เที่ยวภูเก็ต เกาะลังกาวี ถ้ำเลเขากอบ unseen Thailand ตรัง และอ่าวพังงา
ต้นเดือนพฤศจิกายนได้ไปเที่ยวเกาะภูเก็ต เกาะลังกาวี และถ้ำเลเขากอบ unseen Thailand ตรัง ออกเดินทางบ่ายวันอาทิตย์ แวะทานมื้อเย็นที่ดอนหอยหลอด พระอาทิตย์กำลังตกดินทอแสงสีเหลืองสวยก่ินลับเมฆไป
เดินทางตลอด⁞คืนไปสว่างที่ จ.สตูลเช้า หลังจากอาบน้ำที่โรงแรมในตัวเมือง ไปขึ้นเรือเฟอรี่ที่ท่าเรือตำมะลัง เรือเที่ยวแรกออกประมาณเก้าโมงกว่า ประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษก็ถึงเกาะลังกาวี บริเวณท่าเรือมีร้านขายสินค้าหลายอย่าง นอกอาคารออกมาเป็นสวนสาธารณะ มีรูปปั้นนกอินทรีย์ขนาดใหญ่เป็นสัญญลักษณ์ของเกาะลังกาวี สร้างโดยฝีมือคนไทย ยังอาคารรูปทรงคล้ายเป็นโบสถ์คริสต์ มีลานกว้างด้านหน้าปูกระเบื้องสีสวยที่พื้น
ขึ้นเรือเฟอรี่ที่ท่าเรือตำมะลัง จังหวัดสตูล
นกอินทรีย์ สัญญลักษณ์เกาะลังกาวี
บรรยากาศบริเวณท่าเทียบเรือเกาะลังกาวี
ร้านอาหารบริเวณท่าเรือ
เดินเล่นในสวนสาธารณะึงประมาณสิบเอ็ดโมงก็ไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารในนั้น เป็นอาคารแบบทรงยุโรปหลังคาสีและลวดลายสวยงามมาก เวลาที่เกาะลังกาวีเร็วกว่าเมืองไทยหนึ่งชั่วโมง จึงต้องรีบทานข้าวก่อนไปเที่ยวในภาคบ่าย ก่อนจะกลับมาขึ้นเรือเที่ยวสุดท้ายเวลาห้าโมงเย็นบ้านเขา(แต่เป็นเวลาสี่โมงเย็นบ้านเรา) ที่แรกคือพิพิธภัณฑ์พระนางมัสสุหรี ผู้ถูกใส่ร้ายว่านอกใจพระสวามีซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าเมืองแห่งเกาะลังกาวี จนถูลงอาญาประหารชีวิต แต่ไม่มีอาวุธใดประหารพระนางได้ นอกจากกริชประจำตระกูลของพระนาง ก่อนจะถูกประหารพระนางได้สาบานไว้ว่าถ้าพระนางไม่ผิด ขอให้เลือดของพระนางเป็นสีขาวและไม่ตกลงสู่พื้นดิน และขอสาบให้เกาะแห่งนี้ไม่เจริญรุ่งเรืองไปอีกเจ็ดชั่วอายุคน จนผ่านไปครบเจ็ดชั่วคนเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการแก้คำสาบ เพื่อให้เกาะลังกาวีก็กลับมาเจริญอีกครั้ง
พิพิธภัณฑ์บ้านพระนางมัตสุหรี
พิพิธภัณฑ์ท่านมหาเธร์โมหะหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียหลายสมัย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บของสะสมและของที่ระลึกจากที่ต่างๆ ของท่านมหาเธร์ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่หลายสิบปี
พิพิธภัณฑ์ท่านมหาเธ อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
รถของท่านมหาเธในพิพิธภัณฑ์
รถแข่ง ตั้งโขว์ในพิพิธภัณฑ์
