มะลิไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Group Blog
 
 
มกราคม 2556
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มะลิไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 

ลุยเมืองน้ำหมากกระจาย. ผู้ชายนุ่งโสร่ง...ย่างกุ้ง พุกาม มัณฑะเลย์ ตอน ๕(จบ)


พระราชวังมัณฑะเลย์


18/01/56
7.45
น. ซอมินอู. พาไปแวะที่ตลาดเสจู. ตอนเช้าเป็นร้านค้า. 2. ประเภท.ด้านในตัวอาคารขายสารพัดของใช้เหมือนโบ๊เบ๊.ด้านข้างและหลังอาคารเป็นตลาดสดที่ใหญ่มาก.จากนั้นไปที่ท่าเรือซื้อตั๋วเรือไปมิงกุน. มีวันละเที่ยว. ออก. 9. โมงเช้ากลับบ่ายโมงใช้เวลาขาไปหนึ่งชม.ขากลับ 45 นาที.ราคาไปกลับคนละ 5000 kyat. เราไปถึงแปดโมงครึ่งคนขายตั๋วยังไม่มาแต่มีนักท่องเที่ยวต่อแถวรอซื้อตั๋วอยู่แล้ว. 



รุ่งอรุณในเมืองมัณฑะเลย์


สักพักลุงคนขายตั๋วมาถึงแกเริ่มขายตั๋วโดยเขียนชื่อนามสกุลเลขพาสปอร์ตลงในกระดาษลงทะเบียน.พร้อมออกใบเสร็จให้ทุกคน. แกทำคนเดียวเลยค่อนข้างนานหน่อย.แต่แกพูดภาษาอังกฤษได้ดี. หลังจากนั้นมายืนรอขึ้นเรือกันที่ริมฝั่งแม่น้ำ. ฝุ่นมากมายจริงๆ.รอจนกระทั่งเกือบสิบโมงเรือจึงออก.ตลอดเส้นทางแม่น้ำอิระวดีเราได้เห็นวิถีชีวิตของคนพม่ากับสายน้ำ.ถึงมิงกุนเราต้องจ่าย zone fee อีกคนละ 3 us เพิ่มจาก 10 us ของมัณฑะเลย์. 



ตลาดเสจู ยามเช้า ที่เมืองมัณฑะเลย์


เจดีย์มิงกุนสร้างโดยพระเจ้าประดุงตั้งแต่ราวเกือบ 200 ปีก่อน. แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะมีแผ่นดินไหว.และเราว่าน่าจะเป็นเพราะโครงสร้างที่ไม่แข็งแรงด้วย. เนื่องจากพยายามสร้างใหญ่มากเกินไป.จากซากที่เหลืออยู่แค่ฐานเท่านั้นยังมีขนาดใหญ่มากๆเลยถ้าสร้างเสร็จคงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้.ตรงกันข้ามยังมีสิงห์สองตัวที่ก็เหลือเป็นซากมีส่วนบั้นท้ายที่ยังดูเป็นรูปร่างอยู่.เดินเข้าไปตลอดสองข้างทางมีร้านขายของที่ระลึก. 



แม่ค้าในตลาดเสจู


ขายอาหาร. โรงเรียน 1 แห่งและบ้านพักคนชรา 1 แห่ง. สิ่งที่เราแวะชมต่อไปเป็นระฆังมิงกุล.มีอายุเท่ากับเจดีย์. เป็นระฆังที่ใหญ่มากๆ. ทำขึ้นเพื่อให้ขนาดสมดุลกับตัวเจดีย์.เคยนำขึ้นแขวนแล้วก็ตกลงมา.จนสุดท้ายมาอยู่ตรงบริเวณปัจจุบัน.สถานที่อีกแห่งคือเจดีย์ชินพินมิว.เป็นเจดีย์สีขาวอายุกว่า 150 ปี. มีลักษณะแตกต่างจากเจดีย์ในพม่าที่ได้ดูมา.จากนั้นเราเดินเที่ยวชมบริเวณโดยรอบ. แล้วไปรอขึ้นเรือซึ่งออกเวลา. 13.30 น. 



