ่ายภาพไทยบังเกิดความเจริญก้าวหน้าสามารถทัดเทียมกับสากล ด้วยความรู้ความชำนาญในแต่ ละสาขาของการถ่ายภาพตามวัตถุประสงค์หลักของแต่ละสมาคมเพื่อเผยแพร่ศักยภาพและผลงานของนักถ่ายภาพไทย ให้เป็นที่ยอมรับในสังคมของประเทศแต่ละประเทศ อันจะจรรโลงว้ซึ่งเอกลักษณ์ ขนบธรรมเนียมและประเพณี ตลอดจนวัฒนธรรม อันดีงามและส่งเสริมกิจกรรม ต่าง ๆ อันพึงจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมของประเทศทั้งยังสามารถจะเป็นตัวแทนของนักถ่ายภาพในการรักษาสิทธิในผลงานของนักถ่ายภาพไทยด้วยอุดมการณ์อันมุ่งมั่นและแนวทางอันชัดเจน ทั้ง 4 สมาคม จึงได้ดำเนินการจัดตั้งสมาคมขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2544 ภายใต้ชื่อ ว่า สมาคมสมาพันธ์
การถ่ายภาพไทย THE PHOTO GRAPHIC FEDERATION OF THAI SOCIETY สวัสดิ์ ปฏิภาณประ เสริฐ ประธานสมาคมสมาพันธ์การถ่ายภาพไทย เล่าถึงการถ่ายภาพในเมืองไทยให้ฟังว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้การถ่ายภาพในเมืองไทยมีการพัฒนาขึ้นมากเป็นผลสืบเนื่องมาจาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงสนพระทัยนการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก ทรงจัดให้มีการอวดภาพและประชันภาพขึ้น ในงานสถาปนาวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ครั้งที่ 2 ซึ่งมี ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของวงการถ่ายภาพของไทยเป็นอย่างมาก ที่ประกาศแจ้งความมา ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน ร.ศ.124 ซึ่งตรงกับ ปี พ.ศ.2448 ภายในงานทรงจัดให้มีการออกร้านขายของและที่สำคัญคือมีร้านถ่ายรูปหลวงด้วย ร้านนี้รัชกาลที่ 5 จะเสด็จแวะไปป็นประจำทุกคืน และบางครั้งจะทรงเป็นช่างถ่ายรูปเองด้วยถือได้ว่าเป็นวันที่มีการประกาศข่าวการประกวดภาพถ่ายที่สำคัญของไทย ผู้คนที่มีกล้องต่างพากันมาร่วมงานกัน เป็นการส่งสริมงานด้วยการถ่ายภาพ แสดงออกถึงความสามารถในการถ่ายภาพที่นำมาประชันกันอย่างมากมาย ทำให้ผู้คนที่มีกล้องได้ฝึกฝนฝีมือและทำให้การถ่ายรูปขยายวงกว้างออกไปอย่างต่อเนื่อง จนถึงทุกวันนี้ จากหลักฐานดังกล่าวนี้เอง ทำให้สมาคมสมาพันธ์การถ่ายภาพไทย ถือเอาวันที่ 23 พฤศจิกายน เป็นวันสำคัญของนักถ่ายภาพไทยวันหนึ่ง หากนับจากนั้นมาเป็นเวลา 100 ปีมาแล้ว ที่เมืองไทยมีการถ่ายภาพกันเกิดขึ้น
สำนักเลขานุการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อวงการถ่ายภาพไทยและเป็นการแสดงถึงความภาคภูมิใจและเป็นศูนย์รวมน้ำใจของคนในวงการถ่ายภาพ ประกอบกับทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยนานัปการ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบให้ถวายพระราชสมัญญาแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในฐานะ พระบิดาแห่งการถ่ายภาพไทย และกำหนดให้วันที่ 23 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น วันนักถ่ายภาพไทย โดยไม่เป็นวันหยุดราชการ
ปีนี้จะเป็นปีแรก ที่สังคมคนถ่ายภาพไทยจะได้มีวันแห่งความสุข วันที่จะนับเนื่องต่อไปในภายหน้าให้ยิ่งใหญ่ ที่มีประโยชน์และ ตราตรึงไว้กับชาติของเราอีกนานแสนนาน ด้วยภาพแห่งความทรงจำ
ขอขอบคุณ: //www.dailynews.co.th
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2548 |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2548 10:31:34 น. |
|
5 comments
|
Counter : 552 Pageviews. |
|
|
เพิ่งเคยเข้ามาอ่านบล็อค
ชอบคำว่า"ร้ายสาระ"