ที่สุดท้ายที่เกาะลังกาวีคือตลาดปลอดภาษี รัฐบาลมาเลเซียได้พยายามดำเนินการให้เกาะลังกาวีเจริญเทียบเท่าปีนัง โดยจัดเป็นเกาะปลอดภาษี สินค้าที่มีชื่อเสียงได้แก่ ชอล์คโกเลต เครื่องครัวแว์ต่างๆ (บางส่วนผลิตในประเทศไทย แต่ขายราคาถูกกว่าเนื่องจากไม่เสียภาษี) ได้ซื้อชอล์คโกเลตมาหลายกล่องอยู่ และได้ซื้อพริงเกิลกล่องใหญ่มาลองชิมดู ราคากล่องละ ๓๙ บาท บ้านเราขายเกือบหกสิบบาท ลองซื้อมาชิมหนึ่งกล่องก่อนเพราะเคยมีประสบการณ์ไม่ประทับใจจากตลาดกิมหยงที่หาดใหญ่ เนื่องจากมีกลิ่นหืนมากจนกินไม่ได้เลย หลังจากชิมดูแล้วรสชาดดี ยังใหม่อยู่เลยกลับไปซื้อมาอีกหลายกล่อง กลับจากเกาะลังกาวีไปนอนที่หาดใหญ่ วันรุ่งขึ้นเดินซื้อของในตลาดกิมหยง แล้วเดินทางต่อไปตรังที่ถ้ำเลเขากอบ ไปล่องเรือเข้าถ้ำดูหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก เพราะยังเป็นหินงอกหินย้อยที่ยังเป็นอยู่คือสามารถงอกออกมาเพิ่มอีกได้ เห็นหินย้อยอันเล็กๆ จากเพดานถ้ำมีหยดน้ำอยู่ตรงปลาย สิ่งสำคัญคือห้ามไปแตะโดนหยดน้ำนั้น เพราะถ้าหยดน้ำตรงปลายหลุดไปจะทำให้หินนั้นตายไม่งอกเพิ่มอีกต่อไป ไฮไลต์สุดยอดของถ้ำนี้อยู่ที่ตอนจะออกจากถ้ำจะผ่านส่วนแคบของถ้ำที่เรียกว่าท้องมังกร นักท่องเที่ยวต้องนอนราบลงกับเรือโดยมีไกด์ที่หัวและท้ายเรือคอยนำเรือรอดส่วนนี้ไป ระยะทางประมาณสามร้อยเมตร เพดานถ้ำจะดูต่ำมากจนเหมือนกับจะเฉี่ยวจมูกทีเดียว เสียงร้องอย่างตื่นเต้นและตกใจกันหลายคน ไกด์เรือต้องคอยเตือนว่าร้องได้แต่ห้ามยกส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายขึ้นมาเด็ดขาด พอออกจากถ้ำมาขอบใจไกด์และต้องทิปให้เพิ่มที่ช่วยนำมาออกมาได้อย่างปลอดภัยและสนุกสนานจริงๆ
เรือเข้าถ้ำเลเขากอบ unseen Thailand จังหวัดตรัง
พร้อมลุย
หินงอกหินย้อยในถ้ำที่สวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวถัดไปคืออ่าวพังงาในจังหวัดพังงา ล่องเรือเที่ยวชมเกาะต่างๆ มีภูเขาหินเล็กๆ มากมายคล้ายกับที่อ่าวฮาลองในเวียดนาม เกาะที่มีชื่อเสียงคือเกาะปันหยีซึ่งมีชาวเลอาศัยอยู่บนเกาะ มีโรงเรียน สถานีอนามัย และมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว อีกสองจุดที่มีชื่อเสียงคือเกาะตะปูและเขาพิงกัน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเกาะรูปร่างคล้ายตะปู และเขาวางพิงกัน น่าเสียดายที่วันนี้น้ำลงเร็วทำให้ไม่สามารถนำเรือไปจอดบนฝั่งได้ ได้แต่ถ่ายรูปจากที่บนเรือ แต่ก็เป็นวันที่ฟ้าสีฟ้าและมีเมฆสวยเต็มท้องฟ้าเหมือนกัน