พระออกบิณฑบาตรเป็นแถวยาว


เค้าทดเวลาขามาให้ครึ่งชม. บ่ายสองตรงเราถึงฝั่ง. ซอมินอูมารอรับอยู่แล้ว.เค้าบอกว่าหากเราไม่มีเวลานั่งเรือเราสามารถไปมิงกุนทางรถ. โดยขับรถไปประมาณ 1 ชม.จากเมืองมัณฑะเลย์. เค้าพาเราส่งที่วังมัณฑะเลย์. ขับจากท่าเรือไปประมาณ 35 นาที.ถึงทางเข้าพระราชวังเราแสดงบัตรที่จ่ายค่าเข้าเมืองให้เค้าดูแล้วเดินเขาไปอีกประมาณ1 กม.แต่ถ้าเดินไม่ไหวจะมีมอเตอร์ไซด์รับจ้างคิดคนละ 500 kyat. แต่เราเลือกเดินไป. 



ไม้ทานาคาที่ใช้สำหรับทาหน้ามีขายเป็นท่อนๆ เลย


ที่นี่เป็นวังที่สร้างขึ้นใหม่. วังเดิมถูกทำลายจนหมดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง.แต่ยังพอมีรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ก่อนวังจะถูกทำลาย. โดยเค้าจัดแสดงไว้ด้านหน้าทางเข้า.ที่นี่ก็คล้ายพระราชวังของจีน คือมีที่พักเป็นหลังๆแยกกันจำนวนหลายหลัง.โดยเฉพาะของฝ่ายในซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรดาเหล่ามเหสี และนางสนมของกษัตริย์.ด้านหลังสุดของวังจัดแสดงของใช้สมัยโบราณบางส่วน. แต่ส่วนใหญ่ที่มีค่าถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ในย่างกุ้ง.ซึ่งเราได้ไปดูมาแล้ว. 



ร้านนี้ขาย CD หนัง


ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ เราก็ออกมาขึ้นรถของซอมินอูที่จอดรอเราอยู่ที่เดิม.เค้ามาส่งเราที่รร.แล้วนัดเจอกันอีกทีตอนสองทุ่มเพื่อพาเราไปส่งที่ท่ารถไปย่างกุ้ง. กลับมารร.อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหาข้าวเย็นกินที่ร้านเมื่อวาน.คราวนี้เราสั่งเป็นกับข้าวสองอย่าง. ข้าวคนละจาน.กับข้าวที่สั่งไปเป็นผัดผักบุ้งและผัดผักรวมใส่ไก่.ที่ไม่สั่งอย่างอื่นเพราะดูแล้วชื่อไม่คุ้นเคย. แต่ที่สั่งมาอร่อยมาก.โดยเฉพาะผัดผักบุ้งเราว่าอร่อยกว่าที่ร้านไทยหลายร้านผัดอีก.



เด็กๆ กำลังเล่นกันบริเวณท่าเรือไปมิงกุน


มื้อนี้จ่ายไป 3100 kyat รวมน้ำเปล่า 1 ลิตร 1 ขวดด้วย. ขากลับแวะซื้อขนมกินเล่นแบบพม่ามาลองกิน.มันฝรั่งไม่อร่อยเลย. ทอดจนดำ. ข้าวเกรียบกุ้งอร่อยใช้ได้. นั่งรอเวลาซอมินอูมารับซอมินอูมารับก่อนเวลาเล็กน้อย. 20.30 น. เราถึงท่ารถบัส ซอมินอูรอส่งเราจนขึ้นรถ.เราบอกกับเขาไว้ว่าจะแนะนำคนไทยที่จะมาเที่ยวมัณฑะเลย์ให้ใช้บริการรถเขา.ตอนเราส่งเงินให้เค้าไม่ได้นับเงินก่อนใส่กระเป๋า. เราว่าเค้าซื่อและดีเกินไปสำหรับโลกยุคไฮเทคนี้.



