วันสุดท้ายในไคโร
ตื่นเช้าตามปกติ เก็บของเรียบร้อยก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรม กินอาหารเช้าของโรงแรม เมนูดีขึ้นกว่าวันแรก ก่อนออกจากโรงแรมไม่ลืมถามพนักงานโรงแรมว่าจะไปซิตาเดลโดยรถไฟฟ้าใต้ดินได้หรือเปล่า พนักงานบอกว่าได้ แต่จากสถานีไปซิตาเดลต้องเดินไกลมาก แนะนำให้ขึ้นแท็กซี่ไปดีกว่า ราคาประมาณ 10 LE เราเลยลองเรียกแท็กซี่หน้าโรงแรมดู ตอนแรกบอกว่า 30 LE เราลองถามดูว่า 15 LE เขาก็ตกลงทันที จากโรงแรมไปถึงซิตาเดลไกลเหมือนกัน ดีที่รถไม่ติด ไปถึงประมาณ 8.30 น. เราว่าเราไปถึงเช้าแล้วนะ แต่ปรากฎว่ามีรถบัสคันใหญ่ ๆ จอดอยู่หลายคันเลย เสียค่าผ่านประตู คนละ 20 LE ซาลาดินเป็นผู้เริ่มสร้างซิตาเดล ในปี 1176 ให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่ที่จะล้อมมิสรัลเอาไว้ทั้งหมดภายในกำแพง ในปี 1182 ทุกอย่างก็สมบูรณ์ ในปี 1218 สุลต่านอัล คามิลซึ่งเป็นหลานชายของซาลาดินได้สร้างที่พักไว้ภายในซิตาเดล จึงกลายเป็นทั้งบ้านและที่ตั้งของทุกรัฐบาลแม้แต่อุปราชออตโตมัน
อาหารเช้าของโรงแรม
สุเหร่ามูฮัมหมัดอาลี อยู่ตรงจุดที่สูงที่สุดของอาณาบริเวณส่วนใต้ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ส่วนไหนของเมืองก็สามารถมองเห็นได้ สุเหร่านี้สร้างระหว่างปี 1830-1848 แต่เสร็จสมบูรณ์ในปี 1857 โดยสถาปนิกชาวกรีกเป็นผู้ออกแบบตามอย่างออตโตมัน
นาฬิกาบนบนลานในสุเหร่าเป็นของขวัญทำโดยหลุยส์-ฟิลิปแห่งฝรั่งเศสในปี 1846 ที่นำมาแลกกับอนุสาวรีย์หินปลายแหลมโอบิลิสก์ของรามาเซสที่สองจากวิหารลุกซอร์ ที่มูฮัมหมัด อาลีเป็นผู้มอบให้ฝรั่งเศสในปี 1831 ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ปลาซ เดอลา คองคอร์ด ในกรุงปารีส ส่วนตัวของปาชาเองนั้นก็ถูกฝังอยู่ใต้อนุสรณ์สถานหินอ่อนนี้ด้วย
กรุงไคโรมองจากซิตาเดล
สุเหร่าสุลต่านฮะซันและรีฟาดีเคียงคู่กันใต้ซิตาเดล
ใช้เวลาที่ซิตาเดลประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ก็เรียกแท็กซี่ราคาเดิมกลับไปที่พิพิธภัณฑ์อียิปต์ ก่อนเข้าก็แวะกินอาหารกลางวันให้เรียบร้อย เพราะเราจะใช้เวลาตลอดบ่ายนี้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีวัตถุโปราณรวบรวมไว้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ชั้นล่างจัดแสดงวัตถุขนาดใหญ่เรียงตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามเข็มนาฬิกา เราใช้เวลา 4 ชั่วโมงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เพราะมีของมากมายให้ดู ที่ประทับใจคงจะหนีไม่พ้นมหาสมบัติของตุตันคามุน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อต่อชีวิตหลังความตายของชาวอียิปต์ และความมั่งคั่งในสมัยของพระองค์ ประมาณ 5 โมงเย็น เดินกลับไปที่โรงแรมเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใช้ห้องน้ำส่วนกลาง ตอนเดินกลับมีฝนตกในไคโรด้วย ฝนเปียกตัวเราไป 3 ฝอย เราไปสนามบิน โดยรถแท็กซี่ของโรงแรม ค่าเช่าเท่าเดิมกับตอนขามา 60 USD แล้วเดินทางกลับโดยสายการบินรอยัลจอร์แดนเนียน โดยนั่งจากไคโรไปเปลี่ยนเครื่องที่จอร์แดน กลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
สิ่งที่เสียไปสำหรับการเดินทางครั้งนี้ คือ เงิน คนละ 59,000 บาท รวม ค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าบัตรนศ.นานาชาติ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเดินทางในประเทศจอร์แดนและอียิปต์ ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ค่าของฝาก
สิ่งที่ได้มา ความรู้-ประสบการณ์ที่มีค่าและประทับใจ ทัศนคติที่ดีต่อคนและประเทศจอร์แดน-อียิปต์ ชีวิตเป็นเรื่องสบาย ๆ เบา ๆ แต่สะใจในรสชาติ
Create Date : 04 มกราคม 2552 |
|
9 comments |
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 23:00:51 น. |
Counter : 7249 Pageviews. |
|
|
|
ยินดีด้วยกับการใช้ชีวิตที่มีรสชาติอย่างนี้นะคะ คุ้มจังค่ะ