ล่องเรือในอ่าวพังงา
เกาะปันหยี
บนเกาะปันหยี มีร้านขายของที่ระลึก โมบายเปลือกหอย ผ้าบาติก น้ำพริกกุ้งเสียบ
ภูเขาหินที่สวยงาม คล้ายฮาลองเบในเวียดนาม
ด้านขวามือคือเกาะตะปู
ซ้ายมือคือเขาพิงกัน
สถานีอนามัยบนเกาะปันหยี
จากจังหวัดพังงาก็เข้าสู่จังหวัดภูเก็ต เคยมาภูเก็ตแล้ว ครั้งนี้อยากมาดูภูเก็ตแฟนตาซี ซึ่งไม่ผิดหวังจริงๆ ไปถึงสถานที่แสดงประมาณหนึ่งทุ่ม รับประทานอาหารเย็นแบบบุปเฟ่ อาคารสถานที่เหมือนเป็นวังภายในจัดเรียงโค๊ะไว้มากมาย มีอาหารหลากหลายชนิดจนเลือกกินไม่ถูก แต่ที่ติดใจคือก๊วยเตี๋ยวลูกชิ้นยักษ์ขนาดใหญ่และนุ่มมาก พอทานเสร็จก็เดินดูรอบๆ ถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศ มีอาคารจัดแฟนซีหลายอาคารติดไฟแสงสีตระการตา พอสามทุ่มทุกคนตรงไปยังวังไอยราที่ซึ่งจัดการแสดง ตอนแรกหวังจะได้เข้าไปถ่ายรูปการแสดงทั้งหมด แต่ต้องผิดหวังเนื่องจากห้ามนำกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายรูปได้เข้าไปภายใน โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋านักท่องเที่ยวทุกคนและให้ฝากไว้ภายนอก จึงได้แต่ดูการแสดงและเก็บความประทับใจไว้
ที่รับประทานอาหารเย็นก่อนเข้าชม ดูอลังการมาก
วังไอยรา สถานที่แสดงภูเก็ตแฟนตาซี
ร้านขายของที่ระลึก
ร้านแฟนซึหลายร้าน
โซนแอดแวนเจอร์ในภูเก็ตแฟนตาซึ
เริ่มแสดงประมาณสามทุ่ม เลิกแสดงสี่ทุ่มครึ่ง
จุดไฮไลต์อีกแห่งของภูเก็ตคือแหลมพรหมเทพ ความตั้งใจอย่างหนึ่งคือการได้ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ ได้ฟังจากรายการพยากรณ์อากาศว่าพระอาทิตย์จะตกเวลาเท่านั้นเท่านี้ที่แหลมพรหมเทพ ยังไม่เคยได้เห็นชัดๆ ซักที มาครั้งที่แล้วมีเมฆมากก็ไม่ได้เห็น ครั้งนี้ก็อีกเช่นกันถ่ายไดตอนพระอาทิตย์ลับลาเมฆไปแล้ว แต่บรรยากาศดีทีเดียว
พระอาทิตย์ตกดินที่แหบมพรหมเทพ
วันสุดท้ายออกเดินทางกลับตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า แวะซื้อของฝากภูเก็ตที่ร้านแม่จู้ น้ำพริกกุ้งเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียง ในร้านยังโชว์อุปกรณ์ทำครัวของคุณแม่จู้ และคำพูดของแม่จู้ในเรื่องทำอาหาร ตลอดทางกลับแวะซื้อของฝากเป็นระยะ ทริปนี้นั่งรถค่อนข้างไกลแต่ก็สนุก เพื่อเติมพลังและกลับมาทำงานต่อไป
แวะซื้อของที่ร้านแม่จู้ ภูเก็ต
ซื้อของฝากที่จังหวัดเพชรบุรี
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2555 16:30:12 น. |
Counter : 3823 Pageviews. |
|
|
|