เจดีย์มิงกุน มองจากมุมไกล


 รถที่เรานั่งวันนี้สภาพดีมาก. แต่แอร์เย็นมากไปหน่อย. รถจอด 3 ครั้งครั้งแรกนานหน่อยเพราะให้เวลากินข้าว.จุดแวะพักรถที่นี่ดีกว่าเส้นทางจากย่างกุ้งไปพุกาม. มีร้านอาหารที่ทันสมัย.ห้องน้ำสะอาดมาก ดีกว่าหลายๆที่ในบ้านเรา.อาจเพราะเป็นเส้นทางสำคัญเนื่องจากเป็นทางผ่านไปเมืองหลวงใหม่.


ถ่ายจากที่ใกล้ เป็นฐานเจดีย์ที่ใหญ่มาก ถ้าสร้างสำเร็จ คงได้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแน่



ระฆังมิงกุน ระฆังที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก



รูปปั้นสิงห์ที่เหลือแต่ส่วนก้น ตอนยังไม่พังคงใหญ่อลังการ



เจดีย์ิชินพินมิว




ทางเข้าวังมัณฑะเลย์



ส่วนหนึ่งของวังมัณฑะเลย์



หอคอยในวังมัณฑะเลย์


19/01/56

เรามาถึงสถานีรถบัสในย่างกุ้งเกือบหกโมงมีแท็กซี่เข้ามาถามบอกราคามา 7000kyat. เราตกลงทันทีเพราะราคาเท่ากับจากรร.มาท่ารถ.แต่พอเอากระเป๋าขึ้นรถเราเห็นผู้ชายคนหนึ่งขึ้นนั่งคู่กับคนขับ.จึงส่งภาษากับคนขับว่าทำไมมีคนไปด้วย. แล้วทำท่าจะเอากระเป๋าลง.เพราะก็อธิบายอะไรไม่รู้เป็นภาษาพม่า. และฟัง-พูดอังกฤษไม่รู้เรื่องด้วยสุดท้ายเค้าเห็นเราจะเอากระเป๋าลงอีกก็เลยบอกลดราคาให้เหลือ 6000 kyat. 



พระนอนตาหวาน


เราก็เลยเอาก็ได้ฟะ. ไหนๆกระเป๋าก็อยู่บนรถเค้าแล้ว.นั่งไปประมาณครึ่งชม. ไม่รู้เค้าพาไปไหน ก็ไปกับเค้า. แต่มาคิดอีกที.ถ้าสองคนนี้เป็นพวกเดียวกันพาเราไปจี้ ปล้น ฆ่า จะทำยังงัยดี. บ้า ไม่หรอกน่าเค้าดูน่าซื่อจะตาย แล้วคนพม่าที่เราเจอมาตลอด 8 วันก็ล้วนน่ารักทั้งนั้น.ในที่สุดก็ไม่มีอะไรร้ายๆเกิดขึ้นจริงๆ แล้วเราก็มาถึงรร. ขณะรอห้องเรียบร้อย.เราก็กินอาหารเช้าไปพรางๆก่อน. ข้อดีอีกอย่างของรร.นี้คือทันทีที่มาถึงรร.ทุกคนจะได้รับเชิญให้ไปกินอาหารเช้า 




ทั้งที่จริงเราต้องเริ่มที่มื้อพรุ่งนี้เช้าห้องเราเสร็จและพร้อมให้เข้าตอนเก้าโมงครึ่ง.หลังจากเข้าห้องอาบน้ำเรียบร้อยก็ออกไปเที่ยวและซื้อของฝาก. เราขึ้นรถเมล์สาย 48 ที่ป้ายรถเมล์เยื้องกับรร. แรกเราไปวัดพระนอนตาหวาน เป็นพระที่สวยที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา ตาโตขนตางอน ทาอายชาโดว์ และใส่บิ๊กอายด้วย เล็บมือเล็บเท้าก็ทาสีชมพูไม่รู้ใครออกแบบ.ทั้งที่ของเดิมตามในรูปเป็นพระพุทธรูปท่านอนแบบธรรมดาไม่ได้สวยหวานแบบปัจจุบัน. 



รูปเดิมของพระนอน


ที่นี่ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าวัด. แต่วัดตรงข้ามชื่อวัดงาทัตจี.ต้องเสียค่าเข้าคนละ 2 us หรือ 2000 kyat เราจ่ายเป็น kyat เพราะมีเงินเหลือเยอะ ได้น้ำเปล่าขวดเล็กๆมาคนละขวด.พระพุทธรูปที่นี่ดูเป็นพระพุทธรูปมากกว่า และมีเครื่องทรงที่เป็นแบบพม่าด้วย.หลังจากนั้นเรานั่งรถเมล์ไปที่ตลาดโบโยก เพื่อซื้อของฝากที่ลาดมีของขายมากมายหลายอย่าง พวกร้านขายเครื่องประดับจะมีภาษาไทยเขียนกำกับด้วยแสดงว่าต้องมีคนไทยมาซื้อบ่อยแน่นอน. 



พระพุทธรูปในวัดงาทัตจี


ตอนแรกคิดจะซื้อของกินของพม่าไปฝาก.แต่เดินดูแล้วไม่มีอะไร เลยซื้อเป็นกระเป๋ากับภาพร้านที่ซื้อนี่รับงินไทยด้วยและดูเค้าอยากได้เงินไทยมากกว่า.เราเลยจ่ายเป็นเงินไทยไป. ขากลับรร.แวะแลกเงินพม่าเป็นดอลล่าร์ที่รร. Central 45000 kyat ได้มา 51 us จากนั้นขึ้นรถเมล์กลับมาลงป้ายใกล้ๆรร.วันนี้กินอาหารเย็นที่รร. จะได้รีบพักผ่อนพรุ่งนี้ต้องตื่นตีห้าครึ่งรถจากรร.จะไปส่งที่สนามบินเวลา 6.30 น. เครื่องออก 8.30 น.



ตลาดโบโยก


20/01/56
ตีห้าครึ่งพนักงานรร.มาเคาะประตูแต่เราตื่นนานแล้ว. ลงมากินอาหารเช้าก่อนหกโมงเช้ารถออกหกโมงครึ่งตรง วันนี้ได้นั่งรถบัสรุ่นสงครามโลกของโรงแรม. ครึ่งชม.ถึงสนามบินcheck inn เรียบร้อยเข้าไปนั่งรอหน้า gate ไม่มี duty free ให้เดินดู เงินที่เหลือหยอดบริจาคตู้สภากสดพม่าหมดเครื่องออกตรงเวลา8.30 น.กลับบ้านเราแล้ว เจซูปา พม่าประเทศที่น่ารัก



รถของ motherland รุ่นเก่าจริงๆ



สนามบินนานาชาติย่างกุ้ง




นามบัตรของซอมินอู คนขับรถแท๊กซี่รับจ้างในมัณฑะเลย์ อัทธยาศรัยดีมาก ถ้าใครไปอย่าลืมไปใช้บริการนะ

สรุปค่าใช้จ่าย /2 คน ทริปพม่า 9 วัน 8 คืน
ค่า รร. 6 คืน  6300 บาท
ค่าอาหาร 2050 บาท
ค่าตั๋วเข้าชมทุกสถานที่ 2770 บาท
ค่าพาหนะ. 7300 บาท





 

Create Date : 27 มกราคม 2556
0 comments
Last Update : 28 มกราคม 2556 17:53:48 น.
Counter : 4232 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.